LIVE #27 A-Level Past Paper PDF
Document Details
Uploaded by FeasibleOboe
Khon Kaen University
2022
A-Level
Tags
Summary
This document is a past paper for phase 2 of an A-Level course focusing on a summary of intensive material related to Buddhism. The paper covers key Buddhist concepts, such as the Four Noble Truths, and the Eightfold Path. It's aimed at A-Level students preparing for exams.
Full Transcript
1 LIVE ตวิ ยงิ ยาว งคม A-Level ครงั้ ท ี่ 27 (24 ตุลาคม 2565) #27 Phase 2 : สรุปเ อหาแบบ Intensive สา...
1 LIVE ตวิ ยงิ ยาว งคม A-Level ครงั้ ท ี่ 27 (24 ตุลาคม 2565) #27 Phase 2 : สรุปเ อหาแบบ Intensive สาระศาสนา ตอน 4 : สรุป งหมด (คัดเฉพาะ คิดว่าจะออกแน่ๆ) คอร์สเรียนออนไลน์ สังคม+ไทย Jax สอนสังคมและภาษาไทย ✘ห้ามน เอกสารออกไปเผยแพร่ทุกรูปแบบ สั ำ ที่ ทั้ นื้ ที่ 2 หลักธรรมพุทธ (คัดเอาเฉพาะ ออก % นไป) อริยสัจ = ความจริ งอันประเสริ ฐ ประการ ธรรม น ไปสูก่ ารพ้ นทุกข์ ใช้ แก้ ไขปั ญหาในชีวิต. ทุกข์ = ผล สภาวะทนได้ ยาก ความไม่ สบายกายไม่ สบายใจ (ธรรม ควรรู้ ) ได้ แก่ ขันธ์ (นามรูป จิต เจตสิก), โลกธรรม , ธรรมนิยาม(ไตรลักษณ์),. สมุทยั = เหตุ เหตุแห่ งทุกข์ อันได้ แก่ ตัณหา (ธรรม ควรละ) ได้ แก่ หลักกรรม (นิยาม ), วิตก , กรรมนิยาม (กรรม ), มิจฉาวณิชชา , ปฏิจจสมุปบาท , นิวรณ์ , อุปาทาน , อบายมุข. นิโรธ = ผล สภาวะดับทุกข์ หรื อ นิพพาน (นิพพานในชาติ คือ การ จิตละจากกิเลสตัณหา) (ธรรม ควรบรรลุ) ได้ แก่ ภาวิต , วิมตุ ติ , นิพพาน. มรรค = เหตุ เหตุแห่ งดับทุกข์ หรื อ วิธีดบั ทุกข์ (ธรรม ควรปฏิบตั )ิ ได้ แก่ พระสัทธรรม , ปัญญาวุฒธิ รรม , พละ , อุบาสกธรรม , อปริ หานิยธรรม , ปาปณิกธรรม , ทิฏฐธัมมิกตั ถสังวัตตนิกธรรม , โภคอาทิยะ , กุลจิรัฏฐิ ติธรรม อริ ยวัฑฒิ , อธิปไตย , สาราณียธรรม , ทศพิธราชธรรม , วิปัสสนาญาณ , มงคล ไตรสิกขา ไตรสิกขา หรื อ อริ ยมรรค ประการ = การฝึ กฝนอบรมตนเอง น. ศีลสิกขา (อธิศีลสิกขา) = การอบรมกาย วาจา ให้ สงบเรี ยบร้ อย เป็ นปรกติ ได้ แก่. สัมมากัมมันตะ : กระท ชอบ ท แต่ความดี ท แต่ ง สุจริ ต. สัมมาวาจา : วาจาชอบ พูดชอบ พูดแต่ งดี ๆ. สัมมาอาชีวะ : เ ยงชีพชอบ ประกอบอาชีพสุจริ ต. สมาธิสิกขา / จิตสิกขา (อธิจิตตสิกขา) = การอบรมจิต ให้ สงบเรี ยบร้ อย เป็ นปกติ ได้ แก่. สัมมาสมาธิ : จิต ง นชอบ จิตสงบไม่ฟงุ้ ซ่าน. สัมมาสติ : ระลึกรู้ตวั ชอบ ไม่หลงใหล. สัมมาวายามะ : เพียรระวังตนชอบ ไม่ให้ ท ความ วและห นรักษาความดีให้ ดี ง น. ปั ญญาสิกขา (อธิปัญญาสิกขา) = การอบรมปั ญญา ให้ เกิดความรู้แจ้ ง ได้ แก่. สัมมาสังกัปปะ : คิดชอบ คิดแต่ งดีสจุ ริ ต. สัมมาทิฏฐิ : มีความเห็นชอบ มีความคิดเห็นถูกต้ องตามท นองคลองธรรมของหลักศาสนาพุทธ เช่น เ อในอริ ยสัจ เ อในกฎแห่งกรรมว่า ท ดีได้ ดี ท วได้ ว เ อในสังสารวัฏ การเวียนว่ายตายเกิด คอร์สเรียนออนไลน์ สังคม+ไทย Jax สอนสังคมและภาษาไทย ✘ห้ามน เอกสารออกไปเผยแพร่ทุกรูปแบบ 1 2 3 4 1 1 2 3 4 2 6 5 7 3 8 ชื่ ที่ ที่ ที่ ที่ ำ 5 4 ➡︎ ➡︎ 7 ➡︎ ➡︎ 4 ลี้ ตั้ ชื่ 3 มั่ 4 5 8 5 ำ 3 4 สิ่ ำ 4 6 3 ที่ 5 สิ่ 5 ำ ำ ำ ำ 6 3 ชั่ ำ สิ่ ชั่ ที่ 1 4 0 ชั่ 8 ำ มั่ 3 ขั้ ชื่ 5 4 นี้ ที่ 1 2 ที่ 9 5 5 ยิ่ ขึ้ 8 3 8 0 5 ขึ้ 4 3 ขันธ์ = องค์ประกอบแห่งชีวิตมนุษย์ ประการ ( รูป นาม) *การเกิด นของขันธ์ เป็ นการเ มต้ นของทุกข์ในชีวิต ) รู ป (รู ปธรรม) : รู ปร่ าง ร่างกายของมนุษย์อนั ประกอบไปด้ วยธาตุ คือ ดิน (เ อหนังมังสา กระดูกของร่างกายเรา) (เลือด หนอง ลาย ในร่างกาย) ลม (แก๊ สในร่างกาย ในกระเพาะอาหาร) ไฟ (อุณหภูมิความร้ อนของร่างกาย) ) เวทนา (นามธรรม) : ความรู้ สกึ มี ประเภท คือ สุข ทุกข์ เฉยๆ ) สัญญา (นามธรรม) : ความจ ได้ หมายรู้ ก หนดรู้ งต่าง ๆ ได้ โดยไม่หลงลืม ) สังขาร (นามธรรม) : ความคิด จะปรุงแต่งจิตให้ กระท งต่าง ๆ ) วิญญาณ (นามธรรม) : ความรั บรู้ ผ่ านทางสัมผัสต่ างๆ ง (อายตนะ คือ ตา หู จมูก น กาย ใจ) นิยาม = กฎธรรมชาติ ครอบคลุมทุก ง ได้ แก่. อุตุนิยาม : กฎธรรมชาติ เ ยวกับความเป็ นไปของปรากฏการณ์ในธรรมชาติ เ ยวกับ ง ไม่มีชีวิตทุกชนิด เช่น ปรากฏการณ์ของลมฟ้าอากาศ (เทียบได้ กบั วิชาฟิ สกิ ส์). พีชนิยาม : กฎธรรมชาติ ครอบคลุมความเป็ นไปของ งมีชีวิต งพืชและสัตว์ เ ยวข้ องกับการสืบพันธุ์ (ชีวะ). จิตนิยาม : กฎธรรมชาติ เ ยวกับการท งานของจิต. กรรมนิยาม : กฎแห่งเหตุผล การให้ ผลของกรรม. ธรรมนิยาม : กฎธรรมชาติเ ยวกับความเป็ นเหตุเป็ นผลของสรรพ ง ครอบคลุมกฎข้ อ น งหมด ไตรลักษณ์ ไตรลักษณ์ หรือ สามัญญลักษณ์ = ลักษณะสามัญของสรรพ งบนโลก งมีชวี ติ และไม่มชี วี ติ จะเป็ นไปตามกฎ ประการ. อนิจจัง : สรรพ งล้ วนไม่เ ยงแท้ ไม่แน่นอน ล้ วนต้ องมีการเป ยนแปลง. ทุกขัง : สรรพ งล้ วนทนได้ ยาก คงทนอยูไ่ ม่ได้. อนัตตา : สรรพ งล้ วนไม่มีตวั ตน เราควบคุมมันไม่ได้ ไม่เป็ นตัวตนของเรา ปฏิจจสมุปบาท “ ง เกิด นโดยอาศัย งกันและกัน และสามารถก่ อเกิด นพร้ อมกัน” การเกิด นพร้ อมแห่งธรรม งหลายเพราะอาศัยกัน เป็ นธรรม อาศัยกันเกิด นพร้ อมกัน มี ข้ อ ได้ แก่ อวิชชา สังขาร วิญญาณ นามรูป สฬายตนะ(ประสาท ) ผัสสะ เวทนา ตัณหา อุปาทาน ภพ ชาติ ชรา *ค ว่า ปฏิจจ แปลว่า อาศัย / สมุปบาท แปลว่า พร้ อมกัน คอร์สเรียนออนไลน์ สังคม+ไทย Jax สอนสังคมและภาษาไทย ✘ห้ามน เอกสารออกไปเผยแพร่ทุกรูปแบบ 1 น้ 2 3 4 5 1 2 3 5 4 1 2 3 สิ่ ำ ที่ นื้ ำ 5 ขึ้ น้ 5 ขึ้ ำ ำ ที่ ขึ้ ที่ น้ ำ 5 ซึ่ สิ่ สิ่ สิ่ ที่ ที่ ที่ กี่ กี่ สิ่ 5 กี่ ขึ้ ริ่ ำ ทั้ ที่ ที่ ที่ 3 1 ำ 4 ำ 1 2 สิ่ สิ่ ำ ขึ้ สิ่ สิ่ ทั้ 6 ทั้ 6 สิ่ ลี่ 4 ทั้ 6 กี่ กี่ สิ่ อื่ ที่ ทั้ ลิ้ 3 4 วิมุตติ = หลุดพ้ นจากกิเลสสาเหตุแห่งทุกข์ ผู้ปฏิบตั ธิ รรม ได้ วิมตุ ติ จะมีความสุข เรี ยกว่า “วิมตุ ติสขุ ”. วิกขัมภนวิมุตติ : หลุดพ้ นด้ วยข่มไว้ คือข่มกิเลสและอกุศลกรรมต่างๆ ได้ วคราวด้ วยสติสมั ปชัญญะ. ตทังควิมุตติ : หลุดพ้ นด้ วยองค์ นๆ คือ หลุดพ้ นจากกิเลสด้ วยธรรม เป็ นคูป่ รับหรื อตรงกันข้ าม เช่น ละการฆ่าสัตว์ด้วยเมตตา. สมุจเฉทวิมุตติ : หลุดพ้ นด้ วยตัดขาด คือ หลุดพ้ นจากกิเลสโดยใช้ มรรคญาณ คือ โสตาปั ตติ มรรค สกทาคามิมรรค อนาคามิมรรค และอรหัตตมรรค เป็ นเค องตัด. ปฏิปัสสัทธิวมิ ุตติ : หลุดพ้ นด้ วยสบงระงับ เป็ นความหลุดพ้ น งยืน เกิดจากสมุจเฉทวิมตุ ติหมด งกิเลส. นิสสรณวิมุตติ : หลุดพ้ นด้ วยสลัดออกได้ เป็ นสภาวะ จิตหลุดพ้ นออกไปจากกิเลส งปวงจิตเป็ นสุข อริยวัฑฒิ = หลักความเจริ ญของอารยชน ใช้ เป็ นเกณฑ์ ประเมินผลทางการศึกษา. ศรั ทธา : เ อ นในพระรัตนตรัย หลักความจริ ง ความดีงามอันมีเหตุผล. ศีล : ประพฤติดี มีวินยั เ ยงชีพสุจริ ต. สุตะ : การเล่าเรี ยน มีความรู้ดี รู้มาก คงแก่เรี ยน. จาคะ : เ อแผ่ เสียสละ. ปั ญญา : ความรอบรู้ รู้คดิ รู้พิจารณา เข้ าใจเหตุผล รู้โลกและชีวิตตามความเป็ นจริ ง อธิปไตย = ทางพุทธศาสนา อธิปไตย หมายถึง อ นาจของจิตหรือความคิด ถือเอา งใด งห งเป็ นใหญ่. อัตตาธิปไตย : ถือตนเป็ นใหญ่ = ยกตนเป็ นเหตุ เ อละ ว ท ดี ท ใจให้ บริ สทุ. โลกาธิปไตย : ถือโลกเป็ นใหญ่ = การยกเอาความนิยมของชาวโลกเป็ นเหตุเ อละ ว ท ดีท ใจบริ สทุ. ธัมมาธิปไตย : (ธรรมาธิปไตย) มีธรรมเป็ นใหญ่ = การยกความถูกต้ อง ความเป็ นจริ งเ อเป็ นเหตุละ ว กรรม = การกระท โดยเจตนา. อกุศลกรรม : กายทุจริ ต วจีทจุ ริ ต มโนทุจริ ต. กุศลกรรม : กายสุจริ ต วจีสจุ ริ ต มโนทุจริ ต คอร์สเรียนออนไลน์ สังคม+ไทย Jax สอนสังคมและภาษาไทย ✘ห้ามน เอกสารออกไปเผยแพร่ทุกรูปแบบ ธิ์ ธิ์ 2 3 4 5 1 2 4 3 5 2 3 2 1 ำ 1 1 5 2 ำ 5 ชื่ ผื่ มั่ ำ ลี้ นั้ ที่ ที่ พื่ ที่ ที่ ยั่ ชั่ สิ่ ที่ ำ สิ่ ำ นึ่ ที่ พื่ ชั่ 4 รื่ พื่ ชั่ ำ ทั้ ำ ซึ่ ชั่ 5 กรรม กรรม ในหนังสือวิสทุ ธิมรรค งแต่งโดยพระพุทธโฆษาจารย์ พระเถระชาวอินเดีย ได้ แบ่งกรรมไว้ ประเภท ตามกาลเวลา ตามหน้ า และ ตามความหนักเบา กรรมให้ ผลตามเวลา. ทิฏฐธรรมเวทนียกรรม = กรรมให้ ผลในชาติ. อุปปั ชชเวทนียกรรม = กรรมให้ ผลในชาติหน้ า. อปราปรเวทนียกรรม = กรรมให้ ผลในชาติตอ่ ๆ ไป. อโหสิกรรม = กรรม เลิกให้ ผล คือให้ ผลเสร็จไปแล้ ว หรื อหมดโอกาสจะให้ ผลต่อไป กรรมให้ ผลตามหน้ า. ชนกกรรม = กรรม แต่งมาดีหรื อ ว. อุปถัมภกกรรม = กรรม สนับสนุน คือ ถ้ ากรรมเดิมหรื อชนกกรรมแต่งดี ส่งให้ ดี ง น กรรมเดิมแต่งให้ ว ก็สง่ ให้ ว ง น. ปุปปี ฬกกรรม = กรรมบีบ นหรื อขัดขวางกรรมเดิม คอยเบียนชนกกรรม เช่นเดิมแต่งมาดี เบียนให้ ว เดิมแต่งมา ว เบียนให้ ดี. อุปฆาตกกรรม = กรรมตัดรอน เป็ นกรรมพลิกหน้ ามือเป็ นหลังมือ เช่นเดิมชนกกรรมแต่งไว้ ดีเลิศ กลับทีเดียว ลงเป็ นขอทานหรือตายไปเลย หรือเดิมชนกกรรมแต่งไว้ เลวมาก กลับทีเดียวเป็ นพระราชาหรือมหาเศรษฐี ไปเลย กรรมให้ ผลตามความหนักเบา. ครุ กรรม = กรรมหนัก กรรมฝ่ ายดี เช่น ท สมาธิจนได้ ฌาน กรรมฝ่ าย ว เช่น ท อนันตริ ยกรรม มีฆา่ บิดา มารดา เป็ นกรรม จะให้ ผลโดยไม่มีกรรม นมาขวางหรื อ นได้. พหุลกรรม = กรรม ท จนชิน. อาสันนกรรม = กรรม ท เ อใกล้ ตาย หรื อ เอาจิตใจจดจ่อในเวลาใกล้ ตาย อาสันนกรรม ย่อมส่งผลให้ ไปสู่ ดีหรื อ วได้ เปรี ยบเหมือนโคแก่ อยูป่ ากคอก แม้ แรงจะน้ อย แต่เ อเปิ ดคอกก็ออกได้ ก่อน. กตัตตากรรม = กรรมสักแต่วา่ ท คือ เจตนาไม่สมบูรณ์ อาจจะท ด้ วยความประมาทหรื อรู้เท่าไม่ถงึ การณ์ แต่ก็อาจส่งผลดีร้ายให้ ได้ เหมือนกัน ในเ อไม่มีกรรม นจะให้ ผลแล้ ว หิริ โอตตัปปะ = ธรรมคุ้มครองโลก ธรรม เป็ นหัวใจของศาสนาพุทธ. หิริ : ความละลายบาป. โอตตัปปะ : ความกลัวต่อผลของบาป คอร์สเรียนออนไลน์ สังคม+ไทย Jax สอนสังคมและภาษาไทย ✘ห้ามน เอกสารออกไปเผยแพร่ทุกรูปแบบ 2 1 1 ำ 2 1 4 3 2 1 2 3 1 4 2 3 4 1 ที่ 2 1 2 ชั่ ที่ ชั่ ที่ ชั่ ที่ ที่ ซึ่ ที่ ที่ ที่ ำ ที่ ชั่ ำ คั้ มื่ ยิ่ ขึ้ ที่ ำ ชั่ มื่ ำ อื่ ที่ ที่ นี้ อื่ กั้ ำ มื่ ชั่ ำ ยิ่ ขึ้ ชั่ 6 ปปั ญจธรรม = เค องขัดขวางไม่ให้ จิตเข้ าถึงอริ ยสัจ. ตัณหา (โลภะ) : อยากได้ อยากมี อยากเป็ น. มานะ (ความส คัญตน) : ถือว่าตนอยูเ่ หนือคน น. ทิฐิ (ความเห็นผิด) : ยึด นความคิดของตนเอง อัตถะ = ประโยชน์ ได้ รับจากการปฏิบตั ธิ รรม. ทิฏฐธัมมิกัตถะ : ประโยชน์ในปั จจุบนั (หัวใจเศรษฐี ) ได้ แก่. อุฏฐานสัมปทา (ขยัน). อารักขสัมปทา (ประหยัด). กัลยาณมิตตตา (คบมิตร ดี). สมชีวิตา (ด เนินชีวิตถูกต้ อง). สัมปรายิกัตถะ : ประโยชน์ จะได้ รับในภพภูมิหน้ า อย่าง ได้ แก่. สัทธาสัมปทา = ถึงพร้ อมด้ วยศรัทธา คือ ง ควรเ อ เช่น เ อว่าท ดีได้ ดี ท วได้ ว เป็ นต้ น. สีลสัมปทา = ถึงพร้ อมด้ วยศีล คือ รักษากาย วาจา เรี ยบร้ อยดีไม่มีโทษ. จาคสัมปทา = ถึงพร้ อมด้ วยการบริ จาคทาน เป็ นการเฉ ยสุขให้ แก่ผ้ ู น. ปั ญญาสัมปทา = ถึงพร้ อมด้ วยปั ญญา รู้จกั บาปบุญคุณโทษ ประโยชน์ มิใช่ประโยชน์. ปรมัตถะ : สภาวะ มีอยูโ่ ดยปรมัตถ์ ง เป็ นจริ งโดยความหมายสูงสุด สภาพธรรมตามความเป็ นจริ ง เป็ นสภาพธรรม เป็ นไปตามเหตุปัจจัย มี ประการ (ประโยชน์ นสูงสุด คือ บรรลุนิพพาน). จิต สภาพ คิด ภาวะ รู้แจ้ งอารมณ์ เป็ นสภาพธรรม เป็ นใหญ่เป็ นประธานในการรู้ ง ปรากฏ เช่น เห็น ได้ ยิน เป็ นต้ น จิต (วิญญาณ) เป็ นสภาพรู้ เป็ นนามธรรม มีลกั ษณะไตรลักษณ์ (อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา). เจตสิก คือ ภาวะ ประกอบกับจิต คุณสมบัตแิ ละอาการของจิต เป็ นสภาพธรรมอีกประเภทห ง เกิด ร่วมกับจิต รู้ งเดียวกับจิต ดับพร้ อมกับจิต และเกิด เดียวกับจิต เป็ นนามธรรม มีลกั ษณะไตรลักษณ์ (อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา). รูป คือ สภาวะ เป็นร่าง พร้ อม งคุณและอาการ เป็นรูปธรรม มีลกั ษณะไตรลักษณ์ (อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา). นิพพาน คือ สภาวะ นกิเลสและทุกข์ งปวง สภาวะ ปราศจากตัณหา เป็ นขันธวิมตุ ติ คือพ้ นจากขันธ์ *ปรมัตถธรรม มาจากค ว่า ปร + อัตถ + ธรรมะ หมายความถึงสภาพธรรม มีลกั ษณะเฉพาะของตนจริงๆ คอร์สเรียนออนไลน์ สังคม+ไทย Jax สอนสังคมและภาษาไทย ✘ห้ามน เอกสารออกไปเผยแพร่ทุกรูปแบบ 2 1 3 1 2 3 รื่ ำ 3 2 1 4 1 3 ที่ 4 ำ 1 3 2 4 2 3 4 4 4 3 ที่ ำ ที่ ที่ ำ ที่ ที่ ที่ ที่ ที่ 4 สิ่ ที่ มั่ สิ้ สิ่ ที่ ทั้ 4 4 อื่ ทั้ สิ่ ที่ ที่ ชื่ ชั้ ที่ ที่ ลี่ ชื่ ที่ ำ อื่ สิ่ ที่ ำ ชั่ ชั่ นึ่ ที่ 7 กุศลมูล = นฐานแห่งจริ ยธรรมฝ่ ายดี. อโลภะ : ไม่อยากได้. อโทสะ : ข่มอารมณ์. อโมหะ : มีปัญญา อกุศลมูล = มูลเหตุส คัญแห่งความ ว. โลภะ : อยากได้. โทสะ : คิดประทุษร้ าย. โมหะ : หลงผิด คิหสิ ุข = ความสุขของผู้ครองเรื อน อันเกิดจากกรรมฝ่ ายกุศล. อัตถิสุข : สุขเกิดจากการมีทรัพย์. โภคสุข : สุขเกิดจากการใช้ ทรัพย์. อนณสุข : สุขเกิดจากการไม่เป็ นห. อนวัชชสุข : สุขเกิดจากการประพฤติดี พรหมวิหาร = หลักธรรม ใช้ ในการปกครอง. เมตตา : คิดจะช่วย. กรุ ณา : ลงมือช่วย. มุทติ า : พลอยยินดี. อุเบกขา : วางตัวเป็ นกลาง อิทธิบาท = หลักธรรมแห่งความส เร็จ. ฉันทะ : รักในงาน ท. วิริยะ : ขยัน. จิตตะ : เอาใจใส่. วิมังสา : ปรับปรุง คอร์สเรียนออนไลน์ สังคม+ไทย Jax สอนสังคมและภาษาไทย ✘ห้ามน เอกสารออกไปเผยแพร่ทุกรูปแบบ 3 2 1 3 2 1 3 2 1 4 4 3 2 1 1 4 3 2 พื้ ำ ำ ที่ 3 3 4 4 ที่ ำ ำ ชั่ นี้ 8 สังคหวัตถุ = หลักธรรม ช่วยยึดเห ยวจิตใจคน. ทาน : การให้. ปิ ยวาจา : พูดจาไพเราะอ่อนหวาน. อัตถจริยา : ท ง เป็ นประโยชน์แก่ผ้ ู น. สมานัตตตา : วางตนเหมาะสม ฆราวาสธรรม = หลักธรรมของผู้ครองเรื อน. สัจจะ : ความ อสัตย์. ทมะ : การฝึ กตน ข่มใจ. ขันติ : อดทน. จาคะ : เสียสละ โภคอาทิยะ = แบ่งทรัพย์เ อเ ยงชีพ. ญาติพลี : สงเคราะห์ญาติ. ใช้ จา่ ยเ ยงตัวเอง และครอบครัว ิ ลี : ต้ อนรับแขก. อติถพ. ใช้ จา่ ยบ รุงมิตรสหาย เ อนร่วมงาน. ปุพพเปตพลี : ท บุญอุทิศให้ ผ้ ลู ว่ งลับ. ใช้ จา่ ยเ อป้องกันอันตรายต่างๆ. ราชพลี : บ รุงราชการ เช่น เสียภาษี. ท พลี อย่าง. เทวดาพลี : สักการะบ รุงหรื อท บุญอุทิศ ง. ใช้ เ อบ รุงสมณพราหมณ์ เคารพบูชาความเ อถือ ทศพิธราชธรรม = ธรรมของนักปกครอง (ไม่ใช่แค่กษัตริ ย์เท่า น). ทาน : การให้. ศีล : ความประพฤติดีงาม. บริจาค : การเสียสละ. อาชวะ : อตรง. มัทวะ : อ่อนโยน. ตบะ : ละกิเลสตัณหา. อักโกธะ : ไม่โกรธ. อวิหงิ สา : ไม่เบียดเบียน ไม่ใช้ ความรุนแรง. ขันติ : อดก น. อวิโรธนะ : ความไม่คลาดธรรม ( ง นอยูใ่ นธรรม) คอร์สเรียนออนไลน์ สังคม+ไทย Jax สอนสังคมและภาษาไทย ✘ห้ามน เอกสารออกไปเผยแพร่ทุกรูปแบบ 3 2 1 4 1 4 3 2 1 2 3 4 5 4 3 2 1 9 8 7 6 5 1 3 2 1 4 5 ที่ 0 ำ พื่ ำ ลี้ พื่ 5 ำ ำ ที่ ซื่ พื่ ำ ลั้ ซื่ 4 ลี้ ำ 5 สิ่ ชื่ ำ ที่ 4 นี่ ำ พื่ ำ ตั้ มั่ อื่ นั้ สิ่ 9 อปริยหานิยธรรม = ธรรม ป้องกันความเ อม (เน้ นเ ยวกับการประชุม). ห นประชุมกันเสมอ. พร้ อมเพรี ยงกันประชุม พร้ อมเพรี ยงกันเลิกประชุม พร้ อมเพรี ยงกันท กิจกรรมส่วนรวม. ปฏิบตั ติ ามระเบียบแบบแผนเดิม ตาม บัญญัตไิ ว้ ไม่ถอน ง บัญญัตไิ ว้ แล้ ว. เคารพผู้อาวุโส ให้ ความเคารพนับถือแก่นกั ปกครองผู้ใหญ่ และฟั งค ของท่าน. ไม่ บงั คับกด เพศแม่ ไม่เอากุลสตรี มาเป็ นนางบ เรอ. สักการะ เคารพ นับถือ บูชา ปูชนียสถาน วรัฐ. ให้ การคุ้มครองแก่ นักบวช ผู้ทรง นในศีล สัปปุริสธรรม = ธรรมของคนดี. ธัมมัญ ตา : รู้จกั หลักของเหตุผล. อัตถัญ ตา : รู้จกั ผล เกิดจากเหตุ. อัตตัญ ตา : รู้จกั ตนเอง. มัตตัญ ตา : รู้จกั ความพอๆ. กาลัญ ตา : รู้จกั กาลเทศะ. ปริสัญ ตา : รู้จกั สถาน. ปุคคลัญ ตา : รู้จกั บุคคล กุลจิรัฏฐิตธิ รรม = หลักธรรมส หรับการบริ หารจัดการครอบครัวให้ เจริ ญ และ ง ง. นัฏฐคเวสนา : การรู้จกั หา ค้ นหา ข้ าวของเค องใช้ เค องมือ งของทุกอย่าง หายไปให้ กลับคืนมา. ชิณณปฏิสังขรณา : การรู้จกั ซ่อมแซม งของ ช รุด ใช้ งานไม่ได้ ให้ กลับมาใช้ งานใหม่. ปริมติ ปานโภชนา : ความประมาณตนในการอุปโภค และบริ โภคไม่ให้ ใช้ หรื อกินเกินความจ เป็ น. อธิปัจจสีลวันตสถาปนา : สามี และภรรยา พึงเป็ นผู้ด รงอยูใ่ นศีลธรรมอยูเ่ ป็ นนิจ โดยศีล นฐาน คือ ศีล คอร์สเรียนออนไลน์ สังคม+ไทย Jax สอนสังคมและภาษาไทย ✘ห้ามน เอกสารออกไปเผยแพร่ทุกรูปแบบ 1 2 3 4 5 6 7 1 2 3 4 มั่ ำ ที่ 7 1 2 3 4 6 5 ญุ ญุ ญุ ญุ ำ ขี่ ญุ ญุ ญุ 7 สื่ ที่ 4 7 กี่ ที่ มั่ ที่ ทั่ สิ่ ำ รื่ ที่ ำ มั่ คั่ สิ่ ที่ รื่ ำ ำ ำ สิ่ ที่ พื้ ำ 5 10 สาราณียธรรม = ธรรมเป็ น งแห่งความระลึกถึงกัน เ อกูลกันไม่ทะเลาะวิวาทกัน อันจะเป็ น ง ก่อให้ เกิดความรักความสามัคคีกนั ตลอดไป. กายกรรม = การกระท ทางกาย ประกอบด้ วยเมตตา เช่น การให้ การอนุเคราะห์ชว่ ยเหลือต่อผู้ น. วจีกรรม = การมีวาจา ดี สุภาพ อ่อนหวาน พูดมีเหตุผล ไม่พดู ให้ ร้ายผู้ นท ให้ ผ้ ู นเดือดร้ อน. มโนกรรม = ความคิด ประกอบด้ วยเมตตาดีตอ่ กัน งต่อหน้ าและลับหลัง. สาธารณโภคี = การรู้จกั แบ่ง งของให้ กนั และกันตามโอกาสอันควร เ อแสดงความรักความหวังดี. สีลสามัญญตา = ความรักใคร่สามัคคี รักษาศีลอย่างเคร่งครัดเหมาะสมตามสถานะของตน. ทิฏฐิสามัญญตา = การมีความเห็นร่วมกัน ไม่เห็นแก่ตวั รู้จกั เคารพและรับฟั งความคิดเห็นของผู้ น ทิศ = บุคคลประเภทต่างๆ เราต้ องเ ยวข้ องสัมพันธ์ ดุจทิศ อยูร่ อบตัวจัดเป็ น ทิศ. ปุรัตถิมทิส : ทิศเ องหน้ า = บิดา มารดา. ทักขิณทิส : ทิศเ องขวา = ครูอาจารย์. ปั จฉิมทิส : ทิศเ องหลัง = สามีภรรยา. อุตตรทิส : ทิศเ องซ้ าย = มิตรสหาย. อุปริมทิส : ทิศเ องบน = พระสงฆ์ สมณพราหมณ์. เหฏฐิมทิส : ทิศเ องล่าง = ลูกจ้ างกับนายจ้ าง อบายมุข = วิถีชีวิต อย่าง แห่งความโลภ และความหลง ท ให้ เกิดความเ อม ความฉิบหายของชีวิต. ม เมา = พฤติกรรมชอบ มสุราเป็ นนิจ. เ ยวกลางคืน = พฤติกรรมชอบเ ยวกลางคืนเป็ นนิจ. เ ยวดูการละเล่ น = พฤติกรรมชอบเ ยวดูการแสดงหรื อการละเล่นเป็ นนิจ. เล่ นการพนัน = พฤติกรรมชอบเล่นการพนันเป็ นนิจ. คบคน วเป็ นมิตร = พฤติกรรมชอบคบหาคนพาลเป็ นนิจ. เกียจคร้ านการงาน = พฤติกรรมชอบเกียจคร้ านในการงานเป็ นนิจ คอร์สเรียนออนไลน์ สังคม+ไทย Jax สอนสังคมและภาษาไทย ✘ห้ามน เอกสารออกไปเผยแพร่ทุกรูปแบบ 6 ำ 1 2 3 4 6 5 1 2 3 4 5 6 1 2 3 5 4 6 6 ที่ ดื่ สิ่ ที่ ที่ ตั้ ที่ 6 น้ ำ ชั่ ที่ บื้ บื้ บื้ บื้ บื้ บื้ กี่ ที่ ที่ ำ กื้ ดื่ สิ่ ที่ ที่ ที่ ที่ ำ ที่ ทั้ สื่ 6 พื่ อื่ ำ อื่ อื่ อื่ 11 อบายมุข = เค องฉิบหาย อย่าง. ความเป็ นนักเลงหญิง = การปล่อยตัวปล่อยใจให้ มวั เมาหมกมุน่ ในกามคุณ ชอบเ ยวผู้หญิงโสเภณี สูญเสียทรัพย์สนิ เงินทอง เป็ นทางเกิดโรคร้ ายต่าง ๆ เช่น โรคเอดส์ เป็ นต้ น. ความเป็ นนักเลงสุรา = จะเป็ นอบายมุขรุนแรงจริง ๆ คือตกเป็ นทาสของสุรา คือปล่อยตัวให้ ตกเป็ นทาส ของสุรา ย่อมท ให้ ขาดสติ ควบคุมตัวเองไม่ได้ สร้ างความเ อมเสียต่าง ๆ เสมอ. ความเป็ นนักเลงการพนัน = การเล่นการพนันทุกชนิด งมีโทษ เราเห็นกันได้ จะแจ้ งคือ ความฉิบหายถ่ายเดียว. ความคบคน วเป็ นมิตร = คน วจะชักน ให้ ประพฤติผดิ อบายมุขทุกข้ อ งมีแต่ความเ อม นิวรณ์ = ธรรม เป็ นเค องปิ ด นหรื อขัดขวางไม่ให้ บรรลุความดี ไม่เปิ ดโอกาสให้ ท ความดี. กามฉันทะ = ความพอใจ ติดใจ หลงใหลใฝ่ ฝัน ในกามโลกีย์ งปวง ดุจคนหลับอยู่. พยาบาท = ความไม่พอใจ จากความไม่ได้ สมดังปรารถนาในโลกียะสมบัติ งปวง. ถีนมิทธะ = ความ เกียจ ท้ อแท้ อ่อนแอ หมดอาลัย ไร้ ก ลัง งกายใจ ไม่ฮกึ เหิม. อุทธัจจะกุกกุจจะ = ความคิดซัดส่าย ตลอดเวลา ไม่สงบ งอยูใ่ นความคิดใด ๆ. วิจกิ จิ ฉา = ความไม่แน่ใจ ลังเลใจ สงสัย กังวล กล้ า ๆ กลัว ๆ ไม่เต็ม ไม่ นใจ โภคอาทิยะ = แบ่งทรัพย์เ อเ ยงชีพ. ญาติพลี : สงเคราะห์ญาติ ิ ลี : ต้ อนรับแขก. อติถพ. ปุพพเปตพลี : ท บุญอุทิศให้ ผ้ ลู ว่ งลับ. ราชพลี : บ รุงราชการ เช่น เสียภาษี. เทวดาพลี : สักการะบ รุงหรื อท บุญอุทิศ ง เคารพบูชาความเ อถือ โภควิภาค = หลักการแบ่งทรัพย์เป็ น ส่วน ส่วน ใช้ เ อตัวเองและบุคคล เ ย?