ระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยเงินอุดหนุนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (Thai PDF)
Document Details
Uploaded by Deleted User
Tags
Related
Summary
เอกสารนี้เป็นระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยเงินอุดหนุนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2559 และ 2563 กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการจัดการเงินอุดหนุน รวมถึงการปรับปรุงระเบียบในปี 2563 เน้นให้การใช้จ่ายเงินอุดหนุนมีความโปร่งใสและประสิทธิภาพ.
Full Transcript
เอกสาร \"ระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยเงินอุดหนุนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2559\" เป็นระเบียบที่กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการจัดการเงินอุดหนุนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้การใช้เงินอุดหนุนมีความเป็นระบบและโปร่งใส โดยเอกสารนี้มีข้อสำคัญที่ควรสรุปได้ดังนี้: 1\. \*\*ข้อ...
เอกสาร \"ระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยเงินอุดหนุนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2559\" เป็นระเบียบที่กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการจัดการเงินอุดหนุนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้การใช้เงินอุดหนุนมีความเป็นระบบและโปร่งใส โดยเอกสารนี้มีข้อสำคัญที่ควรสรุปได้ดังนี้: 1\. \*\*ข้อ 1-3\*\*: ระบุว่าเอกสารนี้เป็น \"ระเบียบกระทรวงมหาดไทย\" ที่ว่าด้วยเงินอุดหนุนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ประกาศใช้เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2559 โดยนิยามว่า \"เงินอุดหนุน\" หมายถึง เงินที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้การสนับสนุนแก่หน่วยงานต่าง ๆ ที่มีภารกิจในอำนาจของตนตามกฎหมาย 2\. \*\*ข้อ 4\*\*: กำหนดหลักเกณฑ์ในการให้เงินอุดหนุน โดยต้องเป็นโครงการที่อยู่ในอำนาจหน้าที่ของ อปท. และให้ประโยชน์แก่ประชาชนในเขตพื้นที่ อีกทั้งยังต้องไม่เป็นโครงการที่ใช้เงินหมุนเวียน 3\. \*\*ข้อ 5\*\*: อปท. จะให้เงินอุดหนุนได้ตามอัตราที่กำหนด โดยไม่เกินร้อยละ 10 ของรายได้จริงในปีก่อนหน้า หากต้องการให้เกินกว่าอัตราที่กำหนดต้องขออนุมัติจากผู้ว่าราชการจังหวัดก่อน 4\. \*\*ข้อ 6\*\*: หากเป็นภารกิจของรัฐวิสาหกิจที่ อปท. ไม่สามารถดำเนินการเองได้ สามารถร้องขอให้รัฐวิสาหกิจดำเนินการแทนได้ โดยไม่ต้องนับรวมการอุดหนุนในอัตราส่วนที่กำหนด 5\. \*\*ข้อ 7-8\*\*: หน่วยงานที่ขอรับเงินอุดหนุนต้องเสนอโครงการที่อยู่ในอำนาจหน้าที่ และต้องมีงบประมาณร่วมสมทบ ยกเว้นบางกรณี 6\. \*\*ข้อ 9\*\*: อปท. ต้องทำบันทึกข้อตกลงกับหน่วยงานที่ขอรับเงินอุดหนุนก่อนการเบิกจ่าย 7\. \*\*ข้อ 10-12\*\*: อปท. ต้องตรวจสอบสถานะการเงินของตนเองก่อนให้เงินอุดหนุน และต้องติดตามและประเมินผลการดำเนินงานของหน่วยงานที่ขอรับเงิน 8\. \*\*ข้อ 13\*\*: ระเบียบนี้ยังครอบคลุมถึงโครงการที่ได้เบิกจ่ายเงินอุดหนุนไปแล้วก่อนวันที่ระเบียบมีผลบังคับใช้ 9\. \*\*ข้อ 14\*\*: ปลัดกระทรวงมหาดไทยมีอำนาจในการรักษาการตามระเบียบนี้และตีความหรือวินิจฉัยปัญหา สรุปได้ว่าเอกสารนี้มีความสำคัญในการกำหนดกรอบการใช้เงินอุดหนุนให้เป็นไปตามกฎหมาย มีความโปร่งใส และเพื่อให้ประชาชนในท้องถิ่นได้รับประโยชน์จากโครงการต่าง ๆ อย่างสูงสุด. เอกสาร \"ระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยเงินอุดหนุนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2563\" เป็นการปรับปรุงระเบียบเดิมจากปี 2559 โดยมุ่งเน้นเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้จ่ายเงินอุดหนุนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้เกิดประโยชน์สูงสุด เอกสารนี้ประกอบด้วยข้อสำคัญดังต่อไปนี้: 1\. \*\*ข้อ 1-3\*\*: ระบุว่าเอกสารฉบับนี้เป็นการแก้ไขเพิ่มเติมระเบียบเงินอุดหนุนจากปี 2559 และให้ใช้แทนระเบียบหรือคำสั่งที่ขัดแย้งกับฉบับนี้ 2\. \*\*ข้อ 4\*\*: แก้ไขนิยามของ "หน่วยงานที่ขอรับเงินอุดหนุน" โดยเพิ่มรายละเอียดและความชัดเจนมากขึ้น เช่น รัฐวิสาหกิจที่ขอรับเงินอุดหนุนได้ รวมถึงองค์กรทางศาสนาและองค์กรการกุศล 3\. \*\*ข้อ 5\*\*: ห้ามการอุดหนุนโครงการที่มีลักษณะเป็นเงินทุนหมุนเวียน การจัดเลี้ยงอาหาร หรือกิจกรรมนันทนาการ และห้ามการอุดหนุนหน่วยงานอื่นในการจัดหาครุภัณฑ์ ยานพาหนะ ยกเว้นในกรณีขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 4\. \*\*ข้อ 6\*\*: แก้ไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับการตั้งงบประมาณให้เงินอุดหนุน โดยหากเป็นการดำเนินการตามกฎหมายการกระจายอำนาจ จะให้จัดทำประมาณการค่าใช้จ่ายโครงการโดยไม่ต้องมีเงินสมทบจากหน่วยงานที่ขอรับอุดหนุน 5\. \*\*ข้อ 7\*\*: ปรับปรุงหลักเกณฑ์การขอรับเงินอุดหนุน โดยเน้นให้หน่วยงานต้องดำเนินโครงการด้วยตัวเอง ไม่สามารถมอบหมายให้หน่วยงานอื่นดำเนินการแทนได้ และกำหนดให้มีเงินสมทบอย่างน้อยร้อยละ 25 ในกรณีของโครงการก่อสร้าง ยกเว้นในกรณีที่เป็นนโยบายของรัฐบาลหรือกระทรวงมหาดไทย 6\. \*\*ข้อ 8\*\*: แก้ไขการเบิกจ่ายเงินอุดหนุน โดยให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต้องทำบันทึกข้อตกลงกับหน่วยงานที่ขอรับเงินอุดหนุน และห้ามการก่อหนี้ผูกพันก่อนรับเงิน ยกเว้นกรณีเร่งด่วน สรุปได้ว่าเอกสารฉบับนี้มุ่งปรับปรุงและเพิ่มความเข้มงวดในด้านการให้เงินอุดหนุนแก่หน่วยงานต่าง ๆ เพื่อให้เกิดความโปร่งใส มีประสิทธิภาพ และประโยชน์สูงสุดต่อส่วนรวม