การอักเสบและเซลล์ที่เกี่ยวข้อง
46 Questions
10 Views

Choose a study mode

Play Quiz
Study Flashcards
Spaced Repetition
Chat to Lesson

Podcast

Play an AI-generated podcast conversation about this lesson

Questions and Answers

จับคู่สาเหตุของการอักเสบภายนอกกับตัวอย่าง:

ปัจจัยทางกายภาพ = การบาดเจ็บหรือการกระแทก ปัจจัยทางชีวภาพ = การติดเชื้อจุลชีพ ปัจจัยทางเคมี = สารเคมีที่ทำให้เกิดการระคายเคือง ปัจจัยทางสิ่งแวดล้อม = สารพิษจากสิ่งแวดล้อม

จับคู่ปัจจัยภายในที่ทำให้เกิดการอักเสบกับตัวอย่าง:

ความผิดปกติของพันธุกรรม = โรคธาลัสซีเมีย ภาวะทุโภชนาการ = ภาวะขาดวิตามินเอ ความผิดปกติของสารเคมีในเลือด = ฮอร์โมนไม่สมดุล ผลจากปฏิกิริยาทางภูมิคุ้มกัน = ภาวะแพ้ภูมิตัวเอง

จับคู่ภาวะที่เกี่ยวข้องกับการขาดเลือดไปเลี้ยงกับตัวอย่าง:

myocardial ischemia = กล้ามเนื้อหัวใจขาด O2 Occlusion = เส้นเลือดอุดตัน Hypoxia = อาการขาดออกซิเจนในร่างกาย Ischemia = การมีเลือดไปเลี้ยงไม่เพียงพอ

จับคู่ภาวะทางภูมิคุ้มกันกับประเภทของมัน:

<p>ภาวะภูมิไวเกิน = การตอบสนองที่รุนแรงต่อสารที่ไม่เป็นพิษ ภาวะแพ้ภูมิตัวเอง = การทำให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันต่อเซลล์ของตัวเอง Autoimmune disease = โรคภูมิคุ้มกันทำลายตัวเอง Hypersensitivity = ปฏิกิริยาที่ไม่เหมาะสมจากระบบภูมิคุ้มกัน</p> Signup and view all the answers

จับคู่ปัจจัยภายในกับภาวะที่เกี่ยวข้อง:

<p>ความผิดปกติของพันธุกรรม = Down’s syndrome ภาวะทุโภชนาการ = ภาวะขาดเหล็ก ความผิดปกติของสารเคมีในเลือด = สารสื่อประสาทไม่สมดุล ผลกระทบทางจิตใจ = ความเครียดและความวิตกกังวล</p> Signup and view all the answers

จับคู่เซลล์ที่เกี่ยวข้องกับการอักเสบกับหน้าที่ของมัน:

<p>Neutrophils = จับกินทำลายเชื้อแบคทีเรีย Monocytes = สร้างแอนติบอดี Lymphocytes = ก่อให้เกิดการอักเสบในภาวะภูมิแพ้ Eosinophils = กินเชื้อจุลชีพและกระตุ้นเซลล์อื่น ๆ</p> Signup and view all the answers

จับคู่เซลล์เนื้อเยื่อที่เกี่ยวข้องกับการอักเสบกับบทบาทของมัน:

<p>Endothelial cells = เปลี่ยนแปลงของหลอดเลือด Smooth muscle cells = สร้างสารสื่อกลางควบคุมการอักเสบ Fibroblast cells = ซ่อมแซมเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน Extracellular matrix proteins = สร้างโครงสร้างของเนื้อเยื่อ</p> Signup and view all the answers

จับคู่เซลล์เลือดที่เกี่ยวข้องกับการอักเสบกับลักษณะที่สำคัญ:

<p>Neutrophils = เซลล์หลักในกระบวนการจับกิน Platelets = ทำให้เลือดหยุดไหล Monocytes = เซลล์ที่มีบทบาทในการกระตุ้นภูมิคุ้มกัน Lymphocytes = จดจำและกำจัดเซลล์ที่ติดเชื้อ</p> Signup and view all the answers

จับคู่เซลล์ที่ทำหน้าที่ต่าง ๆ ในการอักเสบกับลักษณะของมัน:

<p>Eosinophils = เซลล์ที่ก่อให้เกิดการอักเสบในภูมิแพ้ Neutrophils = ทำลายเชื้อแบคทีเรีย Monocytes = กระตุ้นเซลล์อื่น ๆ Lymphocytes = สร้างแอนติบอดี</p> Signup and view all the answers

จับคู่เซลล์ที่เกี่ยวข้องกับการอักเสบกับฟังก์ชันที่ประจำ:

<p>Platelets = สร้างสารสื่อกลางเกี่ยวกับการอักเสบ Fibroblast cells = สร้างเส้นใยในเนื้อเยื่อ Smooth muscle cells = ควบคุมการหดตัวของหลอดเลือด Endothelial cells = เป็นส่วนประกอบของเยื่อบุหลอดเลือด</p> Signup and view all the answers

จับคู่เซลล์กับลักษณะการทำงานในกระบวนการอักเสบ:

<p>Lymphocytes = จำและทำลายเซลล์ที่ผิดปกติ Eosinophils = ตอบสนองต่อการติดเชื้อปรสิต Monocytes = มีบทบาทในการทำลายเชื้อจุลชีพ Neutrophils = เป็นเซลล์ที่ทำหน้าที่จับกิน</p> Signup and view all the answers

จับคู่เซลล์เนื้อเยื่อกับฟังก์ชันของมัน:

<p>Smooth muscle cells = สร้างสารสื่อกลางควบคุมการอักเสบ Fibroblast cells = ช่วยในกระบวนการซ่อมแซม Endothelial cells = มีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนแปลงของหลอดเลือด Extracellular matrix proteins = ช่วยปรับโครงสร้างของเนื้อเยื่อ</p> Signup and view all the answers

จับคู่ประเภทของเซลล์ตลอดจนคำอธิบายของมัน:

<p>Neutrophils = เซลล์ที่ต่อสู้กับการติดเชื้อระยะเฉียบพลัน Lymphocytes = เซลล์ที่รับผิดชอบต่อภูมิคุ้มกันที่เฉพาะเจาะจง Eosinophils = เซลล์ที่ตอบสนองต่อการติดเชื้อปรสิตและภูมิแพ้ Platelets = มีบทบาทในการหยุดเลือดและการอักเสบ</p> Signup and view all the answers

จับคู่ขั้นตอนของ Extravasation กับคำอธิบาย:

<p>Margination = การสะสมของเซลล์เม็ดเลือดที่ผนังหลอดเลือด Rolling = เซลล์เม็ดเลือดขาวกลิ้งไปบน endothelial cells Adhesion = เซลล์เม็ดเลือดขาวจับแน่นขึ้นกับ endothelial cells Transmigration = เซลล์เม็ดเลือดขาวแทรกผ่านผนังหลอดเลือด</p> Signup and view all the answers

จับคู่การตอบสนองทางคลินิกกับลักษณะของผล:

<p>Fever = ภาวะที่มีอุณหภูมิร่างกายสูงขึ้น Cytokine = สารที่หลั่งออกมาในระยะ Pre-inflammatory TNF-α = โปรตีนที่กระตุ้นการอักเสบ IL-1 = สารที่เกิดจากเซลล์เม็ดเลือดขาวในการกระตุ้นการอักเสบ</p> Signup and view all the answers

จับคู่การทำงานของเม็ดเลือดขาวกับลักษณะของการตอบสนอง:

<p>Activation = การพร้อมทำงานของเซลล์เม็ดเลือดขาว Phagocytosis = เซลล์เม็ดเลือดขาวจับกินจุลชีพ Diapedesis = การยื่นไซโตพลาสซึมผ่าน endothelial cells Migration = การเคลื่อนที่ไปสู่จุดที่มีการบาดเจ็บ</p> Signup and view all the answers

จับคู่คำศัพท์ทางการแพทย์กับคำอธิบาย:

<p>Pyrogens = สารทำให้เกิดไข้ Lipopolysaccharide = สารในแบคทีเรียที่กระตุ้นเซลล์เม็ดเลือดขาว Acute phase response = การตอบสนองที่เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว Pro-inflammatory cytokine = สารที่ช่วยกระตุ้นการอักเสบ</p> Signup and view all the answers

จับคู่ขั้นตอนของ Extravasation กับลำดับเวลา:

<p>Margination = ขั้นตอนแรกที่เกิดขึ้น Rolling = การกลิ้งเป็นขั้นตอนที่สอง Adhesion = การจับแบบแน่นถือเป็นขั้นตอนที่สาม Migration = การเคลื่อนที่ไปยังที่บาดเจ็บเป็นขั้นตอนสุดท้าย</p> Signup and view all the answers

จับคู่สาเหตุของไข้กับผลกระทบ:

<p>Lipopolysaccharide = กระตุ้นเซลล์สร้าง cytokine Cytokine = ทำให้เกิดการอักเสบ Pro-inflammatory cytokine = กระตุ้นอาการไข้ TNF-α = เป็นส่วนหนึ่งของการตอบสนองต่อการอักเสบ</p> Signup and view all the answers

จับคู่ขั้นตอนที่เกี่ยวข้องกับการบาดเจ็บกับเม็ดเลือดขาว:

<p>Margination = เริ่มเคลื่อนที่ออกจากเลือด Adhesion = ยึดมั่นกับผนังหลอดเลือด Transmigration = เข้าสู่เนื้อเยื่อที่บาดเจ็บ Phagocytosis = กินจุลชีพที่ไม่ต้องการ</p> Signup and view all the answers

จับคู่ประเภทของ cytokine กับตัวอย่าง:

<p>TNF-α = cytokine ชนิดหนึ่งที่ส่งเสริมการอักเสบ IL-1 = cytokine ที่กระตุ้นให้เซลล์อักเสบ IL-6 = cytokine ที่เกี่ยวข้องกับการตอบสนองต่อการอักเสบ Pro-inflammatory = cytokine ที่ส่งเสริมปฏิกิริยาอักเสบ</p> Signup and view all the answers

จับคู่ผลของการอักเสบที่ดีและเสีย:

<p>Localized = การอักเสบรุนแรงหรือเรื้อรัง Eliminate = เกิดโรคภูมิแพ้ Neutralized = เกิดเป็นแผลเป็น Repair = เกิดพังผืด</p> Signup and view all the answers

จับคู่ผลดีของการอักเสบ:

<p>Localized = ทำให้การบาดเจ็บหยุดอยู่กับที่ Eliminate = หยุดการแพร่กระจายของเชื้อโรค Neutralized = ให้เชื้อโรคหมดฤทธิ์ Repair = เริ่มต้นกระบวนการซ่อมแซมเนื้อเยื่อ</p> Signup and view all the answers

จับคู่ผลเสียของการอักเสบ:

<p>การอักเสบรุนแรงหรือเรื้อรัง = ทำลายเนื้อเยื่อข้างเคียง เกิดโรคภูมิแพ้ = อาจส่งเสริมให้เกิดมะเร็ง เกิดแผลเป็น = เกิดแผลชอนทะลุ เกิดพังผืด = ทำให้อวัยวะสูญเสียการทำงาน</p> Signup and view all the answers

จับคู่คำศัพท์กับคำอธิบายที่เกี่ยวกับการอักเสบ:

<p>Localised = จำกัดการบาดเจ็บ Hypersensitivity = เกิดโรครุนแรง Scar = เกิดแผลนูน Fistula = ช่องทางที่ไม่ปกติ</p> Signup and view all the answers

จับคู่การทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน:

<p>Cytokines = ทำลายเชื้อโรค Phagocytes = กำจัดเนื้อเยื่อที่ตาย Antibodies = จับกับเชื้อโรค T-cells = ควบคุมการตอบสนองภูมิคุ้มกัน</p> Signup and view all the answers

จับคู่ประเภทของการอักเสบ:

<p>การอักเสบเฉียบพลัน = เกิดขึ้นในระยะสั้น การอักเสบเรื้อรัง = อาการยาวนานหรือกลับเป็นซ้ำ การอักเสบอาการพื้นฐาน = ทำให้เกิดโรคเรื้อรัง การอักเสบตามลำดับ = เกิดขึ้นซ้ำในพื้นที่เดียวกัน</p> Signup and view all the answers

จับคู่ผลของการอักเสบเชิงลบ:

<p>แผลเรื้อรัง = ไม่สามารถซ่อมแซม เนื้อเยื่อที่ตาย = สะสมในร่างกาย มะเร็ง = มาจากการอักเสบเรื้อรัง การแพ้ตัวเอง = การตอบสนองเกินไป</p> Signup and view all the answers

จับคู่โครงสร้างต่าง ๆ เกี่ยวกับการอักเสบ:

<p>Fibrous tissue = สร้างพังผืด Keloid = แผลเป็นนูน Scar tissue = ที่ซ่อมแซมจะเสื่อม Fistula = เชื่อมต่อระหว่างช่อง</p> Signup and view all the answers

จับคู่ลักษณะทั่วไปกับประเภทของการอักเสบ:

<p>Granulomatous inflammation = อักเสบเรื้อรังโดยมี Mononuclear cells Lymphangitis = อักเสบที่ต่อมน้ำเหลือง Lymphadenitis = อักเสบที่หลอดน้ำเหลือง Vascular change = การเปลี่ยนแปลงในหลอดเลือด</p> Signup and view all the answers

จับคู่กลไกการอักเสบกับคำอธิบาย:

<p>Vasodilation = ขยายตัวของหลอดเลือด Endothelial injury = การทำลายเซลล์บุหลอดเลือด Vascular permeability = การซึมผ่านของหลอดเลือดเพิ่มขึ้น Retraction of endothelial cell = เซลล์บุหลอดเลือดหดตัว</p> Signup and view all the answers

จับคู่ตัวกระตุ้นกับผลที่เกิดขึ้น:

<p>Histamine = ทำให้เกิด vasodilation Prostaglandin = เพิ่มการไหลเวียนของเลือด Bradykinin = ทำให้ endothelial cells หดตัว Leukotrienes = กระตุ้น vascular permeability</p> Signup and view all the answers

จับคู่สาเหตุที่ทำให้เกิดการอักเสบกับคำอธิบาย:

<p>Toxin ของจุลชีพ = ทำลายเซลล์และเร่งการอักเสบ IFN-γ = กระตุ้นการทำงานของ T lymphocyte Monocyte = เม็ดเลือดขาวที่พบในเลือด Macrophage = เม็ดเลือดขาวที่ทำงานในเนื้อเยื่อ</p> Signup and view all the answers

จับคู่สารที่มีบทบาทในการอักเสบกับหน้าที่:

<p>Nitric oxide = เป็นตัวทำให้หลอดเลือดขยาย Histamine = เพิ่มการซึมผ่านของหลอดเลือด Prostaglandin = ทำให้เกิดอาการปวด Leukotrienes = ดึงดูดเม็ดเลือดขาว</p> Signup and view all the answers

จับคู่ประเภทของเซลล์กับบทบาทในกระบวนการอักเสบ:

<p>Neutrophils = เม็ดเลือดขาวที่ดำเนินการตอบสนองที่รวดเร็ว Monocytes = เม็ดเลือดขาวที่เปลี่ยนเป็น macrophages Macrophages = เซลล์ที่กินเชื้อโรค T lymphocytes = เซลล์ที่กระตุ้นการตอบสนองของภูมิคุ้มกัน</p> Signup and view all the answers

จับคู่ประเภทอักเสบกับการตอบสนองที่พบบ่อย:

<p>Granulomatous inflammation = มีการสร้าง granuloma Lymphangitis = อักเสบในหลอดน้ำเหลือง Lymphadenitis = อักเสบในต่อมน้ำเหลือง Acute inflammation = การตอบสนองที่รวดเร็ว</p> Signup and view all the answers

จับคู่ตัวอย่างของ mediators กับการทำงาน:

<p>Histamine = ทำให้เกิด vasodilation Prostaglandin = รับผิดชอบต่ออาการปวด Leukotrienes = ควบคุมการเคลื่อนไหวของเซลล์ Bradykinin = ทำให้เกิดการขยายหลอดเลือด</p> Signup and view all the answers

จับคู่ประเภทของการอักเสบกับลักษณะเฉพาะของมัน:

<p>Acute inflammation = การอักเสบเฉียบพลันที่เกิดจากการบาดเจ็บ Chronic inflammation = การอักเสบเรื้อรังที่เป็นผลมาจากการบาดเจ็บต่อเนื่อง Fibrinous inflammation = การอักเสบที่มี fibrin สะสม Ulcers = การตายของเนื้อเยื่อที่เยื่อบุผิว</p> Signup and view all the answers

จับคู่ประเภทการอักเสบกับเนื้อเยื่อที่ได้รับผลกระทบ:

<p>Serous inflammation = เนื้อเยื่อที่เกี่ยวกับของเหลวโปรตีนสูง Suppurative inflammation = เนื้อเยื่อที่มีหนองสะสม Granulomatous inflammation = เนื้อเยื่อที่มีเซลล์ epithelioid Fibrinous inflammation = เนื้อเยื่อที่มีการยึดติดระหว่างเยื่อบุ</p> Signup and view all the answers

จับคู่ลักษณะของการอักเสบกับต้นเหตุ:

<p>Acute inflammation = การบาดเจ็บที่ไม่รุนแรง Chronic inflammation = เชื้อโรคไม่ถูกกำจัด Fibrinous inflammation = การรั่วไหลของ fibrinogen Suppurative inflammation = เชื้อจุลชีพที่ทำให้เกิดหนอง</p> Signup and view all the answers

จับคู่ประเภทการอักเสบกับการเปลี่ยนแปลงในร่างกาย:

<p>Chronic inflammation = มีการสร้างหลอดเลือดใหม่ Acute inflammation = เกิดตุ่มน้ำ Fibrinous inflammation = มีการสะสมของ fibrin Granulomatous inflammation = มีการเกิดกลุ่มก้อนของเซลล์</p> Signup and view all the answers

จับคู่การอักเสบกับสาเหตุที่เกิดขึ้น:

<p>Serous inflammation = บาดเจ็บเล็กน้อย Suppurative inflammation = การติดเชื้อที่เป็นหนอง Fibrinous inflammation = การติดเชื้อที่มีการแน่นหนา Granulomatous inflammation = การตอบสนองต่อสารก่อภูมิแพ้</p> Signup and view all the answers

จับคู่ลักษณะของเซลล์กับประเภทการอักเสบ:

<p>Neutrophils = Suppurative inflammation Epithelioid cells = Granulomatous inflammation Fibrin = Fibrinous inflammation Serum = Serous inflammation</p> Signup and view all the answers

จับคู่ประเภทของการอักเสบกับการเกิดโรค:

<p>Acute inflammation = การเกิดผิวหนังอักเสบ Chronic inflammation = การเกิดมะเร็ง Fibrinous inflammation = การอักเสบในช่องปอด Granulomatous inflammation = การอักเสบจากวัณโรค</p> Signup and view all the answers

จับคู่การอักเสบกับอาการที่เกิดขึ้น:

<p>Suppurative inflammation = เกิดหนองในบริเวณที่อักเสบ Ulcus = การสร้างแผลภายใน Fibrinous inflammation = เกิดการยึดติดระหว่างเยื่อบุ Chronic inflammation = เนื้อเยื่อถูกทำลายเรื่อย ๆ</p> Signup and view all the answers

จับคู่ลักษณะของการอักเสบกับชนิดของของเหลว:

<p>Serous inflammation = มีของเหลวที่สะสมเป็นโปรตีนสูง Fibrinous inflammation = มีของเหลวเหนียวข้นจาก fibrin Suppurative inflammation = มีของเหลวที่เป็นหนอง Granulomatous inflammation = มีของเหลวซึ่งมีก้อนเซลล์</p> Signup and view all the answers

Flashcards

สาเหตุของการอักเสบ

การอักเสบสามารถเกิดขึ้นได้จากปัจจัยภายนอกและภายใน

ปัจจัยภายนอก

ปัจจัยที่อยู่รอบตัวเราและส่งผลต่อการเกิดการอักเสบ

ปัจจัยภายใน

ปัจจัยที่เกิดขึ้นภายในร่างกายและส่งผลต่อการเกิดการอักเสบ

ปัจจัยทางกายภาพ

การสัมผัสกับสิ่งที่ก่อให้เกิดความร้อน ไฟฟ้า ความดัน เสียง หรือรังสี

Signup and view all the flashcards

ปัจจัยทางชีวภาพ

การติดเชื้อจุลชีพ เช่น แบคทีเรีย ไวรัส เชื้อรา

Signup and view all the flashcards

ผลดีของการอักเสบ

การอักเสบมีผลดีในแง่ของการหยุดการบาดเจ็บ, ยับยั้งการแพร่กระจายของเชื้อโรค, ทำลายเชื้อโรค, และเริ่มกระบวนการซ่อมแซมเนื้อเยื่อ

Signup and view all the flashcards

ผลเสียของการอักเสบ

การอักเสบที่รุนแรงหรือเรื้อรังอาจทำให้เกิดปัญหา เช่น แผลเรื้อรัง, โรคภูมิแพ้, แผลเป็น, พังผืด, และแผลชอนทะลุ

Signup and view all the flashcards

ผลดี: หยุดการบาดเจ็บ

การอักเสบช่วยจำกัดการบาดเจ็บไม่ให้ลุกลาม

Signup and view all the flashcards

ผลดี: ยับยั้งเชื้อโรค

การอักเสบช่วยหยุดการแพร่กระจายของเชื้อโรค

Signup and view all the flashcards

ผลดี: ทำลายเชื้อโรค

การอักเสบช่วยกำจัดเชื้อโรคโดยอาศัยระบบภูมิคุ้มกัน

Signup and view all the flashcards

ผลดี: ซ่อมแซมเนื้อเยื่อ

การอักเสบเป็นจุดเริ่มต้นของกระบวนการซ่อมแซมเนื้อเยื่อ

Signup and view all the flashcards

ผลเสีย: แผลเรื้อรัง

การอักเสบเรื้อรังทำให้เนื้อเยื่อถูกทำลายอย่างต่อเนื่องจนเกิดแผลเรื้อรัง

Signup and view all the flashcards

ผลเสีย: โรคภูมิแพ้และโรคแพ้ภูมิตัวเอง

การอักเสบที่ผิดปกติอาจนำไปสู่โรคภูมิแพ้และโรคแพ้ภูมิตัวเอง

Signup and view all the flashcards

เนื้อเยื่อพังผืด

เนื้อเยื่อเกี่ยวพันชนิดหนึ่งที่เกิดขึ้นเมื่อเนื้อเยื่อถูกทำลายหรือบาดเจ็บรุนแรง

Signup and view all the flashcards

ฝี (abscess)

การอักเสบชนิดหนึ่งที่เกิดจากการสะสมของหนอง (pus)

Signup and view all the flashcards

หนอง (pus)

ของเหลวชนิดหนึ่งที่เกิดจากการอักเสบ มีเซลล์เม็ดเลือดขาว, fibrin และเศษเนื้อเยื่อ

Signup and view all the flashcards

การอักเสบเฉียบพลัน (Acute Inflammation)

การอักเสบชนิดหนึ่งที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและรุนแรง

Signup and view all the flashcards

การอักเสบเรื้อรัง (Chronic Inflammation)

การอักเสบชนิดหนึ่งที่เกิดขึ้นนานและไม่หายขาด

Signup and view all the flashcards

การอักเสบโดยสารน้ำ (Serous Inflammation)

การอักเสบชนิดหนึ่งที่มีของเหลวสะสม คล้ายน้ำใส

Signup and view all the flashcards

การอักเสบโดยมี fibrin สะสม (Fibrinous Inflammation)

การอักเสบชนิดหนึ่งที่มี fibrin สะสม ทำให้ของเหลวหนืด

Signup and view all the flashcards

การอักเสบโดยมีหนอง (Suppurative/Purulent Inflammation)

การอักเสบชนิดหนึ่งที่มีหนองสะสม

Signup and view all the flashcards

แผลพุพอง (Ulcers)

การอักเสบชนิดหนึ่งที่ทำให้เนื้อเยื่อตายและเกิดแผล

Signup and view all the flashcards

การอักเสบชนิดก้อน (Granulomatous Inflammation)

การอักเสบชนิดหนึ่งที่มีการรวมกลุ่มของ epithelioid cell

Signup and view all the flashcards

การอักเสบแบบมีแกรนูโลมา

การอักเสบที่เกิดจากการสะสมของเม็ดเลือดขาวชนิด Mononuclear cells (Monocyte ในเลือด, Macrophage ในเนื้อเยื่อต่าง ๆ) ซึ่งถูกกระตุ้นโดยสารต่าง ๆ เช่น IFN-γ จาก T lymphocyte, Toxin จากจุลชีพ และสารเคมี

Signup and view all the flashcards

ลิมฟังไทติส (Lymphangitis)

การอักเสบของระบบน้ำเหลือง มักเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียที่ผิวหนัง หรือแผล

Signup and view all the flashcards

ลิมฟาเดไนติส (Lymphadenitis)

การอักเสบของต่อมน้ำเหลือง มักเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียหรือไวรัส

Signup and view all the flashcards

การขยายตัวของหลอดเลือด (Vasodilation)

เกิดจากสารสื่อประสาท เช่น histamine, prostaglandin และ nitric oxide ทำให้ endothelium และ smooth muscle cells คลายตัว ส่งผลให้เลือดไหลเวียนมากขึ้น เกิดอาการแดง และอุณหภูมิสูงขึ้น

Signup and view all the flashcards

หลอดเลือดเพิ่มการซึมผ่าน (Vascular permeability)

เกิดจากสารสื่อประสาท เช่น histamine, bradykinin, leukotrienes ทำให้ endothelial cells หดตัว และเกิดช่องว่างระหว่างเซลล์ หรือเกิดการทำลาย endothelial cells โดยตรง

Signup and view all the flashcards

การอักเสบ: การเปลี่ยนแปลงของหลอดเลือด

การอักเสบเริ่มต้นด้วย vasodilation และเพิ่มการซึมผ่านของหลอดเลือด ส่งผลให้สารน้ำและโปรตีนรั่วออกมา ทำให้เลือดไหลช้าลง และเม็ดเลือดขาวเคลื่อนเข้าสู่บริเวณที่เกิดการอักเสบ

Signup and view all the flashcards

การอักเสบ: Stasis

เลือดไหลช้าลง เนื่องจากความเข้มข้นของเลือดสูงขึ้น

Signup and view all the flashcards

การอักเสบ: Neutrophils ย้ายเข้าสู่บริเวณบาดเจ็บ

neutrophils ไปรวมตัวที่ผนังหลอดเลือดเพื่อเข้าสู่บริเวณบาดเจ็บและทำหน้าที่กำจัดเชื้อโรค

Signup and view all the flashcards

Extravasation คืออะไร?

การที่เม็ดเลือดขาวเคลื่อนตัวออกจากหลอดเลือดไปยังบริเวณที่มีการบาดเจ็บ เพื่อช่วยในการกำจัดสิ่งแปลกปลอมหรือเชื้อโรค

Signup and view all the flashcards

ขั้นตอนแรกของ Extravasation?

Margination: เซลล์เม็ดเลือดขาวจะเกาะอยู่ที่ผนังหลอดเลือดด้านใน หลังจากที่มีการไหลเวียนของเลือดช้าลง

Signup and view all the flashcards

ขั้นตอนที่สองของ Extravasation?

Rolling: เซลล์เม็ดเลือดขาวจะกลิ้งไปเกาะกับเซลล์บุผนังหลอดเลือด (endothelial cells) อย่างหลวม ๆ

Signup and view all the flashcards

ขั้นตอนที่สามของ Extravasation?

Adhesion: เซลล์เม็ดเลือดขาวจับกับเซลล์บุผนังหลอดเลือดอย่างเหนียวแน่น

Signup and view all the flashcards

ขั้นตอนที่สี่ของ Extravasation คืออะไร?

Transmigration (Diapedesis): เซลล์เม็ดเลือดขาวยื่นไซโตพลาสซึม (pseudopod) ผ่านรอยต่อของเซลล์บุผนังหลอดเลือด แทรกผ่านผนังหลอดเลือดออกมา

Signup and view all the flashcards

ขั้นตอนสุดท้ายของ Extravasation?

Migration: เซลล์เม็ดเลือดขาวเคลื่อนที่ไปสู่บริเวณที่มีการบาดเจ็บ หลังจากเคลื่อนที่ออกจากหลอดเลือด

Signup and view all the flashcards

Activation and Phagocytosis คืออะไร?

เม็ดเลือดขาวจับกินจุลชีพ เช่น แบคทีเรีย โดยมีการกระตุ้นจากสารต่าง ๆ เช่น chemokines, cytokines

Signup and view all the flashcards

อาการของการตอบสนองเฉียบพลัน (Acute phase response)?

ร่างกายจะมีไข้ เนื่องจากการหลั่งสาร เช่น TNF-, IL-1, IL6 ซึ่งมีผลต่ออุณหภูมิของร่างกาย

Signup and view all the flashcards

การอักเสบคืออะไร?

การอักเสบเป็นปฏิกิริยาของร่างกายต่อการบาดเจ็บหรือการระคายเคือง เพื่อป้องกันและกำจัดสิ่งแปลกปลอม รวมทั้งซ่อมแซมเนื้อเยื่อ

Signup and view all the flashcards

เซลล์เม็ดเลือดขาวชนิดใดมีบทบาทสำคัญในการอักเสบ?

Neutrophils มีบทบาทสำคัญในการจับกินและทำลายเชื้อแบคทีเรีย

Signup and view all the flashcards

Monocytes ทำหน้าที่อะไร?

Monocytes ทำหน้าที่กินจุลชีพและกระตุ้นเซลล์อื่นๆ เพื่อตอบสนองต่อการอักเสบ

Signup and view all the flashcards

Lymphocytes มีหน้าที่อะไร?

Lymphocytes จดจำและทำลายเซลล์ที่ติดเชื้อหรือเซลล์ที่ผิดปกติ และสร้างแอนติบอดี

Signup and view all the flashcards

Eosinophils เกี่ยวข้องกับอะไร?

Eosinophils มีบทบาทสำคัญในการอักเสบจากภาวะภูมิแพ้และการติดเชื้อปรสิต เชื้อรา

Signup and view all the flashcards

Platelets มีหน้าที่อะไร?

Platelets ทำให้เลือดหยุดไหลและสร้างสารสื่อกลางที่ควบคุมการอักเสบทุกขั้นตอน

Signup and view all the flashcards

Endothelial cells ทำหน้าที่อะไร?

Endothelial cells เป็นเซลล์เยื่อบุหลอดเลือด มีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนแปลงของหลอดเลือด

Signup and view all the flashcards

Smooth muscle cells มีบทบาทอย่างไร?

Smooth muscle cells สร้างสารสื่อกลางที่ควบคุมการอักเสบ

Signup and view all the flashcards

Study Notes

การอักเสบ (Inflammation)

  • การอักเสบ คือกระบวนการตอบสนองของร่างกายต่อสิ่งที่ทำให้น้ำเนื้อเยื่อได้รับบาดเจ็บหรือระคายเคือง เป็นกลไกสำคัญในการป้องกันและกำจัดสิ่งแปลกปลอม รวมถึงซ่อมแซมเนื้อเยื่อ แต่หากเกิดมากเกินไปอาจทำลายเนื้อเยื่อ
  • เซลล์เม็ดเลือดที่เกี่ยวข้องกับการอักเสบ
    • Neutrophils: จับกินและทำลายเชื้อแบคทีเรีย
    • Monocytes: จับกินเชื้อจุลชีพและกระตุ้นเซลล์อื่นๆ
    • Eosinophils: ก่อให้เกิดการอักเสบในภาวะภูมิแพ้และการติดเชื้อปรสิต
    • Lymphocytes: จดจำและทำลายเซลล์ที่ติดเชื้อหรือผิดปกติ และสร้างแอนติบอดี
    • Platelets: เกล็ดเลือดหยุดเลือดไหลและสร้างสารสื่อกลางเกี่ยวกับการอักเสบ
  • เซลล์เนื้อเยื่อที่เกี่ยวข้องกับการอักเสบ
    • Endothelial cells: เซลล์เยื่อบุหลอดเลือด มีบทบาทในการเปลี่ยนแปลงของหลอดเลือด
    • Smooth muscle cells: สร้างสารสื่อกลางควบคุมการอักเสบ
    • Fibroblast cells: เซลล์สร้างเส้นใยหรือเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน มีบทบาทในการซ่อมแซม
    • Extracellular matrix proteins: collagen, elastic fiber, hyaluronic acid, proteoglycans, glycoproteins

สาเหตุของการอักเสบ

  • ปัจจัยภายนอก:
    • ปัจจัยทางกายภาพ
    • ปัจจัยทางชีวภาพ (เช่น การติดเชื้อ)
    • ปัจจัยทางเคมี
  • ปัจจัยภายใน:
    • ความผิดปกติทางพันธุกรรม (เช่น โรคธาลัสซีเมีย, Down syndrome)
    • ภาวะทุโภชนาการ (เช่น ขาดวิตามินเอ, ขาดเหล็ก)
    • ความผิดปกติของสารเคมีในเลือด (เช่น ฮอร์โมน, วิตามิน, สารสื่อประสาท)
    • ขาดเลือดไปเลี้ยงส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกาย (เช่น myocardial ischemia, เส้นเลือดอุดตัน)
    • ปฏิกิริยาทางภูมิคุ้มกัน (เช่น ภาวะภูมิไวเกิน, ภาวะแพ้ภูมิตัวเอง)

ผลของการอักเสบ

  • ผลดี:
    • Localized: ทำให้การบาดเจ็บหยุดอยู่กับที่
    • Eliminate: หยุดการแพร่กระจายของเชื้อโรค และจำกัดพื้นที่
    • Neutralized: ทำให้เชื้อโรคหมดฤทธิ์ โดยอาศัยระบบภูมิคุ้มกัน
    • Repair: เริ่มซ่อมแซมเนื้อเยื่อที่บาดเจ็บ
  • ผลเสีย:
    • การอักเสบรุนแรง/เรื้อรัง: ทำลายและซ่อมแซมเนื้อเยื่ออย่างต่อเนื่อง, เกิดแผลเรื้อรัง, ทำลายเนื้อเยื่อข้างเคียง
    • โรคภูมิแพ้และโรคแพ้ภูมิตัวเอง
    • มะเร็ง
    • แผลเป็น (scar) และแผลเป็นนูน (keloid)
    • พังผืด
    • แผลชอนทะลุ (fistula)

ประเภทของการอักเสบ

  • การอักเสบเฉียบพลัน (Acute Inflammation):
    • ระยะเวลา: นาที, ชั่วโมง, หรือวัน
    • พยาธิสภาพ: คั่งของเลือดและหนอง, ปวด บวม แดง ร้อน, เกิดเฉพาะที่, และหายไปเมื่อกำจัดสิ่งแปลกปลอมได้
    • สาเหตุ: การติดเชื้อ, สารพิษ, อุบัติเหตุ, ปัจจัยทางกายภาพ, เคมี, และรังสี, สิ่งแปลกปลอม
  • การอักเสบเรื้อรัง (Chronic Inflammation):
    • ระยะเวลา: สัปดาห์ถึงเดือน
    • พยาธิสภาพ: ทำลายเนื้อเยื่อ, เกิดพังผืด, เกิดเฉพาะที่หรือทั่วร่างกาย, ไม่สามารถกำจัดสิ่งแปลกปลอมได้
    • สาเหตุ: การติดเชื้อโรคเรื้อรัง
    • เซลล์ที่พบ: Monocyte, Macrophage (เซลล์เม็ดเลือดขาวประเภท Mononuclear)

กลไกของการอักเสบ

  • Vascular change: การเปลี่ยนแปลงของหลอดเลือด
    • Vasodilation: การขยายตัวของหลอดเลือด (เช่น histamine, prostaglandin, nitric oxide)
    • Vascular permeability: หลอดเลือดเพิ่มการซึมผ่าน (เช่น histamine, bradykinin, leukotrienes)
    • Endothelial injury: ความเสียหายของเซลล์เยื่อบุหลอดเลือด
  • Extravasation: การเคลื่อนตัวของเม็ดเลือดขาว
    • Margination: การสะสมของเซลล์เม็ดเลือดขาวที่ผนังหลอดเลือด
    • Rolling: การกลิ้งของเซลล์เม็ดเลือดขาวบนเซลล์เยื่อบุหลอดเลือด
    • Adhesion: การเกาะติดของเซลล์เม็ดเลือดขาวกับเซลล์เยื่อบุหลอดเลือด
    • Transmigration: การเคลื่อนของเซลล์เม็ดเลือดขาวผ่านผนังหลอดเลือด
    • Migration: การย้ายไปยังบริเวณที่บาดเจ็บ
  • Activation & Phagocytosis: เม็ดเลือดขาวจับกินจุลชีพ

อาการทางคลินิก

  • มีไข้ (Fever)
  • สร้างโปรตีน Acute phase
  • เม็ดเลือดขาวในเลือดสูง
  • อาการอื่นๆ (Chills, Hypertension, Tachycardia, Anorexia, Somnolence, Malaise)

ผลลัพธ์การอักเสบ

  • การบาดเจ็บไม่รุนแรง (Resolution): เนื้อเยื่อหายเป็นปกติ
  • การหายจากการบาดเจ็บ (Healing):
    • Regeneration: เนื้อเยื่อสร้างใหม่เหมือนเดิม
    • Repair: เนื้อเยื่อที่บาดเจ็บถูกแทนที่ด้วยเนื้อเยื่อประสาน
  • Fibrosis: การบาดเจ็บรุนแรง, มีการสร้างพังผืด, ทำลายเนื้อเยื่อ, เกิดแผลเป็น

ปัจจัยที่ส่งผลต่อการหายจากการบาดเจ็บ

  • อายุ
  • ภาวะโภชนาการ
  • ความผิดปกติทางโลหิตวิทยา
  • การใช้ยา
  • ภาวะติดเชื้อฉวยโอกาส
  • การชอนทะลุ
  • ภาวะเมตาบอลิซึ่ม (เช่น โรคเบาหวาน)

พยาธิสภาพของเนื้อเยื่อที่เกิดการอักเสบ

  • Serous inflammation: ของเหลวสะสม (เช่น ของเหลวข้ออักเสบ)
  • Fibrinous inflammation: การสะสมของ fibrin (เช่น เยื่อหุ้มหัวใจ, ปอดอักเสบ)
  • Suppurative/purulent inflammation: ของเหลวที่เป็นหนอง (เช่น abscess)
  • Ulcers: การตายของเนื้อเยื่อ (เช่น แผลในกระเพาะอาหาร)

Studying That Suits You

Use AI to generate personalized quizzes and flashcards to suit your learning preferences.

Quiz Team

Related Documents

Description

บททดสอบนี้จะพาคุณไปสำรวจเกี่ยวกับการอักเสบและเซลล์ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในกระบวนการนี้ เช่น เซลล์เม็ดเลือดและเซลล์เนื้อเยื่อ การเข้าใจพื้นฐานของการอักเสบเป็นสิ่งจำเป็นในการรักษาและป้องกันโรคต่างๆ ที่เกิดจากการอักเสบ.

More Like This

Mastering Immune Cells
10 questions
Inflammation Quiz
28 questions

Inflammation Quiz

HumorousReef avatar
HumorousReef
Chronic Inflammation Learning Objectives
24 questions
Chronic Inflammation Overview
8 questions
Use Quizgecko on...
Browser
Browser