การจัดการแบบหลักบริหาร

3

True (A)

<p>ทฤษฏีระบบราชการ</p> Signup and view all the answers

<p>สถิติ, ตัวเลข, ตัวแบบทางคณิตศาสตร์</p> Signup and view all the answers

<p>ระบบ</p> Signup and view all the answers

<p>การจูงใจคนต้องเหมาะสมกับสถานการณ์ (B)</p> Signup and view all the answers

<p>องค์กรจ้างงานระยะสั้น (B)</p> Signup and view all the answers

<p>True (A)</p> Signup and view all the answers

<p>การบริการและสวัสดิการ (A), ทำให้มีบุคลากรเพียงพอ (B), การประเมินผลการปฏิบัติงาน (C), การบรรจุตำแหน่ง (D), การพัฒนาบุคลากรให้มีความสามารถ (E), การป้องกันและแก้ไขพฤติกรรมที่เบี่ยงเบน (F), มนุษยสัมพันธ์ (G), การประเมินผลงานของบุคลากร (H), การฝึกอบรม (I), การวิเคราะห์งาน (J), การบำรุงรักษา (K), การสรรหาและคัดเลือก (L), การจ่ายตอบแทน (M), การออกแบบงาน (N), การเกิดความสัมพันธ์อันดีต่อกัน (O), การสร้างแรงจูงใจ (P), การวางแผนกำลังคน (Q), การสร้างทีมงาน (R)</p> Signup and view all the answers

Signup and view all the answers

นโยบายและการปฏิบัติเกี่ยวข้องกับบุคคลในการทำงานขององค์กร ตั้งแต่การหาคนที่ มีคุณสมบัติที่เหมาะสม การพัฒนา ทักษะ และประสบการณ์ ในการสรรหา การคัดเลือก และการบรรจุแต่งตั้ง บุคลากรที่มีคุณสมบัติเหมาะสมให้เข้ามาปฏิบัติงาน และธารงรักษาคนดีให้อยู่ในองค์กรให้นานที่สุด เพื่อให้องค์กรมีผลการปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและบรรลุวัตถุประสงค์ขององค์กรตามที่กำหนดไว้

การเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมภายนอกและภายใน เช่น เศรษฐกิจ การเมือง สังคม วัฒนธรรม กฎหมาย เทคโนโลยี คู่แข่งขัน ลูกค้า และการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมภายในขององค์กร เช่น ผู้บริหาร พนักงาน ระบบ

การบริหารแบบวิทยาศาสตร์ (Scientific Management) เน้นระบบงานและประสิทธิภาพ โดยจัดโครงสร้าง ระบบ และวิธีการทำงานขององค์กรให้เหมาะสม เพื่อเพิ่มผลผลิต ส่วนการจัดการแบบหลักบริหาร (Administrative Management) เน้นผู้จัดการและแนวทางการบริหารองค์กร

กราฟ

แนวคิดของกิลเบรท ได้ พัฒนาการวางแผน 3 ขั้นตอน (A Three Position Plan )ในการส่งเสริม เพื่อสนับสนุน โปรแกรมการพัฒนาพนักงาน เช่นเดียวกันกับการส่งเสริมจริยธรรม ในการวางแผนพนักงานแต่ละคนจะปฏิบัติงานในปัจจุบันและเตรียมงานสำหรับอนาคต และฝึกอบรมผู้ที่จะมารับต่อในเวลาเดียวกันนั้น ดังนั้น พนักงานแต่ละคนจะเป็ นผู้ปฏิบัติ ผู้เรียนรู้ ผู้สอน และจะมองไปยังโอกาสใหม่ ในอนาคตด้วย

ทฤษฎีของเวเบอร์ เสนอแนวคิด “ระบบราชการ” โดยเน้นความเหมาะสมในการจัดองค์กร ทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชน

การแบ่งงานออกเป็นย่อย ๆ ตามลักษณะเฉพาะของงาน แต่ละอย่าง เพื่อให้บุคลากรทำงานสำเร็จโดยไม่ต้องใช้เวลาและความพยายามมากนัก

การรวมอานาจต่างๆ ไว้ที่จุดเดียว คือ ผู้บริหารระดับสูงในองค์กร เพื่อแก้ปัญหาการประสานงานที่เกิดจากการแบ่งงาน

ให้เป็นกรอบหรื อแนวทางปฏิบัติงาน เพื่อให้บรรลุเป้าหมายตามที่ต้องการ

เลือกบุคลากรอย่างมีเหตุผล โดยยึดหลักเกณฑ์ ที่ว่าให้ได้คนที่มีความรู้ และความสามารถสอดคล้องกับงานอย่างแท้จริง โดยไม่คานึงถึงฐานะอย่างที่เคยปฏิบัติมาก่อน

จดบันทึกหลักฐาน เพื่อผลประโยชน์ในการพัฒนา

เน้นการให้ความสนใจถึงความต้องการของคนงาน เพื่อสร้างความพึงพอใจและผลผลิตมากขึ้น โดยเชื่อว่าสภาพแวดล้อมทางสังคมมีผลต่อแรงจูงใจในการทำงาน

ฟอลเลทท์ ยอมรับความสำคัญของบุคคลในองค์กร โดยเสนอแนวคิด “องค์กรคือประชาชน” เน้นคุณค่าทางศีลธรรมและการบริหารจัดการทางสังคม

แนวทางในการบริหารโดยแบ่งเป็น 3 ทาง: ใช้พลังอานาจ ประนีประนอม และผสมผสาน

สร้างความสัมพันธ์ ติดต่อกับบุคคลโดยตรงทั้งในแนวตั้งและแนวนอน

การประเมินผลงานของพนักงาน การฝึกอบรม การจ่ายเงินเดือน การส่งเสริมสวัสดิการ เป็นต้น

ระบบคุณธรรม เป็นวิธีการคัดเลือกบุคคลเข้าทำงาน โดยใช้การสอบรูปแบบต่างๆ เพื่อประเมินความรู้ ความสามารถของบุคคลที่มีคุณสมบัติครบตามต้องการ โดยไม่คานึงถึงเหตุผลทางการเมืองหรือความสัมพันธ์ส่วนตัว

เปิดโอกาสที่เท่าเทียมกันในการสมัครงาน หากมีคุณสมบัติตรงตามเกณฑ์ ทุกคนมีสิทธิ์ถูกพิจารณาเท่าเทียมกัน

ระบบอุปถัมภ์ เป็นระบบการคัดเลือกบุคคลเข้าทำงานโดยใช้เหตุผลทางการเมืองหรือความสัมพันธ์เป็นหลักสำคัญ โดยไม่คานึงถึงความรู้ ความสามารถ และความเหมาะสม

ยึดถือความรู้ ความสามารถเป็นเกณฑ์ในการคัดเลือกบุคคลเข้าทำงาน

หลักประกันการปฏิบัติงานที่องค์กรให้แก่บุคลากร ว่าจะได้รับการคุ้มครอง จะไม่ถูกกลั่นแกล้งหรือถูกให้ออกจากงานโดยปราศจากความผิด

ทฤษฎี Z โดย ศาสตราจารย์ วิลเลียม โออุชิ เน้นการผสมผสานระหว่างระบบการบริหารจัด การแบบอเมริกาและแบบญี่ปุ่น มุ่งเน้นความสัมพันธ์ระยะยาว การมีส่วนร่วมของพนักงาน และวัฒนธรรมองค์กร

การจ้างงานแบบตลอดชีวิต (Lifetime Employment) พนักงานมีโอกาสได้ทำงานในองค์กรทั้งชีวิต

การประเมินผลงานของพนักงานในองค์กร

การควบคุมการทำงานโดยเน้นความไว้วางใจ ยืดหยุ่น มีการสื่อสารอย่างเปิดเผย

การตัดสินใจร่วมกัน (Consensual Decision Making) ส่งเสริมให้พนักงานมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ

เน้นความรับผิดชอบร่วมกันของพนักงาน

สร้างความผูกพันธ์ระหว่างพนักงานกับองค์กร

เน้นการควบคุมคุณภาพของงาน

การจัดการทรัพยากรมนุษย์ เป็ นกลยุทธ์สำคัญขององค์กรที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงาน และความสำเร็ จขององค์กร