SE_Chapter 02 การคิดเชิงระบบ 66 PDF

Summary

This document, SE_Chapter 02 การคิดเชิงระบบ 66, discusses system thinking, sustainable development goals (SDGs), and design thinking. It covers the concepts and processes of each topic, including the 4D model of Design Thinking.

Full Transcript

เป้าหมายการพัฒนา ที่ยั่งยืน (SDGs) และ System Thinking (Change Maker) ผู้สอน ผศ.ดร.นวลละอ โทรศัพท์ ที่มา : shorturl.at/uwBCX E-mail: nuanla งานอาจารย์ SBB410 อาคารบริหารธุ...

เป้าหมายการพัฒนา ที่ยั่งยืน (SDGs) และ System Thinking (Change Maker) ผู้สอน ผศ.ดร.นวลละอ โทรศัพท์ ที่มา : shorturl.at/uwBCX E-mail: nuanla งานอาจารย์ SBB410 อาคารบริหารธุรกิจสิรินธร คณะการบั 1. สามารถเรียนรู้และเข้าใจเกี่ยว วัตถุประสงค์การเรียนรู้ กับสามารถเรียนรู้และเข้าใจเกี่ยวกับ เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals : SDGs) 2. สามารถเรียนรู้และเข้าใจเกี่ยว กับการคิดเชิงออกแบบ (Design Thinking) 3. สามารถเรียนรู้และเข้าใจเกี่ยว กับการคิดเชิงระบบ (Systems Thinking) ที่มาของแนวคิ + ปี 2543 ประเทศไทย รวมนานาประเทศ 189 ประเทศ ประชุมองค์การที่สหประชาชาติ นคร นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา มีการตั้งเป้าหมายการพัฒนา ทั้งในระดับ ชาติและระดับสากลที่ทุกประเทศ ที่มาของแนวคิ ต่อมา เพื่อความต่อเนื่องของการพัฒนา องค์การสหประชาชาติ จึงได้กำหนดเป้า หมายการพัฒนาขึ้นใหม่ โดยอาศัยกรอบ ความคิดที่มองการพัฒนาเป็นมิติ (Dimensions) ของเศรษฐกิจ สังคม และ สิ่งแวดล้อม ให้มีความเชื่อมโยงกัน เรียกว่า เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals : SDGs) เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals : เป้าหมายที่ 1 ยุติความยากจนทุกรูปแบบ SDGs) ในทุกที่ เป้าหมายที่ 2 ยุติความหิวโหย บรรลุ ความมั่นคงทางอาหารและ ยกระดับโภชนาการ และส่งเสริมเกษตรกรรมที่ยั่งยืน เป้าหมายที่ 3 สร้างหลักประกันว่า คน มีชีวิตที่มีสุขภาพดี และส่งเสริม สวัสดิภาพ สำหรับทุกคนในทุกวัย เป้าหมายที่ 4 สร้างหลักประกันว่าทุก คนมีการศึกษาที่มีคุณภาพ อย่างครอบคลุมและ เท่าเทียม และสนับสนุนโอกาสในการเรียนรู้ ตลอดชีวิต เป้าหมายที่ 5 บรรลุความเสมอภาค เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals : เป้าหมายที่ 7 สร้างหลักประกันว่า ทุก SDGs) คนเข้าถึงพลังงานสมัยใหม่ ในราคาที่ สามารถซื้อหาได้ เชื่อถือได้ และยั่งยืน เป้าหมายที่ 8 ส่งเสริมการเติบโตทาง เศรษฐกิจที่ต่อเนื่อง ครอบคลุม และ ยั่งยืน การจ้างงานเต็มที่และมีผลิตภาพ และการมีงานที่สมควร สำหรับทุกคน เป้าหมายที่ 9 สร้างโครงสร้างพื้นฐาน ที่ทีความทนทาน ส่งเสริม การพัฒนาอุตสาหกรรมที่ครอบคลุมและยั่งยืน และส่งเสริมนวัตกรรม เป้าหมายที่ 10 ลดความไม่เสมอภาคภายใน และระหว่างประเทศ เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals : เป้าหมายที่ 13 ปฏิบัติการอย่างเร่ง SDGs) ด่วนเพื่อต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลง สภาพภูมิอากาศและผลกระทบที่เกิดขึ้น เป้าหมายที่ 14 อนุรักษ์และใช้ ประโยชน์จากมหาสมุทร ทะเลและ ทรัพยากรทาง ทะเลอย่างยั่งยืนเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน เป้าหมายที่ 15 ปกป้อง ฟื้นฟู และ สนับสนุนการใช้ระบบนิเวศบนบก อย่าง ยั่งยืน จัดการป่าไม้อย่างยั่งยืน ต่อสู้ การกลายสภาพเป็นทะเลทราย หยุดการ เสื่อมโทรมของที่ดินและฟื้นสภาพกลับมา ใหม่ และหยุดการสูญเสียความหลากหลายทาง ชีวภาพ ตัวอย่าง วนการคิดเชิงระบบ (System Des การคิดเชิงออกแบบ (DESIGN THINKING) การคิดเชิงออกแบบ (Design Thinking) คือ กระบวนการคิด เพื่อ แก้ไขปัญหา หรือโจทย์ ให้ถูกจุด ตลอด จนพัฒนาแนวคิดใหม่ๆ เพื่อแก้ไขปัญหา การแก้ปัญหาบนพื้นฐาน หรือโจทย์ที่ตั้งไว้ เพื่อที่จะหา กระบวนการนี้ จะเน้นยึดไปที่หลัก วิถีทางที่ดีที่สุด ของผู้ใช้/ผู้บริโภคและเหมาะสม (User-centered) ที่สุด เป็นหลัก โดยมีเจตนาในการสร้าง ผลลัพธ์ในอนาคตที่เป็นรูปธรรม เพื่อให้ตอบโจทย์ตลอดจนแก้ปัญหา ได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมไปถึง กระบวนการของการคิดเชิงออกแบบ (DESIGN THINKING PROCESS) Empathy – การทำความเข้าใจ กับปัญหาให้ถ่องแท้ในทุกมุม มอง ตลอดจนเข้าใจผู้ใช้กลุ่ม เป้าหมาย หรือเข้าใจในสิ่งที่  การเข้าใจคำถามอาจเริ่มต้นด้วยการ ต้องการแก้ไข ตั้งคำถาม โดยการเอาใจเขา มาใส่ใจเรา  สร้างสมมติฐาน กระตุ้นให้เกิดการ ใช้ความคิดที่นำไปสู่ความคิด สร้างสรรค์ที่ดีได้  การวิเคราะห์ปัญหาให้ถ้วนถี่ เพื่อ หาแนวทางที่ชัดเจน  การเข้าใจในปัญหาอย่างลึกซึ้งถูก ต้อง จะนำไปสู่การแก้ปัญหาที่ตรง Define - การสังเคราะห์ข้อมูล การนำเอาข้อมูลทั้งหมด มา วิเคราะห์เพื่อที่จะคัดกรองให้ เป็นปัญหาที่แท้จริง  การวิเคราะห์สาเหตุของปัญหา เลือกและ สรุปแนวทางความเป็นไปได้ เพื่อที่จะเป็น แนวทางในการปฎิบัติการต่อไป รวมถึงมี แก่นยึดในการแก้ไขปัญหาอย่างมีทิศทาง Ideate - การระดมความคิดใหม่ๆ การนำเสนอแนวความคิด แนวทาง การแก้ไขปัญหาในรูปแบบต่างๆ อย่าง ไม่จำกัด หรือการสร้างความคิด ต่างๆ ให้เกิดขึ้น โดยเน้นการหา แนวคิดและแนวทางในการแก้ไขปัญหา ให้มากที่สุด Prototype - การสร้างแบบจำลอง หรือการสร้างต้นแบบขึ้นมา เพื่อ ให้ผู้ใช้สามารถทดสอบก่อนที่จะนำ ไปผลิตจริง และตอบคำถาม หรือ กระตุ้นให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์ Test - การทดสอบโดยนำแบบจำลอง เพื่อที่จะได้เข้าใจสิ่งที่อยาก ที่สร้างขึ้นมาทดสอบกับผู้ใช้ รู้มากยิ่งขึ้น หรือกลุ่มเป้าหมาย เพื่อสังเกต ประสิทธิภาพการใช้งาน โดยนำผล ตอบรับ ข้อเสนอแนะต่างๆ ตลอดจนการ ประเมินผล เพื่อนำมาปรับปรุง แก้ไข ก่อนนำไปใช้จริง โมเดลเพชรคู่ (DOUBLE DIAMOND) กระบวนการของการคิดเชิงออกแบบ (Design Thinking Process) มีการนำมา ประยุกต์ใช้ และสร้างเป็นโมเดลขึ้น หลายรูปแบบ และหนึ่งในโมเดลที่นิยมนา มาใช้กับงานบริหารจัดการ คือ โมเดล เพชรคู่ (Double Diamond) ประกอบด้วย 4 ขั้นตอน หรือ 4D ดังนี้ 1. Discover – ขั้นตอนแรก เพื่อค้นพบ ปัญหา แล้วทำความเข้าใจกับปัญหาให้ลึก ซึ้งมากที่สุด หลากหลายมิติที่สุด เพื่อ 2. Define – การนำเอาข้อมูลทั้งหมดมา ที่จะนำไปสู่การหาทางออกที่ดีและตอบ วิเคราะห์ เพื่อที่จะคัดกรองให้เป็นปัญหา โจทย์มากที่สุด ที่แท้จริง กำหนดหรือบ่งชี้ว่าเป็นปัญหา อะไร ประเภทไหน เพื่อให้เข้าใจลักษณะของ ปัญหาให้ได้ชัดเจนที่สุดเพียงประเด็น 3. Develop – ขั้นตอนของการพัฒนา โดยการ เดียว เพื่อที่จะได้มีจุดหมายในการหาทาง ระดมสมอง เพื่อหาวิธีการแก้ปัญหาต่างๆ แก้ไขได้อย่างตรงประเด็น หรือแนวคิดการสร้างต้นแบบมีทิศทางชัดเจน และเพื่อ 4. Deliver – ขั้นตอนการจัดส่งมอบ เป็น สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ ขั้นตอนที่จะเลือกวิธีที่ดีที่สุด เพื่อ นำไปแก้ไขปัญหาจริง ปฎิบัติจริง เพื่อ ตอบโจทย์ปัญหาที่ตั้งไว้ หลักการคิดเชิงออกแบบ คิดอย่าง “เข้าใจ” คิดแบบ “ไม่มีกรอบ” คิดเร็ว ทำเร็ว นำไอเดียไป แปลงให้เป็น “ผลงาน” โดยคำนึง ถึง “เวลา” และ “ค่าใช้จ่าย” กรณีศึกษา: ร้านค้า TOY STUDIO ร้านขายโมเดล ของเล่น กรณีศึกษา: ร้านค้า TOY STUDIO ร้านขายโมเดล ของเล่น Empathy ถาม ข้อมูลจากร้านค้า ศึกษาหลักการตลาด 4P, SWOT,กลุ่ม Define วิเคราะห์ เป้าหมาย ปัญหา ศึกษาปัญหา จากทั้ง 2 ฝ่าย ลูกค้า และร้านค้า เพื่อหาความ เชื่อมโยงของ ปัญหาที่เกิดขึ้น กรณีศึกษา: ร้านค้า TOY STUDIO ร้านขายโมเดล ของเล่น Ideate หาแนวทางการ แก้ปัญหาให้ตรงจุด โดยการใช้เทคโนโลยี เข้ามาช่วยในการ จัดการร้านค้า ซึ่ง จะอำนวยความสะดวก Test การนำผลงาน ต่างๆ และการใช้การ ต้นแบบไปให้กลุ่ม Prototype ต้นแ ออกแบบมาช่วยในการ เป้าหมายทดลองใช้ บบผลงานที่จะ โปรโมทร้านค้าให้ งาน เพื่อจะได้รู้ นำไปแก้ไข น่าสนใจมากขึ้น ถึงการใช้งานจริง ปัญหาที่เกิด กรณีศึกษา: ร้านค้า TOY STUDIO ร้านขายโมเดล ของเล่น APPLICATION 1 กรณีศึกษา: ร้านค้า TOY STUDIO ร้านขายโมเดล ของเล่น WEBSITE 1 ารคิดเชิงระบบ (Systems Thi การคิดเชิงระบบ (Systems Thinking) ถูกตี พิมพ์ใน หนังสือที่ชื่อว่า “The Fifth Discipline” ของ Peter M. Senge ซึ่งกล่าวถึง วินัยทั้ง 5 ประการ ของ องค์กร แห่งการเรียนรู้ (Learning Organization) ได้แ ก่ 1. Personal Mastery (มุ่งสู่ความเป็นเลิศ และรอบรู้) 2. Mental Models (รูปแบบวิธีการคิดและ มุมมองที่เปิดกว้าง) 3. Shared Vision (การสร้างและสานวิสัย ทัศน์) ความคิด Systems Thinking คือ เชิงระบบ ที่มุ่งเน้น ในการมองภาพรวม มอง ให้เห็นความสัมพันธ์ ของสิ่งต่าง ๆ แทนที่ จะมองแต่สิ่งใดสิ่ง ความคิดเชิงระบบในการเติมน้ำ เมื่อจะแปร ความสำคัญของการคิดเชิงระบบ (Systems Thinking) เพราะสิ่งต่าง ๆ รอบตัวเรา รวมไปถึงตัวเราเองด้วยนั้น ล้วนมีความสัมพันธ์โยงใยที่ เกี่ยวเนื่องกัน “ระบบ” ประกอบด้วย 1. ส่วนประกอบ (Elements) 2. ความเชื่อมโยง (Linkage) 3. กลไกการทำงาน (Mechanism) ระเด็น “บ้านแม่กำปอง” ระเด็น “บ้านแม่กำปอง” “หมู่บ้านแม่กำปอง ของเรามีสิ่งดีๆ อยู่ใน พื้นที่ ไม่ว่าจะเป็น ทรัพยากรธรรมชาติ วิถี ชีวิต และวัฒนธรรมเก่า แก่ซึ่งยังหลงเหลืออยู่ สิ่งเหล่านี้เป็นต้นทุน สำหรับการขับเคลื่อน พัฒนาหมู่บ้าน ผมจึง ทำความเข้าใจกับชาว บ้าน สร้างกระบวนการ นายธีรเมศร์ ขจรพัฒนภิรมย์ ที่มา : เพื่อให้ทุกคนมีส่วน ผู้ใหญ่บ้านบ้านแม่กำปอง ร่วม ช่วยกันคิด ช่วยกัน http://community.onep.go.th/location/ban- การคิดเชิงระบบ (SYSTEMS THINKING) มีกระบวนการคิด 3 ลักษณะ 1. คิดลึก คือ การทำความเข้าถึงรากของ ปัญหา มีเครื่องมือหลัก คือ แบบจำลอง ภูเขาน้ำแข็ง (Iceberg model) และ บันได 2. คิดครบ การอนุมาน คือ การคิดอย่างครบถ้วน (Ladder of Inference) ด้วย การมองจากภาพใหญ่ และทำความเข้าใจความ สัมพันธ์ มีเครื่องมือหลัก คือ แผนภาพวงจร สาเหตุ (Causal Loop Diagram : CLD) และ 3. คิดยาว คือ การสังเกต แผนภาพการสะสมและการไหล และทำความ (Stocks and Flows เข้าใจพลวัตของระบบในระยะยาว Diagram : SFD) มีเครื่องมือหลัก คือ กราฟการ เปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมในช่วงเวลา คิดลึก – ด้วย แบบจำลองภูเขาน้ำแข็ง (ICEBERG MODEL) - ช่วยให้เข้าใจถึงรากเง้าของพฤติกรรม ณ์ (events) เป็นสิ่งที่สังเกตเห็นได้ แนวโน้ม (patterns) คือ แนวโน้มหตุ การณ์ที่เกิด ขึ้นเมื่อ โครงสร้าง สังเกตในกรอบ (structure) ระยะเวลาหนึ่ง แสดงให้เห็น ความสัมพันธ์ ขององค์ ประกอบย่อยใน Mental models ระบบ คือ วิธีการมอง โลกของผู้ที่ (SCG We Are Greeners, อยู่ในระบบ 2016) คิดลึก – ด้วย บันไดการอนุมาน (LADDER OF INFERENCE) - ช่วยให้สามารถตรวจสอบสมมติฐานของเรา อย่างเป็นขั้นเป็นตอน เพื่อมองโลกอย่างไม่มีอคติและช่วยให้ ตัดสินใจได้ดีขึ้น (SCG We Are Greeners, 2016) สรุป บันไดการอนุมาน (Ladder of Inference) จะช่วยให้เรามองเหตุการณ์ ตามความ เป็นจริง เป็นเครื่องมือช่วย สะท้อนคิด (self-reflection) ของ นักคิดเชิงระบบ ช่วยให้สามารถเข้าใจระบบได้อย่าง ที่เป็นจริง โดยแยกแยะข้อมูลที่ เป็นข้อเท็จจริง หรือสิ่งที่เกิด ขึ้นจริง (facts) ออกจากการตีความ ตามความเชื่อ หรือประสบการณ์ใน อดีตของเรา (interference) ซึ่งอาจจะ 2. คิดครบ คือ การคิดอย่างครบถ้วน ด้วย การมองจากภาพใหญ่ และทำความเข้าใจความ สัมพันธ์ มีเครื่องมือหลัก คือ แผนภาพวงจร สาเหตุ (Causal Loop Diagram : CLD) และ แผนภาพการสะสมและการไหล (Stocks and Flows Diagram : SFD) คิดครบ – ด้วย แผนภาพวงจรสาเหตุ (CAUSAL LOOP DIAGRAM : CLD) เป็นหนึ่งในเครื่องมือของ SYSTEMS THINKING ที่ช่วยให้เห็นความสัมพันธ์ระหว่างองค์ ประกอบย่อย (ELEMENT) ในระบบ ซึ่งส่งผลต่อพฤติกรรมของระบบ CLD (SCG We Are Greeners, 2016) และ แผนภาพวงจรสาเหตุ เป็นเครื่องมือที่ใช้ อธิบายความสัมพันธ์ เชิง คุณภาพระหว่างสาเหตุ หรือปัจจัยที่เกี่ยวข้อง กับปัญหากับผลลัพธ์ที่ สนใจศึกษา (SCG We Are Greeners, 2016) วงจรเสริมกำลัง (REINFORCING LOOP) - ก่อให้เกิดผลกระทบแบบก้อน หิมะ (SNOWBALL EFFECT) (SCG We Are Greeners, 2016) วงจรสร้างสมดุล (BALANCING LOOP) มีคุณสมบัติในการรักษาสมดุล (SCG We Are Greeners, 2016) นึ่งอาจจะมีความสัมพันธ์มากกว่า 1 feedbac ความสัมพันธ์แบบ วงจรเสริมกำลัง กับการ เกิด เพราะเมื่อมีการเกิด ก็ ทำให้ประชากรเพิ่มขึ้น และเมื่อมี ประชากรเพิ่มขึ้น ก็ทำให้มีการเกิดมาก ขึ้น ความสัมพันธ์แบบ วงจรสร้าง We Are Greeners, 2016) สมดุล กับจานวนประชากร เมื่อ 3. คิดยาว คือ การสังเกต และทำความ เข้าใจพลวัตของระบบในระยะยาว มีเครื่องมือหลัก คือ กราฟการ เปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมในช่วงเวลา (Behavior-over-time (BOT) graphs) คิดครบ – ด้วย แผนภาพการสะสมและการไหล (STOCKS AND FLOWS DIAGRAM : SFD) แผนภาพการสะสมและการไหล เป็นหนึ่งใน เครื่องมือเชิงปริมาณที่ช่วยทำให้เข้าใจ พลวัต (dynamics) ของระบบ โดย stock คือ ค่าที่สนใจ stock จะต้องเป็นสิ่งที่วัด หรือนับได้ flow คือ การไหลเข้าหรือออกที่ส่งผลต่อ การสะสมของ stock (SCG We Are Greeners, 2016) คิดยาว – BEHAVIOR-OVER-TIME (BOT) GRAPHS กราฟการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมในช่วง เวลา We Are Greeners, 2016) ใบงานที่

Use Quizgecko on...
Browser
Browser