ปัญหาสุขภาพจิตในวัยทำงาน PDF

Document Details

IdealGriffin

Uploaded by IdealGriffin

มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย

อาจารย์กนกพร สมพร

Tags

mental health psychology workplace

Summary

เอกสารนี้กล่าวถึงปัญหาสุขภาพจิตในวัยทำงาน โดยเน้นสาเหตุและวิธีการจัดการปัญหาต่างๆ เช่น ความเครียดและภาวะซึมเศร้า

Full Transcript

ปัญหาสุขภาพจิตในวัยทางาน อาจารย์กนกพร สมพร สาขาวิชาสาธารณสุขศาสตร์ วิทยาลัยสหเวชศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา ปัญหาสุขภาพจิตในวัยทางาน เมื่อเข้าสู่วัยกลางคนจะเริ่มปักหลักเรื่องการทางา...

ปัญหาสุขภาพจิตในวัยทางาน อาจารย์กนกพร สมพร สาขาวิชาสาธารณสุขศาสตร์ วิทยาลัยสหเวชศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา ปัญหาสุขภาพจิตในวัยทางาน เมื่อเข้าสู่วัยกลางคนจะเริ่มปักหลักเรื่องการทางาน การแต่งงานมีครอบครัว สร้างฐานะที่หมั่นคง มีภาระความ รับผิดชอบต่าง ๆ เพิ่มมากขึน้ และมีความมุ่งมั่นกระตือรือร้นที่จะสร้างความสาเร็จ โดยเฉพาะความสาเร็จในหน้าที่การทางาน เพื่อให้ได้ประสบความสาเร็จและความภาคภูมิใจในตนเอง แต่ในบางครั้งที่การดาเนินชีวิตโดยเชื่อมั่นในสิ่งต่าง ๆมากเกินไป เมื่อ เกิดความล้มเหลวก็จะทาให้เกิดความรู้สึกท้อแท้ สิ้นหวัง มีความคิดอยากจะฆ่าตัวตาย หรือพยายามหลีกหนีหนีต่อความรู้สึก กังวลใจ ความไม่สบายใจ ความโกรธ ความหงุดหงิด ด้วยการดื่มสุร า การใช้ยา จนส่งผลให้เกิดการหยุดชะงักของการสร้าง สัมพันธภาพกับบุคคลอื่น และเกิดการแยกตัวออกมาจากสังคม ปัญหาสุขภาพจิตที่มักจะพบในวัยทางาน 1. ความเครียด 2. โรคซึมเศร้า 3. BURNOUT SYNDROME ภาวะซึมเศร้า ภาวะซึมเศร้า สาเหตุของภาวะซึมเศร้าจากการทางาน 1. มีแนวคิดไม่ตรงกับบริษัท แต่ฝืนทางานต่อไปแม้จะไม่ชื่นชอบหลักการทางานขององค์กร 2. ทางานไม่ตรงกับความรู้ความสามารถที่มี ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดภาวะเครียดและความกดดันได้ เช่น มีความสามารถหรือเรียน จบด้านศิลปะแต่ตอ้ งทางานที่เกี่ยวข้องกับการใช้ตัวเลข เป็นต้น 3. ขาดสมดุลในการใช้ชีวติ และการทางาน ทางานหลายชั่วโมงติดต่อกันโดยไม่ได้หยุดพักเพื่อทากิจกรรมผ่อนคลายอื่น ๆ เช่น สังสรรค์กับเพื่อน ทางานอดิเรกที่ตนเองชอบ หรือออกกาลังกาย เป็นต้น 4. ได้รับคาแนะนาในการทางานที่ไม่ชัดเจน และไม่รู้วา่ เจ้านายหรือบริษัทคาดหวังอะไร ซึ่งอาจทาให้รู้สึกไม่มั่นใจว่างานที่ทาอยู่ นัน้ มีประสิทธิภาพมากพอหรือไม่ 5. ได้รับมอบหมายให้ทางานมากเกินไป หรือมีงานมากจนต้องทางานล่วงเวลาบ่อย ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อเวลาที่ควรใช้พักผ่อน 6. โดนกลั่นแกล้งจากหัวหน้างาน เพื่อนร่วมงาน หรือลูกค้า 7. มีความไม่สบายใจส่วนบุคคล ต้องติดต่อประสานงานกับเพื่อนร่วมงานหรือบุคคลที่ไม่เป็นมิตร หรือบุคคลที่มีทัศนคติ ลักษณะนิสัย และการทางานที่แตกต่างกัน สาเหตุของภาวะซึมเศร้าจากการทางาน 8. เป็นคนโลกส่วนตัวสูง ผู้ที่มีนิสัยชอบเก็บตัวอาจรู้สึกอึดอัดหากทางานในห้องที่พนักงานทุกคนหรือทุกแผนกต้องนั่งทางานในห้อง เดียวกัน 9. เป็นคนชอบเข้าสังคม ผู้ที่ชื่นชอบการเข้าสังคมอาจรู้สึกไม่สะดวกสบายเมื่อต้องทางานในสภาพแวดล้อมที่พนักงานไม่ค่อยมี ปฏิสัมพันธ์ต่อกัน 10 ค่าตอบแทนหรือผลประโยชน์ที่ได้รับไม่เพียงพอกับความต้องการขัน้ พื้นฐาน 11. อยู่ในภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก แม้วา่ รู้สกึ อยากออกจากงาน แต่ดว้ ยภาระต่าง ๆ หรือเหตุผลบางประการก็ทาให้ไม่สามารถ ลาออกจากงานได้ 12. แผนการทางานไม่ดี มีการสื่อสารผิดพลาด ส่งงานล่าช้ากว่ากาหนด หรือทางานเกินงบประมาณที่ตั้งไว้ ซึ่งอาจเป็นผลให้งานไม่ ประสบความสาเร็จตามที่คาดหวัง 13. ไม่มีกาลังใจในการทางาน ผู้นาองค์กรโยนความผิดให้แก่พนักงาน จากัดงบประมาณการขึ้นเงินเดือน หรือมีการให้รางวัลแก่ผู้ที่ ทางานอย่างไม่มีประสิทธิภาพ ซึ่งอาจทาให้พนักงานรู้สึกหมดกาลังใจในการทางานได้ 14. สภาพแวดล้อมในที่ทางานไม่ดี ฝ่ายจัดการละเลยการปรับปรุงสภาพแวดล้อมในองค์กรที่อาจมีผลต่อพนักงานได้ เช่น ช่วงเวลา พักของพนักงานน้อยเกินไป การเพิกเฉยต่อความปลอดภัยในองค์กร และไม่ปรับอุณหภูมิในห้องทางานให้อยู่ในระดับที่พนักงาน สามารถทางานได้โดยไม่รู้สึกอึดอัด เป็นต้น สัญญาณของภาวะซึมเศร้าจากการทางาน 1. ประสิทธิภาพในการทางานลดลง 2. ทักษะการแก้ไขปัญหาลดลง 3. ทางานแบบผัดวันประกันพรุ่ง 4. ยอมแพ้ต่อชีวิต ไม่ต่อสู้ดิน้ รน ไม่พยายามเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ให้ดีขนึ้ 5. เก็บตัว ไม่เข้าสังคม 6. เชื่องช้าลง 7. รู้สึกผิดหวัง สะเทือนใจง่าย 8. ไม่มีความภูมิใจหรือเห็นคุณค่าในตัวเองต่า เมื่อไรควรไปพบแพทย์ ? หากพบอาการของโรคซึมเศร้า เช่น รู้สึกเศร้า สิ้นหวัง ไม่แจ่มใส รู้สึกว่าตนเองไร้ค่า วิตกกังวล และ นอนไม่หลับ ควรไปพบแพทย์เพื่อรับคาแนะนาในการวางแผนรักษาต่อไป นอกจากนั้น หากเผชิญภาวะซึมเศร้าจนพบว่าตนเองคิดวางแผนฆ่าตัวตาย พยายามฆ่าตัวตาย คิด หรือทาร้ายตนเองและผู้อื่น รวมทั้งหาทางออกให้กับปัญหาไม่ได้ ควรรีบโทรศัพท์ไปยังสายด่วนสุขภาพจิตที่เบอร์ 1323 เพื่ อ ปรึ ก ษาปั ญ หาความผิ ด ปกติ ท างอารมณ์ หรื อ ไปพบผู้ เ ชี่ ย วชาญด้ า นสุ ข ภาพและจิ ต แพทย์ ทั น ที โดยเฉพาะเมื่อพบว่าตนเองมีอาการหูแว่ว คิดฆ่าตัวตายบ่อยครั้ง หรือสงสัยว่าตนเองป่วยเป็นโรคซึมเศร้า การดูแลสุขภาพกายใจให้พ้นจากภาวะซึมเศร้าด้วยตนเอง 1. ออกกาลังกาย การออกกาลังกายด้วยการเดิน การวิ่ง หรือการทากิจกรรมอื่น ๆ ช่วยกระตุ้นให้ร่างกายหลั่ง สารเอนดอร์ฟิน (Endorphins) ซึ่งเป็นฮอร์โมนแห่งความสุข และอาจส่งผลดีต่อผูท้ ่มี ีอาการซึมเศร้าในระยะยาว 2. นอนหลับในระยะเวลาที่เหมาะสม 3. ฝึกเป็นคนคิดบวก ผู้ท่ีมีอาการซึมเศร้ามักมีความคิดด้านลบตลอดเวลา ดังนั้น ควรปรับชีวิตให้คิดในแง่ดีเมื่อ รู้สึกแย่กับตนเอง ทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้นว่าตนไม่ดีจริงหรือ หรือมีข้อผิดพลาดตรงไหนที่แก้ไขได้ และแม้ว่าการฝึกเป็น คนคิดบวกอาจต้องใช้เวลา แต่การปรับชีวิตให้คิดแต่สิ่งที่ดีจะช่วยขจัดความคิดในแง่ลบหรือการมองโลกในแง่ร้าย ออกไปได้ในที่สุด 4. สร้ า งกิ จวั ตรประจาวั น อารมณ์ เครี ย ดหรื อ ซึ ม เศร้ าอาจท าให้ ก ารท างาน และการท ากิจ กรรมต่ า ง ๆ ใน ชีวิตประจาวันแย่ลง ซึ่งการกาหนดกิจวัตรในแต่ละวันจะช่วยให้มีสติและพัฒนาอารมณ์ให้ดีขนึ้ ได้ 5. ก าหนดเป้ า หมาย ผู้ ท่ี อ ยู่ ใ นภาวะซึ ม เศร้ า มั ก รู้ สึ ก ท้อ แท้ กั บ ชี วิ ต และรู้สึ ก แย่ ต่ อ ตั ว เอง ดั ง นั้ น การกาหนด เป้าหมายเชิงบวกในแต่ละวันจะช่วยให้รู้สึกดีขึน้ เมื่อทาตามเป้าหมายจนสาเร็จลุล่วง 6. พัฒนาความรับผิดชอบ ภาวะซึมเศร้าอาจทาให้ความรับผิดชอบต่อการทางานและภาระหน้าที่ต่าง ๆ ลดลงได้ การฝึกตนเองให้ เป็นคนมีความรับ ผิดชอบจึงจะช่วยเสริมสร้างรูป แบบการดาเนินชีวิตที่ดีและอาจช่วยป้อ งกันการเกิดภาวะซึมเศร้าในอนาคตได้ เนื่องจากการรับผิดชอบหน้าที่ตา่ ง ๆ จะช่วยให้รู้สึกดีเมื่อทางานต่าง ๆ บรรลุผลสาเร็จ 7. ทาอะไรใหม่ ๆ หลายคนมักจะรู้สกึ หดหู่และอ่อนไหวง่ายเมื่ออยู่ในภาวะซึมเศร้า จึงควรออกไปหากิจกรรมใหม่ ๆ ทาเพื่อเปิดหู เปิดตา เช่น ไปเยี่ยมชมสถานที่ใหม่ ๆ หรือเรียนรู้ภาษาใหม่ ๆ เพื่อดึงความสนใจจากอารมณ์ด้านลบไม่ให้มีอาการแย่ลง 8. สร้างปฏิสัมพันธ์และออกไปพบปะผู้ค น กาลังใจที่ดีจากเพื่อ นร่วมงาน เพื่อ น และครอบครัวทาให้รู้สึกดีและสบายใจขึ้น นอกจากนี้ การทากิจกรรมต่าง ๆ ร่วมกับเพื่อนยังช่วยทาให้รู้สึกผ่อนคลายจากความเครียดได้ด้วย 9. ช่วยเหลือผู้อ่นื การเป็นอาสาสมัครหรือทากิจกรรมเพื่อช่วยเหลือสังคมอาจช่วยฟื้นฟูสภาพอารมณ์ให้กลับมาเป็นปกติได้ โดย ช่วยให้เห็นคุณค่าในตนเองจากการช่วยเหลือผู้อื่น แต่หากไม่มีเวลามากพออาจช่วยเหลือผู้คนด้วยวิธีอื่น ๆ เช่น ช่วยเด็กข้ามถนน เอือ้ เฟื้อต่อคนพิการและคนชรา ช่วยเหลือเพื่อนร่วมงานตามเหมาะสม เป็นต้น 10. ยอมรับในสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้ สถานการณ์หรือเหตุการณ์บางอย่างอาจเป็นเรื่องที่เปลี่ยนแปลงได้ยาก ดังนัน้ ควรทาความ เข้าใจและยอมรับในสิ่งที่เป็น โดยจดจ่ออยู่กับสิ่งที่สามารถแก้ไขได้แทน 11. ปรึกษาแพทย์ก่อนเสมอ หากเกิดปัญหาทางอารมณ์ที่ไม่สามารถควบคุมได้ มีความทุกข์หรือมีข้อสงสัยใด ๆ ควรปรึกษา แพทย์เพื่อหาแนวทางรักษาอาการอย่างเหมาะสมต่อไป นอกจากนี้ แม้มีหลักฐานว่าอาหารเสริมบางชนิดช่วยต้านภาวะซึมเศร้าได้ เช่น น้ามันตับ ปลา และกรดโฟลิค แต่ค วรปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทานอาหารเสริมใด ๆ เพื่อรักษาภาวะซึมเศร้า เนื่อ งจากใน ปัจจุบันยังไม่มีหลักฐานการทดลองที่ชัดเจนเพียงพอในด้านนี้ และด้วยความแตกต่างทางสุขภาพของแต่ละบุคคล สารบางอย่างจึง อาจเป็นอันตรายต่อผู้บริโภคได้แม้รับประทานในปริมาณปกติก็ตาม BURNOUT SYNDROME https://www.youtube.com/watch?v=_1r- qdZjDPk ใบงานที่ 1 1. BURNOUT SYNDROME คืออะไร 2. คนกลุ่มอายุใด BURNOUT มากที่สุด และกลุ่มอายุใด BURNOUT น้อยที่สุด 3. BURNOUT มีอาการอย่างไร 4. วิธีการจัดการกับ BURNOUT ในวัยทางาน 5. งานอะไรหรือภาวะใดที่ส่งผลให้เกิด BURNOUT ได้ ยกตัวงานมาอย่างน้อย 3 งาน 6. BURNOUT มีกี่ระยะ อะไรบ้าง 7. จงบอกอาการแต่ละด้านของ BURNOUT อาการทางด้านอารมณ์ อาการทางด้าน ความคิด อาการทางด้านพฤติกรรม 8. หากพบว่าตัว นศ. เอง มีปัญหาภาวะ BURNOUT จากการเรียน นศ. จะจัดการ กับภาวะนั้นอย่างไร

Use Quizgecko on...
Browser
Browser