พื้นฐานอารยธรรมไทย จับคู่รูปภาพ (1).pdf

Document Details

WellMadeTopaz3028

Uploaded by WellMadeTopaz3028

Naresuan University

Tags

Thai civilization history cultural heritage

Full Transcript

พื้นฐานอารยธรรมไทย ประวัตศิ าสตร์ไทยเบื้องต้นกับการรับรูใ้ นสังคมไทย หัวข้อพื้นฐานอารยธรรมไทย ใบงานที่ 1 กิจกรรมจับคู่รูปภาพเหตุการณ์สาคัญในประวัตศิ าสตร์ พ่อขุนศรีอนิ ทราทิตย์ พ่อขุนศรีอนิ ทราทิตย์ หรือพระนามเต็ม กมรเตงอัญศรีอนิ ทรบดินทราทิตย์ พระนามเดิม "พ่อขุนบางกลางหาว" เ...

พื้นฐานอารยธรรมไทย ประวัตศิ าสตร์ไทยเบื้องต้นกับการรับรูใ้ นสังคมไทย หัวข้อพื้นฐานอารยธรรมไทย ใบงานที่ 1 กิจกรรมจับคู่รูปภาพเหตุการณ์สาคัญในประวัตศิ าสตร์ พ่อขุนศรีอนิ ทราทิตย์ พ่อขุนศรีอนิ ทราทิตย์ หรือพระนามเต็ม กมรเตงอัญศรีอนิ ทรบดินทราทิตย์ พระนามเดิม "พ่อขุนบางกลางหาว" เป็ นปฐมกษัตริยแ์ ห่ง ราชวงศ์พระร่วง ตามประวัตศิ าสตร์ไทย ทรงครองราชย์ตงั้ แต่ พ.ศ. 1792 ตราบจนเสด็จสวรรคตเมือ่ พ.ศ. 1822 สร้างกรุงสุโขทัย อาณาจักรสุโขทัย (ราวพ.ศ. 1792-2006 อายุราว 215 ปี ) เป็ นรัฐในอดีตรัฐหนึ่ง ตัง้ อยู่บนทีร่ าบลุ่มแม่นา้ ยม สถาปนาขึ้นราวพุทธศตวรรษที่ 18 ในฐานะสถานีการค้าของรัฐละโว้ หลังจากนัน้ ราวปี 1782 พ่อขุนบางกลางหาว (พ่อขุนศรีอนิ ทราทิตย์) และพ่อขุนผาเมืองได้ร่วมกันกระทา การยึดอานาจจากขอมสบาดโขลญลาพงเป็ นผลสาเร็จ และได้สถาปนาเอกราชให้รฐั สุโขทัยเป็ นอาณาจักรสุโขทัย วัดมหาธาตุ วัดมหาธาตุ กรุงสุโขทัย สร้างขึ้นในสมัยพ่อขุนศรีอินทราทิต ย์ ซึ่งอยู่ใจกลางเมือง เป็ นวัดใหญ่ และสาคัญของกรุงสุโขทัย ภายในวัดมีพ้นื ทีก่ ว้างขวาง สะท้อนถึงความรุ่งเรืองแห่งอาณาจักรสุโขทัยในอดีต ประกอบด้วยเจดีย ์ประธาน วิหาร มณฑป โบสถ์ และเจดียร์ าย ซึง่ เป็ นศิลปะแบบสุโขทัยแท้ พ่อขุนรามคาแหงมหาราช พ่อขุนรามคาแหงมหาราช หรือ พญาร่วง เป็ นพระมหากษัตริยพ์ ระองค์ท่ี 3 ในราชวงศ์ พระร่วงแห่งราชอาณาจักรสุโขทัย เสวยราชย์ ประมาณ พ.ศ. 1822 ถึงประมาณ พ.ศ. 1841 พระองค์ทรงเป็ นกษัตริยพ์ ระองค์แรกของไทยที่ได้รบั การยกย่องเป็ น "มหาราช" ด้วยทรงบาเพ็ญพระราชกรณี ย กิจอันทรง คุณประโยชน์แก่แผ่นดิน ทรงรวบรวมอาณาจักรไทยจนเป็ นปึ กแผ่นกว้างขวาง ทัง้ ยังได้ทรงประดิษฐ์ตวั อักษรไทยขึ้น ทาให้ชาติ ไทยได้สะสมความรูท้ างศิลปะ วัฒนธรรม และวิชาการต่าง ๆ สืบทอดกันมากกว่าเจ็ดร้อยปี ประดิษฐ์อกั ษรไทย พ่อขุนรามคาแหงมหาราชได้ทรงคิดประดิษฐ์รูปอักษรไทยขึ้นนับแต่ พ.ศ. 1826 ซึง่ พระองค์ทรงกาหนดให้รูปอักษรแตกต่างไปจาก รูปอักษรโบราณอื่นๆ ที่มใี ช้มาก่อน และเรียกตัวอักษรไทยนัน้ ว่า “ลายสือไทย” พระองค์ทรงกาหนดให้อกั ษรแต่ละตัวแยกกันเป็ น อิสระ วางรูปสระไว้หน้าพยัญชนะอยู่ในแนวเดียวกัน พร้อมกับมีวรรณยุกต์กากับการออกเสียงตามคาศัพท์ภาษาไทย เจดียทุ ธหัตถีบา้ นตาก หลังจากทีพ่ ่อขุนรามคาแหงมหาราชได้เสด็จขึ้นเสวยราชย์ ณ กรุงสุโขทัย พระองค์โปรดให้สร้างพระเจดียข์ ้นึ องค์ หนึ่ง ณ ยอดดอยสูงตรง บริเวณทีพ่ ระองค์ทรงกระทายุทธหัตถีกบั พ่อขุนสามชน เพือ่ เป็ นทีร่ ะลึกถึงเหตุการณ์สาคัญในอดีต ปัจจุบ นั เจดียย์ ุทธหัตถี หรือเจดียเ์ ฉลิม พระเกียรติพระเจ้ารามคาแหงมหาราช ชาวบ้านทัวไปเรี ่ ยกว่าเจดียช์ นช้าง ตัง้ อยู่บนดอยช้าง ตาบลเกาะตะเภา อาเภอบ้านตาก พระยาลิไท พระยาลิไทยเป็ นกษัตริยอ์ งค์ท่ี 6 แห่งอาณาจักรสุโขทัย เดิมทรงปกครองเมืองศรีสชั นาลัย ในฐานะอุปราชหรือรัชทายาทเมือง สุโขทัย ในช่วงเวลานัน้ กรุงสุโขทัยเกิดความขัดแย้งทางการเมืองภายใน พระองค์จงึ ได้ยกทัพมาจัดการปัญหาและขึ้นเสวยราชย์ ทีก่ รุงสุโขทัย แต่งไตรภูมิพระร่วง เมือ่ ปี พ.ศ. 1882 พระยาลิไทย ทรงปราดเปรื่องในความรูใ้ นพระพุทธศาสนา ทรงมีความรูแ้ ตกฉานในพระไตรปิ ฎกภาษาบาลี ด้านอักษร ศาสตร์ทรงพระปรีชาสามารถนิพนธ์หนังสือไตรภูมิพระร่ วงที่นบั เป็ นงานนิพนธ์ท่ีเก่ าแก่ ท่สี ุดเรื่องหนึ่งในประวัติศาสตร์ไทย ด้วยทรง เชี่ยวชาญในพระไตรปิ ฎกจึงทรงนิพนธ์ถงึ เรื่องราวเกี่ยวกับพระพุทธศาสนา ประเพณีในพระพุทธศาสนา โลกมนุษย์ สวรรค์ และนรก เมืองเก่าศรีสชั นาลัย เมืองเก่าศรีสชั นาลัย คือ เมืองเก่าแก่ทอ่ี ยู่คู่กบั กรุงราชธานีสุโขทัยมาอย่างช้านาน โดยความสาคัญของเมืองนี้ในช่วงภายหลัง การสถาปนาอาณาจักรสุโขทัยของพ่อขุนศรีอนิ ทราทิตย์ เปรียบเสมือนสถานทีฝ่ ึ กว่าราชการของว่าทีก่ ษัตริยอ์ งค์ต่อไปทีจ่ ะขึ้น ครองราชย์ทก่ี รงสุโขทัย พระเจ้าอูท่ อง สมเด็จพระรามาธิบดีท่ี 1 หรือ พระเจ้าอู่ทอง (พ.ศ. 1857 - พ.ศ. 1912) เป็ นพระมหากษัตริยไ์ ทยพระองค์แรกในราชวงศ์อู่ ทองแห่งอาณาจักรอยุธยา (พระเจ้าอู่ทอง) ทรงสถาปนากรุงศรีอยุธยาเป็ นราชธานีเมือ่ พ.ศ. 1893 สร้างกรุงศรีอยุธยา กรุงศรีอยุธยาเป็ นเกาะซึง่ มีแม่นา้ สามสายลอ้ มรอบ ได้แก่ แม่นา้ ป่ าสักทางทิศตะวันออก, แม่นา้ เจ้าพระยาทางทิศตะวันตกและทิศ ใต้ และแม่นา้ ลพบุรที างทิศเหนือ เดิมทีบริเวณนี้ไม่ได้มสี ภาพเป็ นเกาะ แต่สมเด็จพระเจ้าอู่ทองทรงดาริให้ขดุ คูเชื่อมแม่นา้ ทัง้ สาม สาย เพือ่ ให้เป็ นปราการธรรมชาติป้องกันข้าศึก วัดพระราม วัดพระราม คาดว่าสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 1912 ในรัชสมัยสมเด็จพระราเมศวร ซึ่งเป็ นบริเวณที่ถวายพระเพลิงพระบรมศพ สมเด็จพระรามาธิบดีท่ี 1 (พระเจ้าอู่ทอง) พระราชบิดาของพระองค์ สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ เป็ นพระมหากษัตริยไ์ ทยรัชกาลที่ 8 แห่งอาณาจักรอยุธยาสมัยราชวงศ์สุพรรณภูมิ ทรงครองราชย์ เมือ่ พ.ศ. 1991- 2031 ระยะเวลาทัง้ หมด 40 ปี ยาวนานทีส่ ุดของอาณาจักรอยุธยา พระองค์ประทับอยู่ทก่ี รุงศรีอยุธยาประมาณ 20 ปี ทีเ่ หลือทรงประทับทีเ่ มืองพิษณุโลกตลอดรัชกาล เพราะต้องทาสงครามกับพระเจ้าติโลกราชแห่งล้านนา ย้ายเมืองหลวงมาอยู่ท่ี พิษณุ โลก สร้างพระราชวังชื่อ พระราชวังจันทน์ จากสาเหตุการทาสงครามกับพระเจ้าติโลกราชแห่งอาณาจักรลา้ นนา พร้อมทัง้ ความขัดแย้งภายในอาณาจักรระหว่างสุ โขทัยกับ อยุธยา จึงทาให้พระบรมไตรโลกนาถทรงตัดสินพระทัยย้ายเมืองหลวงจากอยุธยามาอยู่ท่พี ษิ ณุโลกในตลอดรัชสมั ยของพระองค์ และได้สร้างทีป่ ระทับใหม่ทเ่ี มืองพิษณุโลก โดยมีช่อื ว่า พระราชวังจันทน์ กฎหมายตราสามดวง กฎหมายตราสามดวง ถูกค้นพบว่าประกาศใช้ครัง้ แรกในรัชสมัยของสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ พร้อมทัง้ มีการรวบรวมขึ้น อย่างเป็ นหมวดหมู่ สมเด็จพระศรีสรุ โิ ยทัย พระสุริโยทัย เป็ นพระอัครมเหสีในสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ พระมหากษัตริยร์ ชั กาลที่ 15 ของอาณาจักรอยุธยา สมัยราชวงศ์สุพรรณภูมิ พระสุริโยทัยเป็ นอัครมเหสีผูเ้ สียสละพระชนม์ชพี เพือ่ ปกป้ องพระราชสวามีในสงครามพระ เจ้าตะเบ็งชเวตี้ในปี พ.ศ. 2091 จึงได้รบั ยกย่องเป็ นวีรสตรี ปลอมตัวเป็ นชายทา ยุทธหัตถี เพือ่ ช่วยพระสวามี เมือ่ เกิดสงครามครัง้ แรกกับพม่านัน้ ปรากฏว่าสมเด็จพระศรีสุริโยทัยได้ปลอมตัวเป็ นชายทายุทธหัตถีเพื่อช่วย พระสวามี ซึง่ ในขณะนัน้ ได้ถกู พระเจ้าแปรแม่ทพั พม่าสังหารสิ้นพระชนม์บนคอช้าง เจดียศ์ รีสรุ โิ ยทัย วัดสวนสบสวรรค์ เมือ่ เสร็จศึกสงครามระหว่างไทยกับพม่าในครัง้ นัน้ สมเด็จพระมหาจักรพรรดิ์ผูเ้ ป็ นพระสวามีของสมเด็จพระศรีสุริโยทัย จึง ได้อญั เชิญพระบรมศพมาถวายเพลิงพระศพที่บริเวณวัดสบสวรรค์ และต่อมาได้สร้างเจดียศ์ รีสุริโยทัย เพื่อเป็ นอนุ สรณ์ สถานราลึกเหตุการณ์ในความกล้าของพระองค์ สมเด็จพระนเรศวร สมเด็จพระนเรศวรมหาราช มีพระนามเดิม ว่าพระนเรศ หรือ "พระองค์ดา" เป็ นพระราชโอรสในสมเด็จพระมหาธรรมราชาธิราชและพระวิสุทธิกษัตรีย ์ เสด็จพระราชสมภพเมื่อ พ.ศ. 2098 ที่พระราชวังจันทน์ เมืองพิษณุโลก มีพระเชษฐภคินีคือพระสุพรรณกัลยา มีพระอนุ ชาคือสมเด็จพระเอกาทศรถ (องค์ขาว) เสด็จขึ้นครองราชย์เมือ่ วันที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2133 ครองราชสมบัติ 15 ปี เสด็จสวรรคตเมือ่ วันที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2148 สิรพิ ระชนมพรรษา 49 พรรษ ยุทธหัตถี ในปี พ.ศ.๒๑๓๕ พระมหาอุปราชา นากองทัพทหารพม่าสองแสนสี่หมื่นคน มาตีกรุงศรีอยุธยาหมายจะชนะศึกในครัง้ นี้ สมเด็จพระนเรศว ร ทรงทราบว่า พม่าจะยกทัพใหญ่มาตี จึงทรงเตรียมไพร่พล มีกาลังหนึ่งแสนคนมาตัง้ ค่ายหลวงบริเวณหนองสาหร่าย โดยสมเด็จพระนเรศวรทรงช้าง นามว่า เจ้าพระยาไช ยานุ ภาพ ซึ่งเป็ นช้างที่กาลังตกมัน ในระหว่างการรบจึงวิ่งไล่ตามพม่าหลงเข้าไปในแดนพม่า และได้กระทายุทธหัตถีกบั พระมหาอุ ปราช และสมเด็จพระ นเรศวรได้รบั ชัยชนะในทีส่ ุด ดอนเจดีย ์ เมือ่ สมเด็จพระนเรศวรทรงกระทายุทธหัตถีชนะพระมหาอุปราช แห่งหงสาวดีได้ จึงได้สร้างดอนเจดียไ์ ว้เป็ นอนุสรณ์สถาน เพือ่ ราลึกเหตุการณ์อนั ยิง่ ของพระองค์ทท่ี ่งุ หนองสาหร่าย เมืองสุพรรณบุรี สมเด็จพระเจ้าปราสาททอง สมเด็จพระเจ้าปราสาททอง (ครองราชย์ พ.ศ. 2173 - 2199) เป็ นพระมหากษัตริยไ์ ทยรัชกาลที่ 24 แห่งอาณาจักรอยุธยา และทรงเป็ น ปฐม กษัตริยร์ าชวงศ์ปราสาททอง สมเด็จพระเจ้าปราสาททอง เดิมเป็ นขุนนางในรัชสมัยสมเด็จพระเจ้าทรงธรรม มีบรรดาศักดิ์เป็ นพระมหาอามาตย์ และมีความชอบจากการปราบกบฏญีป่ ่ นุ จึงได้รบั แต่งตัง้ เป็ นเจ้าพระยากลาโหมสุรยิ วงศ์ และได้รบั พระราชทานเครื่องอุปโภคบริโภคจานวนมาก สร้างพระพุทธรูปทรงเครื่อง พระพุทธรูปทรงเครื่อง จากหลักฐานและการขุดค้นทางโบราณคดี พบว่ามีปรากฏครัง้ แรกในสมัยของพระเจ้าปราสาททอง ถือว่าเป็ นพระพุทธรูปทีเ่ ป็ นเอกลักษณ์ของพุทธศิลป์ ตระกูลช่างอยุธยา ทีม่ กี ารประดับด้วยเครื่ องตกแต่งบนองค์พระพุทธรูป ซึง่ จะพบได้เพียงตระกูลช่างอยุธยาในสมัยอยุธยาเท่านัน้ วัดไชยวัฒนาราม วัดไชยวัฒนารามเป็ นวัดสร้างขึ้นในสมัยพระเจ้า ปราสาททอง พ.ศ. 2173 โดยเดิมบริเวณที่ตงั้ ของวัดแห่งนี้เคยเป็ นที่อยู่ของพระราชมารดาที่ได้ส้ นิ พระชนม์ไปก่อนที่พระเจ้าปราสาททองได้เสว ยราชสมบัติเป็ นกษัตริย ์ เมื่อ พระองค์ได้เสวยราชสมบัติ พระองค์จงึ ได้สร้างวัดไชยวัฒนารามขึ้นเพือ่ อุทศิ ผลบุญนี้ให้กบั พระราชมารดาของพระองค์ และอีกประการหนึ่ งวัดนี้ อาจ ถูกสร้างขึ้นเพือ่ เป็ นอนุ สรณ์แห่งชัยชนะเหนื อเขมรด้วย จึงทาให้มีรูปแบบทางสถาปัตยกรรมส่วนหนึ่ งมาจากปราสาทนครวัด สมเด็จพระนารายณ์ สมเด็จพระนารายณ์มหาราช เป็ นพระมหากษัตริย ์ รัช กาลที่ 27 แห่งกรุงศรีอยุธยา และเป็ น พระมหากษัตริยพ์ ระองค์ท่ี 4 และพระองค์สุดท้าย ของราชวงศ์ปราสาททอง สมเด็จพระนารายณ์มหาราชเป็ นพระมหากษัตริยท์ ท่ี รงพระปรีชาสามารถอย่างยิ่ง ทรงสร้างความรุ่งเรือง และความยิ่งใหญ่ให้แก่กรุงศรีอยุธยาเป็ นอย่างมาก โดยทรงยกทัพไป ตีเมืองเชียงใหม่ และหัวเมืองพม่าอีกหลายเมืองได้แก่ เมืองเมาะตะมะ สิเรียม ย่างกุง้ หงสาวดี และมีกาลังสาคัญทีท่ าให้สมเด็จพระนารายณ์นนั้ สามารถยึดหัวเมืองของพม่า ได้คอื เจ้าพระยาโกษาธิบดี (เหล็ก) เจริญสัมพันธไมตรี กับฝรัง่ เศส ในรัชสมัยของสมเด็จพระนารายณ์ ได้มกี ารเจริญสัมพันธไมตรีกบั ชาติตะวันอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะฝรั ่งเศส ที่ได้มกี าร ส่งคณะราชฑูตอย่างเป็ นทางการในนามของพระมหากษัตรย์ไทยออกไปยังยุโรปเป็ นครัง้ แรก โดยไปยังพระราชวัง แวร์แซย์ ในกรุงปารีส ของพระเจ้าหลุยส์ท่ี 14 โดยการนาของโกษาธิบดี (ปาน) ดังปรากฏในภาพ นารายณ์ราชนิ เวศน์ พระนารายณ์ราชนิเวศน์ เป็ นพระราชวังทีส่ มเด็จพระนารายณ์มหาราชโปรดให้สร้างขึ้นเมือ่ พ.ศ. 2209 ณ เมืองลพบุรี เพือ่ ใช้เป็ นทีป่ ระทับ ล่า สัตว์ ออกว่าราชการ และต้อนรับแขกเมือง (พวกฝรัง่ ) พระองค์ทรงประทับ ณ พระราชวังแห่งนี้ประมาณ 8-9 เดือนในช่วงปลายรัชกาลและเสด็จ สวรรคต ณ พระทีน่ งั ่ สุทธาสวรรค์ สมเด็จพระเจ้าเสือ สมเด็จพระสรรเพชญ์ท่ี 8 เป็ น พระมหากษัตริย ์ ไทยรัชกาลที่ 29 แห่งอาณาจักรอยุธยา และเป็ น พระองค์ทส่ี องแห่งราชวงศ์บา้ นพลูหลวง ราชวงศ์สุดท้ายของอาณาจักรอยุธยา ทรง ครองราชย์ พ.ศ. 2246 - พ.ศ. 2251 ผูค้ นในสมัยพระองค์มกั เรียกขานพระองค์ว่า พระเจ้าเสือ เพื่อเปรียบว่า พระองค์มพี ระอุปนิสยั โหดร้ายดังเสือพระองค์ทรงมี พระปรีชาด้านมวยไทย โดยทรงเป็ นผูค้ ิดท่าแม่ไม้มวยไทย ซึ่งมีหลักฐานทางประวัติศาสตร์ปรากฏชัดเจน และได้มกี ารถ่ายทอดเป็ นตาราให้ชาวไทยรุ่ นหลังได้เรียนรูฝ้ ึ กฝน จนถึงปัจจุบนั เกิดขุนนางจงรักภักดีช่ือ พันท้ายนรสิงห์ เมือ่ ครัง้ ทีพ่ ระเจ้าเสือ เสด็จโดยเรือพระทีน่ งั ่ เอกไชย ประพาสเพือ่ ทรงเบ็ด ณ ปากนา้ เมืองสาครบุรี เมือ่ เรือพระทีน่ งั ่ ถึง"ตาบลโคกขาม"ซึ่งเป็ นคลองคดเคี้ยวและมีกระแสนา้ เชี่ยวกราก พันท้ายนรสิงห์ซ่งึ ถือท้ายเรือพระที่นงั ่ มิสามารถคัดแก้ไขได้ทนั โขนเรือพระที่นงั ่ กระทบกับกิ่งไม้หกั ตกลงไปในนา้ พันท้ายนรสิงห์จงึ ได้กระโดดขึ้นฝัง่ แลว้ กราบ ทูลให้ทรงลงพระอาญาตามพระกาหนดถึงสามครัง้ ด้วยกัน เนื่องจากในครัง้ แรก พระเจ้าเสือพระราชทานอภัยโทษ เพราะเห็นว่าเป็ นอุบตั ิเหตุสุด วิสยั ครัง้ ที่สองก็รบั สัง่ ให้ สร้างรูปปัน้ ปลอมแล ้วตัดหัวรูปปัน้ นัน้ แทน แต่ทา้ ยสุดก็ได้ตรัสสังให้ ่ ประหารชีวติ ด้วยการตัดศีรษะพันท้ายนรสิงห์ตามคาขอ วัดโพธิ์ประทับช้าง วัดโพธิ์ประทับช้าง ตัง้ อยู่ ตาบลโพธิ์ประทับช้าง อาเภอโพธิ์ประทับช้าง จังหวัดพิจิตร เป็ นโบราณสถานที่เก่าแก่สร้างขึ้นเมือ่ พ.ศ. 2242-2244 ในสมัยสมเด็จพระพุทธเจ้าเสือ พระมหากษัตริยส์ มัยกรุงศรีอยุธยา เพื่อเป็ น อนุ สรณ์สถาน ณ สถานที่ ประสู ติของ พระองค์ ลักษณะของวัดมีพระวิหารสูงใหญ่ มีกาแพงล้อมรอบ 2 ชัน้ เป็ นศิลปะแบบอยุธยา สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี เดิมพระองค์เป็ นนายทหารในรัชกาลสมเด็จพระทีน่ งั ่ สุริยาศน์อมรินทร์ (พระเจ้าเอกทัศน์) ต่อมา เกิดการเสียกรุงศรีอยุธยา ครัง้ ทีส่ อง พ.ศ. 2310 พระองค์ได้เป็ นผูน้ าขับไล่ทหารพม่าที่ยดึ ครองกรุงศรีอยุธยาอยู่ในเวลานั้น และได้ปราบดาภิเษกเป็ น พระเจ้ากรุงธนบุรใี นอีกเจ็ดเดือนถัดมา อูต่ ่อเรือพระเจ้าตากสิน จันทบุรี อู่ต่อเรือพระเจ้าตากสิน ในเมืองเก่าจันทบุรี เป็ นจุดรวมพลหรือสถานทีเ่ ตรียมการทัพของสมเด็จพระเจ้าตากสิน ก่อนทีจ่ ะยก กองทัพขึ้นไปสถาปนากรุงธนบุรเี ป็ นเมืองหลวง และขับไล่กองทัพพม่าในค่ายโพธิ์สามต้น ซึ่งจุดยุทธศาสตร์สาคัญที่พระเจ้า ตากเข้าตี พร้อมทัง้ การปราบปรามก๊กต่างๆในเวลาต่อมา สร้างกรุงธนบุรี พระเจ้าตากสิน ได้ยา้ ยเมืองหลวงไปยังกรุงธนบุรี และรวบรวมแผ่นดินซึง่ มีขนุ ศึกก๊กต่าง ๆ ปกครองให้กลับเป็ นปึ กแผ่นอีก ครัง้ เช่นเดียวกับการขยายอาณาเขตออกไปอย่างกว้างขวาง นอกจากนี้ ยังทรงฟื้ นฟูราชอาณาจักรในด้านต่า ง ๆ ให้กลับคืน สู่สภาวะปกติหลังสงคราม ทัง้ ส่งเสริมกิจการด้านเศรษฐกิจ ศาสนา ศิลปวัฒนธรรม วรรณกรรม และการศึกษา สมเด็จพระพุทธยอดฟ้ าจุฬาโลก พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้ าจุฬาโลก (20 มีนาคม พ.ศ. 2279 — 7 กันยายน พ.ศ. 2352) เป็ นพระมหากษัตริยไ์ ทยรัชกาลที่ 1 ใน ราชวงศ์จกั รี ปราบดาภิเษกเป็ นปฐมกษัตริยแ์ ห่งกรุงรัตนโกสินทร์ เมือ่ วันที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2325 ขณะมีพระชนมพรรษาได้ 46 พรรษา และทรงย้ายราชธานีจากฝัง่ ธนบุรมี าอยู่ฝงั ่ พระนคร และโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระบรมมหาราชวังเป็ นทีป่ ระทับ สร้างกรุงเทพ การสร้างกรุงเทพฯ คือ การย้ายเมืองหลวงจากกรุงธนบุรที ่อี ยู่ทางฝัง่ ตะวันตกของแม่นา้ เจ้าพระยา มายังฝัง่ ตะวันออกของแม่นา้ เจ้าพระยา เนื่องจาก ร.1 ทรงเห็นว่าฝัง่ ธนบุรีมีสภาพภูมิประเทศในการตัง้ รับศึกที่ไม่เหมาะสม พร้อมทัง้ มีปญ ั หาเรื่องการขยายตัวเมืองหลวงในภายภาคหน้า จึงมี พระราชดาริให้ยา้ ยเมืองหลวงจากฝัง่ ธนบุรมี าสร้างเมืองใหม่ทฝ่ี งั ่ ตรงข้าม และเรียกว่า “กรุงเทพมหานครบวรรัตนโกสินทร์ ฯ” ใน พ.ศ. 2325 วัดพระแก้ว วัดพระแก้ว เป็ นวัดที่พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้ าจุฬาโลกมหาราชโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นในพร้อมกับการสถาปนากรุ งรัตนโกสินทร์ พ.ศ. 2325 เป็ นวัดในพระบรมมหาราชวังเช่นเดียวกับวัดพระศรีสรรเพชญ์ ซึ่งเป็ นวัดในพระราชวังหลวงในสมัยอยุธยา และมีพระราช ประสงค์ให้วดั พระศรีรตั นศาสดารามเป็ นทีป่ ระดิษฐาน พระพุทธมหามณีรตั นปฏิมากร หรือพระแก้วมรกต พระคู่บา้ นคู่ เมืองของแผ่นดิน สยาม สมเด็จพระเลิศหล้านภาลัย พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย เป็ น พระมหากษัตริยไ์ ทยรัชกาลที่ 2 แห่งราชวงศ์จกั รี ทรงพระปรีชาสามารถในศิลปกรรมด้านต่างๆ หลายสาขา เช่น ด้านกวีนิพนธ์ ด้านประติมากรรม ด้านดนตรี พระองค์มพี ระราชนิพนธ์ท่ีเป็ นบทกลอน มากมาย ทรงเป็ นยอดกวีดา้ นการแต่งบทละครทัง้ ละครในและละครนอก มีหลายเรื่องทีม่ อี ยู่เดิมและทรงนามาแต่งใหม่เพือ่ ให้ใช้ในการแสดงได้ เช่น รามเกียรติ์ อุณรุท และอิเหนา โดยเรื่องอิเหนานี้ เรื่องเดิมมีความยาวมาก ได้ทรงพระราชนิพนธ์ใหม่ตงั้ แต่ตน้ จนจบ (ยุคทองแห่งวรรณคดี) เกิดกวีชน้ั ครู สุนทรภู่ ได้เข้ารับราชการเป็ นอาลักษณ์ราชสานักในรัชสมัยรัชกาลที่ 2 เมือ่ สิ้นรัชกาลได้ออกบวชเป็ นเวลาร่วม 20 ปี ก่อนจะกลับเข้ารับราชการอีกครัง้ ในปลายรัช สมัยรัชกาลที่ 3 โดยเป็ นอาลักษณ์ในสมเด็จเจ้าฟ้ าจุฑามณี กรมขุนอิศเรศรังสรรค์ ในสมัยรัชกาลที่ 4 ได้เลือ่ นตาแหน่ งเป็ น พระสุนทรโวหาร เจ้ากรม อาลักษณ์ฝ่ายพระราชวังบวร ซึ่งเป็ นตาแหน่งราชการสุดท้ายก่อนสิ้นชีวติ ผลงานที่มชี ่อื เสียงของสุนทรภู่มมี ากมายหลายเรื่ อง เช่น นิราศภูเขาทอง นิราศ สุพรรณ เพลงยาวถวายโอวาท กาพย์พระไชยสุรยิ า และ พระอภัยมณี เป็ นต้น วัดอรุณ วัดแจ้ง หรือทีเ่ รียกสัน้ ๆ ว่า วัดอรุณ เป็ นวัดโบราณ สร้างในสมัยอยุธยา ที่ช่อื วัดแจ้ง เพราะ พระเจ้าตากฯ ทาศึ กเสร็จ แล้วยกทัพกลับมาเป็ น เวลาเช้าพอดี ต่อมาพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย พระองค์ได้ทรงบูรณปฏิสงั ขรณ์วดั แจ้งต่อมา และพระราชทานนามใหม่ว่า “วัดอรุณ ราชธาราม” และใช้เป็ นวัดประจารัชกาลของรัชกาลที่ 2 สมเด็จพระนัง่ เกล้าเจ้าอยู่หวั ทรงเป็ นพระมหากษัตริยไ์ ทยรัชกาลที่ 3 แห่งราชวงศ์จกั รี พระองค์ทรงสนับสนุนส่งเสริมการค้าขายกับต่างประเทศ ทัง้ กับชาวเอเชียและชาวยุโรป โดยเฉพาะอย่าง ยิ่งการค้ากับจีน รวมถึงการเปิ ดค้าขายกับมหาอานาจตะวันตกจนมีการลงนามในสนธิสญั ญาระหว่างกันคือ สนธิสญั ญาเบอร์นี พ.ศ. 2369 และ 6 ปี ต่อมาก็ได้เปิ ด สัมพันธไมตรีกบั สหรัฐอเมริกาและมีการทาสนธิสญั ญาต่อกันใน พ.ศ. 2375 นับเป็ นสนธิสญั ญาฉบับแรกที่สหรัฐอเมริกาทากับประเทศทางตะวันออก ส่งผลให้ ไทยได้ผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจอย่างมาก เกิดวีรสตรีช่ือ ย่าโม ท้าวสุรนารี หรือ คุณหญิงโม (พ.ศ. 2314 - 2395) เป็ นบุคคลในประวัติศาสตร์ไทยในฐานะวีรสตรีมีส่วนกอบกู เ้ มือง นครราชสีมาจากกองทัพเจ้าอนุ วงศ์ พระมหากษัตริยเ์ วียงจันทน์ เมือ่ ปี พ.ศ. 2369 ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนัง่ เกลา้ เจ้าอยู่หวั ภายหลังคุณหญิงโมได้รบั การสถาปนาขึ้นเป็ นท้าวสุรนารี โลหะปราสาท โลหะปราสาท เป็ น โลหะปราสาทองค์แ รกและองค์เ ดี ย วของไทย และถือ เป็ น องค์ท่ี 3 ของโลก สร้า งในรัช สมัย พระบาทสมเด็จ พระนัง่ เกล า้ เจ้า อยู่ ห วั ตัง้ อยู่ ใ นพื้น ที่ว ดั ราชนัด ดารามวรวิห าร และอยู่ ใ นบริ เ วณ ลานพลับ พลามหา เจษฏาบดินทร ยอดปราสาทประดิษฐานพระบรมสารีรกิ ธาตุ สมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หวั ทรงเป็ นพระมหากษัตริยไ์ ทยรัชกาลที่ 4 แห่งราชวงศ์ จักรี เสวยราชสมบัตใิ นพ.ศ. 2394 พระองค์ทรงฟื้ นฟู พระพุทธศาสนาให้รุ่งเรือง โดยทรงตัง้ ธรรมยุตติกาวงศ์ข้นึ เป็ นนิกายใหม่ในพระพุทธศาสนา ทีม่ คี วามเคร่งครัดในพระธรรมวินยั และระเบียบแบบแผน ด้านพระพุทธศาสนา ทรง ริเริ่มให้มกี ารค้นคว้าศิลาจารึกในประเทศไทยขึ้นเป็ นครัง้ แรก คือ จารึกหลักที่ 1 ของพ่อขุนรามคาแหงและจารึกหลักที่ 4 ของพระยาลิไทย พระองค์ โปรดเกลา้ ให้ชาวต่างประเทศรับราชการเป็ นกงสุลไทย เช่น เซอร์ จอห์น เบาริง พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หวั ทรงเป็ นนักดาราศาสตร์ไทย ทรง การคานวณการเกิดสุรยิ ุปราคาเต็มดวง เซ็นสัญญากับอังกฤษ ที่เรียกว่า สนธิสญั ญบาวริง เป็ นหนังสือสัญญาทางพระราชไมตรีประเทศ อังกฤษแลประเทศสยาม ลงนามเมือ่ 18 เมษายน พ.ศ. 2398 โดยเซอร์จอห์น เบาว์รงิ ราชทูตที่ได้รบั การแต่งตัง้ จากสมเด็จพระบรมราชินีนาถวิกตอเรีย เข้ามาทาสนธิสญั ญา ซึ่งมีสาระสาคัญในการเปิ ดการค้าเสรีกบั ต่ างประเทศในสยาม มีการ ปรับเปลีย่ นกฎระเบียบการค้าระหว่างประเทศ โดยการสร้างระบบการนาเข้าและส่งออกใหม่ เพิม่ เติมจากสนธิสญั ญาเบอร์นี สนธิสญั ญาฉบั บก่อนหน้าซึ่งได้รบั การลงนามระหว่างสยามและ สหราชอาณาจักรใน พ.ศ. 2369 ตาบลหว้ากอ จังหวัดประจวบคีรขี นั ธ์ “พระบาทสมเด็จพระจอมเกลา้ เจ้าอยู่หวั ทรงคานวณการเกิดสุริยุปราคาเต็มดวงได้ลว่ งหน้าถึง 2 ปี โดยทรงเชิญ เซอร์ แฮรี ออด เจ้า เมืองสิงคโปร์ มาเป็ นประจักษ์พยาน เหตุการณ์น้ ีเกิดขึ้นเมือ่ 18 สิงหาคม 2411 บริเวณหว้ากอ ประจวบคีรีขนั ธ์ เป็ นการพิสูจน์ให้เห็น ถึงพลังอานาจของวิทยาศาสตร์ให้กบั คนรุ่นนัน้ ได้เห็น สมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หวั เป็ นพระมหากษัตริยส์ ยาม รัชกาลที่ 5 แห่งราชวงศ์จกั รี เสวยราชสมบัตเิ มือ่ พ.ศ. 2411 การปฏิรูปการปกครอง ทรงตัง้ สภาที่ปรึกษาขึ้นมาสองสภา ได้แก่ สภาที่ปรึกษาราชการแผ่นดิน และสภาที่ปรึกษาในพระองค์ ในปี พ.ศ. 2417 และทรงตัง้ ขุนนางระดับพระ ยา 12 นายเป็ น "เคาน์ซิล ลอร์" ให้มีอ านาจขัด ขวางหรื อคัด ค้า นพระราชด าริ ไ ด้ ทรงประกาศตัง้ กระทรวงขึ้น อย่ า งเป็ น ทางการจ านวน 12 กระทรวง ได้แ ก่ 1. กระทรวงมหาดไทย 2.กระทรวงนครบาล 3.กระทรวงโยธาธิการ 4.กระทรวงธรรมการ 5.กระทรวงเกษตรพานิชการ 6.กระทรวงยุติธรรม 7.กระทรวงมรุธาธร 8.กระทรวง ยุทธนาธิการ 9.กระทรวงพระคลังสมบัติ 10.กระทรวงการต่างประเทศ 11.กระทรวงกลาโหม 12.กระทรวงวัง เลิกทาส พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกลา้ เจ้าอยู่หวั ทรงประกาศ "พระราชบัญญัติพิกดั เกษี ยณลูกทาสลูกไทย" เมือ่ วันที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2417 แก้พกิ ดั ค่าตัวทาสใหม่ โดยให้ลดค่าตัวทาสลงตัง้ แต่อายุ 8 ขวบ จนกระทัง่ หมดค่าตัวเมือ่ อายุได้ 20 ปี เมือ่ อายุได้ 21 ปี ผูน้ นั้ ก็จะเป็ นอิสระ มีผลกับทาสทีเ่ กิดตัง้ แต่ปี พ.ศ. 2411 เป็ นต้นมา และห้ามมิให้มกี ารซื้อขายบุคคลทีม่ อี ายุมากกว่า 20 ปี เป็ นทาสอีก พระที่นงั ่ จักรีมหาปราสาท พระที่นงั ่ จักรีมหาปราสาท เป็ นพระที่นงั ่ ในหมู่พระที่นงั ่ จักรีมหาปราสาท ภายในพระบรมมหาราชวัง โดยพระบาทสมเด็จพระจุลจ อมเกล้าเจ้าอยู่หวั ทรง พระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นเมือ่ พ.ศ. 2419 พระทีน่ งั ่ จักรีมหาปราสาท มีความโดดเด่นกว่าพระทีน่ งั ่ ในหมู่พระทีน่ งั ่ จักรีมหาปราสาทอื่น ๆ เนื่องจาก เป็ นผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมไทยกับสถาปัตยกรรมยุโรป โดยตัวอาคารพระที่นงั ่ มีรูปแบบสถาปัตยกรรมยุโรป แต่หลังคาพระที่ นงั ่ เป็ นรูปแบบ สถาปัตยกรรมไทย จนเป็ นทีม่ าของชื่อ "ฝรัง่ สวมชฎา" สมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หวั เป็ นพระมหากษัตริยไ์ ทยรัชกาลที่ 6 แห่งราชวงศ์จกั รี เสวย ราชสมบัตเิ มือ่ พุทธศักราช 2453 ทรงมีพระอัจฉริยภาพและ ทรงบาเพ็ญพระราชกรณียกิจในหลายสาขา ได้ทรงพระราช นิพนธ์บทร้อยแก้วและร้อยกรองไว้หลายเรื่อง กระทัง่ ทรงได้รบั การถวายพระราชสมัญญาเมือ่ เสด็จสวรรคตแล้วว่า "สมเด็จพระมหาธีรราชเจ้า" พระองค์เป็ นพระมหากษัตริยใ์ น พระราชวงศ์จกั รีพระองค์แรกที่ ไม่มวี ดั ประจารัชกาล แต่ได้ทรงมีการสถาปนาโรงเรียนมหาดเล็กหลวง หรือวชิราวุธวิทยาลัยในปัจจุบนั ขึ้นแทน ด้วยทรงพระราชดาริว่าพระอารามนัน้ มีมากแล้ว และการสร้างอารามในสมัยก่อนนัน้ ก็เพือ่ บารุงการศึกษาของเยาวชนของชาติ จึงทรงพระราชดาริให้สร้างโรงเรียนขึ้นแทน เกิดกิจการลูกเสือไทย เมือ่ รัชกาลที่ 6 นิวตั สิ ู่ประเทศไทย ก็ได้ทรงจัดตัง้ กองเสือป่ า ขึ้น เมือ่ วันที่ 6 พฤษภาคม 2454 มีจดุ มุ่งหมายเพือ่ ฝึ กหัดให้ขา้ ราชการและพลเรือนได้เรียนรู ้ วิชาทหาร เพือ่ เป็ นคุณประโยชน์ต่อบ้านเมือง รูจ้ กั ระเบียบวินยั มีความจงรักภักดีต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย ์ จากนัน้ ทรงตัง้ กองลูกเสือกอง แรกขึ้นทีโ่ รงเรียนมหาดเล็กหลวง (โรงเรียนวชิราวุธ ในปัจจุบนั ) และจัดตัง้ กองลูกเสือตามโรงเรียน ต่าง ๆ ให้กาหนดข้อบังคับลักษณะปกครองลูกเสือขึ้น รวมทัง้ พระราชทาน คาขวัญให้ลูกเสือว่า “เสียชีพ อย่าเสียสัตย์ ” ดุสติ ธานี ดุสติ ธานี เป็ นเมืองจาลองรูปแบบ ระบอบประชาธิปไตย ที่ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้า เจ้าอยู่หวั ทรงสร้างขึ้นเมือ่ วันที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2461 บริเวณ พระราชวังพญาไท ดุสติ ธานีเป็ นเมืองเล็ก ๆ มีเนื้อที่ 3 ไร่ ตัง้ อยู่บริเวณรอบพระทีน่ งั ่ อุดร ในพระราชวังดุสติ มีลกั ษณะเป็ นเมืองเล็ก ๆ คล้ายเมืองตุก๊ ตา มีขนาดพื้นที่ 1 ใน 20 เท่าของเมืองจริง ประกอบด้วย พระราชวัง ศาลารัฐบาล วัดวาอาราม สถานที่ราชการ โรงทหาร โรงเรียน โรงพยาบาล ตลาดร้านค้า ธนาคาร โรงละคร ประมาณเกือบสองร้อยหลัง เพื่อเป็ นแบบทดลองของการปกครองระบอบประชาธิปไตย โดยโปรดให้มพี ระธรรมนู ญการ ปกครองลักษณะนัคราภิบาล ซึง่ เปรียบลักษณะของเมือง มีพรรคการเมือง 2 พรรค การเลืองตัง้ นัคราภิบาล หรือนายกเทศมนตรี สมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หวั เป็ นพระมหากษัตริยส์ ยาม รัชกาลที่ 7 แห่งราชวงศ์จกั รี ขึ้น เสวยราชสมบัตเิ ป็ นพระมหากษัตริย ์ เมือ่ วันที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2468 และทรงสละราชสมบัตเิ มือ่ วันที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2478 รวมดารงสิรริ าชสมบัติ 9 ปี พระองค์ปฏิบตั พิ ระราชกรณียกิจทีส่ าคัญหลายด้าน เช่น ด้านการปกครอง โปรดให้ตงั้ สภากรรมการองคมนตรี ทรงตรากฎหมายเพื่อควบคุมการค้า ขายทีเ่ ป็ นสาธารณูปโภคและการเงิน ระบบเทศบาล ด้านการศาสนา การศึกษา ประเพณีและวัฒนธรรมนัน้ พระองค์โปรดให้สร้างหอพระสมุด ทรง ปฏิรูปการศึกษาระดับมหาวิทยาลัย นอกจากนี้ มีการปรับปรุงการศึกษาจนยกระดับมาตรฐานถึงปริญญาตรี ทรงตัง้ ราชบัณฑิตยสภา พระราชทานรัฐธรรมนู ญ วันรัฐธรรมนู ญในประเทศไทย เป็ นวันทีร่ ะลึกถึงโอกาสทีพ่ ระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หวั ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ รัฐธรรมนู ญแห่ งราชอาณาจักรสยาม พุทธศักราช 2475 เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2475 เป็ นรัฐธรรมนู ญถาวรฉบับแรกของประเทศไทย โดยผลของการประกาศใช้รฐั ธรรมนู ญฉบับใหม่น้ ีให้ ยกเลิกพระราชบัญญัติธรรมนู ญการปกครองแผ่นดินสยามชัว่ คราว พุทธศักราช 2475 ซึ่งประกาศใช้เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2475 ภายหลังการ เปลีย่ นแปลงการปกครองโดยคณะราษฎรจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์เป็ นระบอบประชาธิปไตย เมือ่ วันที่ 24 มิถนุ ายน ปี เดียวกัน เริ่มเมือ่ 10 ธันวาคม รัฐสภาไทย รัฐสภาแห่งราชอาณาจักรไทย เป็ นสภานิตบิ ญั ญัตริ ะดับชาติของประเทศไทย เป็ นผูใ้ ช้อานาจนิติบญั ญัติอนั เป็ นส่วนหนึ่งของอานาจอธิปไตยของ ปวงชนชาวไทยตามบทบัญญัตแิ ห่งรัฐธรรมนู ญ สาหรับสถานทีป่ ระชุมนัน้ เริ่มจากพระทีน่ งั ่ อนันตสมาคม ก่อนย้ายมายังอาคารรัฐสภาไทยและสัป ปายะสภาสถานตามลาดับ

Use Quizgecko on...
Browser
Browser