🎧 New: AI-Generated Podcasts Turn your study notes into engaging audio conversations. Learn more

Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

Full Transcript

หนังสือนี้เป็นเอกสารทางราชการของมหาวิทยาลัยรามคําแหง ลิขสิทธิ์เป็นของมหาวิทยาลัยรามคําแหง ห้ามพิมพ์จําหน่ายหรือเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาตจากทางมหาวิทยาลัย เอกสารประกอบการสอน รายวิชา RAM1132...

หนังสือนี้เป็นเอกสารทางราชการของมหาวิทยาลัยรามคําแหง ลิขสิทธิ์เป็นของมหาวิทยาลัยรามคําแหง ห้ามพิมพ์จําหน่ายหรือเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาตจากทางมหาวิทยาลัย เอกสารประกอบการสอน รายวิชา RAM1132 ัย ยาล วิท หา างม ากท าตจ ทักษะทางสารสนเทศ (Information Literacy) นุญ ับอ ่ได้ร ยไม ร่โด แพ เผย รือ น ่ายห ์จําห ิมพ มพ หมวดวิชาศึกษาทัวไป ่ ห้า มหาวิทยาลัยรามคาแหง หนังสือนี้เป็นเอกสารทางราชการของมหาวิทยาลัยรามคําแหง ลิขสิทธิ์เป็นของมหาวิทยาลัยรามคําแหง ห้ามพิมพ์จําหน่ายหรือเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาตจากทางมหาวิทยาลัย หนังสือนี้เป็นเอกสารทางราชการของมหาวิทยาลัยรามคําแหง ลิขสิทธิ์เป็นของมหาวิทยาลัยรามคําแหง ห้ามพิมพ์จําหน่ายหรือเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาตจากทางมหาวิทยาลัย สารบัญ หน้ า บทที่ 1 โลกดิ จิตอลและสังคม 1 ัย ยาล บทที่ 2 แหล่งสารสนเทศเพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิต 9 วิท หา บทที่ 3 การบริ หารการจัดการสารสนเทศ 38 างม บทที่ 4 การสืบค้นสารสนเทศ 78 ากท บทที่ 5 การประเมิ นสารสนเทศ 101 าตจ นุญ บทที่ 6 การเขียนและการนาเสนอเชิ งวิ ชาการ ับอ 117 บทที่ 7 การเขียนอ้างอิ งและบรรณานุกรมตามหลักสากลและจริ ยธรรม 123 ่ได้ร ยไม บทที่ 8 ทักษะการเรียนรู้ด้วยตนเองต่อเนื่ องตลอดชีวิต 133 ร่โด แพ เผย รือ น ่ายห ์จําห ิมพ มพ ห้า หนังสือนี้เป็นเอกสารทางราชการของมหาวิทยาลัยรามคําแหง ลิขสิทธิ์เป็นของมหาวิทยาลัยรามคําแหง ห้ามพิมพ์จําหน่ายหรือเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาตจากทางมหาวิทยาลัย หนังสือนี้เป็นเอกสารทางราชการของมหาวิทยาลัยรามคําแหง ลิขสิทธิ์เป็นของมหาวิทยาลัยรามคําแหง ห้ามพิมพ์จําหน่ายหรือเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาตจากทางมหาวิทยาลัย สารสนเทศ (Information) นักวิชาการและนักวิจยั ด้านสารสนเทศหลายท่านได้ให้นิยามความหมายสารสนเทศทีแ่ ตกต่าง กันขึน้ อยู่กบั สถานการณ์ และสภาพสิง่ แวดล้อมทีผ่ คู้ นเหล่านัน้ มีการปฏิสมั พันธ์ หรือเผชิญอยู่ดว้ ย ณ ขณะนัน้ หรือ สารสนเทศหมายถึงข้อมูลหรือสัญลักษณ์ต่างๆและ ข่าวสารหรือความคิดทีถ่ ูก เปลีย่ นแปลงหรือผ่านการประมวลผลโดยกระบวนการต่างๆเพือ่ ให้เกิดความหมายและความเข้าใจใน การสือ่ สาร (Machlup,1983, pp. 25-26; Schrader,1984, pp. ….. ; Wellisch,1972, pp. ….) Wilson, Kelleyman และ Corey (2013, pp. 11-14) อ้างถึงใน กุสลวัฒน์ คงประดิษฐ์ (2558, าลัย หน้า. 2) ได้อธิบายว่าสารสนเทศหมายถึง ข้อมูล ข่าวสาร เอกสารทีผ่ ่านการประมวลผลเพือ่ ให้เกิดความ ย เข้าใจและความหมายระหว่างผูร้ บั และผูส้ อ่ื สารและช่วยสนับสนุนการตัดสินใจ หรือขึน้ อยู่กบั บริบทหรือ วิท ประสบการณ์ของผูใ้ ช้สารสนเทศนัน้ หา อย่างไรก็ตามสารสนเทศมีขอ้ จากัดเรื่องระยะเวลาและขอบเขตของงานทีจ่ ะนาไปใช้เพราะว่า างม สารสนเทศไม่ทนั สมัยหรือล่าช้า (out of date) ซึ่งอาจจะไม่เหมาะสมกับกาลเวลาหรือสถานการณ์ทอ่ี ุบตั ิ ากท ขึน้ มาใหม่ เช่น วัคซีน COVID-19 ทีไ่ ด้ผลิตขึน้ เมื่อปี 2021 โดยมีเป้ าหมายต้องการฉีดให้กบั ประชาชน ตจ ทัวโลกเพื ่ อ่ กระตุน้ การสร้างภูมคิ ุม้ กันไวรัส COVID-19 สายพันธ์ต่าง ๆ แตขณะนี้ปี 2022 หากจะนา า วัคซีน COVID-19 ทีผ่ ลิตเมื่อ 2021 มาฉีดให้กบั ประชาชนนัน้ อาจไม่เหมาะสมเพราะว่า COVID-19 ได้ นุญ กลายพันธ์เป็ นสายพันธ์ใหม่หลากหลายสายพันธ์ ับอ ความสาคัญของสารสนเทศ ่ได้ร สารสนเทศเป็ นพืน้ ฐานของการได้มาซึง่ ความรูห้ รือภูมปิ ั ญญา และเป็ นสิง่ จาเป็ นทีม่ คี วามสาคัญ ยไม ต่อการดารงชีวติ ประจาวันและมีบทบาทอย่างมากต่อการพัฒนาองค์ความรูใ้ หม่ ๆ ระดับบุคคล ระดับ ร่โด หน่วยงาน และระดับประเทศชาติ สอดคล้องกับวลีทว่ี ่า “Information is power” (Rubin, 2004, pp. 54-56) แพ Information is power หมายความว่าบุคคลใดก็ตามทีท่ ราบสารสนเทศก่อน บุคคลนัน้ เป็ นผู้ เผย มีทงั ้ พลังและมีอานาจในการดารงชีวติ ประจาวัน เช่น สถานการณ์ปัจจุบนั การแพร่ระบาดเชือ้ ไวรัสโคโร- น่า หรือ COVID-19 ซึง่ เป็ นโรคระบาดทีอ่ ุบตั ใิ หม่และระบาดทัวโลกที่ เ่ รียกว่า Pandemic โดยมีองค์การ รือ ยห อนามัยโลก (World Health Organization - WHO) เป็ นหน่วยงานด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศซึง่ ขึน้ น่า สหประชาชาติทท่ี าหน้าทีด่ ูแลคุม้ ครองและส่งเสริม สุขภาพอนามัยของประชาชนทัวโลก ่ (เซฟสิร,ิ ม.ป.ป.) ์จําห WHO ถือว่าเป็ นแหล่งสารสนเทศทีเ่ ก็บรวบรวมข้อมูลและสถิตขิ อ้ เท็จจริงเกีย่ วกับสถานการณ์ ระบาดของโรค COVID-19 ทัวโลกและได้ ่ ทาการประมวลผลข้อมูลทีเ่ ก็บรวบรวมดังกล่าวเพือ่ นาเสนอ ิมพ หรือรายงานสถิตจิ านวนประชากรผูซ้ ง่ึ ติดเชือ้ โรค COVID-19 และผูซ้ ง่ึ เสียชีวติ จากการติดเชือ้ มพ COVID-19 โดยการแยกรายงานแบ่งตามทวีปและแต่ละทวีปนัน้ แบ่งย่อยออกเป็ นแต่ละประเทศ ถือเป็ น ห้า สารสนเทศทีส่ าคัญอย่างยิง่ และมีประโยชน์อย่างมหาศาลต่อการดารงชีวติ ยามวิกฤตการณ์แพร่ระบาด COVID-19 ของประชากรทัวโลก ่ เพือ่ ว่าประชาชนของแต่ละประเทศนัน้ มีสารสนเทศทีเ่ ชื่อถือได้อย่าง เป็ นทางการ สนับสนุนหรือช่วยในการตัดสินในการป้ องกันการตัวเองจากการติดเชื้อโรค COVID-19 โดยการหลีกเลีย่ งหรือชะลอไม่เดินทางไปยังประเทศทีม่ กี ารแพร่ระบาดเชือ้ โรค COVID-19 อย่างมากอยู่ ในขณะนัน้ เป็ นการช่วยลดการติดเชือ้ และการเสียชีวติ ด้วยโรคCOVID-19 3 หนังสือนี้เป็นเอกสารทางราชการของมหาวิทยาลัยรามคําแหง ลิขสิทธิ์เป็นของมหาวิทยาลัยรามคําแหง ห้ามพิมพ์จําหน่ายหรือเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาตจากทางมหาวิทยาลัย หนังสือนี้เป็นเอกสารทางราชการของมหาวิทยาลัยรามคําแหง ลิขสิทธิ์เป็นของมหาวิทยาลัยรามคําแหง ห้ามพิมพ์จําหน่ายหรือเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาตจากทางมหาวิทยาลัย ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด–19 (ศบค.) ถือว่าเป็ นแหล่งสารสนเทศทีเ่ ก็บรวบรวมข้อมูลและ สถิตขิ อ้ เท็จจริงเกี่ยวกับสถานการณ์ระบาดของโรค COVID-19 ของประเทศไทยซึง่ อยู่ในกากับสานัก นายกรัฐมนตรี (คาสังศู ่ นย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชือ้ ไวรัสโคโรนา 2019 โควิด-19. 2565, 29 เมษายน. ราชกิจจานุเบกษา. เล่มที่ 139 ตอนพิเศษ 98 ง. หน้า 40-42) และได้ทา การประมวลผลข้อมูลทีเ่ ก็บรวบรวมดังกล่าวเพือ่ นาเสนอหรือรายงานสถิตจิ านวนประชาชนผูซ้ ง่ึ ติดเชือ้ โรค COVID-19 และผูซ้ ง่ึ เสียชีวติ จากการติดเชือ้ COVID-19 โดยการแยกรายงานแบ่งตามภาค ต่าง ๆ และแต่ละภาคนัน้ แบ่งย่อยออกเป็ นแต่ละอาเภอ าลัย สารสนเทศดังกล่าวข้างต้นนัน้ มีความสาคัญอย่างยิง่ ต่อหน่วยงานภาครัฐใช้ในการวางแผนเพือ่ ย ป้ องกันและช่วยเหลือพีน่ ้องประชาชนไม่ให้ตดิ เชือ้ โรคไวรัส COVID-19 และมีประโยชน์อย่างมหาศาล วิท ต่อการดารงชีวติ ยามวิกฤตการณ์แพร่ระบาด COVID-19 ของประชาชนทัวประเทศไทย ่ เพือ่ ว่า หา ประชาชนแต่ละคนทัวประเทศนั ่ น้ มีสารสนเทศทีเ่ ชื่อถือได้อย่างเป็ นทางการจากหน่วยงานของรัฐ างม สนับสนุนหรือช่วยในการตัดสินในการป้ องกันการตัวเองจากการติดเชือ้ โรค COVID-19 โดยการ ากท หลีกเลีย่ งหรือชะลอชะลอไม่เดินทางไปยังสถานทีท่ ม่ี กี ารแพร่ระบาดเชือ้ COVID-19 อย่างมากอยู่ใน ตจ ขณะนัน้ เป็ นการช่วยลดการติดเชือ้ และการเสียชีวติ ด้วยโรค COVID-19 า ขณะเดียวกันสารสนเทศนัน้ เป็ นหัวใจหรือฟั นเฟื องทีส่ าคัญปั จจัยหนึ่งทีม่ บี ทบาทขับเคลื่อน นุญ เศรษฐกิจดิจทิ ลั ทีย่ งยื ั ่ นและเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (creative economy) เพือ่ นาไปสูก่ ารพัฒนาประเทศ ับอ เช่นด้านการลงทุนของนักธุรกิจ ไม่ว่าการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ หรืออสังหาริมทรัพย์ หรือคริปโต ่ได้ร เคอร์เรนซี (Cryptocurrency) หรือด้านการศึกษาด้วยความเจริญก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและ ยไม การสือ่ สาร (Information Communication Technology-ICT) ทาให้นกั เรียนและนักศึกษาสามารถ ร่โด แสวงหาสารสนเทศและการเข้าถึงแหล่งข้อมูลได้ทุกทีท่ ุกเวลา ขณะเดียวกันนักเรียนและนักศึกษา แพ เหล่านัน้ มีอสิ ระเสรีภาพในการแสวงหาความรูท้ ข่ี น้ึ อยู่กบั ช่วงเวลาว่างทีเ่ หมาะสมของนักเรียนและ เผย นักศึกษาแต่ละคนซึง่ ถูกเรียกการเรียนรูว้ ่า Course on demand สาคัญยิง่ ไปกว่านัน้ สารสนเทศไม่เพียงแต่มคี วามสาคัญเพือ่ ใช้ประกอบการตัดสินใจทุก ๆ ด้าน รือ ยห ในการดารงชีวติ ประจาวันแล้วสารสนเทศยังมีประโยชน์มากมายมหาศาลเช่น 1. ลดอัตราการตายของ น่า ประชากรโลกจากโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ 2. ลดความผิดพลาดในการตัดสินใจ เช่น การลงทุนหรือเรื่องราว ์จําห ต่าง ๆ ในการใช้ชวี ติ ประจาวัน 3. เป็ นองค์ประกอบสาคัญในการพัฒนาต่อยอดการสร้างองค์ความรู้ 4. เป็ นกลไกสาคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและการพัฒนาประเทศ ิมพ ยุคสังคมดิจทิ ลั และ 5. อื่นๆ มพ ห้า 4 หนังสือนี้เป็นเอกสารทางราชการของมหาวิทยาลัยรามคําแหง ลิขสิทธิ์เป็นของมหาวิทยาลัยรามคําแหง ห้ามพิมพ์จําหน่ายหรือเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาตจากทางมหาวิทยาลัย หนังสือนี้เป็นเอกสารทางราชการของมหาวิทยาลัยรามคําแหง ลิขสิทธิ์เป็นของมหาวิทยาลัยรามคําแหง ห้ามพิมพ์จําหน่ายหรือเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาตจากทางมหาวิทยาลัย ความรู้ (Knowledge) ความรู้ หมายถึง ความเกีย่ วข้องสัมพันธ์กนั ของข้อมูลและสารสนเทศรวมถึงการผสมผสาน ภูมปิ ั ญญา ประสบการณ์ การศึกษา ค้นคว้า วิจยั วิเคราะห์ ทดลอง และเพือ่ นาไปประยุกต์ใช้ ประกอบการตัดสินใจหรือแก้ไขปั ญหาต่าง ๆ หรือสารสนเทศนัน้ ได้ผ่านการกลันกรองวิ ่ เคราะห์ สังเคราะห์ มีการศึกษาเปรียบเทียบ ตลอดจนการเชื่อมโยงกับประสบการณ์และความรูอ้ ่นื ๆ ก็จะ กลายเป็ นความรูท้ ส่ี ามารถนาไปใช้ประโยชน์เพือ่ สร้างความเข้าใจในการนาไปใช้งานและประกอบการ ตัดสินใจในสถานการณ์ต่าง ๆ ได้โดยไม่จากัดช่วงเวลา เพราะว่าความรูแ้ ละทักษะต่าง ๆ จะติดตัวอยู่กบั าลัย บุคคลเหล่านัน้ ซึง่ ขึน้ อยู่กบั ศักยภาพของแต่ละบุคคล (Buckland, 1991, pp.351-352 ; Rubin, 2004, ย pp.55-56 ; กุสลวัฒน์ คงประดิษฐ์, 2558, หน้า 2 ; แววตา เตชาทวีวรรณ, 2559, หน้า 1-2 ; วิท มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช สาขาวิชาศิลปศาสตร์, 2555, หน้า 5-6) หา ความรูส้ ามารถแบ่งได้ 2 ประเภทคือ 1) ความรูท้ ซ่ี ่อนอยู่ (tacit knowledge)และ 2) ความรูแ้ บบ างม ชัดแจ้ง (explicit Knowledge) (Polanyi, 1997, pp. ….. ; Hedlund, 1994, pp. ….. ; Nonaka & ากท Takeuchi, 1995, pp. ….. ; Rubin, 2004, pp. 68-69 ; แววตา เตชาทวีวรรณ, 2559, หน้า 1-2) ตจ 1) ความรูแ้ บบไม่ชดั แจ้ง (tacit knowledge) เป็ นความรูท้ อ่ี ยู่ในรูปนามธรรมหรือเป็ นความรูแ้ บบ า ไม่มโี ครงสร้างซึง่ ยากแก่การถ่ายทอดออกมาได้โดยตรงเพราะว่าเป็ นความรูแ้ ละความสามารถส่วน นุญ บุคคล ความชานาญเฉพาะส่วนบุคคล (Handzic, 2004, pp. …. ) หรือพรสวรรค์ต่าง ๆ ทีไ่ ด้มาตัง้ แต่ ับอ กาเนิด (born to be) เป็ นเอกลักษณ์ของแต่ละบุคคล ความรูแ้ บบซ่อนอยู่ของแต่ละบุคคลนัน้ เกิดจาก ่ได้ร ประสบการณ์ การสังเกต การเรียนรู้ ทีไ่ ด้สะสมและซึมซับมาเป็ นเวลายาวนาน เช่น ทักษะและเทคนิค ยไม การสอน ทักษะและเทคนิคการเรียน ทักษะในการทางาน ทักษะการแสดงศิลปวัฒนธรรมพืน้ บ้าน ร่โด ทักษะการแสดงการตลก และการแสดงมายากล เป็ นต้น แพ ด้วยเหตุผลดังนัน้ กล่าวข้างต้นการถ่ายทอดความรูแ้ บบไม่ชดั แจ้งจะเน้นไปทีก่ ารจัดเวทีเพือ่ ให้มี เผย การแบ่งปั นความรูท้ อ่ี ยู่ในตัวผูป้ ฏิบตั ิ ทาให้เกิดการเรียนรูร้ ่วมกัน อันนาไปสูก่ ารสร้างความรูใ้ หม่ ทีแ่ ต่ ละคนสามารถนาไปใช้ในการปฏิบตั งิ านได้ต่อไป (สานักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ, รือ ยห 2553) น่า 2) ความรูแ้ บบชัดแจ้ง (explicit knowledge) เป็ นความรูแ้ บบรูปธรรมทีจ่ บั ต้องได้หรือเป็ น ์จําห ความรูท้ ม่ี โี ครงสร้างเพราะว่าสามารถรวบรวมและสามารถเขียนอธิบายบันทึกความรูน้ นั ้ ออกมาได้ใน รูปแบบต่าง ๆ เช่น การจดบันทึกคาบรรยายของวิชาต่าง ๆ หนังสือเรียนกระบวนวิชาต่าง ๆ รายงาน ิมพ การวิจยั รายงานประจาปี เป็ นต้น มพ อย่างไรก็ตาม ความรูท้ งั ้ แบบความรูไ้ ม่ชดั แจ้งและความรูแ้ บบชัดแจ้งดังกล่าวข้างต้นนัน้ สามารถ ห้า ถ่ายโอนความรูแ้ ละแลกเปลีย่ นสลับประเภทความรูด้ ว้ ยกันได้ตลอดเวลา (สานักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีแห่งชาติ, 2553) ปรากฏดังภาพที่ 2 5 หนังสือนี้เป็นเอกสารทางราชการของมหาวิทยาลัยรามคําแหง ลิขสิทธิ์เป็นของมหาวิทยาลัยรามคําแหง ห้ามพิมพ์จําหน่ายหรือเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาตจากทางมหาวิทยาลัย หนังสือนี้เป็นเอกสารทางราชการของมหาวิทยาลัยรามคําแหง ลิขสิทธิ์เป็นของมหาวิทยาลัยรามคําแหง ห้ามพิมพ์จําหน่ายหรือเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาตจากทางมหาวิทยาลัย กรณีศกึ ษา (1) ร้านกระท่อมคึกคักจาหน่ายสินค้าผลิตภัณฑ์กระท่อมหลายประเภท เช่น กระท่อมกระป๋ อง กระท่อมสกัด เย็น กระท่อมสเปรย์ เป็ นต้น นาย RAM1132 ผูซ้ ง่ึ ดารงตาแหน่งหัวหน้าจัดชือ้ จัดหาพัสดุรา้ นกระท่อมคึกคัก ได้รวบรวมและจดบันทึกจานวนยอดสินค้าผลิตภัณฑ์กระท่อมทีจ่ าหน่ายได้แต่วนั ลงในสมุดบัญชีดว้ ยมือ (2) นายRAM1132 ได้ดาเนินการประมวลผลข้อมูลทีเ่ ก็บรวบรวมไว้โดยการแจกแจงยอดขายผลิตภัณฑ์ กระท่อมแต่ละประเภทในแต่ละวัน (3) นาย RAM1132 ปฏิบตั หิ น้าทีต่ าแหน่งหัวหน้าจัดชื้อจัดหาพัสดุรา้ นกระท่อมคึกคักเป็ นเวลา 1 ปี จาก าลัย ประสบการณ์ดงั กล่าวทาให้นาย RAM1132 เกิดการเรียนรูว้ ่าเขานัน้ ต้องเสียเวลาและเหนื่อยมากในขัน้ ตอน ย เก็บรวบรวมข้อมูลและทาการประมวลผลข้อมูลดังกล่าวและทาเช่นนี้ทุกๆ วัน ด้วยสถานการณ์ดงั กล่าวทาให้ วิท นายRAM1132 เกิดองค์ความรูข้ น้ึ มาใหม่เพือ่ แก้ปัญหาทีเ่ กิดขึน้ ดังกล่าว โดยการนาเทคโนโลยีสมัยใหม่ท่ี หา สามารถบันทึกยอดขายผลิตภัณฑ์กระท่อมแทนการจดบันทึกด้วยมือ เมื่อปิ ดร้านนายRAM1132 ได้ทาการ างม ประมวลผลข้อมูลโดยการแจกแจงยอดขายผลิตภัณฑ์กระท่อมแต่ละประเภทในแต่ละวันอีกครัง้ หนึ่ง ากท (4) นาย RAM1132 ได้พฒ ั นาต่อยอดทัง้ ประสบการณ์และองค์ความรูใ้ หม่ๆ เพือ่ นามาใช้ในการแก้ไขปั ญหา ตจ ขัน้ ตอนการเก็บรวบรวมข้อมูลและการประมวลยอดขายผลิตภัณฑ์กระท่อมแต่ละประเภทในแต่ละวัน ทาให้ า นุญ นาย RAM1132 เกิดปั ญญา โดยการว่าจ้างให้บริษทั คอมพิวเตอร์เขียนโปรแกมทีส่ ามารถทาการบันทึกข้อมูล และขณะเดียวกันสามารถทาการประมวลผล แยกนับยอดขายผลิตภัณฑ์กระท่อมแต่ละประเภทในแต่ละวันได้ ับอ โดยอัตโนมัติ ่ได้ร ยไม ร่โด แพ เผย รือ ยห น่า ์จําห ิมพ มพ ห้า 7 หนังสือนี้เป็นเอกสารทางราชการของมหาวิทยาลัยรามคําแหง ลิขสิทธิ์เป็นของมหาวิทยาลัยรามคําแหง ห้ามพิมพ์จําหน่ายหรือเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาตจากทางมหาวิทยาลัย หนังสือนี้เป็นเอกสารทางราชการของมหาวิทยาลัยรามคําแหง ลิขสิทธิ์เป็นของมหาวิทยาลัยรามคําแหง ห้ามพิมพ์จําหน่ายหรือเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาตจากทางมหาวิทยาลัย วัตถุประสงค์การเรียนรู้ เมื่อจบบทเรียน ผูเ้ รียนสำมำรถ 1. อธิบำยควำมหมำยของแหล่งสำรสนเทศเพือ่ กำรเรียนรูต้ ลอดชีวติ ได้ 2. อธิบำยควำมสำคัญของแหล่งสำรสนเทศเพือ่ กำรเรียนรูต้ ลอดชีวติ ได้ 3. อธิบำยวิธกี ำรเลือกใช้แหล่งสำรสนเทศเพือ่ กำรเรียนรูต้ ลอดชีวติ ได้ 4. อธิบำยลักษณะและบริกำรของแหล่งสำรสนเทศเพือ่ กำรเรียนรูต้ ลอดชีวติ าลัย ประเภทต่ำง ๆ ได้ ย วิท หา างม ากท า ตจ นุญ ับอ ่ได้ร ยไม ร่โด แพ เผย รือ ยห น่า ์จําห ิมพ มพ ห้า 10 หนังสือนี้เป็นเอกสารทางราชการของมหาวิทยาลัยรามคําแหง ลิขสิทธิ์เป็นของมหาวิทยาลัยรามคําแหง ห้ามพิมพ์จําหน่ายหรือเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาตจากทางมหาวิทยาลัย หนังสือนี้เป็นเอกสารทางราชการของมหาวิทยาลัยรามคําแหง ลิขสิทธิ์เป็นของมหาวิทยาลัยรามคําแหง ห้ามพิมพ์จําหน่ายหรือเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาตจากทางมหาวิทยาลัย บทนา สังคมปั จจุบนั เกิดกำรเปลี่ยนแปลงอย่ำงรวดเร็ว ส่งผลให้มนุ ษย์จำเป็ นต้องปรับตัวเพื่อให้รู้เท่ำ ทัน กับ กำรเปลี่ย นแปลงที่เ กิด ขึ้น ดัง นั ้น กลไกส ำคัญ ที่จ ะท ำให้ ม นุ ษ ย์ ส ำมำรถปรับ ตัว ให้เ ข้ำ กับ สภำพแวดล้อมทีเ่ ปลีย่ นแปลงได้ คือ กำรเรียนรูอ้ ย่ำงต่อเนื่องหรือกำรเรียนรูต้ ลอดชีวติ (Commonwealth of Australia, 2011, p. 29; Dantzer, Keogh, Sloan, & Szekely, 2012, p. 5) กำรเรียนรู้ตลอดชีวติ (lifelong learning) เป็ นกำรศึกษำที่จดั ให้กบั ประชำชน ทัง้ กำรศึกษำใน าลัย ระบบ กำรศึกษำนอกระบบ และกำรศึกษำตำมอัธยำศัย หรือกำรศึกษำที่ผสมผสำนกำรศึกษำทัง้ สำม ย รูปแบบทีเ่ หมำะสมกับบุคคล อำยุ พืน้ ฐำนกำรศึกษำ อำชีพ ควำมสนใจ และสภำพแวดล้อมของผู้เรียน วิท หา โดยมีเป้ ำหมำย คือ เพื่อให้ผู้เรียนสำมำรถพัฒนำศักยภำพตนเองได้อย่ำงต่อเนื่อง (Watson, 2003, p. 3; างม World Health Organization, 2002, p. 29; European Commission 2001, p. 9) โดยเฉพำะกำรเรีย นรู้ ต ำม ากท อัธยำศัย ซึ่งเป็ นกำรศึกษำทีใ่ ห้ผเู้ รียนได้เรียนรูด้ ้วยตนเอง ตำมควำมสนใจ ศักยภำพ ควำมพร้อมและ ตจ โอกำส โดยศึ ก ษำจำกบุ ค คล ประสบกำรณ์ สั ง คม สภำพแวดล้ อ ม สื่ อ หรื อ แหล่ ง ควำมรู้ า นุญ อื่น (พระรำชบัญญัตกิ ำรศึกษำแห่งชำติ พ.ศ.2542 แก้ไขเพิม่ เติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2545, 2545) ับอ ปั จจัยสำคัญทีส่ ง่ ผลต่อกำรเรียนรู้ตลอดชีวติ ทีม่ ปี ระสิทธิภำพ คือ สำรสนเทศ (information) โดย ่ได้ร สำรสนเทศที่มีคุ ณ ภำพนัน้ ต้อ งมำจำกแหล่ งสำรสนเทศที่ดี ดังนัน้ ผู้เ รียนต้อ งสำมำรถเลือ กใช้แหล่ง ยไม สำรสนเทศที่สำมำรถตอบสนองควำมต้องกำรสำรสนเทศของตนเอง ปั จจุบนั แหล่งสำรสนเทศได้รบั ร่โด อิทธิพลจำกกำรเปลีย่ นของสภำพแวดล้อมโดยเฉพำะเทคโนโลยีสำรสนเทศและกำรสือ่ สำร (ICTs) ส่งผล แพ ให้เ กิด กำรเปลี่ย นแปลงต่ อ แหล่ ง สำรสนเทศทัง้ กำรจัด เก็บ กำรเข้ำ ถึง และกำรบริก ำร ดัง นัน้ ผู้ ใ ช้ เผย จำเป็ นต้องเรียนรูล้ กั ษณะและกำรบริกำรของแหล่งสำรสนเทศเพื่อกำรเรียนรูต้ ลอดชีวติ ประเภทต่ำง ๆ รือ เพือ่ ให้สำมำรถเข้ำถึงสำรสนเทศและบริกำรได้อย่ำงมีประสิทธิภำพ ยห น่า ความหมายของแหล่งสารสนเทศเพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิต ์จําห พระรำชบัญญัตกิ ำรศึกษำแห่งชำติ พ.ศ. 2542 และแก้ไขเพิม่ เติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2545 มำตรำ ิมพ ที่ 25 (2545) ได้กล่ำวถึงแหล่งกำรเรียนรูต้ ลอดชีวติ ในรูปแบบต่ำง ๆ เช่น ห้องสมุดประชำชน พิพธิ ภัณฑ์ มพ หอศิลป์ สวนสัตว์ สวนสำธำรณะ สวนพฤกษศำสตร์ อุทยำนวิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี ศูนย์กำรกีฬำ ห้า และนันทนำกำร เป็ นต้น โดยควำมหมำยของแหล่ง กำรเรียนรู้ เป็ นสิง่ ทีม่ อี ยู่ในสังคมรอบตัวเรำทีเ่ ป็ นทัง้ สิง่ มีชวี ติ และไม่มชี วี ติ เป็ นสิง่ ทีม่ อี ยู่ในธรรมชำติและมนุษย์สร้ำงขึน้ ซึ่งเป็ นแหล่งทีท่ ำให้คนในสังคมเกิด กำรเรียนรูแ้ ละเกิดประสบกำรณ์ในกำรเรียนรูอ้ ย่ำงต่อเนื่อง (อำชัญญำ รัตนอุบล และคณะ, 2548) ศำสตร์ด้ำ นบรรณำรัก ษศำสตร์แ ละสำรสนเทศปรำกฎค ำว่ำ แหล่ ง สำรสนเทศ (information sources) ซึ่งอำจเรียกชื่อที่แตกต่ำงกัน เช่น แหล่งสำรนิเทศ แหล่งข้อมูล แหล่งค้นคว้ำ แหล่งควำมรู้ 11 หนังสือนี้เป็นเอกสารทางราชการของมหาวิทยาลัยรามคําแหง ลิขสิทธิ์เป็นของมหาวิทยาลัยรามคําแหง ห้ามพิมพ์จําหน่ายหรือเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาตจากทางมหาวิทยาลัย หนังสือนี้เป็นเอกสารทางราชการของมหาวิทยาลัยรามคําแหง ลิขสิทธิ์เป็นของมหาวิทยาลัยรามคําแหง ห้ามพิมพ์จําหน่ายหรือเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาตจากทางมหาวิทยาลัย เป็ นต้น โดยควำมหมำยของแหล่งสำรสนเทศครอบคลุม แหล่งทีม่ คี วำมเกี่ยวข้องกับกำรผลิต กำรจัดหำ กำรจัดเก็บ กำรรวบรวม สำรสนเทศในรูปแบบสือ่ สิง่ พิมพ์ สือ่ โสตทัศน์ สือ่ อิเล็กทรอนิกส์ และรูปแบบอื่น ๆ เช่น หนังสือ วำรสำร นิตยสำร รำยกำรบรรณำนุ กรม เป็ นต้น (ทัศนำ หำญพล, 2563, หน้ำ 3-5; University of Fort Hare Libraries, 2022) ดังนัน้ แหล่งสำรสนเทศเพื่อกำรเรียนรู้ตลอดชีวติ (information sources for lifelong learning) ครอบคลุมแหล่งทีเ่ กี่ยวข้องกับกำรกำเนิดของสำรสนเทศ กำรผลิต กำรจัดหำ กำรจัดเก็บ กำรรวบรวม าลัย กำรจัดระบบ และกำรบริกำรสำรสนเทศในรูปแบบสือ่ สิง่ พิมพ์ สือ่ โสตทัศน์ สือ่ อิเล็กทรอนิกส์ และรูปแบบ ย อื่น โดยจำแนกควำมหมำยออกเป็ น 2 มิติ คือ มิตกิ ำรผลิตสำรสนเทศ และมิตกิ ำรบริกำรสำรสนเทศ วิท มิตกิ ำรผลิตสำรสนเทศ ครอบคลุมแหล่งทีเ่ กิดขึน้ หรือต้นกำเนิดของ หา างม สำรสนเทศ รวมทัง้ แหล่งผลิตสำรสนเทศในรูปแบบต่ำง ๆ เช่น หน่ วยงำน กลุ่มบุคคล บุคคล สถำนที่ ากท เป็ นต้น มิตกิ ำรบริกำรสำรสนเทศ ครอบคลุมแหล่งทีม่ พี นั ธกิจในกำรจัดหำ า ตจ กำรจัดเก็บ กำรรวบรวม กำรจัดระบบสำรสนเทศ และกำรบริกำรสำรสนเทศในรูปแบบสื่อสิง่ พิมพ์ สื่อ นุญ โสตทัศน์ และสือ่ อิเล็กทรอนิกส์ เช่น ห้องสมุด ศูนย์สำรสนเทศ สือ่ มวลชน เครือข่ำยอินเทอร์เน็ต เป็ นต้น ับอ ่ได้ร ความสาคัญของแหล่งสารสนเทศเพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิต ยไม ร่โด แหล่งบริกำรสำรสนเทศเพือ่ กำรเรียนรูต้ ลอดชีวติ มีควำมสำคัญต่อบุคคลในฐำนะเป็ นแหล่งเรียนรู้ แพ ทีร่ วบรวมสำรสนเทศรูปแบบต่ำง ๆ โดยมีควำมสำคัญต่อบุคคลประเด็นต่ำง ๆ สรุปได้ดงั นี้ เผย 1. แหล่งกำรเรียนรูต้ ลอดชีวติ หรือแหล่งกำรศึกษำตำมอัธยำศัย เพรำะเป็ นสถำนที่ รือ รวบรวม จัดเก็บควำมรูใ้ นรูปแบบต่ำง ๆ เพือ่ ให้บุคคลสำมำรถไปศึกษำ ค้นคว้ำได้ตำม ยห ควำมสนใจ น่า 2. แหล่งปลูกฝังนิสยั รักกำรอ่ำน เป็ นสถำนทีร่ วบรวมควำมรูใ้ นรูปแบบต่ำง ๆ ทีม่ ี ์จําห หลำกหลำยภำษำเอือ้ ต่อกำรศึกษำค้นคว้ำ รวมทัง้ กำรจัดทำเครื่องมือช่วยค้นหำควำมรู้ ิมพ เพือ่ ให้บุคคลสำมำรถแสวงหำควำมรูด้ ว้ ยตนเอง มพ 3. แหล่งสร้ำงเสริมประสบกำรณ์ภำคปฏิบตั ิ เป็ นสถำนทีร่ วบรวมผลงำนทีเ่ กิดจำก ห้า ควำมคิด กำรวิจยั กำรทดลองในสำขำวิชำต่ำง ๆ ปั จจุบนั แหล่งสำรสนเทศฯ มีนโยบำย กำรจัดเตรียมพืน้ ทีส่ ำหรับกำรเรียนรู้ เช่น กำรแสดงดนตรี กำรแสดงงำนศิลปะ กำรละเล่น กำรโต้วำที เป็ นต้น ดังนัน้ แหล่งสำรสนเทศฯ จึงเป็ นแหล่งสร้ำงเสริมควำมรู้ ควำมคิด และ เป็ นสร้ำงเสริมประสบกำรณ์ 4. แหล่งส่งเสริมควำมคิดสร้ำงสรรค์ เป็ นสถำนทีร่ วบรวมผลงำนทีเ่ กิดจำกควำม 12 หนังสือนี้เป็นเอกสารทางราชการของมหาวิทยาลัยรามคําแหง ลิขสิทธิ์เป็นของมหาวิทยาลัยรามคําแหง ห้ามพิมพ์จําหน่ายหรือเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาตจากทางมหาวิทยาลัย หนังสือนี้เป็นเอกสารทางราชการของมหาวิทยาลัยรามคําแหง ลิขสิทธิ์เป็นของมหาวิทยาลัยรามคําแหง ห้ามพิมพ์จําหน่ายหรือเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาตจากทางมหาวิทยาลัย จินตนำกำร ควำมคิดของบุคคลทีถ่ ่ำยทอดผ่ำนข้อควำม ภำพ สัญลักษณ์ เสียง และอื่น ๆ และมีกำรบันทึกไว้ในรูปแบบของสิง่ พิมพ์ สือ่ โสตทัศน์ และสือ่ อิเล็กทรอนิกส์ ซึง่ สำรสนเทศ เหล่ำนี้มปี ระโยชน์ต่อกำรพัฒนำศักยภำพของบุคคล ประเภทของแหล่งสารสนเทศเพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิต แหล่งสำรสนเทศเพื่อกำรเรียนรูต้ ลอดชีวติ จำแนกตำมลักษณะกำรบริกำรออกเป็ น 4 กลุ่ม คือ แหล่งสำรสนเทศสถำบัน แหล่งสำรสนเทศบุคคล แหล่งสำรสนเทศสือ่ มวลชน และแหล่งสำรสนเทศอืน ๆ าลัย (ทัศนำ หำญพล, 2563, หน้ำ 3-5) ย วิท 1. แหล่งสำรสนเทศสถำบัน เป็ นแหล่งสำรสนเทศทีจ่ ดั ตัง้ ขึน้ ในหน่วยงำน หรือ หา องค์กรทีม่ พี นั ธกิจเกี่ยวข้องกับกำรผลิต กำรจัดหำ กำรจัดเก็บ กำรเผยแพร่ และกำรให้บริกำรสำรสนเทศอัน างม เป็ นประโยชน์สำหรับผูใ้ ช้ เช่น ห้องสมุด ศูนย์สำรสนเทศ ากท 1.1 ห้องสมุด (library) เป็ นสถำนที่รวบรวมและให้บริกำรสำรสนเทศรูปแบบต่ำงๆ เช่น ตจ สือ่ สิง่ พิมพ์ สือ่ โสตทัศน์ และสือ่ ดิจทิ ลั โดยมีบรรณำรักษ์เป็ นผูด้ ำเนินงำนเพือ่ ให้บริกำรแก่ผใู้ ช้ ห้องสมุด า นุญ โดยทัวไปมี่ วตั ถุประสงค์ 5 ประกำร คือ เพือ่ กำรศึกษำ เพือ่ ควำมรูแ้ ละข่ำวสำร เพือ่ กำรค้นคว้ำวิจยั เพือ่ ับอ ควำมจรรโลงใจ และเพือ่ ควำมเพลิดเพลิน ทัง้ นี้หน้ำทีแ่ ละลักษณะกำรบริกำรของห้องสมุดแต่ละประเภท ่ได้ร อำจแตกต่ำงกันตำมประเภทของห้อ งสมุ ด 5 ประเภท ได้แก่ หอสมุดแห่งชำติ ห้อ งสมุดประชำชน ยไม ห้องสมุดโรงเรียน ห้องสมุดเฉพำะ และห้องสมุดสถำบันอุดมศึกษำ ร่โด 1.1.1 หอสมุดแห่งชำติ (national libraries) แหล่งสำรสนเทศทีม่ หี น้ำทีส่ ำรวจ จัดหำ แพ รวบรวม จัดเก็บ และสงวนรักษำมรดกภูมปิ ั ญญำด้ำนสำรสนเทศในรูป แบบสื่อสิง่ พิมพ์ สื่อโสตทัศน์ สื่อ เผย อิเล็กทรอนิกส์ รวมทัง้ สำรสนเทศทีบ่ นั ทึกไว้ในรูปแบบอื่น (หอสมุดแห่งชำติ, 2565) รือ กำรบริกำรของหอสมุดแห่งชำติ เป็ นกำรบริกำรแบบไม่คดิ ยห น่า ค่ำใช้จ่ำย ให้บริกำรแก่คนทุกช่วงวัย ทุกเชือ้ ชำติ ทุกศำสนำ ปั จจุบนั หอสมุดแห่งชำติพฒ ั นำช่องทำงกำร ์จําห บริกำรให้สอดคล้องกับวิถีชวี ติ ใหม่ (new normal) และควำมต้องกำรของผู้ใช้ โดยจำแนกลักษณะกำร ิมพ บริกำรออกเป็ น 2 ลักษณะประกอบด้วย กำรบริกำร ณ หอสมุดแห่งชำติ และกำรบริกำรออนไลน์ มพ กำรบริกำร ณ หอสมุดแห่งชำติ เป็ นกำรให้บริกำรแก่ผใู้ ช้ ห้า ทีเดินทำงมำรับบริกำร ณ หอสมุดแห่งชำติ ซึง่ ตัง้ อยู่ทท่ี ่ำวำสุกรี ถนนสำมเสน เขตดุสติ กรุงเทพมหำนคร หอสมุดแห่งชำติเขตลำดกระบัง เฉลิมพระเกียรติ ตัง้ อยู่บนถนนหลวงพรตพิทยพยัต เขตลำดกระบัง รวมทัง้ หอสมุดแห่งชำติสำขำจำนวน 11 แห่งซึง่ จัดตัง้ ในจังหวัดต่ำง ๆ ทัวประเทศไทย ่ ประกอบด้วย 1) หอสมุดแห่งชำติรชั มังคลำภิเษก จังหวัดเชียงใหม่ 2) หอสมุดแห่งชำติเฉลิมพระเกียรติ ร.9 จังหวัด นครรำชสีมำ 3) หอสมุดแห่งชำติเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนำงเจ้ำสิรกิ ติ พระบรมรำชิ ิ์ นีนำถ จังหวัด 13 หนังสือนี้เป็นเอกสารทางราชการของมหาวิทยาลัยรามคําแหง ลิขสิทธิ์เป็นของมหาวิทยาลัยรามคําแหง ห้ามพิมพ์จําหน่ายหรือเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาตจากทางมหาวิทยาลัย หนังสือนี้เป็นเอกสารทางราชการของมหาวิทยาลัยรามคําแหง ลิขสิทธิ์เป็นของมหาวิทยาลัยรามคําแหง ห้ามพิมพ์จําหน่ายหรือเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาตจากทางมหาวิทยาลัย นครพนม 4) หอสมุดแห่งชำติรชั มังคลำภิเษก จังหวัดกำญจนบุรี 5) หอสมุดแห่งชำติจงั หวัดสุพรรณบุรี เฉลิมพระเกียรติ 6) หอสมุดแห่งชำติ จังหวัดชลบุรี 7) หอสมุดแห่งชำติรชั มังคลำภิเษก จังหวัดจันทบุรี 8) หอสมุดแห่ งชำติจงั หวัด นครศรีธ รรมรำช 9) หอสมุดแห่งชำติกำญจนำภิเ ษก จังหวัด สงขลำ 10) หอสมุดแห่งชำติเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนำงเจ้ำสิรกิ ติ พระบรมรำชิิ์ นีนำถ จังหวัดสงขลำ และ 11) หอสมุดแห่งชำติเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนำงเจ้ำสิรกิ ติ พระบรมรำชิ ิ์ นีนำถ จังหวัดตรัง สำรสนเทศที่ใ ห้บริกำร ครอบคลุ มทุก สำขำวิชำ เช่น กฎหมำยกำรบริห ำร าลัย กำรศึกษำ ประวัตศิ ำสตร์ เป็ นต้น โดยบริกำรสำรสนเทศในรูปสื่อสิง่ พิมพ์ สื่อโสตทัศน์ สื่ออิเล็กทรอนิกส์ ย และสื่อ อื่น ๆ นอกจำกนั ้น หอสมุ ด แห่ ง ชำติมีห้ อ งสมุ ด เฉพำะสำขำวิช ำที่เ ปิ ดให้ บ ริก ำร ในพื้ น ที่ วิท กรุงเทพมหำนคร เช่น หา างม - ห้องสมุดดนตรีทลู กระหม่อมสิรธิ ร แหล่งสำรสนเทศ ากท ด้ำนวิชำกำรดนตรี มีวตั ถุประสงค์เพื่ออนุรกั ษ์ต้นฉบับเพลงไทย และเพลงสำกลไว้เป็ นมรดกสมบัตทิ ำง วัฒนธรรมของชำติ ปั จจุบนั มีกำรรวบรวม จัดเก็บสำรสนเทศทำงดนตรีเพือ่ ให้บริกำรในรูปแบบแผ่นเสียง า ตจ วีดทิ ศั น์ สือ่ เสียงประเภทอื่น ๆ รวมทัง้ กำรแสดงเครื่องดนตรีต่ำง ๆ นุญ - หอสมุดดนตรีพระบำทสมเด็จพระเจ้ำอยู่หวั ับอ รัชกำลที่ 9 แหล่งสำรสนเทศด้ำนวิชำกำรดนตรี มีวตั ถุประสงค์เพื่อ รวบรวมเพลงพระรำชนิพ นธ์ทุก ่ได้ร รูปแบบทัง้ ในลักษณะของสื่อสิง่ พิมพ์และสื่อโสตทัศน์ ปั จจุบนั เปิ ดให้บริกำรแก่คนทุกช่วงวัย โดยมีกำร ยไม จัดเตรียมสื่อที่ให้บริกำรประกอบด้วย หนังสือ เอกสำร รูปภำพ โน้ตเพลง แผ่นซีดี แผ่นดีวดี ี วิดที ศั น์ ร่โด แผ่นเสียง แถบบันทึกเสียง รวมทัง้ สื่อโสตทัศน์ วสั ดุอ่นื ๆ นอกจำกนัน้ หอสมุด ฯ ให้บริกำรเยี่ยมชม แพ นิทรรศกำรเพลงพระรำชนิพนธ์ ของพระบำทสมเด็จพระเจ้ำอยู่หวั ฯ รัชกำลที่ 9 และจัดเตรียมพื้นที่ เผย สำหรับกำรแสดงดนตรี รือ ยห - หอสมุดดำรงรำชำนุภำพ ห้องสมุดอนุสรณ์แด่ น่า สมเด็จพระเจ้ำบรมวงศ์เ ธอกรมพระยำดำรงรำชำนุ ภ ำพ ผู้ทรงเป็ นพระบิดำแห่งประวัติศ ำสตร์แ ละ ์จําห โบรำณคดีพระองค์แรกของประเทศไทย ทรงได้รบั กำรยกย่องจำกองค์กำรเพื่อกำรศึกษำ วิทยำศำสตร์ ิมพ แ ล ะ วั ฒ น ธ ร ร ม แ ห่ ง ส ห ป ร ะ ช ำ ช ำ ติ ( The United Nations Educational, Scientific and Cultural มพ Organization –UNESCO) ในปี พ.ศ. 2505 ให้เป็ นบุคคลสำคัญของโลก โดยหอสมุดฯ จัดเก็บรวบรวม ห้า หนังสือหำยำกซึ่งสมเด็จพระเจ้ำบรมวงศ์เธอกรมพระยำดำรงรำชำนุภำพ ทรงสะสมไว้ทงั ้ ภำษำไทยและ ภำษำต่ำงประเทศ ประมำณ 7,000 เล่ม - หอวชิรำวุธำนุสรณ์ แหล่งสำรสนเทศทีจ่ ดั เก็บ รวบรวมและให้บริกำรสำรสนเทศในรูปแบบต่ำง ๆ ของพระบำทสมเด็จพระมงกุฎเกล้ำเจ้ำอยู่หวั (ร.6) ประกอบด้วย หนังสือ วำรสำร นิตยสำร ต้นฉบับลำยพระรำชหัตถ์ พระรำชประวัติ พระรำชนิพนธ์ พระ 14 หนังสือนี้เป็นเอกสารทางราชการของมหาวิทยาลัยรามคําแหง ลิขสิทธิ์เป็นของมหาวิทยาลัยรามคําแหง ห้ามพิมพ์จําหน่ายหรือเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาตจากทางมหาวิทยาลัย หนังสือนี้เป็นเอกสารทางราชการของมหาวิทยาลัยรามคําแหง ลิขสิทธิ์เป็นของมหาวิทยาลัยรามคําแหง ห้ามพิมพ์จําหน่ายหรือเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาตจากทางมหาวิทยาลัย รำชกรณียกิจของพระบำทสมเด็จพระมงกุฎเกล้ำเจ้ำอยู่หวั ตลอดจนเรื่องอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมทัง้ หนังสือทีห่ ม่อมหลวง ปิ่ นมำลำกุลแต่งขึน้ หนังสืองำนศพ สำเนำบัตรนำมสกุลพระรำชทำนของรัชกำลที่ 6 ฉบับลำยพระรำชหัตถ์ - หอสมุดปิ ยมหำรำชรฦก เป็ นแหล่งสำรสนเทศ ที่จ ัด เก็บ รวมบรวมและให้บ ริก ำรสำรสนเทศเกี่ย วกับ พระรำชประวัติแ ละพระรำชกรณี ย กิ จ ของ พระบำทสมเด็จพระจุลจอมเกล้ำเจ้ำอยู่หวั ในด้ำนต่ำง ๆ เช่น กำรบริหำรรำชกำรแผ่นดิน ควำมสัมพันธ์ าลัย กับต่ำงประเทศ ฯลฯ รวมทัง้ กำรศึก ษำประวัติศ ำสตร์ โบรำณคดี ศิล ปวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียม ย ประเพณี วิท - ศูนย์นรำธิปเพือ่ กำรวิจยั ทำงสังคมศำสตร์ หา างม แหล่ ง สำรสนเทศที่จ ั ด ตัง้ ขึ้น จำกควำมร่ ว มมือ ของรำชสกุ ล และ “ธนำคำรกรุ ง เทพจ ำกัด ” เพื่อ ากท เทิดพระเกียรติพระเจ้ำบรมวงศ์เธอ กรมพระนรำธิปประพันธ์พงศ์และศำสตรำจำรย์ พลตรี พระเจ้ำว รวงศ์ เ ธอ กรมหมื่น นรำธิป พงศ์ ป ระพัน ธ์ ใ นฐำนะที่ท ัง้ สองพระองค์ไ ด้ท รงมีส่ ว นส ำคัญ ยิ่ง ในกำร า ตจ วำงรำกฐำนกำรศึกษำวิจยั ทำงสังคมศำสตร์ขน้ึ ในประเทศไทย อีกทัง้ เพือ่ เป็ นศูนย์บริกำรเอกสำรทำงกำร นุญ วิจยั ด้ำนสังคมศำสตร์ สิง่ พิมพ์ท่ีให้บริกำรประกอบด้วย หนังสือพระนิพนธ์ พระเจ้ำบรมวงศ์เธอ กรม ับอ พระนรำธิปประพันธ์พ งศ์ มีทงั ้ บทละครและอื่น ๆ หนังสือ และเอกสำรทำงด้ำนสังคมศำสตร์ สำขำ ่ได้ร รัฐศำสตร์ กำรเมือ งกำรปกครอง กฎหมำย ภำษำศำสตร์งำนนิพนธ์และงำนเขียนของบุคคลในรำช ยไม สกุลวรวรรณ ร่โด - คลังสิง่ พิมพ์ มีหน้ำทีด่ ำเนินกำรรวบรวม จัดเก็บ แพ และสงวนรักษำสิง่ พิมพ์ท่ผี ลิตขึ้นในประเทศเพื่อให้เป็ นมรดกทำงภูมปิ ั ญญำ ประวัตศิ ำสตร์ วัฒนธรรม เผย อำรยธรรมของประเทศแก่ชนรุ่นหลัง ทัง้ นี้คลังสิง่ พิมพ์ ยังให้บริกำรกำรทำสำเนำเอกสำรเพื่อเป็ นพยำน รือ ยห เอกสำรอ้ำงอิงทำงตุลำกำร โดยหอสมุดแห่งชำติจะจัดทำสำเนำพร้อมรับรองสำเนำเอกสำรที่มผี ู้ร้องขอ น่า มำ ซึ่งกำรรับรองสำเนำเอกสำรต้องรับรองสำเนำถูกต้องจำกคลังสิง่ พิมพ์ จำกนัน้ จึง ดำเนินกำรจัดส่งให้ ์จําห ศำลตำมหมำยเรียกต่อไป ิมพ - อำคำรนิทรรศกำรเฉลิมพระเกียรติ พระบำทสมเด็จ มพ พระจุลจอมเกล้ำเจ้ำอยู่หวั อยู่ภำยในตึกถำวรวัตถุ เพือ่ เป็ นสถำนทีศ่ กึ ษำหำควำมรูเ้ กีย่ วกับ ห้า พระบำทสมเด็จพระจุลจอมเกล้ำเจ้ำอยู่หวั และจัดนิทรรศกำรถำวร แสดงพระรำชประวัตแิ ละพระรำช กรณียกิจ กำรบริกำรออนไลน์ เป็ นกำรให้บริกำรแก่ผใู้ ช้ผ่ำนเว็บไซต์ ข อ ง ห อ ส มุ ด แ ห่ ง ช ำ ติ https://www.nlt.go.th แ ล ะ โ ป ร แ ก ร ม ป ร ะ ยุ ก ต์ NLT library โ ด ย สำมำรถเข้ำถึงสำรสนเทศเต็มรูป (fulltext) และบริกำรต่ำง ๆ เช่น 15 หนังสือนี้เป็นเอกสารทางราชการของมหาวิทยาลัยรามคําแหง ลิขสิทธิ์เป็นของมหาวิทยาลัยรามคําแหง ห้ามพิมพ์จําหน่ายหรือเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาตจากทางมหาวิทยาลัย หนังสือนี้เป็นเอกสารทางราชการของมหาวิทยาลัยรามคําแหง ลิขสิทธิ์เป็นของมหาวิทยาลัยรามคําแหง ห้ามพิมพ์จําหน่ายหรือเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาตจากทางมหาวิทยาลัย ควำมใกล้ชดิ กับประชำชนในท้องถิน่ มำกที่สุด โดยเฉพำะในสังคมแห่งกำรเรียนรู้ตลอดชี วติ ห้องสมุด ป ร ะ ช ำ ช น เ ป็ น แ ห ล่ ง ส ำ ร ส น เ ท ศ ฯ ที่ จ ะ เ ชื่ อ ม โ ย ผู้ เ รี ย น เ ข้ ำ กั บ แ ห ล่ ง ส ำ ร ส น เ ท ศ ฯ ในท้องถิน่ (Häggström, 2004) ห้องสมุดประชำชนกำหนดปรัชญำไว้ว่ำ “ห้องสมุดประชำชนเป็ นแหล่งเรีย นรู้ ตลอดชีวติ จัดให้บริกำรทรัพยำกรสำรสนเทศ ข้อมูล ข่ำวสำรควำมรู้แก่ประชำชนทุ กกลุ่ม รวมถึงกลุ่ม ผู้ด้อยโอกำส ผู้อยู่ในเขตทุรกันดำรห่ำงไกล และชนกลุ่มน้อย เป็ นบริกำรพื้นฐำนไม่คดิ มูลค่ำ ” โดยมี าลัย พันธกิจ คือ “ส่งเสริมกำรรูห้ นังสือและทักษะกำรเรียนรู้ เข้ำถึงและขยำยโอกำสกำรเรียนรูด้ ว้ ยตนเองและ ย กำรศึกษำตลอดชีวติ แก่ประชำชน สร้ำงบุคคลแห่งกำรเรียนรู้ เป็ นผูร้ สู้ ำรสนเทศ มีควำมใฝ่ รู้ รักกำรอ่ำน วิท กำรเรียนรู้ รูท้ นั โลก มีทกั ษะกำรแสวงหำ กำรเข้ำถึงและกำรใช้สำรสนเทศ แหล่งควำมรูแ้ ละอินเทอร์เน็ต หา างม ส่งเสริมกำรประกอบอำชีพ พัฒนคุณภำพชีวติ และส่งเสริมและอนุ รกั ษ์มรดกทำงวัฒนธรรมและภู มิ ากท ปั ญญำท้องถิน่ ” (สมำคมห้องสมุดแห่งประเทศไทยในพระรำชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนรำชสุดำฯ สยำม บรมรำชกุมำรี, 2550, หน้ำ 84-85) ลักษณะกำรบริกำรของห้องสมุดประชำชนประกอบด้วย กำรบริกำร า ตจ แก่ผใู้ ช้ทม่ี ำรับบริกำร ณ ห้องสมุด กำรบริกำรออนไลน์ และกำรบริกำรเคลื่อนที่ นุญ กำรบริกำรแก่ผใู้ ช้ทม่ี ำรับบริกำร ณ ห้องสมุด เป็ นกำรให้บริกำรแก่ผใู้ ช้ทม่ี ำรับ ับอ บริกำร ณ ห้องสมุดซึง่ บริกำรพืน้ ฐำน เช่น บริกำรยืม-คืน บริกำรตอบคำถำมและช่วยกำรค้นคว้ำ บริกำร ่ได้ร อินเทอร์เน็ต บริกำรส่งเสริมกำรอ่ำน เป็ นต้น บริกำรออนไลน์ เป็ นบริกำรที่ห้องสมุดจัดขึ้นเพื่อเอื้อต่อ ยไม กำรเรียนรู้โดยบ

Use Quizgecko on...
Browser
Browser