ข้อกำหนดของสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย ฉบับที่ 14 ว่าด้วยมาตรฐานสนามบิน PDF

Summary

This document contains Thai aviation regulations, specifically focusing on airport standards. It defines various terms related to airport infrastructure, including aerodromes, beacon lights, and elevation.

Full Transcript

ข้อกำหนดของสำนักงำนกำรบินพลเรือนแห่งประเทศไทย ฉบับที่ 14 ว่ำด้วยมำตรฐำนสนำมบิน ----------------------------- อำศัยอำนำจตำมคว...

ข้อกำหนดของสำนักงำนกำรบินพลเรือนแห่งประเทศไทย ฉบับที่ 14 ว่ำด้วยมำตรฐำนสนำมบิน ----------------------------- อำศัยอำนำจตำมควำมในมำตรำ ๖/๑ แห่งพระรำชบัญญัติกำรเดินอำกำศ พ.ศ. ๒๔๙๗ ซึ่งแก้ไข เพิ่มเติมโดยพระรำชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมพระรำชบัญญัติกำรเดินอำกำศ พ.ศ. ๒๔๙๗ พ.ศ. ๒๕๕๘ และมำตรำ 60/6 (2) และมำตรำ 60/15 (3) (ง) แห่งพระรำชบัญญัติกำรเดินอำกำศ พ.ศ. 2497 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบัญญัติ กำรเดินอำกำศ (ฉบับที่ 11) พ.ศ. 2551 ผู้อำนวยกำรสำนักงำนกำรบินพลเรือนแห่งประเทศไทยจึง ออกข้อกำหนด เพื่อกำหนดมำตรฐำนสนำมบินไว้ ดังต่อไปนี้ ข้อ 1 ข้อกำหนดนี้ เรียกว่ำ “ข้อกำหนดของสำนักงำนกำรบินพลเรือนแห่งประเทศไทย ฉบับที่ 14 ว่ำด้วยมำตรฐำนสนำมบิน” ข้อ 2 บรรดำกฎ ระเบียบ ข้อบังคับ หรือข้อกำหนดใด ๆ ในส่วนที่ขัดหรือแย้งกับ ข้อกำหนดนี้ ให้ใช้ข้อกำหนดนี้แทน ข้อ 3 ในข้อกำหนดนี้ “สนำมบิน (aerodrome)” หมำยควำมว่ำ พื้นที่ที่กำหนดไว้บนพื้นดินหรือน้ำหรือพื้นที่อื่น สำหรับ ใช้งำนทั้งหมดหรือแต่บำงส่วนเพื่อกำรขึ้นลงหรือเคลื่อนไหวของอำกำศยำน รวมตลอดถึงอำคำร สิ่งติดตั้งและอุปกรณ์ ซึ่งอยู่ภำยในสนำมบินนั้น “ไฟบอกตำแหน่งสนำมบิน (aerodrome beacon)” หมำยควำมว่ำ ไฟบอกตำแหน่งสำหรับกำรบิน ใช้เพื่อแสดงตำแหน่งที่ตั้งของสนำมบินจำกอำกำศ “ระดับควำมสูงของสนำมบิน (aerodrome elevation)” หมำยควำมว่ำ ระดับควำมสูงของจุดสูงสุดบนพื้นที่ สำหรับกำรบินลง “ป้ำยแสดงชื่อของสนำมบิน (aerodrome identification sign)” หมำยควำมว่ำ ป้ำยที่ตั้งอยู่ในเขต สนำมบินเพื่อช่วยในกำรระบุสนำมบินจำกอำกำศ “ข้ อมู ลภู มิ ศำสตร์ สำรสนเทศของสนำมบิ น (Aerodrome Mapping Data: AMD)” หมำยควำมว่ ำ ข้อมูลที่ถูกจัดเก็บเพื่อวัตถุประสงค์ในกำรประมวลข้อมูลกำรทำแผนที่ของสนำมบินเพื่อใช้ประโยชน์ด้ ำนกำรบิน และ เก็บรวบรวมเพื่อวัตถุประสงค์ในกำรเพิ่มควำมตระหนักรู้สถำนกำรณ์ของผู้ใช้งำน กำรปรับปรุงกำรปฏิบัติกำรนำร่องภำคพื้น กำรฝึกอบรม กำรจัดทำแผนภูมิ และกำรวำงแผน -๒- “ฐำนข้ อ มู ล ภู มิ ศ ำสตร์ ส ำรสนเทศของสนำมบิ น (Aerodrome Mapping Database: AMDB)” หมำยควำมว่ ำ กลุ่ ม ของข้ อ มู ล ภู มิ ศ ำสตร์ ส ำรสนเทศของสนำมบิ น ที่ ถู ก จั ด กำรและเรี ย บเรี ย งเป็ น ชุ ด ข้ อ มู ล แบบมีโครงสร้ำง “จุ ดอ้ ำงอิ งสนำมบิ น (aerodrome reference point)” หมำยควำมว่ ำ ต ำแหน่ งที่ ตั้ งทำงภู มิ ศำสตร์ ของสนำมบินที่กำหนด “ควำมหนำแน่ น ของกำรจรำจรในเขตสนำมบิ น (aerodrome traffic density)” หมำยควำมว่ ำ ควำมหนำแน่นของกำรเคลื่อนไหวของอำกำศยำนภำยในสนำมบิน ซึ่งแบ่งออกเป็น (๑) น้ อย หมำยควำมว่ำ จ ำนวนครั้งของกำรเคลื่ อนไหวของอำกำศยำน ในช่วงเวลำคับคั่งเฉลี่ย ไม่ เ กิ น สิ บ ห้ ำ ครั้ ง ต่ อ หนึ่ ง ทำงวิ่ ง หรื อ มี จ ำนวนครั้ ง ของกำรเคลื่ อ นไหวของอำกำศยำนภำยในสนำมบิ น ทั้ ง หมด น้อยกว่ำยี่สิบครั้ง (๒) ปำนกลำง หมำยควำมว่ำ จำนวนครั้งของกำรเคลื่อนไหวของอำกำศยำน ในช่วงเวลำคับคั่งเฉลี่ย ตั้งแต่สิบหกถึงยี่สิบห้ำครั้งต่อหนึ่งทำงวิ่ง หรือมีจำนวนครั้งของกำรเคลื่อนไหวของอำกำศยำนภำยในสนำมบินทั้งหมด ระหว่ำงยี่สิบถึงสำมสิบห้ำครั้ง (๓) มำก หมำยควำมว่ำ จำนวนครั้งของกำรเคลื่อนไหวของอำกำศยำน ในช่วงเวลำคับคั่งเฉลี่ ย ตั้งแต่ยี่สิบหกครั้งต่อหนึ่งทำงวิ่ง หรือมีจำนวนครั้งของกำรเคลื่อนไหวของอำกำศยำนภำยในสนำมบินทั้งหมดมำกกว่ำ สำมสิบห้ำครั้ง จ ำนวนของกำรเคลื่ อ นไหวของอำกำศยำนในช่ ว งเวลำคั บ คั่ ง เฉลี่ ย ตำมวรรคหนึ่ ง เป็ น ค่ ำ เฉลี่ ย ทำงคณิตศำสตร์ตลอดปีของจำนวนกำรเคลื่อนไหวของอำกำศยำนในช่วงเวลำที่คับคั่งที่สุดในแต่ละวัน โดยให้นับทั้ง กำรบินขึ้นหรือบินลง “ไฟบอกตำแหน่งสำหรับกำรบิน (aeronautical beacon)” หมำยควำมว่ำ ไฟภำคพื้นสำหรับกำรบินที่ สำมำรถมองเห็นได้จำกทุกทิศทำงของมุมแอซิมัทอย่ำงต่อเนื่องหรือเป็นจังหวะ เพื่อแสดงตำแหน่งเฉพำะบนพื้นผิวโลก “ไฟภำคพื้นสำหรับกำรบิน (aeronautical ground light)” หมำยควำมว่ำ ไฟใดก็ตำมที่ใช้ในกำรช่วย อำนวยควำมสะดวกในกำรเดินอำกำศโดยเฉพำะ นอกเหนือจำกไฟที่ติดอยู่กับตัวอำกำศยำน “ควำมยำวทำงวิ่ ง อ้ ำ งอิ ง ของอำกำศยำน (aeroplane reference field length)” หมำยควำมว่ ำ ควำมยำวทำงวิ่ง ต่ำสุดที่อำกำศยำนต้องกำรสำหรับกำรวิ่งขึ้นเมื่ออำกำศยำนอยู่ในสภำวะดังนี้คือ อำกำศยำนมีมวล วิ่งขึ้นสูงสุดตำมที่อำกำศยำนได้รับกำรรับรอง ระดับของทำงวิ่ งอยู่ที่ระดับน้ำทะเลปำนกลำง สภำวะควำมกดอำกำศ มำตรฐำน ลมสงบ และทำงวิ่งไม่มีควำมลำดชัน โดยควำมยำวดังกล่ำวจะระบุอยู่ในคู่มือประกอบกำรบิน (flight manual) ซึ่งกำหนดโดยผู้มีอำนำจในกำรรับรองหรือเป็นข้อมูลจำกผู้ผลิตอำกำศยำน ทั้งนี้ ควำมยำวของทำงวิ่ง (field length) หมำยถึ ง ควำมยำวทำงวิ่ ง สมดุ ล (balanced field length) ส ำหรั บ อำกำศยำน หรื อ ระยะทำงส ำหรั บ กำรวิ่งขึ้นในกรณีอื่น ๆ “หมำยเลขจำแนกอำกำศยำน (Aircraft Classification Number: ACN)” หมำยควำมว่ำ หมำยเลข ที่แสดงผลกระทบซึ่งสัมพันธ์กันของอำกำศยำนบนผิวพื้นจรำจรสำหรับประเภทฐำนพื้นดิน (subgrade) มำตรฐำนที่ เฉพำะเจำะจง “หลุมจอดอำกำศยำน (aircraft stand)” หมำยควำมว่ำ พื้นที่ในลำนจอดอำกำศยำนที่ถูกกำหนดไว้ เพื่อใช้เป็นที่จอดของอำกำศยำน “ลำนจอดอำกำศยำน (apron)” หมำยควำมว่ำ พื้นที่ที่กำหนดไว้ในสนำมบิน ซึ่งมีไว้สำหรับรองรับ อำกำศยำนเพื่อวัตถุประสงค์ในกำรขึ้นและลงอำกำศยำนของผู้โดยสำร กำรขนถ่ำยไปรษณียภัณฑ์ หรือสินค้ำ กำรเติม เชื้อเพลิง กำรจอด หรือกำรบำรุงรักษำ -๓- “กำรบริหำรจัดกำรลำนจอดอำกำศยำน (apron management service)” หมำยควำมว่ำ กำรบริกำรที่ ถูกจัดให้มีเพื่อกำกับดูแลกิจกรรม กำรเคลื่อนที่ของอำกำศยำนและยำนพำหนะต่ำง ๆ ในลำนจอดอำกำศยำน “พื้นที่ 2 (area 2)” หมำยควำมว่ำ พื้นที่บริเวณรอบสนำมบิน แบ่งออกเป็นพื้นที่ ดังต่อไปนี้ (1) พื้นที่ 2a หมำยควำมว่ำ พื้นที่รูปสี่เหลี่ยมผืนผ้ำรอบทำงวิ่ง ประกอบด้วยระยะทำงของพื้นที่ ปลอดภัยรอบทำงวิ่งรวมกับระยะทำงของพืน้ ที่ปลอดสิ่งกีดขวำง (2) พื้น ที่ 2b หมำยควำมว่ ำ พื้ นที่ ที่ต่ อขยำยจำกขอบของพื้ น ที่ 2a ในทิศทำงกำรบิ นออกจำก ทำงวิ่ง โดยมีควำมยำวสิบกิโลเมตร และผายออกในอัตราร้อยละสิบห้ำในแต่ละด้ำน (3) พื้นที่ 2c หมำยควำมว่ำ พื้นที่ที่ต่อขยำยออกไปนอกเขตพื้นที่ 2a และพื้นที่ 2b ในระยะทำง ไม่เกินสิบกิโลเมตรจำกขอบเขตพื้นที่ 2a (4) พื้นที่ 2d หมำยควำมว่ำ พื้นที่นอกเขตพื้นที่ 2a พื้นที่ 2b และ พื้นที่ 2c ออกไปในระยะทำง สี่สิบห้ำกิโลเมตรจำกจุดอ้ำงอิงสนำมบิน หรือไปยังขอบเขตพื้นที่ควบคุมประชิดสนำมบิน (Terminal Control Area: TMA) แล้วแต่พื้นทีใ่ ดใกล้กว่ำ “พืน้ ที่ 3 (area 3)” หมำยควำมว่ำ พื้นที่ที่มีแนวเขตติดกับพื้นที่เคลื่อนไหวของสนำมบิน ซึ่งต่อขยำย ออกไปจำกขอบทำงวิ่ งในระนำบแนวนอนไปจนถึ งระยะเก้ ำสิ บ เมตรจำกเส้ น กึ่ ง กลำงทำงวิ่ ง และในระยะทำง ห้ำสิบเมตรจำกขอบของบริเวณอื่น ๆ ของพื้นที่เคลื่อนไหว “พืน้ ที่ 4 (area 4)” หมำยควำมว่ำ พื้นที่ทตี่ อ่ ขยำยออกไปเป็นระยะเก้ำร้อยเมตรจำกหัวทำงวิ่ง และ หกสิบเมตรจำกแนวเส้นกึ่งกลำงทำงวิ่งทั้งสองด้ำน ในทิศทำงของกำรร่อนลงสาหรับทำงวิ่งแบบพรีซิชั่น ประเภทที่สอง หรือทำงวิ่งแบบพรีซิชั่น ประเภทที่สำม “ระบบช่ ว ยชะลอควำมเร็ ว และหยุ ด อำกำศยำนที่ วิ่ ง เลยออกนอกทำงวิ่ ง (arresting system)” หมำยควำมว่ำ ระบบที่ถูกออกแบบมำเพื่อชะลอควำมเร็วของอำกำศยำนที่วิ่งเลยออกนอกทำงวิ่ง “ระบบกำรแจ้งเตือนกำรรุกล้ำทำงวิ่งแบบอัตโนมัติ (Autonomous Runway Incursion Warning System: ARIWS)” หมำยควำมว่ำ ระบบอัตโนมัติที่ใช้สำหรับตรวจจับกำรรุกล้ำทำงวิ่งที่อำจเกิดขึ้นหรือกำรอยู่บนทำง วิ่งที่มีกำรใช้งำน และแจ้งเตือนโดยตรงให้กับนักบินหรือผู้ขับขี่ยำนพำหนะ “บำล์คแลนดิ้ง (balked landing)” หมำยควำมว่ำ กำรยกเลิกกำรลงจอดของอำกำศยำนโดยมิได้ คำดหมำย ณ จุดที่ต่ำกว่ำควำมสูงปลอดจำกสิ่งกีดขวำง (Obstacle Clearance Altitude/Height: OCA/H) “ไฟแถบ (barrette)” หมำยควำมว่ำ ไฟภำคพื้นสำหรับกำรบินจำนวนสำมโคมหรือมำกกว่ำ เรียงชิดกัน ตำมแนวขวำง ซึ่งเมื่อมองจำกระยะไกลจะเห็นแสงไฟมีลักษณะเป็นแถบสั้น ๆ “ปฏิทิน (calendar)” หมำยควำมว่ำ ระบบอ้ำงอิ งเชิงเวลำแบบไม่ต่ อเนื่อง ซึ่งใช้เป็นพื้นฐำนของ กำรระบุตำแหน่งเชิงเวลำ โดยมีควำมละเอียดเป็นวัน “พื้นที่ปลอดสิ่งกีดขวำง (clearway)” หมำยควำมว่ำ พื้นที่รูปสี่เหลี่ยมมุมฉำกที่กำหนดไว้บนพื้นดิน หรือพื้นน้ำภำยใต้กำรควบคุมของเจ้ำของหรือผู้ดำเนินกำรสนำมบิน ซึ่งเลือกหรือเตรียมไว้เพื่อเป็นพื้นที่ที่เหมำะสม สำหรับอำกำศยำนที่อำจทำกำรไต่ระดับเบื้องต้นไปยังควำมสูงเฉพำะเหนือพื้นที่ดังกล่ำว “กำรตรวจสอบด้ ว ยส่ ว นซ้ ำซ้ อ นแบบวน (Cyclic Redundancy Check: CRC)” หมำยควำมว่ ำ กระบวนกำรแก้ปัญหำเชิงคณิตศำสตร์ที่นำมำประยุกต์ใช้กับกำรแสดงข้อมูลในรูปแบบดิจิทัล ซึ่งทำให้มั่นใจได้ว่ำข้อมูล ที่ได้รับไม่มีกำรสูญหำยหรือเปลี่ยนแปลง “ควำมแม่นยำของข้อมูล (data accuracy)” หมำยควำมว่ำ ระดับควำมตรงกันระหว่ำงค่ำที่ได้จำก กำรประมำณหรือจำกกำรวัดกับค่ำที่แท้จริง -๔- “ความสมบูรณ์ของข้อมูล (data integrity)” หมำยควำมว่ำ ระดับกำรประกันคุณภำพที่ข้อมูลและ ค่ำของข้อมูลด้ำนกำรบินจะไม่สูญหำยหรือเปลี่ยนแปลงไปจำกเดิมหรือจำกกำรแก้ไขข้อมูลที่ได้รับ “คุณภำพของข้อมูล (data quality)” หมำยควำมว่ำ ระดับของควำมเชื่อมั่น (level of confidence) ที่ ข้อมูลเป็นไปตำมข้อกำหนดของผู้ใช้งำนข้อมูล นั้น ในด้ำนควำมแม่นยำ ควำมละเอียด ควำมสมบูรณ์ (หรือระดับ กำรประกันคุณภำพที่เท่ำกัน) กำรตรวจสอบย้อนกลับ (traceability) ควำมครบถ้วนสมบูรณ์ และรูปแบบของข้อมูล “พื้นหลักฐำน (datum)” หมำยควำมว่ำ จำนวนใดจำนวนหนึ่ง หรือกลุ่มของจำนวนที่อำจนำมำใช้ใน กำรอ้ำงอิง หรือใช้เป็นพื้นฐำนของกำรคำนวณจำนวนอื่น “ระยะทำงที่ประกำศ (declared distance)” หมำยควำมว่ำ ระยะทำงที่คำนวณไว้สำหรับแต่ละ ทิศทำงของทำงวิ่ง ดังต่อไปนี้ (๑) ควำมยำวโทรำ (Take-Off Run Available: TORA) หมำยควำมว่ำ ระยะทำงของทำงวิ่ง ซึ่งได้ ประกำศไว้ถงึ ระยะเหมำะสมสำหรับอำกำศยำนวิ่งบนพื้นเพื่อวิ่งขึ้น (๒) ควำมยำวโทดำ (Take-Off Distance Available: TODA) หมำยควำมว่ำ ระยะทำงของควำมยำวโทรำ รวมกับระยะทำงของพื้นที่ปลอดสิ่งกีดขวำง หำกจัดให้มี (๓) ควำมยำวแอสดำ (Accelerate-Stop Distance Available: ASDA) หมำยควำมว่ำ ระยะทำงของ ควำมยำวโทรำรวมกับระยะทำงของทำงหยุด หำกจัดให้ มี (๔) ควำมยำวแอลดำ (Landing Distance Available: LDA) หมำยควำมว่ำ ระยะทำงของทำงวิ่ง ซึ่งได้ประกำศไว้ถึงระยะเหมำะสมสำหรับอำกำศยำนวิ่งบนพื้นเพื่อบินลง “กำรบิ นเข้ ำสู่ ท ำงวิ่ ง ขนำนแบบไม่ อิ ส ระ (dependent parallel approaches)” หมำยควำมว่ ำ กำรปฏิบัติกำรบินเข้ำสู่ทำงวิ่งแบบบินลงด้วยเครื่องวัดประกอบกำรบินที่ขนำนหรือเกือบขนำนในเวลำเดียวกัน โดยมี กำรกำหนดระยะห่ำงขั้นต่ำของเรดำร์ (radar separation minima) ระหว่ำงอำกำศยำนบนส่วนต่อขยำยแนวเส้น กึ่งกลำงทำงวิ่งที่ติดกัน “หั ว ทำงวิ่งที่ ถูกเลื่ อนไป (displaced threshold)” หมำยควำมว่ำ จุดเริ่มต้นของทำงวิ่งส่ ว นที่ใช้ สำหรับกำรบินลงของอำกำศยำนที่ถูกเลื่อนไป มิได้อยู่ปลำยสุดทำงวิ่ง “ควำมเข้มแสงประสิทธิภำพ (effective intensity)” หมำยควำมว่ำ ควำมเข้มแสงประสิทธิภำพของ ไฟกะพริ บ ซึ่ งเท่ ำกั บควำมเข้ มแสงของไฟส่ องสว่ ำงคงที่ ที่ มี สี เดี ยวกั น โดยจะให้ แสงในระยะกำรมองเห็ นที่ เท่ ำกั น ภำยใต้เงื่อนไขกำรสังเกตแบบเดียวกัน “ค่ำควำมสูงเหนือทรงรี (ellipsoid height / geodetic height)” หมำยควำมว่ำ ควำมสูงที่อ้ำงอิง จำกรูปทรงสัณฐำนของโลกแบบรูปทรงรี (ellipsoid) ซึ่งวัดจำกขอบนอกรูปทรงรีตั้งฉำกไปยังจุดที่ต้องกำรจะวัด “พื้ นที่ จุ ดขึ้ นลง (Final Approach and Take-off Area: FATO)” หมำยควำมว่ ำ พื้ นที่ ที่ ก ำหนดขึ้ น เพื่ อ ใช้ ส ำหรั บ กำรปฏิ บั ติ ก ำรในกำรร่ อ นลงระยะสุ ด ท้ ำ ยโดยบิ น อยู่ กั บ ที่ ห รื อ บิ น ลงจอด และใช้ ส ำหรั บ เริ่ ม กำรปฏิบัติกำรในกำรบินขึ้น ในกรณีที่พื้นที่จุดขึ้นลงดังกล่ำวใช้งำนสำหรับเฮลิคอปเตอร์ที่มีสมรรถนะชั้นหนึ่ง พื้นที่ ที่กำหนดขึ้นดังกล่ำวให้รวมถึงพื้นที่ยกเลิกกำรบินขึ้น (rejected take-off area available) ด้วย “ไฟส่ อ งสว่ ำ งคงที่ (fixed light)” หมำยควำมว่ ำ ไฟที่ มี ค วำมเข้ ม แสงในกำรส่ อ งสว่ ำ งคงที่ เมื่อสังเกตจำกจุดซึ่งอยู่กับที่ (fixed point) “วัตถุแปลกปลอม (Foreign Object Debris: FOD)” หมำยควำมว่ำ วัตถุที่อยู่บนพื้นที่เคลื่อนไหว ซึง่ มิได้มีหน้ำที่หรือเป็นประโยชน์ในกำรใช้งำนทำงกำรบินและอำจเป็นอันตรำยต่อกำรปฏิบัติกำรของอำกำศยำน “วัตถุแตกหักง่ำย (frangible object)” หมำยควำมว่ำ วัตถุที่มีมวลเบำซึ่งถูกออกแบบมำให้ง่ำยต่อ กำร แตกหัก บิดงอ หรือยืดหยุ่น เมื่อถูกกระแทกหรือชนโดยอำกำศยำนแล้วก่อให้เกิดอันตรำยต่ออำกำศยำนน้อยที่สุด -๕- “พื้นหลักฐำนทำงยีออเดซี (geodetic datum)” หมำยควำมว่ำ ชุดของตัวแปรขั้นต่ำที่จำเป็นต่อ กำรระบุ ตำแหน่ งและทิ ศทำงของระบบอ้ำงอิง ท้ องถิ่น (local reference system) เทียบกับระบบอ้ำงอิง ทั่ว โลก (global reference system) “จีออยด์ (geoid)” หมายความว่า พื้นผิวที่มีแรงดึงดูดเท่ากัน (equipotential surface) ในสนามแรงโน้ม ถ่วงของโลก ซึ่งสมนั ยกับค่าระดั บน้ าทะเลปานกลางที่ สงบ (undisturbed mean sea level) ซึ่งขยายออกไปอย่ าง ต่อเนื่องตลอดทั่วทั้งทวีป “ค่าความสูงจีออยด์ (geoid undulation)” หมายความว่า ค่าระยะห่างระหว่างจีออยด์กับพื้นผิว อ้างอิงทางคณิตศาสตร์รูปทรงรี (ellipsoid) โดยมีค่าบวกเมื่อพื้นผิวจีออยด์สูงกว่าพื้นผิวอ้างอิงทางคณิตศาสตร์ รูปทรงรี และมีค่าลบเมื่อพื้นผิวจีออยด์ต่ากว่าพื้นผิวอ้างอิงทางคณิตศาสตร์รูปทรงรี “ปฏิทินเกรโกเรียน (gregorian calendar)” หมำยควำมว่ำ ปฏิทินสำหรับใช้ทั่วไป โดยมีขึ้นครั้งแรก ในปีพุทธศักรำช 2125 (คริสตศักรำช ๑๕๘๒) เพื่อใช้ในกำรกำหนดปี ซึ่งมีค่ำใกล้เคียงกับปีสุริยคติ มำกกว่ำปฏิทินจูเลียน (Julian calendar) ทั้งนี้ ในปฏิทินเกรโกเรียน ปีปกติจะมีวันทั้งหมดสำมร้อยหกสิบห้ำวัน และปีอธิกสุรทิน (leap year) จะมีจำนวนวันสำมร้อยหกสิบหกวัน โดยแบ่งออกเป็นสิบสองเดือน “ไฟแสดงอันตรำย (hazard beacon)” หมำยควำมว่ำ ไฟแสดงตำแหน่งสำหรับกำรบินที่ใช้ในกำรระบุ สิ่งที่เป็นอันตรำยต่อกำรเดินอำกำศ “สนำมบิ นเฮลิ คอปเตอร์ (heliport)” หมายความว่ า สนามบินหรื อพื้ นที่ที่ ก าหนดไว้ บนโครงสร้ า ง สาหรับใช้ทั้งหมดหรือบางส่วนในการบินลง บินขึ้น และการขับเคลื่อนบนพื้นผิวของเฮลิคอปเตอร์ “ทำงขับในอำกำศของเฮลิคอปเตอร์ (helicopter air taxiway)” หมำยควำมว่ำ ทำงที่กำหนดไว้บน พื้นผิวเพื่อใช้สำหรับเป็นทำงขับในอำกำศสำหรับเฮลิคอปเตอร์ “ทำงขับภำคพื้นของเฮลิคอปเตอร์ (helicopter ground taxiway)” หมำยควำมว่ำ ทำงขับภำคพื้น ที่มีไว้สำหรับกำรเคลื่อนที่บนพื้นดินของเฮลิคอปเตอร์ที่มีล้อที่ฐำนโครงสร้ำงเฮลิคอปเตอร์ที่สัมผัสพื้น (undercarriage) “เส้นทำงขับของเฮลิ คอปเตอร์ (helicopter taxi-route)” หมำยควำมว่ำ ทำงที่กำหนดไว้เพื่อใช้ ใน กำรเคลื่อนที่ของเฮลิคอปเตอร์จำกส่วนหนึ่งของสนำมบินไปยังส่วนอื่น ๆ ทั้งนี้ เส้นทำงขับจะรวมถึงทำงขับภำคพื้น หรือทำงขับในอำกำศซึ่งจะอยู่ในแนวศูนย์กลำงของเส้นทำงขับ “ลำนหยุดคอย (holding bay)” หมำยควำมว่ำ พื้นที่ที่กำหนดไว้เพื่อให้อำกำศยำนสำมำรถหยุดคอย หรืออ้อมผ่ำน เพื่ออำนวยให้เกิดกำรเคลื่อนไหวของอำกำศยำนบนพื้นผิวอย่ำงมีประสิทธิภำพ “พื้นที่เสี่ยง (hot spot)” หมำยควำมว่ำ ตำแหน่งบนพื้นที่เคลื่อนไหวของสนำมบินที่มีประวัติหรือ อำจมีควำมเสี่ยงในกำรชนกัน หรือกำรรุกล้ำเข้ำทำงวิ่ง รวมถึงบริเวณที่นักบินและผู้ขับขี่ยำนพำหนะต้องเพิ่มควำมใส่ใจ มำกกว่ำปกติ “หลักมนุษยปัจจัย (human factors principles)” หมำยควำมว่ำ หลักกำรที่นำมำประยุกต์ใช้กับ กำรออกแบบ กำรรับรอง กำรฝึกอบรม กำรปฏิบัติกำร และกำรบำรุง รักษำที่เกี่ยวข้องกับกำรบิน และเพื่อใช้หำ กำรปฏิสั มพัน ธ์ อย่ ำงปลอดภัยระหว่ำงมนุษย์ กับองค์ประกอบต่ำง ๆ ของระบบ โดยพิจำรณำถึงสมรรถนะของมนุษย์ อย่ำงเหมำะสม “สมรรถนะของมนุษย์ (human performance)” หมำยควำมว่ำ ควำมสำมำรถและข้อจำกัดของ มนุษย์ที่มีผลต่อควำมปลอดภัยและประสิทธิภำพของกำรปฏิบัติกำรด้ำนกำรบิน “ไฟบอกตำแหน่งด้วยกำรส่งรหัสสัญญำณ (identification beacon)” หมำยควำมว่ำ ไฟแสดงตำแหน่ง สำหรับกำรบินที่ส่งสัญญำณรหัส โดยวิธีกำรส่งรหัสที่ทำให้สำมำรถระบุจุดทำกำรอ้ำงอิงได้ -๖- “กำรบิ น เข้ ำ สู่ ท ำงวิ่ ง ขนำนแบบอิ ส ระ (independent parallel approaches)” หมำยควำมว่ ำ กำรปฏิบั ติกำรบิ น เข้ำสู่ ทำงวิ่งแบบบิ น ลงด้ว ยเครื่องวัดประกอบกำรบินที่ข นำนหรื อเกือบขนำนในเวลำเดียวกัน โดยมิได้มีกำรกำหนดระยะห่ำงขั้นต่ำของเรดำร์ (radar separation minima) ระหว่ำงอำกำศยำนบนส่วนต่อขยำยแนว เส้นกึ่งกลำงทำงวิ่งที่ติดกัน “กำรบิ น ออกจำกทำงวิ่ งขนำนแบบอิ ส ระ (independent parallel departures)” หมำยควำมว่ ำ กำรปฏิบัติกำรบินออกจำกทำงวิ่งแบบบินลงด้วยเครื่องวัดประกอบกำรบินที่ขนำนหรือเกือบขนำนกันในเวลำเดียวกัน “ทำงวิ่ ง แบบบิ น ลงด้ ว ยเครื่ อ งวั ด ประกอบกำรบิ น (instrument runway)” หมำยควำมว่ ำ ทำงวิ่งประเภทใดประเภทหนึ่ง ดังต่อไปนี้ ซึ่งสร้ำงขึ้นสำหรับกำรปฏิบัติกำรของอำกำศยำนที่ใช้วิ ธีปฏิบัติกำรบินเข้ำสู่ สนำมบินโดยใช้เครื่องวัดประกอบกำรบิน (instrument approach procedures) (๑) ทำงวิ่งแบบนอนพรีซิชั่น (non-precision approach runway) คือ ทำงวิ่งที่มี เครื่องอำนวย ควำมสะดวกในกำรเดินอำกำศ ประเภททัศนวิสัย และเครื่องอำนวยควำมสะดวกในกำรเดินอำกำศ ประเภทไม่ใช้ทัศนวิสัย เพื่ อ ใช้ ส ำหรั บ รองรั บ กำรปฏิ บั ติ ก ำรบิ น ลงด้ ว ยเครื่ อ งวั ด ประกอบกำรบิ น ประเภท A (instrument approach operation type A) และมีทัศนวิสัยไม่ต่ำกว่ำหนึ่งพันเมตร (๒) ทำงวิ่งแบบพรีซิชั่น (precision approach runway) ได้แก่ (ก) ทำงวิ่งแบบพรีซิชั่ น ประเภทที่หนึ่ง (precision approach runway category I) คือ ทำงวิ่ง ที่มีเครื่องอำนวยควำมสะดวกในกำรเดินอำกำศ ประเภททัศนวิสัย และเครื่องอำนวยควำมสะดวกในกำรเดินอำกำศ ประเภทไม่ ใ ช้ ทั ศ นวิ สั ย เพื่ อ ใช้ ส ำหรั บ รองรั บ กำรปฏิ บั ติ ก ำรบิ น ลงด้ ว ยเครื่ อ งวั ด ประกอบกำรบิ น ประเภท B (instrument approach operation type B) โดยใช้ควำมสูงตัดสินใจ (Decision Height: DH) ไม่ต่ำกว่ำสองร้อยฟุต และมีทัศนวิสัยไม่ต่ำกว่ำแปดร้อยเมตร หรือระยะที่นักบินมองเห็นทำงวิ่งไม่ต่ำกว่ำห้ำร้อยห้ำสิบเมตร (ข) ทำงวิ่งแบบพรีซิชั่น ประเภทที่สอง (precision approach runway category II) คือ ทำงวิ่ง ที่มีเครื่องอำนวยควำมสะดวกในกำรเดินอำกำศ ประเภททัศนวิสัย และเครื่องอำนวยควำมสะดวกในกำรเดินอำกำศ ประเภทไม่ใช้ทัศนวิสัย เพื่อใช้สำหรับรองรับกำรปฏิบัติกำรบินลงด้วยเครื่องวัดประกอบกำรบิน ประเภท B (instrument approach operation type B) โดยใช้ควำมสูงตัดสินใจ (Decision Height: DH) ต่ำกว่ำสองร้อยฟุต แต่ไม่ต่ำกว่ำ หนึ่งร้อยฟุต และระยะที่นักบินมองเห็นทำงวิ่งไม่ต่ำกว่ำสำมร้อยเมตร (ค) ทำงวิ่ งแบบพรีซิชั่น ประเภทที่สำม (precision approach runway category III) คือ ทำงวิ่ งที่มี เครื่องอำนวยควำมสะดวกในกำรเดินอำกำศ ประเภททัศนวิสัย และเครื่องอำนวยควำมสะดวกในกำรเดินอำกำศ ประเภทไม่ใช้ทัศนวิสัย เพื่อใช้สำหรับรองรับกำรปฏิบัติกำรบินลงด้วยเครื่องวัดประกอบกำรบิน ประเภท B (instrument approach operation type B) ลงสู่ทำงวิ่งและตลอดพื้นผิวของทำงวิ่ง และ 1) A – ติดตั้งสาหรับการปฏิบัติการโดยใช้ ควำมสูงตัดสินใจ (Decision Height: DH) ต่ากว่า หนึ่งร้อยฟุต หรือไม่มีระยะสูงตัดสินใจ และระยะที่นักบินมองเห็นทางวิ่ง ไม่ต่ากว่าหนึ่งร้อยเจ็ดสิบห้าเมตร 2) B – ติดตั้งสาหรับการปฏิบัติการโดยใช้ ควำมสูงตัดสินใจ (Decision Height: DH) ต่ากว่า ห้าสิบฟุตหรือไม่มีระยะสูงตัดสินใจ และระยะที่นักบินมองเห็นทางวิ่ง ต่ากว่าหนึ่งร้อยเจ็ดสิบห้าเมตร แต่ไม่ต่ากว่าห้าสิบเมตร 3) C – ติดตั้งสาหรับการปฏิบัติการโดยไม่มี ควำมสูงตัดสินใจ (Decision Height: DH) และ ไม่มีข้อจากัดเกี่ยวกับระยะที่นักบินมองเห็นทางวิ่ง -๗- ประเภทของการปฏิบัติการบินลงด้วยเครื่องวัดประกอบการตามวรรคหนึ่ง แบ่งออกเป็นประเภทต่าง ๆ ดังต่อไปนี้ (๑) ประเภท A คื อ การปฏิ บั ติ การบิ นลงด้ วยเครื่ องวั ดประกอบการบิ นโดยใช้ ระยะสู งส าหรั บ การลดระดับต่าสุด (minimum descent height) หรือควำมสูงตัดสินใจ (Decision Height: DH) ที่ระดับสองร้อยห้าสิบฟุต หรือสูงกว่า (๒) ประเภท B คือ การปฏิบัติการบินลงด้วยเครื่องวัดประกอบการบิน โดยใช้ ควำมสู งตัดสิ นใจ (Decision Height: DH) ต่ากว่าสองร้อยห้าสิบฟุต “ประเภทควำมสมบูรณ์ของข้อมูล (integrity classification)” หมำยควำมว่ำ กำรจัดประเภทของ ข้อมูลด้ำนกำรบินที่ขึ้นอยู่กับควำมเสี่ยงซึ่งเป็นผลมาจากการใช้ข้อมูลที่มีความผิดพลาด โดยสามารถแบ่งเป็นประเภท ดังนี้ (๑) ข้อ มูล ประจ ำ (routine data) คือ เมื ่อ มีก ำรน ำข้อ มูล ประจ ำซึ ่ง มีค วำมผิด พลำดไปใช้ มีควำมเป็น ไปได้น้อยมำกที่จะทำให้กำรปฏิบัติกำรบินและกำรลงจอดของอำกำศยำนมีควำมเสี่ยงสูงในกำรเกิด อุบัติเหตุร้ำยแรง (catastrophe) (๒) ข้ อ มู ล ส ำคั ญ (essential data) คื อ เมื่ อ มี ก ำรน ำข้ อ มู ล ส ำคั ญ ซึ่ ง มี ค วำมผิ ด พลำดไปใช้ มีควำมเป็นไปได้น้อยที่จะทำให้กำรปฏิบัติกำรบิน และกำรลงจอดของอำกำศยำนมีควำมเสี่ยงสูง ในกำรเกิดอุบัติเหตุ ร้ำยแรง (catastrophe) (๓) ข้อมูลสำคัญที่สุด (critical data) คือ เมื่อมีกำรนำข้อมูลสำคัญ ที่สุดซึ่งมีควำมผิดพลำดไปใช้ มีควำมเป็นไปได้สูงที่จะทำให้กำรปฏิบัติกำรบินและกำรลงจอดของอำกำศยำนมีควำมเสี่ยงสูงในกำรเกิดอุบัติเหตุ ร้ำยแรง (catastrophe) “ต าแหน่ งหยุ ด คอยบนทำงขั บ (intermediate holding position)” หมำยควำมว่ ำ ต ำแหน่ ง ที่กำหนดไว้เพื่อควบคุมกำรจรำจร โดยอำกำศยำนและยำนพำหนะที่กำลังขับเคลื่อนอยู่ต้องหยุดและคอย จนกว่ำจะได้รับ อนุญำตให้ปฏิบัติกำรต่อไป เมื่อได้รับคำแนะนำดังกล่ำวจำกหอควบคุมกำรจรำจรทำงอำกำศ “พื้นที่สำหรับกำรบินลง (landing area)” หมำยควำมว่ำ ส่วนของพื้นที่เคลื่อนไหว ใช้สำหรับกำรบินลง หรือกำรบินขึ้นของอำกำศยำน “อุปกรณ์บอกทิศทางในการบินลง (landing direction indicator)” หมายความว่า อุปกรณ์ที่ช่วยชี้ ทิศทางที่กาหนดไว้ โดยใช้สายตาสาหรับการบินลงและการบินขึ้น “ควำมเชื่อมั่นของระบบไฟ (lighting system reliability)” หมำยควำมว่ำ ควำมเป็นไปได้ที่ระบบ ซึ่งมีกำรติดตั้งสมบูรณ์แล้ว สำมำรถใช้งำนได้และทำงำนอยู่ในค่ำควำมคลำดเคลื่อนที่ยอมรับได้ที่กำหนด “พื้นที่ขับเคลื่ อน (manoeuvring area)” หมำยควำมว่ำ ส่ วนของสนำมบิ นที่ใช้ ส ำหรั บกำรบิ นขึ้ น บินลง และขับเคลื่อนของอำกำศยำน ซึ่งไม่รวมลำนจอดอำกำศยำน “วัตถุที่ใช้เป็นเครื่องหมำย (marker)” หมำยควำมว่ำ วัตถุที่แสดงไว้เหนือระดับพื้นดินเพื่อแสดง สิ่งกีดขวำงหรือเพื่อกำหนดขอบเขตพื้นที่ “เครื่องหมำย (marking)” หมำยควำมว่ำ สัญลักษณ์หรือกลุ่มของสัญลักษณ์ที่แสดงไว้บนพื้นผิวของ พื้นที่เคลื่อนไหวเพื่อสื่อสำรข้อมูลด้ำนกำรบิน “พื้น ที่เคลื่ อนไหว (movement area)” หมำยควำมว่ำ ส่ ว นของสนำมบินที่ใช้ส ำหรับ กำรบินขึ้น บินลง และขับเคลื่อนของอำกำศยำน ซึ่งประกอบด้วยพื้นที่ขับเคลื่อน และลำนจอดอำกำศยำน “ทำงวิ่งที่เกือบขนำนกัน (near-parallel runways)” หมำยควำมว่ำ ทำงวิ่งที่ไม่ตัดกัน ซึ่งเส้นที่ลำกต่อจำก เส้นกึ่งกลำงทำงวิ่งทั้งสองนั้นทำมุมเข้ำหำกันหรือออกจำกกันไม่เกินสิบห้ำองศำ -๘- “ทำงวิ่งแบบบินลงโดยไม่ใช้เครื่องวัดประกอบกำรบิน (non-instrument runway)” หมำยควำมว่ำ ทำงวิ่งซึ่งสร้ำงขึ้นสำหรับกำรปฏิบัติกำรบินของอำกำศยำนที่ใช้วิธีกำรบินเข้ำสู่สนำมบินด้วยทัศนวิสัย (visual approach procedure) หรือด้วยเครื่องวัดประกอบกำรบิน (instrument approach procedure) จนถึงจุดที่อยู่เหนือควำมสูง ที่ ก ำหนดให้ ต้ อ งบิ นต่ อเนื่ องเข้ ำสู่ สนำมบิ นภำยใต้ สภำพอำกำศเปิ ด (Visual Meteorological Condition: VMC) ภำยหลังจำกจุดดังกล่ำว “สิ่ งกีดขวำง (obstacle)” หมำยควำมว่ำ วัตถุติดตรึงที่มีลั กษณะชั่ว ครำวหรือถำวร รวมถึงวัตถุ เคลื่อนที่ หรือส่วนของวัตถุนั้น ๆ ซึ่ง (1) อยู่ในพื้นที่ที่ใช้สำหรับกำรเคลื่อนไหวของอำกำศยำน หรือ (2) ยื่นล้ำเข้ำไปเหนือพื้นผิวที่ถูกกำหนดไว้สำหรับปกป้องอำกำศยำนที่ทำกำรบิน หรือ (3) ตั้งอยู่ด้ำนนอกพื้นผิวที่ถูกกำหนดไว้ และได้รับกำรประเมินว่ำเป็นอันตรำยต่อกำรเดินอำกำศ “เขตปลอดสิ่ ง กี ด ขวาง (Obstacle Free Zone: OFZ)” หมายความว่ า ห้ ว งอากาศเหนือ พื้ นผิ ว แนวร่อนชั้นใน (inner approach surface) พื้นผิวลาดเอียงชั้นใน (inner transitional surface) และพื้นผิว บาล์ค แลนดิ้ง (balked landing surface) รวมถึงส่วนของพื้นที่ปลอดภัยรอบทางวิ่ง ที่ถูกล้อมรอบโดยพื้นผิวทั้งหมดข้างต้น ซึ่งต้องไม่ มีสิ่ งกีดขวางที่ติ ดตรึ งยื่ นล้ าเข้าไป นอกเหนือไปจากวัตถุมวลเบาและสามารถแตกหั ก ง่ายที่จาเป็นส าหรับ วัตถุประสงค์ในการเดินอากาศ “ระยะห่ า งระหว่ า งล้ อ หลั ก ด้ า นนอกทั้ ง สองข้ า ง (Outer Main Gear Wheel Span: OMGWS)” หมายความว่า ระยะห่างระหว่างขอบนอกของล้อหลักด้านนอกทั้งสองข้างของอากาศยาน “หมายเลขจ าแนกผิ ว พื้ น จราจร (Pavement Classification Number: PCN)” หมายความว่ า หมายเลขที่แสดงความแข็งแรงในการรองรับน้าหนักของผิวพื้นจราจรสาหรับการปฏิบัติการที่ไม่มีข้อจากัด “ทางวิ่งหลัก (primary runway)” หมายความว่า ทางวิ่งที่ใช้เป็นประจามากกว่าทางวิ่งอื่น เมื่ออยู่ใน สภาพแวดล้อมทีอ่ านวย “ถนน (road)” หมายความว่ า เส้ นทางที่ ก าหนดไว้ ในพื้ นที่ เคลื่ อนไหว ใช้ ส าหรั บการขั บเคลื่ อ น ยานพาหนะโดยเฉพาะ “ตาแหน่ งหยุ ดคอยบนถนน (road-holding position)” หมายความว่า ตาแหน่งที่กาหนดไว้ ใ ห้ ยานพาหนะหยุดคอยหากมีความจาเป็น “ทางวิ่ง (runway)” หมายความว่า พื้นที่รูปสี่เหลี่ยมมุมฉากที่กาหนดไว้ในสนามบิน ซึ่งจัดไว้สาหรับ การบินขึ้นและบินลงของอากาศยาน “พื้นที่ปลอดภัยปลายทางวิ่ง (Runway End Safety Area: RESA)” หมายความว่า พื้นที่ซึ่งสมมาตรกัน รอบแนวเส้นกึ่งกลางทางวิ่งที่ต่อขยายออกไปและอยู่ติดกับจุดสิ้นสุดพื้นที่ปลอดภัยรอบทางวิ่ง ซึ่งมีไว้เพื่อวัตถุประสงค์ หลักในการลดความเสี่ยงที่จะเกิดความเสียหายแก่อากาศยานที่ลงก่อนถึงทางวิ่ง (undershooting) หรือวิ่งออกนอก ทางวิ่ง (overrunning) “ไฟเตือนก่อนเข้าทางวิ่ง (runway guard lights)” หมายความว่า ระบบไฟซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อการ แจ้งเตือนนักบินหรือผู้ขับขี่ยานพาหนะที่กาลังจะเข้าไปสู่ทางวิ่งที่มีการใช้งานอยู่ “ตำแหน่งหยุดคอยเข้ำทำงวิ่ง (runway-holding position)” หมำยควำมว่ำ ตำแหน่งที่กำหนดไว้ เพื่อป้องกันทำงวิ่ง พืน้ ผิวจำกัดสิ่งกีดขวำง หรือพืน้ ทีว่ ิกฤตหรืออ่อนไหวของระบบกำรบินลงด้วยเครื่องวัดประกอบกำรบิน (Instrument Landing System: ILS) ซึ่งอำกำศยำนและยำนพำหนะที่ก ำลั งขับเคลื่ อนอยู่ต้ องหยุด และคอย เว้นแต่ จะได้รับอนุญำตเป็นอย่ำงอื่นจำกหอควบคุมกำรจรำจรทำงอำกำศ -๙- “พื้น ที่ป ลอดภัย รอบทำงวิ่ง (runway strip)” หมำยควำมว่ำ พื้นที่ที่กำหนดไว้ซึ่งรวมถึงทำงวิ่ง และทำงหยุ ด (ถ้ำมี) ที่กำหนดไว้เพื่อ (๑) ลดควำมเสี่ยงที่จะเกิดควำมเสียหำยแก่อำกำศยำนที่วิ่งออกนอกทำงวิ่ง และ (๒) ป้องกันอำกำศยำนที่บินอยู่เหนือพื้นที่ดังกล่ำวระหว่ำงกำรปฏิบัติกำรบินขึ้นหรือกำรบินลงของ อำกำศยำน “ลานกลั บล า (runway turn pad)” หมายความว่า พื้นที่ที่กาหนดไว้ในสนามบิน ที่ อยู่ ติด กับ ทางวิ่ ง ซึ่งมีไว้เพื่อวัตถุประสงค์ในกำรทำให้อำกำศยำนสำมำรถกลับลำหนึ่งร้อยแปดสิบองศำบนทำงวิ่งได้อย่ำงสมบูรณ์ “ระยะที่นั กบิ น มองเห็ น ทำงวิ่ง (Runway Visual Range: RVR)” หมำยควำมว่ ำ ระยะไกลที่สุ ดที่ นักบินบนอำกำศยำนซึ่งอยู่บนแนวเส้นกึ่งกลำงทำงวิ่งสำมำรถมองเห็นเครื่องหมำยบนพื้นผิวทำงวิ่ง หรือไฟแสดง ขอบเขตทำงวิ่ง หรือไฟที่ระบุเส้นกึ่งกลำงทำงวิ่งได้ “ระบบกำรจัดกำรด้ำนนิรภัย (Safety Management System: SMS)” หมำยควำมว่ำ วิธีกำรเชิง ระบบในกำรบริ ห ำรจั ดกำรควำมปลอดภั ย ซึ่ ง รวมถึ ง โครงสร้ ำ งองค์ ก ร หน้ ำ ที่ ควำมรั บ ผิ ด ชอบ นโยบำย และ กระบวนกำรทำงำนที่จำเป็น “กำรปฏิ บั ติ ก ำรบิ น ขึ้ น และลงพร้ อ มกั น บนทำงวิ่ ง ขนำน (segregated parallel operations)” หมำยควำมว่ำ กำรปฏิบั ติกำรบิ นบนทำงวิ่งที่ขนำนหรือเกือบขนำนกันของทำงวิ่งที่ใช้เครื่องวัดประกอบกำรบิน ในเวลำเดีย วกัน ซึ่งทำงวิ่งเส้ น หนึ่ งใช้ส ำหรั บ กำรบิ นลงโดยเฉพำะ และทำงวิ่ง อี กเส้ นหนึ่ง ใช้ส ำหรั บ กำรบิ น ขึ้ น โดยเฉพำะ “ไหล่ ทำง (shoulder)” หมำยควำมว่ำ พื้นที่ที่เชื่อมต่อจำกขอบของผิ ว ทำง เพื่อเป็นช่ว งเปลี่ยน ระหว่ำงผิวทำงไปสู่พื้นผิวทีอ่ ยู่ติดกัน “ป้ำยสัญลักษณ์ (sign)” หมายความว่า (๑) ป้ำยข้อควำมถำวร คือ ป้ำยที่แสดงข้อควำมเพียงหนึ่งข้อควำมเท่ำนั้น (๒) ป้ำยข้อควำมที่เปลี่ยนแปลงได้ คือ ป้ำยที่แสดงข้อควำมหลำยข้อควำมที่กำหนดไว้ หรือป้ำยที่ ไม่มีข้อควำมแสดง “พื้นที่ให้สัญญำณ (signal area)” หมำยควำมว่ำ พื้นทีใ่ นสนำมบินที่ใช้สำหรับแสดงสัญญำณภำคพื้น “ตำแหน่งเบี่ยงเบน (station declination)” หมำยควำมว่ำ กำรแปรผันของกำรวำงแนวระหว่ำงแนว เส้นรัศมีศูนย์องศำของคลื่นวิทยุวีโออำร์ (VOR) กับทิศเหนือจริง ซึ่งกำหนดขึ้น ณ เวลำที่มีกำรปรับตั้งค่ำของสถำนี คลื่นวิทยุวโี ออำร์ “ทำงหยุด (stopway)” หมำยควำมว่ำ พื้นที่รูปสี่เหลี่ยมมุมฉำกที่กำหนดไว้บนพื้นดินที่อยู่บริเวณ จุดสิ้นสุดระยะทำงของทำงวิ่งซึ่งได้ประกำศไว้ถึงระยะเหมำะสมสำหรับอำกำศยำนวิ่งบนพื้นเพื่อบินขึ้น หรือควำมยำว โทรำ ซึ่งเตรียมไว้เพื่อเป็นพื้นที่ที่เหมำะสมในกำรให้อำกำศยำนหยุด ในกรณีที่ยกเลิกกำรบินขึ้น “แถบไฟหยุด คอยเข้ำ ทำงวิ่ง (stop bar)” หมำยควำมว่ำ แถบไฟสีแ ดงที่แ สดงในทิศ ทำงที่ อำกำศยำนหรือ ยำนพำหนะขับเคลื่อนเข้ำหำ โดยติดตั้งเป็นแนวตำมขวำงของทำงขับ ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ต้องกำรให้ อำกำศยำนและยำนพำหนะหยุดคอย “ค่ำช่วงเวลำที่ใช้ในกำรสับเปลี่ยนแหล่งจ่ำยไฟฟ้ำ (switch-over time)” หมำยควำมว่ำ ระยะเวลำที่ ต้องกำรสำหรับควำมเข้มแสงจริงของดวงไฟซึ่งถูกวัดจำกแหล่งจ่ำยไฟในทิศทำงที่กำหนด ลดลงจำกร้อยละห้ำสิบ และ กลับคืนมำถึงร้อยละห้ำสิบ ในขณะที่มีกำรเปลี่ยนแหล่งจ่ำยไฟ เมื่อดวงไฟทีก่ ำลังใช้งำนมีควำมเข้มแสงที่ร้อยละยี่สิบห้ำ หรือสูงกว่ำ “ทำงวิ่งสำหรับกำรบินขึ้น (take-off runway)” หมำยควำมว่ำ ทำงวิ่งที่ใช้สำหรับกำรบินขึ้นเท่ำนั้น - ๑๐ - “ทำงขับ (taxiway)” หมำยควำมว่ำ ทำงที่กำหนดไว้ในสนำมบินที่สร้ำงไว้สำหรับกำรขับเคลื่อนของอำกำศ ยำนและเพื่อเป็นทำงเชื่อมระหว่ำงส่วนหนึ่งของสนำมบินไปยังอีกส่วนหนึ่ง ซึ่งประกอบด้วย (๑) ทางขับที่เข้าสู่หลุมจอดอากาศยาน (aircraft stand taxilane) คือ พื้นที่ส่วนหนึ่งของลานจอด อากาศยานที่กาหนดให้เป็นทางขับ และมีไว้เพื่อเป็นทางเข้าออกหลุมจอดอากาศยานเท่านั้น (๒) ทางขั บในลานจอดอากาศยาน (apron taxiway) คื อ พื้ นที่ ส่ วนหนึ่ งของระบบทางขั บที่ อ ยู่ ใน ลานจอดอากาศยาน และมีไว้เพื่อเป็นเส้นทางให้อากาศยานขับเคลื่อนผ่านลานจอดอากาศยาน (๓) ทางขั บออกด่ วน (rapid exit taxiway) คื อ ทางขั บที่ เชื่ อมกั บทางวิ่ ง โดยท ามุ มแหลม (acute angle) และออกแบบมาเพื่อให้ อากาศยานที่ทาการบินลง สามารถเลี้ยวออกจากทางวิ่งด้วยความเร็วสูงกว่าที่สามารถ เลี้ยวออกโดยใช้ทางขับออกอื่น ๆ เพื่อลดเวลาที่อากาศยานใช้งานทางวิ่งนั้น “จุดตัดบนทำงขับ (taxiway intersection)” หมำยควำมว่ำ จุดตัดของทำงขับสองเส้นหรือมำกกว่ำ “พื้นที่ปลอดภัยรอบทำงขับ (taxiway strip)” หมำยควำมว่ำ พื้นที่ซึ่งรวมถึงทำงขับที่มีไว้เพื่อป้องกัน อำกำศยำนที่ปฏิบัติกำรอยู่บนทำงขับ และเพื่อลดควำมเสี่ยงที่จะเกิดควำมเสียหำยแก่อำกำศยำนที่วิ่งออกนอกทำงขับ โดยไม่ได้ตั้งใจ “หัวทำงวิ่ง (threshold)” หมำยควำมว่ำ จุดเริ่มต้นของทำงวิ่งส่วนทีใ่ ช้สำหรับกำรบินลงของอำกำศยำน “เขตจุดแตะพื้น (touchdown zone)” หมำยควำมว่ำ ส่วนของทำงวิ่งที่อยู่เลยจำกหัวทำงวิ่ง ซึ่งใช้ ในกำรแตะพื้นครั้งแรกในกำรลงจอดของอำกำศยำน “ปัจจัยควำมสำมำรถใช้งำนได้ (usability factor)” หมำยควำมว่ำ ค่ำอัตรำร้อยละของช่วงเวลำทีก่ ำร ใช้งำนทำงวิ่งหรือระบบของทำงวิ่งไม่ถูกจำกัดด้วยองค์ประกอบลมขวำง (crosswind component) “หน่วยงำนบริกำรข่ำวสำรกำรบิน” หมำยควำมว่ำ ฝ่ำยบริกำรข่ำวสำรกำรบิน สำนักงำนกำรบินพลเรือน แห่งประเทศไทย “สำนักงำน” หมำยควำมว่ำ สำนักงำนกำรบินพลเรือนแห่งประเทศไทย “ผู้ อ ำนวยกำร” หมำยควำมว่ ำ ผู้ อ ำนวยกำรส ำนั ก งำนกำรบิ น พลเรื อ นแห่ ง ประเทศไทยหรื อ ผู้ซึ่งผู้อำนวยกำรสำนักงำนกำรบินพลเรือนแห่งประเทศไทยมอบหมำย - ๑๑ - หมวด 1 บททั่วไป -------------------- ข้อ 4 ข้อกาหนดนี้ให้ใช้บังคับกับสนามบินที่ให้บริการแก่สาธารณะที่ตั้งอยู่บนพืน้ ดินเท่านั้น ข้อ 5 เมื่อมีการอ้างอิงถึงสีที่ใช้ในข้อกาหนดนี้ ให้อ้างอิงจากภาคผนวกแนบท้าย ๑ ส่วนที่ 1 ระบบอ้างอิงทั่วไป -------------------- 1. ระบบอ้างอิงแนวราบ (Horizontal Reference System) ข้อ 6 ให้นาระบบพื้นหลักฐาน WGS-๘๔ (World Geodetic System – ๑๙๘๔) มาใช้เป็นระบบ อ้างอิงแนวราบ ข้อมูลพิกัดภูมิศาสตร์สาหรับการบิน (aeronautical geographical coordinates) ในรูปแบบของ ละติจูด และลองจิจูด ที่ต้องรายงานต่อหน่วยงานบริการข่าวสารการบิน ต้องแสดงในรูปแบบพื้นหลักฐาน WGS-๘๔ 2. ระบบอ้างอิงแนวดิ่ง (Vertical Reference System) ข้อ 7 ให้นาค่าระดับน้าทะเลปานกลาง (Mean Sea Level: MSL) ซึ่งให้ค่าความสัมพันธ์ของความสูง (ค่าระดับ) [gravity-related height (elevation)] ที่สัมพันธ์กับค่าแรงโน้มถ่วงโลกกับพื้นผิวจีออยด์ ที่ได้จากแบบจาลอง แรงโน้มถ่วงของโลก (EGM-96) มาใช้เป็นระบบอ้างอิงแนวดิ่ง แบบจาลองแรงโน้มถ่วงของโลก (EGM-96) ตามวรรคหนึ่ง ประกอบด้วยข้อมูลสนามแรงโน้มถ่วงโลก ที่เป็นความยาวคลื่นแบบยาว เรียงตัวกันสามร้อยหกสิบองศา ซึ่งต้องใช้เป็นแบบจาลองแรงโน้มถ่วงของโลกที่ใช้ในการ เดินอากาศระหว่างประเทศ ๓. ระบบอ้างอิงเชิงเวลา (Temporal Reference System) ข้อ 8 ให้ น าปฏิ ทิ น เกรโกเรี ย น (gregorian calendar) และเวลาสากลเชิ ง พิ กั ด (Coordinated Universal Time: UTC) หรืออาจเรียกว่าเวลาซูลู (zulu time) มาใช้เป็นระบบอ้างอิงเชิงเวลา - ๑๒ - ส่วนที่ 2 การรับรองการดาเนินงานสนามบินสาธารณะ -------------------- ๑. การตรวจสอบเพื่อออกใบรับรองการดาเนินงานสนามบินสาธารณะ ข้ อ 9 ในการขอรับใบรับรองการดาเนินงานสนามบินสาธารณะ สนามบินต้องจัดเตรียมและแสดงความพร้อม เพื่อรับการตรวจสอบในเรื่องอย่างน้อย ดังต่อไปนี้ (๑) ความสอดคล้องกันของโครงสร้างพื้นฐานของสนามบินและมาตรฐานที่เกี่ยวข้องกับการดาเนินงาน ของสนามบินนั้น (๒) กิจกรรมและกระบวนการดาเนินงานของสนามบินในแต่ละวัน ซึ่งรวมถึง (ก) ข้อมูลสนามบินและการรายงานข้อมูลดังกล่าว (aerodrome data and reporting) (ข) การควบคุมการเข้าเขตการบิน (control of airside access) (ค) แผนฉุกเฉินของสนามบิน (aerodrome emergency plan) (ง) การดับเพลิงและกู้ภัย (rescue and firefighting) (จ) การตรวจพินิจพื้นที่เคลื่อนไหว (inspection of the movement area) (ฉ) การบารุงรักษาพื้นที่เคลื่อนไหว (maintenance of the movement area) (ช) สภาพทางอุตุนิยมวิทยาที่เป็นอันตราย (hazardous meteorological condition) (ซ) เครื่องอานวยความสะดวกในการเดินอากาศ ประเภททัศนวิสัย และระบบไฟฟ้าสนามบิน (visual aids and aerodrome electrical systems) (ฌ) ความปลอดภั ย ในการก่ อ สร้ า งและบ ารุ ง รั ก ษาบริ เ วณสนามบิ น (aerodrome works safety) (ญ) การบริหารจัดการลานจอดอากาศยาน (apron management) (ฎ) การจัดการความปลอดภัยในลานจอดอากาศยาน (apron safety) (ฏ) การควบคุมยานพาหนะในเขตการบิน (airside vehicle control) (ฐ) การบริหารจัดการเกี่ยวกับอันตรายที่เกิดจากสัตว์ (wildlife hazard management) (ฑ) การควบคุมสิ่งกีดขวาง (obstacles control) (ฒ) การเคลื่อนย้ายอากาศยานที่ขัดข้อง (removal of a disabled aircraft) (ณ) การปฏิบัติการเมื่อทัศนวิสัยต่า (low visibility operations) (ด) ระบบการจัดการด้านนิรภัยของสนามบิน (Safety Management System: SMS) (ต) การจัดการกับวัตถุอันตราย (handling of hazardous materials) (ถ) การป้องกันสถานที่ติดตั้งเรดาร์และเครื่องอานวยความสะดวกในการเดินอากาศ ประเภท เครื่องช่วยในการเดินอากาศ (protection of site for radar and navigational aids) (๓) คู่มือการดาเนินงานสนามบิน (๔) การสารวจสนามบินและสิ่งกีดขวาง (aerodrome and obstacle survey) - ๑๓ - ๒. ความรับผิดชอบร่วมกันและการประสานงาน ข้อ 10 ในกรณีที่เจ้ำของหรือผู้ดำเนินกำรสนำมบินไม่ได้ดำเนินกิจกรรมของสนำมบินตำมข้อ ๙ (๒) ด้ว ยตนเอง เจ้ำ ของหรือ ผู้ดำเนิน กำรสนำมบิน ต้อ งกำหนดกระบวนกำรดำเนิน งำนและกำรประสำนงำนไว้ใ น คู่มือ กำรดำเนินงำนสนำมบินอย่ำงชัดเจนในแต่ละเรื่ อง ในกรณีกิจกรรมใด ๆ เป็นควำมรับผิดชอบร่วมกัน ระหว่ำง หน่วยงำนหลำยหน่วยงำน เจ้ำของหรือผู้ดำเนินกำรสนำมบินต้องแจกจ่ำยคู่มือกำรดำเนินงำนสนำมบินในส่ ว นที่ เกี่ยวข้องให้กับหน่วยงำนเหล่ำนั้นด้วย ในกรณีที่มีกำรจัดให้มีกระบวนกำรดำเนินงำนเฉพำะเพื่อให้เป็นไปตำมกฎหมำย กฎเกณฑ์ ข้อบังคับอื่น ๆ เจ้ำของหรือผู้ดำเนินกำรสนำมบินต้องแสดงรำยละเอียดไว้ในคู่มือกำรดำเนินงำนสนำมบินด้วย ข้อ 11 เพื่อประโยชน์ ในด้ำนควำมปลอดภัยของสนำมบิน เจ้ำของหรือ ผู้ ดำเนิน กำรสนำมบิน ต้องตรวจสอบและตรวจติดตำมให้มั่นใจว่ำผู้ให้บริกำรทั้งหมดในสนำมบิน ซึ่งรวมถึงหน่วยงำนบริกำรภำคพื้นและ หน่วยงำนอื่นที่ดำเนินกำรอย่ำงอิสระในส่วนที่เกี่ยวข้องกับ กำรปฏิบัติกำรบินหรือกำรจัดกำรอำกำศยำนที่สนำมบินนั้น ได้ปฏิบัติตำมข้อกำหนดด้ำนควำมปลอดภัยของสนำมบิน ๓. การออกใบรับรองการดาเนินงานสนามบินสาธารณะ ข้อ 12 ในกำรออกใบรับรองกำรดำเนินงำนสนำมบินสำธำรณะ ผู้อำนวยกำรอำจกำหนดเงื่อนไข หรือข้อจำกัดเกี่ยวกับกำรดำเนินงำนของสนำมบิน ซึ่งอำจรวมถึง (1) รหัสอ้ำงอิงสนำมบิน (2) ประเภทอำกำศยำนวิกฤต (critical aeroplane) (3) เงื่อนไขกำรปฏิบัติกำรสำหรับกำรรองรับอำกำศยำนวิกฤต (critical aeroplane) ที่สิ่งอำนวย ควำมสะดวกจัดไว้ (4) ระดับชั้นของกำรดับเพลิงและกู้ภัย (5) เงื่อนไขหรือข้อจำกัดในกำรปฏิบัติกำรทีส่ นำมบิน (6) ควำมแตกต่ำงจำกมำตรฐำนที่ได้รับอนุญำต (authorized deviation) ซึ่งสอดคล้องกับกำรใช้งำน สนำมบิน รวมถึงเงื่อนไขและข้อจำกัดเกี่ยวกับกำรดำเนินงำน และกำรมีผลของใบรับรอง (validity) ควำมแตกต่ำงตำม (๖) จะได้รับกำรยอมรับบนพื้นฐำนของกำรประเมินด้ำนควำมปลอดภัยที่เป็นไปตำม ที่ผู้อำนวยกำรกำหนด - ๑๔ - ๔. การกากับดูแลอย่างต่อเนื่อง ข้อ 13 เมื่ อ ส ำนั ก งำนด ำเนิ น กำรตรวจสอบตำมข้ อ ๙ และผู้ อ ำนวยกำรได้ อ อกใบรั บ รอง กำรดำเนินงำนสนำมบินสำธำรณะตำมข้อ ๑๒ ให้แก่เจ้ำของหรือผู้ดำเนินกำรสนำมบินแล้ว สนำมบินต้องจัดให้มี กำรประสำนงำนกับสำนักงำนเพื่อกำรกำกับดูแลอย่ำงต่อเนื่อง เพื่อให้มั่นใจว่ำผู้ได้รับใบรับรองกำรดำเนินงำนสนำมบิน สำธำรณะคงไว้ซึ่งมำตรฐำนในกำรดำเนิ น งำนสนำมบินสำธำรณะ และปฏิ บัติ ต ำมเงื่อนไขและข้อจำกัด เกี่ ย วกั บ กำรดำเนินงำนประกอบใบรับรองกำรดำเนินงำนสนำมบินสำธำรณะนั้นอย่ำงต่อเนื่อง ข้อ 14 หำกตรวจพบข้อบกพร่องที่เกี่ยวข้องกับควำมปลอดภัยภำยในสนำมบิน ภำยหลั งกำรออก ใบรับรองกำรดำเนินงำนสนำมบินสำธำรณะ ผู้อำนวยกำรอำจเพิ่มเงื่อนไขหรือข้อจำกัดเกีย่ วกับกำรดำเนินงำนประกอบ ใบรับรองกำรดำเนินงำนสนำมบินสำธำรณะเป็นพิเศษ และออกประกำศในเอกสำรแถลงข่ำวกำรบิน (AIP) หรือประกำศ ผู้ทำกำรในอำกำศ (NOTAM) จนกว่ำจะมีกำรดำเนินกำรตำมแผนกำรแก้ไขข้อบกพร่องที่ได้รับควำมเห็นชอบจำก ผู้อำนวยกำรตำมข้อ ๑๕ ๕. การวิเคราะห์ข้อบกพร่องและการติดตามแผนการแก้ไขข้อบกพร่องที่เกี่ยวข้อง ข้อ 15 ในกรณีที่มีกำรตรวจสอบเพื่อออกใบรับรองกำรดำเนินงำนสนำมบินสำธำรณะตำมข้อ ๙ หรือกำรตรวจสอบเพื่อกำรกำกับดูแลอย่ำงต่อเนื่องตำมข้อ 13 แล้วพบข้อบกพร่อง เจ้ำของหรือผู้ดำเนินกำรสนำมบิน ต้องจัดทำแผนกำรแก้ ไขข้อบกพร่ อง (corrective action plan) ยื่นขอควำมเห็นชอบต่อผู้อำนวยกำร โดยระบุแนวทำง กำรกำจัดหรือแก้ไขข้อบกพร่องดังกล่ำว รวมถึงกำหนดเวลำสำหรับกำรดำเนินกำรตำมแต่ละแนวทำง ในระหว่ ำ งกำรด ำเนิ น กำรก ำจั ดหรื อ แก้ ไ ขข้ อ บกพร่อ งตำมวรรคหนึ่ง สนำมบิ น ต้ อ งปฏิ บั ติ ต ำม มำตรกำรบังคับทีผ่ ู้อำนวยกำรได้กำหนดขึ้นตำมควำมเหมำะสมโดยทันที ข้อ 16 สนำมบินต้องติดตำมกำรดำเนินกำรแผนกำรแก้ไขข้อบกพร่องทีจ่ ัดทำขึ้นเพื่อกำรออกใบรับรอง กำรดำเนินงำนสนำมบินสำธำรณะ หรือจำกกำรตรวจสอบเพื่อกำรกำกับดูแลอย่ำงต่อเนื่อง หรือจำกกำรตรวจสอบ ด้ำนเทคนิค (technical inspection) จำกสำนักงำน จนกว่ำจะได้ดำเนินกำรตำมขั้นตอนทั้งหมดที่กำหนดไว้ในแผนกำร แก้ไขข้อบกพร่องดังกล่ำวอย่ำงครบถ้วน เพื่อให้มั่นใจว่ำกำรดำเนินกำรแก้ไขข้อบกพร่องเป็นไปตำมมำตรฐำนและ ระยะเวลำทีก่ ำหนด ในกรณีที่สนำมบินไม่ได้ดำเนินกำรตำมแผนกำรแก้ไขข้อบกพร่องอย่ำงเหมำะสมภำยในระยะเวลำ ที่กำหนด ผู้อำนวยกำรอำจเพิ่มมำตรกำรด้ำนกำรกำกับดูแลให้มำกยิ่งขึ้นตำมข้อ ๑๗ - ๑๕ - ๖. การเพิ่มการกากับดูแล ข้อ 17 ในกรณีที่ ส นำมบิ น ไม่ได้ดำเนินกำรตำมแผนกำรแก้ไขข้อบกพร่องอย่ำงเหมำะสมหรือ แผนกำรแก้ไขข้อบกพร่องของเจ้ำของหรือผู้ดำเนินกำรสนำมบินยังไม่เพียงพอที่จะสำมำรถแก้ไขข้อบกพร่องดังกล่ำวได้ ผู้อำนวยกำรอำจเพิ่มมำตรกำรด้ำนกำรกำกับดูแล ขอบเขตของกำรเพิ่มมำตรกำรด้ำนกำรกำกับดูแลตำมวรรคหนึ่งอำจครอบคลุมกำรกำกับดูแลเฉพำะ ด้ำนหรือครอบคลุมทุกด้ำนก็ได้ จนกว่ำสนำมบินจะได้ดำเนินกำรตำมแผนกำรแก้ไขข้อบกพร่องอย่ำงเหมำะสมหรือ สำมำรถปรับปรุงแผนกำรแก้ไขข้อบกพร่องให้แก้ไขข้อบกพร่องได้ ทั้งนี้ เจ้ำของหรือผู้ดำเนินกำรสนำมบินต้องจัดให้มี ผู้ประสำนงำนและดำเนินกำรประสำนงำนกับสำนักงำนอย่ำงสม่ำเสมอ ๗. การรายงานเหตุการณ์ความปลอดภัย ข้อ 18 สนำมบิ น ต้ อ งรำยงำนเหตุ ก ำรณ์ ค วำมปลอดภั ย (safety occurrences) ที่ เ กิ ด ขึ้ น ใน สนำมบินให้สำนักงำนทรำบ โดยมีรำยกำร ดังต่อไปนี้ (๑) กำรรำยงำนอุบัติเหตุและอุบัติกำรณ์รุนแรง ซึ่งรวมถึง (ก) อำกำศยำนออกนอกทำงวิ่ง (runway excursion) (ข) อำกำศยำนที่ลงก่อนถึงทำงวิ่ง (undershoots) (ค) กำรรุกล้ำทำงวิ่ง (runway incursion) (ง) กำรบินลงหรือวิ่งขึ้นของอำกำศยำนบนทำงขับ (จ) เหตุกำรณ์ที่เกี่ยวข้องกับอำกำศยำนชนสัตว์ (wildlife strike) (๒) กำรรำยงำนเหตุกำรณ์ควำมปลอดภัย อย่ำงน้อย ดังต่อไปนี้ (ก) เหตุกำรณ์ที่เกี่ยวข้องกับวัตถุแปลกปลอม (FOD) (ข) เหตุกำรณ์อื่นนอกเหนือจำกอำกำศยำนออกนอกทำงวิ่ง เช่น อำกำศยำนออกนอกทำงขับ หรือลำนจอดอำกำศยำน (ค) เหตุกำรณ์อื่นนอกเหนือจำกกำรรุกล้ำทำงวิ่ง เช่น กำรรุกล้ำทำงขับหรือลำนจอดอำกำศยำน (ง) เหตุกำรณ์กำรชนกันบริเวณภำคพื้น (ground collisions) เจ้ำของหรือผู้ดำเนินกำรสนำมบินต้องดำเนินกำรวิเครำะห์และทบทวนข้อมูลตำมวรรคหนึ่ง โดยให้มี กำรระบุแนวโน้ม (trends) และทำกำรวิเครำะห์เชิงลึกเพื่อกำหนดมำตรกำรที่เหมำะสม โดยบุคลำกรที่มคี วำมสำมำรถ ซึ่งได้รับกำรฝึกอบรมเพื่อปฏิบัติหน้ำที่ดังกล่ำว เจ้ำของหรือผู้ดำเนินกำรสนำมบินต้องประสำนงำนกับผู้ให้บริกำรในสนำมบินทั้งหมด ซึ่งรวมถึง หน่วยงำนบริกำรภำคพื้น ผู้ให้บริกำรอำกำศยำน ผู้ให้บริกำรกำรเดินอำกำศ และหน่วยงำนอื่นที่เกี่ยวข้อง เพื่อปรับปรุง ควำมครบถ้วนและควำมถูกต้องของกำรเก็บรวบรวมข้อมูลเหตุกำรณ์ควำมปลอดภัยและข้อมูลสำคัญอื่นที่เกีย่ วข้อง - ๑๖ - ส่วนที่ 3 การออกแบบสนามบิน

Use Quizgecko on...
Browser
Browser