Podcast
Questions and Answers
พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. ๒๕๖๑ มีผลบังคับใช้เมื่อใด
พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. ๒๕๖๑ มีผลบังคับใช้เมื่อใด
ใครคือผู้ลงพระปรมาภิไธยในพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. ๒๕๖๑
ใครคือผู้ลงพระปรมาภิไธยในพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. ๒๕๖๑
ข้อใดต่อไปนี้คือชื่อเต็มของพระมหากษัตริย์ที่ทรงลงพระปรมาภิไธยในพระราชบัญญัติฉบับนี้
ข้อใดต่อไปนี้คือชื่อเต็มของพระมหากษัตริย์ที่ทรงลงพระปรมาภิไธยในพระราชบัญญัติฉบับนี้
พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญฉบับนี้เกี่ยวข้องกับเรื่องใดมากที่สุด
พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญฉบับนี้เกี่ยวข้องกับเรื่องใดมากที่สุด
จากข้อมูลที่ให้ ข้อใดสามารถอนุมานได้ถูกต้องที่สุด
จากข้อมูลที่ให้ ข้อใดสามารถอนุมานได้ถูกต้องที่สุด
พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มีผลบังคับใช้วันใด?
พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มีผลบังคับใช้วันใด?
พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 ยกเลิกกฎหมายใด?
พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 ยกเลิกกฎหมายใด?
ประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ฉบับที่ 31 มีเนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องใด?
ประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ฉบับที่ 31 มีเนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องใด?
พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๔ ถูกยกเลิกโดยกฎหมายใด?
พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๔ ถูกยกเลิกโดยกฎหมายใด?
กฎหมายใดต่อไปนี้ที่ถูกยกเลิกโดยพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561?
กฎหมายใดต่อไปนี้ที่ถูกยกเลิกโดยพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561?
พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. 2558 มีความเกี่ยวข้องกับเรื่องใด?
พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. 2558 มีความเกี่ยวข้องกับเรื่องใด?
เหตุใดจึงต้องมีการตราพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 ขึ้นมา?
เหตุใดจึงต้องมีการตราพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 ขึ้นมา?
การยกเลิกกฎหมายตามมาตรา 3 ของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มีผลต่อการดำเนินคดีที่เกิดขึ้นก่อนวันที่กฎหมายนี้มีผลบังคับใช้อย่างไร?
การยกเลิกกฎหมายตามมาตรา 3 ของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มีผลต่อการดำเนินคดีที่เกิดขึ้นก่อนวันที่กฎหมายนี้มีผลบังคับใช้อย่างไร?
ข้อใดต่อไปนี้ถือเป็น “เจ้าหน้าที่ของรัฐต่างประเทศ” ตามความหมายที่กำหนด
ข้อใดต่อไปนี้ถือเป็น “เจ้าหน้าที่ของรัฐต่างประเทศ” ตามความหมายที่กำหนด
ข้อใดต่อไปนี้ถือเป็น 'ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง' ตามที่ระบุไว้
ข้อใดต่อไปนี้ถือเป็น 'ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง' ตามที่ระบุไว้
ข้อใดต่อไปนี้อธิบายความหมายของ “เจ้าหน้าที่ขององค์การระหว่างประเทศ” ได้ถูกต้องที่สุด
ข้อใดต่อไปนี้อธิบายความหมายของ “เจ้าหน้าที่ขององค์การระหว่างประเทศ” ได้ถูกต้องที่สุด
บุคคลใดต่อไปนี้ ไม่ได้ จัดว่าเป็น “ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง”?
บุคคลใดต่อไปนี้ ไม่ได้ จัดว่าเป็น “ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง”?
ข้อใดต่อไปนี้เป็นลักษณะสำคัญของ “เจ้าหน้าที่ของรัฐต่างประเทศ” ตามที่กำหนดไว้?
ข้อใดต่อไปนี้เป็นลักษณะสำคัญของ “เจ้าหน้าที่ของรัฐต่างประเทศ” ตามที่กำหนดไว้?
ข้อใดคือลักษณะที่เหมือนกันของ 'เจ้าหน้าที่ของรัฐต่างประเทศ' และ 'เจ้าหน้าที่ขององค์การระหว่างประเทศ'?
ข้อใดคือลักษณะที่เหมือนกันของ 'เจ้าหน้าที่ของรัฐต่างประเทศ' และ 'เจ้าหน้าที่ขององค์การระหว่างประเทศ'?
จากข้อมูลที่ให้ ข้อใดต่อไปนี้สามารถอนุมานได้ถูกต้องที่สุดเกี่ยวกับ “ผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ”?
จากข้อมูลที่ให้ ข้อใดต่อไปนี้สามารถอนุมานได้ถูกต้องที่สุดเกี่ยวกับ “ผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ”?
ข้อใดต่อไปนี้คือความแตกต่างที่สำคัญระหว่าง “ข้าราชการการเมือง” กับ “ข้าราชการรัฐสภาฝ่ายการเมือง”?
ข้อใดต่อไปนี้คือความแตกต่างที่สำคัญระหว่าง “ข้าราชการการเมือง” กับ “ข้าราชการรัฐสภาฝ่ายการเมือง”?
ข้อใดต่อไปนี้ที่ ไม่ ถือว่าเป็นเจ้าพนักงานของรัฐตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต?
ข้อใดต่อไปนี้ที่ ไม่ ถือว่าเป็นเจ้าพนักงานของรัฐตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต?
ข้อใดต่อไปนี้มีความหมายครอบคลุมตำแหน่ง 'เจ้าพนักงานของรัฐ' ตามที่ระบุไว้ในพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 ได้ถูกต้องที่สุด?
ข้อใดต่อไปนี้มีความหมายครอบคลุมตำแหน่ง 'เจ้าพนักงานของรัฐ' ตามที่ระบุไว้ในพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 ได้ถูกต้องที่สุด?
ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติฉบับใดที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต?
ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติฉบับใดที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต?
ข้อใดต่อไปนี้ถือเป็น 'เจ้าหน้าที่ของรัฐ' แต่ ไม่ ถือเป็น 'เจ้าพนักงานของรัฐ' ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต?
ข้อใดต่อไปนี้ถือเป็น 'เจ้าหน้าที่ของรัฐ' แต่ ไม่ ถือเป็น 'เจ้าพนักงานของรัฐ' ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต?
ข้อใดต่อไปนี้ ไม่ใช่ บทบาทของ 'เจ้าพนักงานของรัฐ' ตามที่ระบุไว้ในพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต?
ข้อใดต่อไปนี้ ไม่ใช่ บทบาทของ 'เจ้าพนักงานของรัฐ' ตามที่ระบุไว้ในพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต?
ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต, ข้อใดต่อไปนี้ถือเป็นลักษณะสำคัญของ 'เจ้าหน้าที่ของรัฐ'?
ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต, ข้อใดต่อไปนี้ถือเป็นลักษณะสำคัญของ 'เจ้าหน้าที่ของรัฐ'?
พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตมีผลบังคับใช้เมื่อใด?
พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตมีผลบังคับใช้เมื่อใด?
ข้อใดต่อไปนี้คือองค์ประกอบสำคัญที่ทำให้บุคคลหรือคณะบุคคลได้รับการพิจารณาว่าเป็น 'เจ้าพนักงาน' ตามกฎหมายว่าด้วยลักษณะปกครองท้องที่?
ข้อใดต่อไปนี้คือองค์ประกอบสำคัญที่ทำให้บุคคลหรือคณะบุคคลได้รับการพิจารณาว่าเป็น 'เจ้าพนักงาน' ตามกฎหมายว่าด้วยลักษณะปกครองท้องที่?
บุคคลใดต่อไปนี้ที่ปฏิบัติงานในหน่วยงานของรัฐ ไม่น่าจะ จัดว่าเป็น 'เจ้าหน้าที่ของรัฐ' ตามความหมายของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต?
บุคคลใดต่อไปนี้ที่ปฏิบัติงานในหน่วยงานของรัฐ ไม่น่าจะ จัดว่าเป็น 'เจ้าหน้าที่ของรัฐ' ตามความหมายของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต?
ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ ๒๔/๒๕๕๗ เกี่ยวข้องกับเรื่องใด?
ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ ๒๔/๒๕๕๗ เกี่ยวข้องกับเรื่องใด?
ข้อใดต่อไปนี้ ไม่ได้ จัดว่าเป็น “ผู้ดํารงตําแหน่งระดับสูง” ตามที่ระบุไว้?
ข้อใดต่อไปนี้ ไม่ได้ จัดว่าเป็น “ผู้ดํารงตําแหน่งระดับสูง” ตามที่ระบุไว้?
ข้อใดต่อไปนี้เป็นลักษณะสำคัญของ “ผู้ช่วยผู้บริหารท้องถิ่น” ตามที่กำหนดไว้?
ข้อใดต่อไปนี้เป็นลักษณะสำคัญของ “ผู้ช่วยผู้บริหารท้องถิ่น” ตามที่กำหนดไว้?
ตำแหน่งใดต่อไปนี้ที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีอำนาจในการกำหนดเพิ่มเติมให้เป็น “ผู้ดำรงตำแหน่งระดับสูง” ได้?
ตำแหน่งใดต่อไปนี้ที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีอำนาจในการกำหนดเพิ่มเติมให้เป็น “ผู้ดำรงตำแหน่งระดับสูง” ได้?
จากข้อความที่กำหนดให้ ข้อใดคือความหมายของ “ผู้ถูกกล่าวหา”?
จากข้อความที่กำหนดให้ ข้อใดคือความหมายของ “ผู้ถูกกล่าวหา”?
หน่วยงานใดต่อไปนี้ที่ผู้บริหารสูงสุด ไม่ จัดว่าเป็น “ผู้ดำรงตำแหน่งระดับสูง”?
หน่วยงานใดต่อไปนี้ที่ผู้บริหารสูงสุด ไม่ จัดว่าเป็น “ผู้ดำรงตำแหน่งระดับสูง”?
ข้อใดต่อไปนี้ ไม่ใช่ ผู้ดำรงตำแหน่งในกองทัพที่จัดว่าเป็น “ผู้ดำรงตำแหน่งระดับสูง”?
ข้อใดต่อไปนี้ ไม่ใช่ ผู้ดำรงตำแหน่งในกองทัพที่จัดว่าเป็น “ผู้ดำรงตำแหน่งระดับสูง”?
ข้อใดต่อไปนี้คือลักษณะร่วมของตำแหน่ง “ผู้ว่าราชการจังหวัด” และ “ปลัดกรุงเทพมหานคร” ตามที่ระบุไว้?
ข้อใดต่อไปนี้คือลักษณะร่วมของตำแหน่ง “ผู้ว่าราชการจังหวัด” และ “ปลัดกรุงเทพมหานคร” ตามที่ระบุไว้?
เหตุใดจึงต้องมีบทนิยามของคำต่างๆ เช่น “ผู้ช่วยผู้บริหารท้องถิ่น” และ “ผู้ดำรงตำแหน่งระดับสูง”?
เหตุใดจึงต้องมีบทนิยามของคำต่างๆ เช่น “ผู้ช่วยผู้บริหารท้องถิ่น” และ “ผู้ดำรงตำแหน่งระดับสูง”?
มาตรา ๑๑ (๑) ที่กล่าวถึงในข้อความ มีความเกี่ยวข้องกับข้อยกเว้นในเรื่องใด?
มาตรา ๑๑ (๑) ที่กล่าวถึงในข้อความ มีความเกี่ยวข้องกับข้อยกเว้นในเรื่องใด?
จากบทนิยามที่ให้ไว้ ข้อใดคือเกณฑ์หลักที่ใช้ในการพิจารณาว่าบุคคลใดเป็น “ผู้ดำรงตำแหน่งระดับสูง”?
จากบทนิยามที่ให้ไว้ ข้อใดคือเกณฑ์หลักที่ใช้ในการพิจารณาว่าบุคคลใดเป็น “ผู้ดำรงตำแหน่งระดับสูง”?
ในการลงมติเป็นหนังสือของคณะกรรมการ ป.ป.ช. สิ่งใดต่อไปนี้ที่จำเป็นต้องมีอย่างน้อย?
ในการลงมติเป็นหนังสือของคณะกรรมการ ป.ป.ช. สิ่งใดต่อไปนี้ที่จำเป็นต้องมีอย่างน้อย?
เมื่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้ลงมติเป็นหนังสือแล้ว จะต้องดำเนินการอย่างไรต่อไป?
เมื่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้ลงมติเป็นหนังสือแล้ว จะต้องดำเนินการอย่างไรต่อไป?
ในกรณีที่ต้องทำคำวินิจฉัยของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ขั้นตอนใดที่ถือว่าคำวินิจฉัยนั้นเป็นอันใช้บังคับได้?
ในกรณีที่ต้องทำคำวินิจฉัยของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ขั้นตอนใดที่ถือว่าคำวินิจฉัยนั้นเป็นอันใช้บังคับได้?
ใครมีอำนาจพิจารณาให้ความเห็นชอบร่างคำวินิจฉัยแทนคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้?
ใครมีอำนาจพิจารณาให้ความเห็นชอบร่างคำวินิจฉัยแทนคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้?
ถ้าคณะกรรมการ ป.ป.ช. พ้นจากตำแหน่งก่อนลงนามในคำวินิจฉัย ใครจะเป็นผู้ลงนามแทน?
ถ้าคณะกรรมการ ป.ป.ช. พ้นจากตำแหน่งก่อนลงนามในคำวินิจฉัย ใครจะเป็นผู้ลงนามแทน?
ในกรณีที่เลขาธิการสำนักงาน ป.ป.ช. ลงนามในคำวินิจฉัยแทนคณะกรรมการที่พ้นจากตำแหน่ง จะมีผลอย่างไร?
ในกรณีที่เลขาธิการสำนักงาน ป.ป.ช. ลงนามในคำวินิจฉัยแทนคณะกรรมการที่พ้นจากตำแหน่ง จะมีผลอย่างไร?
ข้อใดต่อไปนี้กล่าวถึงหน้าที่ของกรรมการ ป.ป.ช. ได้ถูกต้องที่สุด?
ข้อใดต่อไปนี้กล่าวถึงหน้าที่ของกรรมการ ป.ป.ช. ได้ถูกต้องที่สุด?
การปฏิบัติหน้าที่และการใช้อำนาจของคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีลักษณะอย่างไร?
การปฏิบัติหน้าที่และการใช้อำนาจของคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีลักษณะอย่างไร?
หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับความถูกต้องของการลงมติเป็นหนังสือของ ป.ป.ช. ใครจะเป็นผู้เก็บรวบรวมหลักฐานเพื่อตรวจสอบ?
หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับความถูกต้องของการลงมติเป็นหนังสือของ ป.ป.ช. ใครจะเป็นผู้เก็บรวบรวมหลักฐานเพื่อตรวจสอบ?
ข้อใดต่อไปนี้ ไม่ใช่ องค์ประกอบสำคัญของการลงมติเป็นหนังสือของคณะกรรมการ ป.ป.ช.?
ข้อใดต่อไปนี้ ไม่ใช่ องค์ประกอบสำคัญของการลงมติเป็นหนังสือของคณะกรรมการ ป.ป.ช.?
Flashcards
พ.ร.ป. ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต
พ.ร.ป. ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต
ผู้ให้ไว้ซึ่ง พ.ร.ป. ฉบับนี้
ผู้ให้ไว้ซึ่ง พ.ร.ป. ฉบับนี้
วันที่ พ.ร.ป. ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ประกาศใช้
วันที่ พ.ร.ป. ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ประกาศใช้
ราชกิจจานุเบกษา
ราชกิจจานุเบกษา
เล่มและตอนของราชกิจจานุเบกษา
เล่มและตอนของราชกิจจานุเบกษา
คำว่า “รวมถึง” ในกฎหมายนี้หมายถึงใคร?
คำว่า “รวมถึง” ในกฎหมายนี้หมายถึงใคร?
ผู้ช่วยผู้บริหารท้องถิ่นคือใคร?
ผู้ช่วยผู้บริหารท้องถิ่นคือใคร?
ผู้ดำรงตำแหน่งระดับสูงคือใคร?
ผู้ดำรงตำแหน่งระดับสูงคือใคร?
ผู้ถูกกล่าวหาคือใคร?
ผู้ถูกกล่าวหาคือใคร?
วันบังคับใช้กฎหมาย
วันบังคับใช้กฎหมาย
กฎหมายที่ถูกยกเลิก
กฎหมายที่ถูกยกเลิก
พ.ร.ป. ป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542
พ.ร.ป. ป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542
ประกาศ คปค. ฉบับที่ 31
ประกาศ คปค. ฉบับที่ 31
พ.ร.บ. แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2550
พ.ร.บ. แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2550
พ.ร.ป. ป.ป.ช. (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2554
พ.ร.ป. ป.ป.ช. (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2554
พ.ร.ป. ป.ป.ช. (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2558
พ.ร.ป. ป.ป.ช. (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2558
พ.ร.ป. ป.ป.ช. (ฉบับที่ 4) พ.ศ.2561
พ.ร.ป. ป.ป.ช. (ฉบับที่ 4) พ.ศ.2561
เจ้าหน้าที่ของรัฐต่างประเทศคือใคร
เจ้าหน้าที่ของรัฐต่างประเทศคือใคร
ขอบเขตของเจ้าหน้าที่รัฐต่างประเทศ
ขอบเขตของเจ้าหน้าที่รัฐต่างประเทศ
เจ้าหน้าที่องค์การระหว่างประเทศ
เจ้าหน้าที่องค์การระหว่างประเทศ
ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง (ส่วนที่ 1)
ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง (ส่วนที่ 1)
ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง (ส่วนที่ 2)
ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง (ส่วนที่ 2)
ผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ
ผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ
หน้าที่หลักของเจ้าหน้าที่รัฐต่างประเทศ
หน้าที่หลักของเจ้าหน้าที่รัฐต่างประเทศ
การมอบหมายงานขององค์การระหว่างประเทศ
การมอบหมายงานขององค์การระหว่างประเทศ
ประกาศ คสช. ๒๔/๒๕๕๗
ประกาศ คสช. ๒๔/๒๕๕๗
ประกาศ คสช. ๗๒/๒๕๕๗
ประกาศ คสช. ๗๒/๒๕๕๗
ความหมาย 'เจ้าพนักงานของรัฐ'
ความหมาย 'เจ้าพนักงานของรัฐ'
ความหมาย 'เจ้าหน้าที่ของรัฐ'
ความหมาย 'เจ้าหน้าที่ของรัฐ'
ใครบ้างเป็น 'จนท.ของรัฐ' เพิ่มเติม?
ใครบ้างเป็น 'จนท.ของรัฐ' เพิ่มเติม?
ใครไม่ใช่ 'จนท.ของรัฐ'?
ใครไม่ใช่ 'จนท.ของรัฐ'?
ใครบ้างเป็น จนท.รัฐ ในท้องถิ่น?
ใครบ้างเป็น จนท.รัฐ ในท้องถิ่น?
ใครคือ จนท.รัฐ (ด้านอำนาจ)?
ใครคือ จนท.รัฐ (ด้านอำนาจ)?
ใครคือ จนท.รัฐ (ทั่วไป)?
ใครคือ จนท.รัฐ (ทั่วไป)?
ใครคือ จนท.รัฐ (ปกครองท้องที่)?
ใครคือ จนท.รัฐ (ปกครองท้องที่)?
องค์ประกอบการลงมติเป็นหนังสือ
องค์ประกอบการลงมติเป็นหนังสือ
ผู้เก็บหลักฐานการลงมติ
ผู้เก็บหลักฐานการลงมติ
การดำเนินการตามมติ
การดำเนินการตามมติ
ผู้ลงนามในคำวินิจฉัย
ผู้ลงนามในคำวินิจฉัย
ผลบังคับใช้ของคำวินิจฉัย
ผลบังคับใช้ของคำวินิจฉัย
เวลาปฏิบัติหน้าที่ของกรรมการ ป.ป.ช.
เวลาปฏิบัติหน้าที่ของกรรมการ ป.ป.ช.
ผู้ลงนามแทนกรณีพิเศษ
ผู้ลงนามแทนกรณีพิเศษ
การบันทึกเหตุผลกรณีพิเศษ
การบันทึกเหตุผลกรณีพิเศษ
การมอบหมายอำนาจให้ความเห็นชอบ
การมอบหมายอำนาจให้ความเห็นชอบ
ผลบังคับใช้เมื่อเลขาธิการลงนามแทน
ผลบังคับใช้เมื่อเลขาธิการลงนามแทน
Study Notes
- พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 ประกาศใช้เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2561
ผู้ตรากฎหมาย
- สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงตรากฎหมายนี้เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2561 ซึ่งเป็นปีที่ 3 ในรัชกาลปัจจุบัน โดยคำแนะนำและยินยอมของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ
เหตุผลในการตรากฎหมาย
- กฎหมายนี้มีความจำเป็นเนื่องจากรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยมีข้อกำหนดเกี่ยวกับการป้องกันและปราบปรามการทุจริต
การยกเลิกกฎหมายเดิม
- พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 ถูกยกเลิก
- ประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ฉบับที่ 10, เรื่อง การดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ลงวันที่ 30 กันยายน 2549 ถูกยกเลิก
- พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 พ.ศ. 2550 ถูกยกเลิก
- พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2554 ถูกยกเลิก
- พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2558 ถูกยกเลิก
- พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2559 ถูกยกเลิก
- ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 24/2557 เรื่อง ให้พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญมีผลบังคับใช้ต่อไป ลงวันที่ 23 พฤษภาคม 2557 (เฉพาะส่วนที่เกี่ยวกับพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต) ถูกยกเลิก
- ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 72/2557 เรื่อง การดำเนินการตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ลงวันที่ 27 มิถุนายน 2557 ถูกยกเลิก
คำนิยามศัพท์
- "เจ้าพนักงานของรัฐ" หมายถึง เจ้าหน้าที่ของรัฐ, ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง, ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ, ผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ และคณะกรรมการ ป.ป.ช.
- "เจ้าหน้าที่ของรัฐ" หมายถึง ข้าราชการหรือพนักงานส่วนท้องถิ่นที่มีตำแหน่งหรือเงินเดือนประจำ, ผู้ปฏิบัติงานในหน่วยงานของรัฐหรือในรัฐวิสาหกิจ, ผู้บริหารท้องถิ่น, รองผู้บริหารท้องถิ่น, ผู้ช่วยผู้บริหารท้องถิ่น, และสมาชิกสภาท้องถิ่นขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวมถึงผู้ที่ได้รับมอบอำนาจทางปกครอง
- "เจ้าหน้าที่ของรัฐต่างประเทศ" หมายถึง ผู้ดำรงตำแหน่งทางนิติบัญญัติ บริหาร ปกครอง ตุลาการของรัฐต่างประเทศ และผู้ปฏิบัติหน้าที่ให้แก่รัฐต่างประเทศ
- "เจ้าหน้าที่ขององค์การระหว่างประเทศ" หมายถึง ผู้ปฏิบัติหน้าที่ในองค์การระหว่างประเทศ หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่ในนามขององค์การนั้น
- "ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง" หมายถึง นายกรัฐมนตรี, รัฐมนตรี, สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร, สมาชิกวุฒิสภา, ข้าราชการการเมืองอื่นตามกฎหมาย, และข้าราชการรัฐสภาฝ่ายการเมืองตามกฎหมาย
- "ผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ" หมายถึง ผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ ยกเว้นคณะกรรมการ ป.ป.ช. รวมถึงผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ยกเว้นกรณีตามมาตรา 11 (1)
- "ผู้ช่วยผู้บริหารท้องถิ่น" หมายถึง ผู้ทำหน้าที่ช่วยเหลือผู้บริหารท้องถิ่น รวมถึงผู้ทำหน้าที่ช่วยเหลือสภาท้องถิ่นหรือสมาชิกสภาท้องถิ่นขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตามที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. กำหนด
- "ผู้ดำรงตำแหน่งระดับสูง" หมายถึง หัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวง ทบวง กรม หรือส่วนราชการที่มีฐานะเป็นนิติบุคคล (ที่ไม่ใช่ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง), ผู้บัญชาการทหารสูงสุด/เหล่าทัพ และผู้บัญชาการตำรวจเเห่งชาติ, ผู้ว่าราชการจังหวัด, ปลัดกรุงเทพมหานคร, กรรมการและผู้บริหารสูงสุดของรัฐวิสาหกิจ, หัวหน้าหน่วยงานขององค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ (ไม่รวมผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน), กรรมการและผู้บริหารสูงสุดของหน่วยงานอื่นของรัฐ, และตำแหน่งอื่นที่กฎหมายกำหนด หรือเทียบเท่าที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. กำหนด
- "ผู้ถูกกล่าวหา" หมายถึง ผู้ที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติให้ดำเนินการไต่สวน ไม่ว่าจะในฐานะตัวการ ผู้ใช้ หรือผู้สนับสนุน
- "คณะกรรมการ ป.ป.ช." หมายถึง คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ
- "ประธานกรรมการ" หมายถึง ประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ
- "กรรมการ" หมายถึง กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ และรวมถึงประธานกรรมการด้วย
- "เลขาธิการ" หมายถึง เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ
- "สำนักงาน" หมายถึง สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ
- "พนักงานเจ้าหน้าที่" หมายถึง เลขาธิการ และข้าราชการในสังกัดสำนักงาน รวมถึงข้าราชการหรือพนักงานซึ่งมาช่วยราชการในสำนักงาน ซึ่งคณะกรรมการ ป.ป.ช. แต่งตั้งให้ปฏิบัติการตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้
- "หัวหน้าพนักงานไต่สวน" หมายถึง ผู้ที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. แต่งตั้งจากพนักงานไต่สวน
- "ไต่สวน" หมายถึง การแสวงหา รวบรวม และดำเนินการอื่นใด เพื่อให้ได้มาซึ่งข้อเท็จจริงและพยานหลักฐาน
- "ทุจริตต่อหน้าที่" หมายถึง ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่ หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในพฤติการณ์ที่อาจทำให้ผู้อื่นเชื่อว่ามีตำแหน่งหรือหน้าที่ ทั้งที่ตนมิได้มีตำแหน่งหรือหน้าที่นั้น หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่ เพื่อแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบสำหรับตนเองหรือผู้อื่น หรือกระทำการอันเป็นความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการหรือความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรมตามประมวลกฎหมายอาญาหรือตามกฎหมายอื่น
- "ร่ำรวยผิดปกติ" หมายถึง การมีทรัพย์สินมากผิดปกติ, ทรัพย์สินเพิ่มขึ้นมากผิดปกติ, หนี้สินลดลงมากผิดปกติ หรือได้ทรัพย์สินมาโดยไม่มีมูลอันจะอ้างได้ตามกฎหมายสืบเนื่องมาจากการปฏิบัติหน้าที่
- "พนักงานสอบสวน" หมายความว่า พนักงานสอบสวนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา, พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ตามกฎหมายว่าด้วยการสอบสวนคดีพิเศษ
การแจ้งความ การประกาศ
- การแจ้ง ยื่น หรือส่งหนังสือ/เอกสารเป็นการเฉพาะ ให้ส่ง ณ ภูมิลำเนา/ที่อยู่ตามทะเบียนราษฎร
- การประกาศ/เผยแพร่ให้ประชาชนทั่วไป ให้ประกาศ/เผยแพร่ในระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ หรือวิธีการอื่นใดที่ประชาชนเข้าถึงได้สะดวก
อำนาจของคณะกรรมการ ป.ป.ช. และเลขาธิการ
- หากมิได้กำหนดวิธีการไว้เป็นการเฉพาะ ให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. หรือเลขาธิการกำหนดโดยทำเป็นประกาศ ระเบียบ ข้อบังคับ หรือคำสั่ง แล้วแต่กรณี
- หากใช้บังคับแก่บุคคลทั่วไป ให้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาและดำเนินการประกาศตามวรรคหนึ่งด้วย
- ต้องกำหนดระยะเวลาการดำเนินงานในแต่ละขั้นตอนให้ชัดเจน
ความร่วมมือกับองค์กรอิสระอื่น
- คณะกรรมการ ป.ป.ช. ต้องให้ความร่วมมือกับองค์กรอิสระทุกองค์กร
- หากเห็นว่ามีผู้กระทำการอันไม่ชอบด้วยกฎหมาย อันอยู่ในหน้าที่และอำนาจขององค์กรอิสระอื่น ให้มีหนังสือแจ้งองค์กรอิสระที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจต่อไปโดยไม่ชักช้า
- หากเห็นว่าการดำเนินการเรื่องใดที่อยู่ในหน้าที่และอำนาจของ ป.ป.ช. อาจเข้าลักษณะเป็นการกระทำความผิดที่อยู่ในหน้าที่และอำนาจขององค์กรอิสระอื่นด้วย ให้ปรึกษาหารือร่วมกับองค์กรอิสระอื่นที่เกี่ยวข้องเพื่อกำหนดแนวทางการดำเนินงานร่วมกัน
คดีอาญา
- หากผู้ถูกกล่าวหา/จำเลยหลบหนีในระหว่างถูกดำเนินคดี/พิจารณาของศาล มิให้นับระยะเวลาหลบหนีรวมเป็นส่วนหนึ่งของอายุความ
- ถ้าจำเลยหลบหนีไปในระหว่างต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้ลงโทษ มิให้นำบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๙๘ มาใช้บังคับ
ผู้รักษาการ
- ประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ รักษาการตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้
คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)
- ประกอบด้วยกรรมการจำนวน 9 คน ซึ่งพระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้งตามคำแนะนำของวุฒิสภา จากผู้ได้รับการสรรหาโดยคณะกรรมการสรรหา
- ผู้ได้รับการสรรหาต้องมีความรู้, ความเชี่ยวชาญ, และประสบการณ์ด้านกฎหมาย, บัญชี, เศรษฐศาสตร์, การบริหารราชการแผ่นดิน หรืออื่นใดที่เป็นประโยชน์ต่อการป้องกันและปราบปรามการทุจริต
- ต้องมีคุณสมบัติอย่างใดอย่างหนึ่งดังต่อไปนี้:
- รับราชการหรือเคยรับราชการในตำแหน่งไม่ต่ำกว่าอธิบดีผู้พิพากษา/อธิบดีศาลปกครองชั้นต้น/ตุลาการพระธรรมนูญหัวหน้าศาลทหารกลาง หรืออธิบดีอัยการ มาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี
- รับราชการ/เคยรับราชการในตำแหน่งไม่ต่ำกว่าอธิบดี/หัวหน้าส่วนราชการที่เทียบเท่า มาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี
- เป็น/เคยเป็นผู้ดำรงตำแหน่งผู้บริหารสูงสุดของรัฐวิสาหกิจ/หน่วยงานอื่นของรัฐที่ไม่เป็นส่วนราชการ/รัฐวิสาหกิจ มาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี
- ดำรงตำแหน่ง/เคยดำรงตำแหน่งศาสตราจารย์ของมหาวิทยาลัยในประเทศไทยมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี และมีผลงานทางวิชาการเป็นที่ประจักษ์
- เป็น/เคยเป็นผู้ประกอบวิชาชีพที่มีกฎหมายรับรองการประกอบวิชาชีพโดยประกอบวิชาชีพอย่างสม่ำเสมอต่อเนื่องเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 20 ปีนับถึงวันที่ได้รับการเสนอชื่อ/รับรอง
- เป็นผู้มีความรู้ความชำนาญและประสบการณ์ทางด้านการบริหาร, การเงิน, การคลัง, การบัญชี หรือการบริหารกิจการวิสาหกิจในระดับไม่ต่ำกว่าผู้บริหารระดับสูงของบริษัทมหาชนจำกัดมาแล้วไม่น้อยกว่า 10 ปี
- เคยเป็นผู้ดำรงตำแหน่งตามข้อใดข้อหนึ่งข้างต้นรวมกันไม่น้อยกว่า 10 ปี
คุณสมบัติอื่นๆ
- มีสัญชาติไทยโดยการเกิด
- อายุไม่ต่ำกว่า 45 ปี แต่ไม่เกิน 70 ปี
- สำเร็จการศึกษาไม่ต่ำกว่าปริญญาตรีหรือเทียบเท่า
- มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์
- มีสุขภาพที่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ลักษณะต้องห้ามของกรรมการ
- เป็นหรือเคยเป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ หรือผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระใด
- ติดยาเสพติดให้โทษ
- เป็นบุคคลล้มละลายหรือเคยเป็นบุคคลล้มละลายทุจริต
- เป็นเจ้าของ/ผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์/สื่อมวลชนใด ๆ
- เป็นภิกษุ สามเณร นักพรต หรือนักบวช
- อยู่ในระหว่างถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง (ไม่ว่าคดีนั้นจะถึงที่สุดแล้วหรือไม่)
- วิกลจริตหรือจิตฟันเฟือนไม่สมประกอบ
- อยู่ระหว่างถูกระงับการใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นการชั่วคราว/ถูกเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง
- ต้องคำพิพากษาให้จำคุกและถูกคุมขังอยู่โดยหมายของศาล
- เคยถูกสั่งให้พ้นจากราชการ/หน่วยงานของรัฐ/รัฐวิสาหกิจ เพราะทุจริตต่อหน้าที่/ถือว่ากระทำการทุจริตหรือประพฤติมิชอบในวงราชการ
- เคยต้องคำพิพากษา/คำสั่งของศาลอันถึงที่สุดให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน เพราะร่ำรวยผิดปกติ หรือเคยต้องคำพิพากษาอันถึงที่สุดให้ลงโทษจำคุกเพราะกระทำความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต
- เคยต้องคำพิพากษาอันถึงที่สุดว่ากระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ/ต่อตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรม หรือกระทำความผิดตามกฎหมายว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การ/หน่วยงานของรัฐ หรือความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ที่กระทำโดยทุจริตตามประมวลกฎหมายอาญา, ความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน, กฎหมายว่าด้วยยาเสพติด (ผลิต, นำเข้า, ส่งออก, หรือผู้ค้า), กฎหมายว่าด้วยการพนัน (เจ้ามือ/สำนัก), กฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์, หรือกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน
- เคยต้องคำพิพากษาอันถึงที่สุดว่ากระทำการอันเป็นการทุจริตในการเลือกตั้ง
- อยู่ในระหว่างต้องห้ามมิให้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
- เคยพ้นจากตำแหน่งเพราะศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่ามีการเสนอ, การแปรญัตติ หรือการกระทำใด ๆ ที่มีผลให้ ส.ส., ส.ว. หรือกรรมาธิการ มีส่วนไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อมในการใช้งบประมาณรายจ่าย
- เคยพ้นจากตำแหน่งเพราะศาลฎีกา/ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีคำพิพากษาว่าฝ่าฝืน/ไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง หรือเป็นผู้มีพฤติการณ์ร่ำรวยผิดปกติ/กระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่/จงใจปฏิบัติหน้าที่/ใช้อำนาจขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญหรือกฎหมาย
- เคยได้รับโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุด เว้นแต่ในความผิดอันได้กระทำโดยประมาท/ความผิดลหุโทษ
- เป็น/เคยเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร, สมาชิกวุฒิสภา, ข้าราชการการเมือง, หรือสมาชิกสภาท้องถิ่น/ผู้บริหารท้องถิ่นในระยะสิบปีก่อนเข้ารับการสรรหา
- เป็น/เคยเป็นสมาชิก/ผู้ดำรงตำแหน่งอื่นของพรรคการเมืองในระยะสิบปีก่อนเข้ารับการสรรหา
- เป็นข้าราชการซึ่งมีตำแหน่ง/เงินเดือนประจำ
- เป็นพนักงาน/ลูกจ้างของหน่วยงานของรัฐ, รัฐวิสาหกิจ, หรือราชการส่วนท้องถิ่น, หรือกรรมการ/ที่ปรึกษาของหน่วยงานของรัฐ/รัฐวิสาหกิจ
- เป็นผู้ดำรงตำแหน่งใดในห้างหุ้นส่วน, บริษัท, หรือองค์กรที่ดำเนินธุรกิจโดยมุ่งหาผลกำไร/รายได้มาแบ่งปันกัน, หรือเป็นลูกจ้างของบุคคลใด
- เป็นผู้ประกอบวิชาชีพอิสระ
- มีพฤติการณ์อันเป็นการฝ่าฝืน/ไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง
คณะกรรมการสรรหา
- ประกอบด้วย ประธานศาลฎีกา, ประธานสภาผู้แทนราษฎร, ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร, ประธานศาลปกครองสูงสุด, บุคคลซึ่งศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระที่มิใช่คณะกรรมการ ป.ป.ช. แต่งตั้ง
- เลขาธิการวุฒิสภาเป็นเลขานุการ และสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาปฏิบัติหน้าที่เป็นหน่วยธุรการของคณะกรรมการสรรหา
- ศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระที่มิใช่ ป.ป.ช. แต่งตั้งกรรมการสรรหาภายใน 20 วันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งจากเลขาธิการวุฒิสภา โดยคัดเลือกจากบุคคลซึ่งมีความเป็นกลาง ซื่อสัตย์สุจริต และมีความเข้าใจในภารกิจของคณะกรรมการ ป.ป.ช. และผู้จะได้รับการคัดเลือกต้องได้รับคะแนนเสียงเกินกึ่งหนึ่งของจำนวนทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ/กรรมการองค์กรอิสระ
- เลขาธิการวุฒิสภาประกาศรายชื่อกรรมการสรรหา
วาระการดำรงตำแหน่งของกรรมการสรรหา
- กรรมการสรรหาตาม (4) อยู่ในวาระการดำรงตำแหน่งจนถึงวันก่อนวันที่มีกรณีที่ต้องสรรหากรรมการใหม่ แต่ไม่รวมถึงการสรรหาใหม่/สรรหาเพิ่มเติมตามที่ระบุ
- กรรมการสรรหาดังกล่าวพ้นจากตำแหน่งก่อนวาระ เมื่อตาย, ลาออก, ขาดคุณสมบัติ หรือมีลักษณะต้องห้าม
- ผู้ซึ่งได้รับแต่งตั้งให้เป็นกรรมการสรรหา จะเป็นกรรมการสรรหาในคณะกรรมการสรรหาสำหรับศาลรัฐธรรมนูญ/องค์กรอิสระอื่นในขณะเดียวกันมิได้
การสรรหากรรมการ ป.ป.ช.
- ปรึกษาหารือเพื่อคัดสรรให้ได้บุคคลซึ่งมีความรับผิดชอบสูง, กล้าหาญในการปฏิบัติหน้าที่, และมีคุณธรรม เป็นตัวอย่าง
- ดำเนินการสรรหาจากบุคคลซึ่งมีความเหมาะสมทั่วไปได้ โดยต้องได้รับความยินยอมของบุคคลนั้น ทั้งนี้ โดยคำนึงถึงความหลากหลายของประสบการณ์ที่แตกต่างกัน
- ใช้วิธีการสัมภาษณ์/ให้แสดงความคิดเห็นในเรื่องที่เกี่ยวกับหน้าที่และอำนาจของคณะกรรมการ ป.ป.ช.
- ให้ใช้วิธีลงคะแนนโดยเปิดเผย และให้กรรมการสรรหาแต่ละคนบันทึกเหตุผลในการเลือกไว้
- ผู้ซึ่งจะได้รับการสรรหาต้องได้รับคะแนนเสียงถึง 2 ใน 3 ของจำนวนทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของคณะกรรมการสรรหา
- ถ้าไม่มีบุคคลใดได้รับคะแนนเสียงตามวรรคสาม หรือมีแต่ยังไม่ครบจำนวนที่จะต้องสรรหา ให้มีการลงคะแนนใหม่สำหรับผู้ได้คะแนนไม่ถึงสองในสาม
- ดำเนินการสรรหาใหม่สำหรับจำนวนที่ยังขาด
การดำเนินการเมื่อได้กรรมการ
- เมื่อผู้ได้รับความเห็นชอบจากวุฒิสภาแล้ว หากประธานกรรมการพ้นจากตำแหน่ง ให้ผู้ได้รับความเห็นชอบประชุมร่วมกับกรรมการซึ่งยังดำรงตำแหน่งอยู่ เพื่อเลือกกันเองให้คนหนึ่งเป็นประธานกรรมการ
- แต่เมื่อรวมกับกรรมการซึ่งยังดำรงตำแหน่ง/มีจำนวนถึง 7 คน ก็ให้ดำเนินการประชุมเพื่อเลือกประธานกรรมการได้
วาระการดำรงตำแหน่ง
- กรรมการมีวาระการดำรงตำแหน่ง 7 ปีนับแต่วันที่พระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้ง และให้ดำรงตำแหน่งได้เพียงวาระเดียว
- ในกรณีที่กรรมการพ้นจากตำแหน่งตามวาระ ให้กรรมการที่พ้นจากตำแหน่งปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่าจะมีกรรมการใหม่แทน
- นอกจากการพ้นจากตำแหน่งตามวาระ กรรมการพ้นจากตำแหน่งเมื่อ ตาย, ลาออก, ขาดคุณสมบัติ, หรือพ้นจากตำแหน่งด้วยเหตุอื่นตามรัฐธรรมนูญ
ปัญหาเกี่ยวกับคุณสมบัติหรือลักษณะต้องห้าม
- ให้เป็นหน้าที่และอำนาจของคณะกรรมการสรรหาเป็นผู้วินิจฉัย คำวินิจฉัยของคณะกรรมการสรรหาให้เป็นที่สุด
- การวินิจฉัย ให้ใช้วิธีลงคะแนนโดยเปิดเผย
การดำเนินงาน
- กรรมการต้องปฏิบัติหน้าที่เต็มเวลา
- ต้องเป็นไปโดยสุจริต เที่ยงธรรม กล้าหาญ ปราศจากอคติในการใช้ดุลพินิจ และปฏิบัติตนให้ถูกต้องตามมาตรฐานทางจริยธรรม
หน้าที่และอำนาจของคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีดังนี้
- ไต่สวนและมีความเห็นกรณีมีการกล่าวหาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ หรือผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ ผู้ใดมีพฤติการณ์ร่ำรวยผิดปกติ ทุจริตต่อหน้าที่ หรือจงใจปฏิบัติหน้าที่หรือใช้อำนาจขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญหรือกฎหมาย หรือฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง
- ไต่สวนและวินิจฉัยว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐร่ำรวยผิดปกติ กระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ หรือความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรม
- กำหนดให้ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ และเจ้าหน้าที่ของรัฐยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน ตรวจสอบและเปิดเผยผลการตรวจสอบ
- ไต่สวนเพื่อดำเนินคดีในฐานความผิดอื่นที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้กำหนดหรือที่มีกฎหมายกำหนดให้อยู่ในหน้าที่และอำนาจของ ป.ป.ช.
- ปฏิบัติหน้าที่และอำนาจอื่นตามที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้ หรือกฎหมายอื่น
- รายงานผลการตรวจสอบและผลการปฏิบัติหน้าที่ต่อรัฐสภาทุกปี
- ในการปฏิบัติหน้าที่ ให้รวมถึงการดำเนินการกับบุคคลอื่นซึ่งเป็นตัวการ ผู้ใช้ หรือผู้สนับสนุน
การดำเนินงาน
- ในการปฏิบัติหน้าที่ ให้รวมถึงการดำเนินการกับบุคคลอื่นซึ่งเป็นตัวการ ผู้ใช้ หรือผู้สนับสนุน
การอายัด
- เมื่อมีเหตุอันควรเชื่อว่ามีการดำเนินการอย่างใดในหน่วยงานของรัฐอันอาจนำไปสู่การทุจริตหรือส่อว่าอาจมีการทุจริต ให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ดำเนินการตรวจสอบโดยเร็ว
- หากมีเหตุอันควรระมัดระวัง คณะกรรมการ ป.ป.ช. อาจมีมติ มีหนังสือแจ้งให้หน่วยงานของรัฐและคณะรัฐมนตรีทราบ พร้อมข้อเสนอแนะแนวทางการแก้ไข
การดำเนินคดี
- หากพบว่าผู้ถูกกล่าวหาจะหลบหนี ให้ดำเนินการขอให้ศาลออกหมายจับและควบคุมตัว
- หากมีการกระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่เกิดขึ้นในลักษณะความผิดซึ่งหน้า ให้กรรมการ พนักงานไต่สวนที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. มอบหมาย และพนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจชั้นผู้ใหญ่มีอำนาจจับกุมตัวผู้กระทำความผิดได้โดยไม่ต้องมีหมายของศาล
- ให้ประธานกรรมการและกรรมการ เป็นเจ้าพนักงานในการยุติธรรมตามประมวลกฎหมายอาญา
- กรรมการไต่สวน หัวหน้าพนักงานไhgสวน พนักงานไต่สวน เป็นเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา
อำนาจของคณะกรรมการ ป.ป.ช.
- มีคำสั่งให้ข้าราชการ พนักงาน หรือลูกจ้างของหน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือราชการส่วนท้องถิ่น มาให้ถ้อยคำหรือส่งมอบเอกสารหรือหลักฐานที่เกี่ยวข้อง
- ให้บุคคลใดมาให้ถ้อยคำ หรือส่งบัญชี เอกสาร หรือหลักฐานใด ๆ มาเพื่อประโยชน์ในการไต่สวน
- ดำเนินการขอให้ศาลที่มีเขตอำนาจออกหมายเพื่อเข้าไปในเคหสถาน สถานที่ทำการ หรือสถานที่อื่นใด รวมทั้งยานพาหนะของบุคคลใด ๆ
- มีคำสั่งให้หน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ ราชการส่วนท้องถิ่น หรือหน่วยงานเอกชน ชี้แจงข้อเท็จจริง อำนวยความสะดวก หรือให้ความช่วยเหลือในการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการ ป.ป.ช.
- จ้างที่ปรึกษาหรือผู้เชี่ยวชาญในการตรวจสอบหาข้อมูลเกี่ยวกับทรัพย์สินหรือหนี้สิ
การดำเนินคดี
ในการดำเนินคดีอาญาตามกฎหมายฉบับนี้ ถ้าผู้ถูกกล่าวหา หรือจำเลยหลบหนีไปในระหว่างถูกดำเนินคดี หรือระหว่างการพิจารณาของศาล มิให้นับระยะเวลาที่ผู้ถูกกล่าวหา หรือจำเลยหลบหนีรวมเป็นส่วนหนึ่งของอายุความ ผู้ถูกกล่าวหา หรือจำเลยต้องนำประเด็นดังกล่าวขึ้นกล่าวอ้างเอง
Studying That Suits You
Use AI to generate personalized quizzes and flashcards to suit your learning preferences.