_________4_2______________________.pdf

หน่วยที่ 4 การดารงชีวิตของพืช คลอโรฟิลล์ ยอดเกสรตัวเมีย เกสรตัวเมีย O2...

หน่วยที่ 4 การดารงชีวิตของพืช คลอโรฟิลล์ ยอดเกสรตัวเมีย เกสรตัวเมีย O2 เกสรตัวผู้ ก้านเกสรตัวเมีย O2 CO2 O2 กลีบดอก CO2 แก๊สออกซิเจน CO2 ออกสู่อากาศ ทางปากใบ แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ เข้าทางปากใป น้าเข้า กลีบเลีย้ ง H2O H2O H2O รังไข่ ทางราก  การสืบพันธุแ์ ละการขยายพันธุพ์ ืชดอก พืชดอก  เมื่อเจริญเติบโตเต็มที่ จะเริ่มผลิตดอกไม้เพื่อเป็นเซลล์สืบพันธุ์ในการขยายพันธุ์ ภายในดอก เกสรตัวผู้ : สร้างเซลล์สืบพันธุ์ตัวผู้หรือละอองเรณูเก็บไว้ในอับละอองเรณู (Pollen) มีการสร้างเซลล์สืบพันธุ์โดย เกสรตัวเมีย : จะมีรังไข่ ซึ่งภายในมีไข่ (Ovule) ทาหน้าที่เก็บเซลล์สืบพันธุ์ตัวเมียไว้ 1. การสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศของพืชดอก มีขั้นตอนดังนี้  การถ่ายละอองเรณู (Pollination)  การงอกของละอองเรณู  การปฏิสนธิของพืชดอก (Fertilization)  การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างหลังการปฏิสนธิ  การถ่ายละอองเรณู (Pollination) การถ่ายละอองเรณู  หมายถึง การที่ละอองเรณูไปตกบนยอดเกสรเพศเมีย เป็นกระบวนการที่เกิดขึ้น เมื่อ อับเรณูที่แก่จัดแตกออก ทาให้ละอองเรณูกระจายออกไปตกบนยอดเกสรเพศเมียซึ่งมี สารเหนียว ๆ คอยดักจับละอองเรณู ละอองเรณูถูกพัดพาไปยังที่ต่าง ๆ ได้ การถ่ายละอองเรณู มี 3 แบบ 1. การถ่ายละอองเรณูในดอกเดียวกัน 2. การถ่ายละอองเรณูข้ามดอกในต้นเดียวกัน 3. การถ่ายละอองเรณูข้ามต้น  การสืบพันธุแ์ บบอาศัยเพศของพืชดอก มีขั้นตอนดังนี้ 1. การถ่ายละอองเรณู (Pollination) เมื่ออับเรณูแก่จัดจะเกิดการแตกออก ละอองเรณู (Pollen grain) ของเพศผู้ จะตกลงสู่ยอดเกสรตัวเมีย บริเวณยอดเกสรตัวเมียจะมีสารเหนียวๆ ไว้ดักจับละอองเรณู การถ่ายละอองเรณู อาจเกิดขึ้นภายใน ดอกเดียวกัน หรือข้ามดอกก็ได้ อาศัยปัจจัยต่าง ๆ เช่น แมลง ลมพัดพา กระแสน้า  การสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศของพืชดอก มีขั้นตอนดังนี้ 2. การงอกของละอองเรณู  โดยปกติละอองเรณูของเซลล์เพศผู้ จะมี 2 นิวเคลียส คือ - Generative Nucleus - Tube nucleus  เมื่อละอองเรณูตกลงบนยอดเกสรตัวเมีย  Tube nucleus ซึ่งมีลักษณะเป็นท่อจะงอก ลงไปภายในก้านเกสรตัวเมีย จนถึงออวุลแล้วสลายตัวไป  ส่วน Generative Nucleus จะแบ่งตัวแบบ mitosis ได้สเปิร์มนิวเคลียส 2 อัน เข้าไปตามหลอด เพื่อปฏิสนธิ ในขั้นต่อไป  การสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศของพืชดอก มีขั้นตอนดังนี้ 3. การปฏิสนธิของพืชดอก (Fertilization)  เป็นการปฏิสนธิซ้อน (Double fertilization)  เกิดขึ้นเมื่อสเปิรม์ 2 ตัว ผสมกับส่วนของเซลล์ไข่ ดังนี้ สเปิร์มตัวที่ 1 + เซลล์ไข่ (egg cell)  ไซโกต(Zygote) ซึ่งจะเจริญไปเป็นเอ็มบริโอ (Embryo) โพลาร์ นิวเคลียส เอนโดสเปิร์ม สเปิร์มตัวที่ 2 + (Polar nucleus)  (Endosperm) เป็นอาหารเลี้ยงเอ็มบริโอ  การสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศของพืชดอก มีขั้นตอนดังนี้  การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างหลังการปฏิสนธิ กลีบเลีย้ ง การเปลี่ยนแปลง เหี่ยวแห้งหลุดไป แต่พืชบางชนิดยังคงอยู่เช่น มังคุด กลีบดอก-ยอดเกสรและก้านเกสรตัวเมีย การเปลี่ยนแปลง เหี่ยวแห้ง และร่วงหลุดไป ออวุล การเปลี่ยนแปลง เมล็ด รังไข่ การเปลี่ยนแปลง กลายเป็น “ผล” (ผลบางชนิดเกิดจาก ฐานรองดอก เช่น แอปเปิ้ล ชมพู่) ผนังหุม้ รังไข่ การเปลี่ยนแปลง เปลือกและเนื้อของผล สเปิรม์ + ไข่ ไซโกต การเปลี่ยนแปลง เอ็มบริโอ หรือ ต้นอ่อน สเปิรม์ + โพลาร์นวิ เคลียส เอนโดสเปิรม์ การเปลี่ยนแปลง อาหารเลี้ยงเอ็มบริโอ