วิศวกรรมประปา (Filtration) PDF

Document Details

Uploaded by Deleted User

ดร.วรศิริ เดอ กาเดอเนต์

Tags

water filtration water treatment engineering environmental science

Summary

เอกสารนี้อธิบายเกี่ยวกับวิศวกรรมประปา โดยเฉพาะกระบวนการกรองน้ำ (Filtration) รวมถึงกลไก สารกรอง และประเภทของเครื่องกรอง.

Full Transcript

532313 วิศวกรรมประปา อ.ดร.วรศิร ิ เดอ กาเดอเนต์ 1 การกรองน้า WATER FILTRATION ENG32 3301 วิศวกรรมประปา อ.ดร.วรศิร ิ เดอ กาเดอเนต์ Content ▪ การกรอง (Filtration) ▪ กลไกของการกรอง ▪ สารกรอง (Filter Media) ▪ รูปแบบของระบบการกรอง...

532313 วิศวกรรมประปา อ.ดร.วรศิร ิ เดอ กาเดอเนต์ 1 การกรองน้า WATER FILTRATION ENG32 3301 วิศวกรรมประปา อ.ดร.วรศิร ิ เดอ กาเดอเนต์ Content ▪ การกรอง (Filtration) ▪ กลไกของการกรอง ▪ สารกรอง (Filter Media) ▪ รูปแบบของระบบการกรอง ▪ ชนิดของเครื่องกรอง ▪ ประสิทธิภาพในการกรอง ▪ ปัญหาในการกรอง ▪ ค่าการออกแบบ 3 การกรอง (Filtration) ▪ เป็นกระบวนการทางกายภาพและทางเคมี ▪ สาหรับแยกสารแขวนลอย คอลลอยด์และจุลชีพต่าง ๆ ออกจากน้า 4 Content ▪ การกรอง (Filtration) ▪ กลไกของการกรอง ▪ สารกรอง (Filter Media) ▪ รูปแบบของระบบการกรอง ▪ ชนิดของเครื่องกรอง ▪ ประสิทธิภาพในการกรอง ▪ ปัญหาในการกรอง ▪ ค่าการออกแบบ ▪ การทาความสะอาดชัน ้ กรองหรือการล้างย้อน 5 กลไกของการกรอง (Filtration mechanism) Deep-bed filtration Cake filtration ▪ เกิดขึ้นเมื่อน้ าไหลผ่านชัน ้ สารกรอง (Filter bed) ที่มี ▪ ชัน ้ ตะกอนที่อยูบ ่ นผิวหน้าของชัน ้ สารกรอง (Cake) จะ ลักษณะเป็นรูพรุนช่องว่าง (Void) ทาหน้าที่ดก ั จับ ทาหน้าที่เป็นชัน ้ กรองไปด้วย อนุภาคต่าง ๆ ไว้ภายในช่องว่างระหว่างชัน ้ กรอง ▪ มีรูพรุนน้อย ทาให้น้ าไหลผ่านได้ยาก และเกิด Head ▪ เมื่ออนุภาคถูกจับไว้มากจนเต็มช่องว่างแล้ว จะเกิด Loss ต้องทาการ Backwash เป็นชัน ้ ตะกอน (Cake) 6 กลไกของการกรอง (Filtration Mechanism) ▪ Filter Bed ทาหน้าที่ในการกรองมีกลไกดังนี้ ▪ ดักอนุภาคและตะกอนต่าง ๆ ไว้ในช่องระหว่างเม็ดสารกรองที่เรียงตัวอยูเ่ ป็นชัน ้ กรอง ▪ อนุภาคและตะกอนต่าง ๆ ตกค้างบนสารกรอง หรือบนชัน ้ ของตะกอนที่ถก ู ดักไว้แล้ว ▪ ดักอนุภาคคอลลอยด์ต่าง ๆ ไว้โดยวิธก ี ารดูดซับ (Absorption) ▪ Filter aid สารช่วยในการกรอง ▪ เคลือบเม็ดสารกรองไว้ ทาให้ไม่ให้อนุภาคเกาะติดตัวชัน ้ กรอง ▪ ผสมในสารละลายที่จะกรอง ทาให้ประสิทธิภาพในการดูดซับดีข้น ึ ▪ ประสิทธิภาพการดูดซับขึ้นกับขนาดของเม็ดสารกรอง ขนาดของอนุภาคและ Floc คุณลักษณะ การยึดติด และความทนทานต่อแรงเฉือน (shearing strength) 7 Content ▪ การกรอง (Filtration) ▪ กลไกของการกรอง ▪ สารกรอง (Filter Media) ▪ รูปแบบของระบบการกรอง ▪ ชนิดของเครื่องกรอง ▪ ประสิทธิภาพในการกรอง ▪ ปัญหาในการกรอง ▪ ค่าการออกแบบ ▪ การทาความสะอาดชัน ้ กรองหรือการล้างย้อน 8 สารกรอง (Filter Media) ▪ สารกรองชนิดเดียว (Mono-Medium) ▪ สารกรองแบบคู่ (Dual-Medium) ▪ สารกรองแบบผสม (Mixed-Medium) สารกรองควรม ีค ุณสมบ ัติดง ั น ี้ ▪ ป้องกันไม่ให้ตะกอนหรือคอลลอยด์ไหลผ่านสารกรองได้ ▪ ดักและจับตะกอนหรืออนุภาคแขวนลอยไว้อย่าง พอเหมาะ ง่ายในการล้างกลับ ▪ สามารถดักจับตะกอนหรืออนุภาคไว้ได้มากที่สด ุ โดยไม่ อุ ดตันได้ง่าย 9 สารกรอง (Filter Media) ▪ การจาแนกขนาดและคุณภาพของสารกรองนัน ้ ขึ้นกับคุณสมบัติสองประการคือ Effective size และ Uniform coefficient โดยการวัดคุณสมบัตินท ี้ าได้โดยการนาสารกรองมาร่อนบนตะแกรงมาตรฐาน ▪ Effective Size (E.S.) คือ ขนาดของสารกรองที่จานวนร้อยละโดยน้าหนักของสารกรองมีขนาด เล็กกว่าขนาดนัน ้ ๆ เช่น ▪ D10 คือขนาดของอนุภาคที่มจ ี านวน 10% by Weight จากน้าหนักของอนุภาคทัง ้ หมด ที่มข ี นาดเล็กกว่าขนาดที่กาหนด Example : D10 = 5 mm, แปลว่า 10% ของน้าหนักอนุภาคทัง ้ หมด มีขนาด < 5 mm 90% โดยน้าหนักค้างบนตะแกรง ตะแกรง Sieve Size 5 mm 10% โดยน้าหนักผ่านตะแกรงได้ 10 สารกรอง (Filter Media) ▪ การจาแนกขนาดและคุณภาพของสารกรองนัน ้ ขึ้นกับคุณสมบัติสองประการคือ Effective size และ Uniform coefficient โดยการวัดคุณสมบัตินี้ทาได้โดยการนาสารกรองมาร่อนบนตะแกรงมาตรฐาน ▪ Effective Size (E.S.) คือ ขนาดของสารกรองที่จานวนร้อยละโดยน้ าหนักของสารกรองมีขนาดเล็กกว่า ขนาดนัน้ ๆ เช่น ▪ D10 คือขนาดของอนุภาคที่มจ ี านวน 10% by Weight จากน้ าหนักของอนุภาคทัง ้ หมด ที่มข ี นาดเล็กกว่าขนาดที่กาหนด Example : D10 = 5 mm, แปลว่า 10% ของน้ าหนักอนุภาคทัง ้ หมด มีขนาด < 5 mm ▪ ฉะนัน ้ Effective Size คือขนาดต่ าสุดของเม็ดสารกรอง ที่มอ ี ยูใ่ นปริมาณสารกรองทัง ้ หมด ซึ่งค่านี้จะไม่บอกถึงความแตกต่างของขนาดของเม็ดสารกรอง 11 สารกรอง (Filter Media) ▪ การจาแนกขนาดและคุณภาพของสารกรองนัน ้ ขึ้นกับคุณสมบัติสองประการคือ Effective size และ Uniform coefficient โดยการวัดคุณสมบัตินท ี้ าได้โดยการนาสารกรองมาร่อนบนตะแกรงมาตรฐาน ▪ Uniformity Coefficient (U.C.) สัมประสิทธิค ์ วามสม่าเสมอ คือ ความสม่าเสมอของขนาด เม็ดสารกรอง = D60/D10 ▪ อัตราส่วนระหว่างขนาดอนุภาคที่ผา่ นตะแกรงได้ 60% ต่อ 10% (D60/D10) ชนิดของสารกรอง Effective Size (mm.) Uniformity Coefficient ทรายละเอียด Fine Sand 0.45 – 0.60 1.60 (Max.) ถ่านแอนทราไซต์ Anthracite 0.65 – 0.76 1.85 (Max.) หินปูน Calcite of Calcium Carbonate 0.33 – 0.68 < 2.00 ถ่านกัมมันต์ Activated Carbon 0.35 – 0.50 < 2.00 12 แจ้งแก้ไข แก้จาก D10/D60 เป็ น D60/D10 13 สารกรอง (Filter Media) ▪ การจาแนกขนาดและคุณภาพของสารกรองนัน ้ ขึ้นกับคุณสมบัติสองประการคือ Effective size และ Uniform coefficient โดยการวัดคุณสมบัตินี้ทาได้โดยการนา สารกรองมาร่อนบนตะแกรงมาตรฐาน วัสดุ ▪ คุณสมบั รูปร่ตางิของสารกรอง ความหนาแน่น ความแข็ง (Mohs) ความพรุน (%) Effective Size (mm.) ทรายซิลิกา กลม 2.6 7 42 0.4 – 1.0 ทรายซิลิกา ขรุขระ 2.6 7 44 0.4 – 1.0 ควอทซ์บดละเอียด เหลี่ยม 2.6 7 53 0.4 – 1.0 กรวดซิลิกา กลม 2.6 7 40 1.0 – 5.0 โกเมน - 3.1 – 4.3 6.5 – 7.5 - 0.2 – 0.4 ถ่านแอนทราไซต์บด เหลี่ยม 1.5 3 50 0.4 – 1.4 ถ่านาแอนทราไซต์บด กลม 1.5 3 50 0.4 – 1.0 14 ความพรุน Porosity Pore Volume Porosity (%) = × 100 % Total Volume Example : Think about it A B C D 15 ความพรุน Porosity 𝐏𝐨𝐫𝐞 𝐕𝐨𝐥𝐮𝐦𝐞 Porosity (%) = × 𝟏𝟎𝟎 % 𝐓𝐨𝐭𝐚𝐥 𝐕𝐨𝐥𝐮𝐦𝐞 Example : Think about it 16 Quiz 1 : ตัวอย่างทรายกรองมีคณ ุ สมบัติดังนี้ Sieve Size (mm) Percent Passing 0.30 2 0.42 10 0.60 36 0.84 60 1.00 80 1. ให้หา Effective Size ของทรายกรองนี้ 2. ให้หา Uniformity Coefficient ของทรายกรองนี้ 3. จากการทดลองหา % Porosity ของแอนทราไซต์ พบว่านักศึกษาต้องใช้น้า 90 ml ในการเทใส่บกี เกอร์ที่มท ี รายกรองอยู่ 200 ml ให้คานวณหา %Porosity 17 สารกรอง (Filter Media) ▪ ทราย (Selected Sand) ▪ ส่วนใหญ่จะเป็นทรายซิลิกา ซึ่งอาจละลายน้ า ได้ ▪ กรวดและทรายที่จะใช้ต้องไม่มหี น ิ ปูน เพราะ จะละลายน้ าและก่อให้เกิดการสึกกร่อน ▪ ข้อเสียคือ น้ าหนักชัน ้ กรองสูง ต้องใช้น้ า Backwash ปริมาณมาก ▪ การกรองเกิดที่ชน ั้ ทรายละเอียดเท่านัน ้ ซึ่งมี ความพรุนต่ า ▪ ความลึกของชัน ้ กรองที่ทาหน้าที่กรองจริง ๆ มีแค่ 15 – 20 cm 18 สารกรอง (Filter Media) ▪ แอนทราไซต์ (Anthracite) ▪ ใช้แก้ปัญหาที่เกิดจากการใช้ทรายเป็นสาร กรองเพียงอย่างเดียว ▪ ไม่ก่อปัญหาการปนเปื้ อนซิลิกา กรณีที่มี น้าร้อนและความเป็นด่างสูง ▪ มีความถ่วงจาเพาะต่า ทาให้เพิม ่ ความลึก ของชัน ้ กรองที่ทาหน้าที่กรองจริง ๆ ได้ 19 สารกรอง (Filter Media) ▪ แอนทราไซต์ (Anthracite) ▪ E.S. และ U.C. มากกว่าทราย ทาให้มคี วาม พรุนสูง ประสิทธิภาพลดลง ไม่สามารถกรอง ความขุน่ เหลือต่ ากว่า 2 ppm ได้ ▪ จึงใช้รว่ มกันกับทรายเป็นแบบ กรอง 2 ชัน้ โดยให้ทรายละเอียดใต้ชน ั้ Anthracite 8 – 10 นิว้ ▪ ข้อดี ดักจับตะกอนและอนุภาคต่าง ๆ ได้ โดยกระบวนการดูดซับ ▪ ข้อดี น้าหนักน้อยจึงลดการใช้น้าในการ Backwash 20 สารกรอง (Filter Media) ▪ หินปูน (Lime) ▪ แคลเซียมคาร์บอเนตที่ผ่านการปรับ สภาพแล้ว มีคณ ุ สมบัติที่ใช้กรองน้ าได้ ▪ แต่ถ้าน้ าดิบมี pH < 6.8 หินปูนจะทา ปฏิกิรย ิ ากับ CO2 กลายเป็นแคลเซียมไบ คาร์บอเนต ซึ่งเป็นตะกอนที่ทาหน้าที่เป็น สารกรองด้วยเช่นกัน CaCO3 + CO2 + H2O → Ca(HCO3)2 ▪ ปฏิกิรย ิ าจะสมดุลที่ pH 7 ซึ่งจะมีก๊าซ CO2 เหลืออยูใ่ นน้ าบ้าง และหินปูนจะถูก เปลี่ยนเป็นความกระด้างละลายอยูใ่ นน้ า 21 สารกรอง (Filter Media) ▪ ถ่านกัมมันต์ (Activated Carbon) ▪ กาจัดสารอินทรียใ์ นน้ าด้วยการดูดซึม (Absorption) ▪ การดูดซึมเกิดจากพื้นที่ผิว (Surface Area) ของถ่านซึ่งมีค่าประมาณ 500- 1,400 m2/g ▪ Activated Carbon กาจัดสี กลิ่น รส ใน น้ าได้ดี เพราะมีรูพรุนมาก ▪ รูพรุนนี้มข ี นาดเท่ากับโมเลกุลของสารนัน ้ ทาให้โมเลกุลของสารต่าง ๆ จะ แพร่กระจายเข้าไปอยูใ่ นรูปเล็ก ๆ เหล่านี้ 22 Content ▪ การกรอง (Filtration) ▪ กลไกของการกรอง ▪ สารกรอง (Filter Media) ▪ รูปแบบของระบบการกรอง ▪ ชนิดของเครื่องกรอง ▪ ประสิทธิภาพในการกรอง ▪ ปัญหาในการกรอง ▪ ค่าการออกแบบ ▪ การทาความสะอาดชัน ้ กรองหรือการล้างย้อน 23 รูปแบบของระบบการกรอง 1 2 3 4 Monomedia Monomedia Mixed Media Dual Media Downflow Upflow Filtration Filtration Filtration Filtration สารกรองผสม ู สารกรองค ่ ไหล สารกรองเดียว สารกรองเดียว ไหลลง สองทาง แบบไหลลง แบบไหลขนึ ้ 24 รูปแบบของระบบกรอง ▪ Monomedia Downflow Filtration 1 ทรายที่ละเอียดจะเรียงตัวอยูด ่ ้านบน กรวดขนาดใหญ่ข้น ึ ตามลาดับ ▪ ทรายละเอียดทาให้มช ี อ ่ งว่างน้อย ▪ อุ ดตันได้เร็ว ▪ สูญเสีย Head มาก ▪ ต้อง Backwash บ่อย ▪ มีอายุการใช้งานสัน ้ ๆ ▪ ต้องมีอัตราการกรอง 7-3 gal/min-ft2 25 รูปแบบของระบบกรอง ▪ Monomedia Upflow Filtration 2 ทรายที่ละเอียดจะเรียงตัวอยูด ่ ้านบน กรวดขนาดใหญ่ข้น ึ ตามลาดับ ▪ น้ าไหลผ่านจากช่องว่างมากไปสูน ่ ้อย ▪ หลีกเลี่ยงการอุ ดตันได้ดี อายุการใช้งานนานขึ้น ▪ อัตราการกรอง 6 – 10 gal/min-ft2 ▪ ถ้าให้ความเร็วในการกรองสูงเกินไป จะทาให้กลายเป็น Fluidized Bed ทาให้ตะกอนที่ติดอยู่หลุดออกไปกับน้ า ▪ ควรมีตะแกรงปิดไว้บนชัน ้ ทราย 26 รูปแบบของระบบกรอง ▪ Mixed Media Downflow Filtration 3 สารกรองจะมีความถ่วงจาเพาะหรือความหนาแน่นต่างกัน ▪ สารกรองขนาดใหญ่ควรให้มี Specific Gravity ต่ า ๆ ▪ สารกรองขนาดเล็กควรให้มี Specific Gravity สูง ๆ ▪ สารกรองขนาดใหญ่ควรอยูด ่ ้านบน และสารกรองขนาดเล็กอยู่ ด้านล่าง ▪ น้ าจะไหลผ่านสารกรองขนาดใหญ่ก่อน และขนาดเล็กท้ายสุด ทา ให้อุดตันน้อย มีประสิทธิภาพสูง ▪ อัตราการกรอง 15 – 20 gal/min-ft2 ซึ่งสูงกว่าการกรองแบบ ไหลขึ้น 27 รูปแบบของระบบกรอง ▪ Mixed Media Downflow Filtration 3 สารกรองจะมีความถ่วงจาเพาะหรือความหนาแน่นต่างกัน ▪ สารกรองขนาดใหญ่ควรให้มี Specific Gravity ต่ า ๆ ▪ สารกรองขนาดเล็กควรให้มี Specific Gravity สูง ๆ ชนิดของสาร Specific ตาแหน่งในถัง กรอง Gravity กรอง ถ่าน 1.50 ชัน ้ บน 60% ทราย 2.65 ชัน ้ กลาง 30% กรวด 2.65 ชัน ้ ล่าง 10% 28 รูปแบบของระบบกรอง ▪ Dual Media Filtration 4 ใช้สารกรองสองชนิด และแยกเป็นสองส่วน ▪ มีทง ั้ การไหลขึ้นและไหลลง ▪ ทาให้มอี ัตราการกรองเพิม ่ สูงมาก (Ultra high-rate filter) 40 gal/min-ft2 ▪ ชัน ้ กรองจะไม่ลอยตัวเนื่องจากมีแรงดันน้ าจากอีกด้าน กดไว้ ▪ เครื่องกรองสามารถมีขนาดเล็ก ทาให้ประหยัดค่า อุ ปกรณ์ 29 Content ▪ การกรอง (Filtration) ▪ กลไกของการกรอง ▪ สารกรอง (Filter Media) ▪ รูปแบบของระบบการกรอง ▪ ชนิดของเครื่องกรอง ▪ ประสิทธิภาพในการกรอง ▪ ปัญหาในการกรอง ▪ ค่าการออกแบบ ▪ การทาความสะอาดชัน ้ กรองหรือการล้างย้อน 30 ชนิดของเครื่องกรอง 1 2 3 4 ่ งกรองม ี เครื อ เครื อ ่ งกรองลาง้ เครื อ ่ งกรองชา้ เครื อ ่ งกรองเร็ ว แรงดันแบบนอน กลบอ ั ัตโนมติั Slow sand Rapid Sand Horizontal Self back filter Filter Pressure washing filter Filter 31 ชนิดของเครื่องกรอง เครื่องกรองช้า Slow Sand Filter 1 ▪ หรือการกรองตามแรงโน้มถ่วง Gravity Sand Filter ▪ ใช้พ้ น ื ที่มาก มีขนาดใหญ่ ▪ ใช้ทรายละเอียดเป็นสารกรอง หรือชนิดอื่น ๆ ก็ได้ ▪ อัตราการกรองต่ ามาก 0.0478 gal/min-ft2 ▪ น้ าที่ได้จะใส เพราะกรองช้า และสารกรองละเอียด ▪ กรองได้ 50-400 Mgal/min-ft2 จึงจะตันและต้อง backwash 32 ชนิดของเครื่องกรอง เครื่องกรองล้างกลับอัตโนมัติ 2 Self Backwashing Filter ▪ สามารถ Backwash โดยอัตโนมัติ ▪ อาศัยหลักการอุ ดตันของสารกรองเมื่อใช้ไประยะหนึ่ง ทาให้ระดับน้ าที่เข้ากรองสูงขึ้น และไหลกลั บเข้าไปในท่อน้ า ล้างกลับ ▪ เมื่อระดับน้ าสูงกว่าน้ าที่ไหลออกประมาณ 4 – 5 ft จะมีตัวดูดอากาศในท่อน้ าล้างกลับออก เกิดกาลักน้ าขึ้น เกิด การ Backwash ▪ เมื่อระดับน้ ากรองในถังที่สะสมไว้สาหรับล้างกลับได้ลดลงจนต่ ากว่าปลายท่อ Siphon breaker ทาให้อากาศไหล เข้าท่อและหลุดกาลักน้ า และเข้าสูก ่ ระบวนการกรองปกติ 33 ชนิดของเครื่องกรอง เครื่องกรองล้างกลับอัตโนมัติ Self Backwashing Filter 2 34 ชนิดของเครื่องกรอง เครื่องกรองเร็ว 3 Rapid Sand Filter ▪ หรือเครื่องกรองมีแรงดันแบบตัง ้ Vertical pressure filter ▪ พื้นที่กรองน้อยกว่า อุ ดตันได้เร็ว ▪ มักออกแบบให้มพ ี ้น ื ที่การกรองไม่เกิน 1,000 ft2 ▪ การ Backwash ใช้น้าและลมเป่า เพื่อลดปริมาณน้าที่ใช้ ▪ Filtration rate 2 – 3 GPM/ft2 ▪ ถ้าใช้ทราย ให้ Backwash เมื่อ Headloss 0.02 – 2 kg/cm2 ▪ การ Backwash จะต้องทาให้ชน ั ้ ทรายขยับตัวลอยขึ้น Bed Expansion 15 – 20% และระวังไม่ให้ Flow สูงเกินจนทาให้ทรายหลุดออกไปได้ 35 ชนิดของเครื่องกรอง เครื่องกรองมีแรงดันแบบนอน 4 Horizontal Pressure Filter ▪ กรณีที่น้ามีความขุน ่ ไม่มาก ไม่จาเป็นต้องใช้ชน ั้ กรองลึก ▪ มักใช้สารกรองที่มค ี วามหนาปานกลาง ลด Head loss และลดพลังงานในการสูบน้า ▪ ประหยัดเนื้อที่มากกว่า เพราะขนาดเท่ากับแบบ ตัง ้ แต่มพ ี ้น ื ที่ในการกรองมากกว่า 36 CHECK รายชื่อเข้าเรียน Content ▪ การกรอง (Filtration) ▪ กลไกของการกรอง ▪ สารกรอง (Filter Media) ▪ รูปแบบของระบบการกรอง ▪ ชนิดของเครื่องกรอง ▪ ประสิทธิภาพในการกรอง ▪ ปัญหาในการกรอง ▪ ค่าการออกแบบ ▪ การทาความสะอาดชัน ้ กรองหรือการล้างย้อน 38 ปัจจัยที่มผ ี ลต่อประสิทธิภาพการกรอง 1. การเตรียมน้าก่อนเข้ากรอง 2. วิธก ี ารทาความสะอาดสารกรอง 3. พิกัด Head Loss ของเครื่องกรอง 4. ขนาดของเม็ดทราย 5. ความเร็วการกรอง 6. ความสามารถในการดักจับตะกอน 39 ปัจจัยที่มผ ี ลต่อประสิทธิภาพการกรอง 1. การเตรียมน ้าก่อนเขากรอง ้ ▪ น้าดิบที่มค ี วามขุน ่ น้อย ▪ น้าดิบที่มค ี วามขุน ่ สูง ▪ ประสิทธิภาพการกรองจะสูง ▪ ประสิทธิภาพการกรองจะต่า ▪ การอุ ดตันเกิดช้า ▪ เครื่องกรองอุ ดตันได้ง่าย ▪ ช่วงเวลาใช้งานก่อนการล้างกลับ ▪ ต้อง Backwash บ่อย นาน ▪ น้าที่ได้อาจมีความขุน ่ สูงกว่าที่ ต้องการ 40 ปัจจัยที่มผ ี ลต่อประสิทธิภาพการกรอง 2. ว ิธีการทาความสะอาดสารกรอง ▪ วิธท ี ี่นย ิ มใช้คือ ใช้อากาศเป ่ากวนให้ชน ั้ ทรายขยับตัว ปล่อย อนุภาคและตะกอนที่ติดอยูบ ่ นชัน ้ กรองออกมาก่อน จากนัน ้ จึงใช้ น้า Backwash ไล่ตะกอนออกไปกับน้า ▪ วิธน ี ท ี้ าให้ประหยัดน้า แทนการ Backwash ด้วยน้าอย่าง เดียว ซึ่งจะต้องมีถังบรรจุน้าขนาดใหญ่เตรียมไว้ และใช้น้า ปริมาณมาก ▪ อาจใช้วธ ้ั ิ ใี ช้ท่อฉีดน้าล ้างผ ิวหน ้าชนสารกรองก่ อน (Surface washing) แล้วจึงค่อย Backwash ▪ อาจใชว้ ิธีใชใบพาย ้ (Mechanical Rakes) ที่ฝังอยูใ่ นชัน ้ ทราย ซึ่งจะกวนทรายในขณะที่มกี ารล้างกลับ ช่วยให้ตะกอนหลุดออกมา ได้ดีข้น ึ 41 ปัจจัยที่มผ ี ลต่อประสิทธิภาพการกรอง 3. พ ิกัด Head Loss ของเครื่องกรอง ▪ เครื่องกรองที่มี Pressure Drop ในการกรองสูง จะมีชว่ งระยะเวลาการกรอง นานก่อนจะถึงจุดที่มคี วามขุน ่ รัว่ ไหล (Break through) ▪ เครื่องกรองที่มเี ลข Pressure Drop สูง ก็จะมีประสิทธิภาพในการกรองสูง เครื ่องกรอง Pressure Drop (psi) Head loss (ft of H2O) เครื่องกรองแบบมีแรงดัน 3.0 – 5.0 7.0 – 11.6 เครื่องกรองแบบแรงโน้มถ่วง 2.6 – 3.5 6.0 – 8.0 เครื่องกรองแรงโน้มถ่วงล้างกลับ 1.7 – 2.2 4.0 – 5.0 อัตโนมัติ เครื่องกรองถ่าน Activated Carbon 3.0 – 5.0 7.0 – 11.6 42 ปัจจัยที่มผ ี ลต่อประสิทธิภาพการกรอง 3. พ ิกัด Head Loss ของเครื่องกรอง สูตรในการคานวณ N-s/m, kg/m-s 43 ปัจจัยที่มผ ี ลต่อประสิทธิภาพการกรอง 4. ขนาดของเม ็ดทราย สารกรองที่ดีจะต้องมี E.S และค่า U.C. ที่เหมาะสม โดย U.C ใกล้เคียง 1.5 และไม่ควรเกิน 2 E.S. ซึ่งบอกความละเอียดของเม็ดทราย ถ้าเม็ดทรายหยาบ จะกรองได้ไม่ดี ตะกอนและความขุน ่ จะแทรกเข้าไปในชัน ้ กรอง Penetration  Effective Size Head Loss  1/(E.S.)2 44 ปัจจัยที่มผ ี ลต่อประสิทธิภาพการกรอง 5. ความเร็วการกรอง ▪ ความเร็วของน้าในการกรองจะไม่มผ ี ลต่อคุณภาพของน้าที่ผา่ นการกรอง ▪ แต่จะมีผลต่อช่วงระยะเวลาการใช้งานกรอง เพราะเกี่ยวเนื่องกับ “ปริมาณความขุน ่ ”และ Head Loss ที่เกิดขึ้นจากความเสียดทานระหว่างน้าไหลผ่านเม็ดสารกรอง ▪ ในการกรอง Head loss จะสูงขึ้นเรื่อย ๆ จนกระทัง ่ อุ ดตัน ดังสมการ 𝟏 𝐇𝐞𝐚𝐝 𝐥𝐨𝐬𝐬 ∝ 𝒗𝟏.𝟓 โดยที่ v คือ ความเร็วของน้าที่ผวิ การกรอง (m3/m2-h) ▪ ถ้าความเร็วการกรองเพิม ่ ขึ้น 2 เท่า การอุ ดตันและต้องล้างจะสูงขึ้น 2.85 เท่า 45 ปัจจัยที่มผ ี ลต่อประสิทธิภาพการกรอง 5. ความเร็วการกรอง 𝟏 𝐇𝐞𝐚𝐝 𝐥𝐨𝐬𝐬 ∝ 𝒗𝟏.𝟓 โดยที่ v คือ ความเร็วของน้าที่ผวิ การกรอง (m3/m2-h) ▪ ถ้าความเร็วการกรองเพิม ่ ขึ้น 2 เท่า การอุ ดตันและต้องล้างจะสูงขึ้น 2.85 เท่า ▪ ในการใช้งาน ▪ นิยมล้างทุก ๆ 24 หรือ 48 ชัว่ โมง ▪ ความเร็วในการกรองอยูใ่ นช่วง 5 – 10 m/hr ▪ น้าดิบที่เข้ากรองต้องมี Suspended Solid < 8 – 10 mg/L 46 ตัวอย่างการคานวณ Head Loss ▪ ชัน ้ แอนทราไซต์ (E.S. 1.0 mm) หนา 0.5 m ความพรุน 0.48 อยูด ่ ้านบน ▪ ชัน ้ ทราย (E.S. 0.5 mm) หนา 0.25 m ความพรุน 0.40 อยูด ่ ้านล่าง ▪ สารตัวกรองและน้ามีคณ ุ สมบัติดง ั นี้ ▪ คานวณ Head Loss จากสมการ ▪ ความเร็วการกรอง = 10 m/h (0.0028 m/s) ▪ Carmen-Kozeny ▪ ความหนาแน่นของน้าที่ 5C, w = 1000 kg/m3 f 1−e L v2 hL = ▪ ความหนืดของน้าที่ 5C,  = 1.518x10-3 Ns/m2 φ e3 d g (หรือ kg/ms) ▪ Friction factor ▪ Shape factor  = 1.0 1−𝑒 𝑓 = 150 + 1.75 ▪ ให้คานวณ Head Loss จากสมการ Carmen-Kozeny 𝑁𝑅 ▪ เป็นสมการที่ใช้คานวณ Head Loss ของสารตัวกรอง ▪ Reynold Number ที่สะอาด 2 ชนิด dv NR = ρ μ w 47 ตัวอย่างการคานวณ Head Loss ▪ ชัน ้ แอนทราไซต์ (E.S. 1.0 mm) หนา 0.5 m อยูด ่ ้านบน ความพรุน 0.48 ▪ คานวณ Head Loss จากสมการ m 0.001 m×0.0028 s ×1000 kg/m3 ▪ NR = =1.84 ▪ Carmen-Kozeny 1.518×10−3 N∙s/m2 1−0.48 hL = f 1−e L v2 φ e3 d g ▪ f = 150 × + 1.75= 44.1 1.84 ▪ Friction factor 44.1× 1−0.48 ×0.5 m ×(0.0028 m/s)2 ▪ hL = 1−e 1.0 × 0.483 ×0.001 m ×9.81 m/s2 f = 150 + 1.75 NR = 0.0829 m ▪ Reynold Number dv NR = ρ μ w 48 ตัวอย่างการคานวณ Head Loss ▪ Quiz 2 : ชัน ้ ทราย (E.S. 0.5 mm) หนา 0.25 m ความพรุน 0.40 อยูด ่ ้านล่าง ให้คานวณหา Head Loss ▪ คานวณ Head Loss จากสมการ m 0.0005 m×0.0028 s ×1000 kg/m3 ▪ NR = =? ▪ Carmen-Kozeny 1.518×10−3 N∙s/m2 f 1−e L v2 1−0.40 ▪ hL = φ e3 d g ▪ f = 150 × + 1.75 = ? NR ▪ Friction factor f× 1−0.40 ×0.25 m ×(0.0028 m/s)2 1−e ▪ hL = ▪ f= 150 + 1.75 1.0 × 0.403 ×0.0005 m ×9.81 m/s2 NR ▪ Reynold Number =?m dv ▪ NR = ρ μ w 49 ตัวอย่างการคานวณ Head Loss ▪ ชัน ้ แอนทราไซต์ (E.S. 1.0 mm) หนา 0.5 m ความพรุน 0.48 อยูด ่ ้านบน ▪ ชัน ้ ทราย (E.S. 0.5 mm) หนา 0.25 m ความพรุน 0.40 อยูด ่ ้านล่าง ▪ Total Head Loss ของชัน ้ สารตัวกรอง = hL ชัน ้ แอนทราไซต์ + hL ชัน ้ ทราย =? ปัจจัยที่มผ ี ลต่อประสิทธิภาพการกรอง 6. ความสามารถในการดักจ ับตะกอน ▪ คือความสามารถที่ชน ั้ สารกรองในเครื่องจะดักจับอนุภาคและตะกอนไว้ได้ในหน่วย kg/m2 โดยมี Head Loss คงที่ค่าหนึ่ง ▪ เช่น เครื่องกรองแบบมีแรงดันแบบไหลลงและใช้สารกรองตามปกติ จะมี Solid Holding Capacity สูง ถึง 28 ▪ ฉะนัน ้ ความสามารถในการดักจับตะกอนจึงขึ้นกับ ▪ ชนดของสารกรอง ิ ้ั ▪ การเรี ยงตัวของชนสารกรอง ▪ ท ิศทางการไหลของน ้า ▪ ความสามารถนี้จะลดลง ถ้ามีตะไคร่หรือเมือก ทาให้ชอ ่ งว่างระหว่างเม็ดสารกรองลดลง 51 Content ▪ การกรอง (Filtration) ▪ กลไกของการกรอง ▪ สารกรอง (Filter Media) ▪ รูปแบบของระบบการกรอง ▪ ชนิดของเครื่องกรอง ▪ ประสิทธิภาพในการกรอง ▪ ปัญหาในการกรอง ▪ ค่าการออกแบบ ▪ การทาความสะอาดชัน ้ กรองหรือการล้างย้อน 52 ปัญหาในการกรอง 1. การอุ ดตันผิวหน้าสารกรองและการแตกแขนงของผิวหน้าในการกรอง 2. ระยะเวลาการกรองสัน ้ 3. น้าที่กรองได้มค ี วามขุน ่ ติดออกมา 4. มีเศษดิน โคลน อยูบ ่ นผิวหน้าของสารกรอง 5. มีทรายกรองรัว่ ไปกับน้าที่กรอง 6. สูญเสียสารตัวกรอง (ถ้าหากชัน ้ บนสุดของชัน ้ สารกรองเป็นแอนทราไซต์หรือถ่านกัมมันต์) 53 ปัญหาในการกรอง 1. การอุ ดตันผิวหน้าสารกรองและการแตกแขนงของผิวหน้าในการกรอง ถ้าสารตัวกรองมีขนาดเล็ก หรือ SS/floc มีความเหนียวมาก การแทรกตัวของ floc เข้าไปในชัน ้ สารกรองจะยาก ทา ให้เกิดการสะสมตัวจนเป็นชัน ้ หนาและเกิดรอยแตกหน้าผิวกรองได้ 54 ปัญหาในการกรอง 1. การอุ ดตันผิวหน้าสารกรองและการแตกแขนงของผิวหน้าในการกรอง ถ้าสารตัวกรองมีขนาดเล็ก หรือ SS/floc มีความเหนียวมาก การแทรกตัวของ floc เข้าไปในชัน ้ สารกรองจะยาก ทา ให้เกิดการสะสมตัวจนเป็นชัน ้ หนาและเกิดรอยแตกหน้าผิวกรองได้ ▪ ทาให้เกิดการกรองแบบ Cake Filtration ซึ่งมีประสิทธิภาพต่ า ▪ เครื่องกรองจะอุ ดตันเร็ว ▪ ระยะเวลาการใช้งานกรองจะสัน ้ ▪ หาก SS หรือ floc สามารถแทรกตัวเข้าไปในชัน ้ กรองจะทาให้การกรองเป็นลักษณะ Deep Bed Filtration ได้ แต่ก็จะยังคงลักษณะ Cake Filtration อยู่ ▪ ถ้ามีการใช้สารกรอง “ผสม” หรือสารกรอง “คู่” ปัญหาการอุ ดตันผิวหน้าจะลดน้อยลงมาก 55 ปัญหาในการกรอง 2. ระยะเวลาการกรองสัน ้ ▪ นัน ่ คือมี Head Loss เพิม ่ ขึ้นอย่างรวดเร็ว ▪ กรณีที่น้าดิบเข้ามีความขุน ่ มากกว่าปกติ แต่ความสามารถในการดักจับตะกอน ของชัน ้ สารกรองเท่าเดิม ทาให้เกิดการอุ ดตันได้เร็วขึ้น ▪ กรณีเกิดเมือกหรือตะไคร่จบ ั บนเม็ดสารกรอง 56 ปัญหาในการกรอง 3. น้าที่กรองได้มค ี วามขุน ่ ติดออกมา ▪ อาจเกิดจาก floc หรือ ตะกอนแทรกตัวลงไปในเนื้อสารกรองลึกมากเกินควร ทาให้มี โอกาสที่จะหลุดไปกับน้าที่กรองได้ ▪ คุณภาพน้าที่ได้จะต่ากว่าที่ต้องการและอายุการใช้งานกรองก็จะสัน ้ ด้วย ▪ แก้ได้โดยการเปลี่ยนชนิดของสารกรองให้เหมาะสมกับสภาพการกรอง 57 ปัญหาในการกรอง 4. มีเศษดิน โคลน อยูบ ่ นผิวหน้าของชัน ้ สารกรอง ▪ อาจเกิดจากการทาความสะอาดสารกรองไม่ดีพอ ▪ พวกตะกอนต่าง ๆ ที่กรองไว้บนผิวหน้าชัน ้ กรอง จะมีสภาพเป็นโคลนหรือเศษดิน รวมตัวกันเป็นกลุ่ม ก้อนใหญ่ข้น ึ ▪ เมื่อทาการล้างกลับ เม็ดดิน โคลนเหล่านีจ ้ ะแทรกตัวจมอยูใ่ นชัน ้ สารกรอง ทาให้สารกรองอุ ดตัน ▪ ทาให้ชน ั้ สารกรองมีการหดตัวและแตกแยกออกได้ อีกทัง ้ Head loss เพิม ่ สูงขึ้น ▪ ควรรักษาปริมาณโคลนให้มป ี ริมาตร < 0.1% เสมอ หากเกิน 0.2% ควรทาการล้างสารกรอง ▪ การล้างกลับ ให้มี flowrate = 20 GPM/ft2 58 ปัญหาในการกรอง 5. มีทรายรัว่ ไปกับน้ ากรอง ▪ เกิดจากชัน้ กรวดที่รองรับชัน้ ทรายอยูม ่ ก ี ารเคลื่อนที่ หรือมีขนาดเล็กลงจนทรายไป บนอยูใ่ นชัน ้ กรวด และรัว่ ไหลออกไป ▪ ควรหาชัน ้ กรวดที่มข ี นาดเหมาะสมมาเป็นชัน ้ รองรับชัน ้ ทราย 59 ปัญหาในการกรอง 6. การสูญเสียสารตัวกรอง ▪ ถ้าหากชัน ้ บนสุดของชัน ้ สารกรองเป็นแอนทราไซต์หรือ ถ่านกัมมันต์ ▪ ในการล้างกลับถ้า Backwash flowrate สูง จะทาให้ชน ั้ สารกรองขยายตัวมาก โอกาสที่ถ่านซึ่งมีน้าหนักเบาจะ หลุดลอยไปกับน้า Backwash มีมากขึ้น ▪ แก้ไขโดย ▪ ให้ขยายระยะห่างระหว่างระดับบนสุดของชัน ้ สารกรองที่ ขยายตัวแล้วให้เพิม ่ ขึ้น (นัน ่ คือห่างจากท่อบนสุดมาก ยิง ่ ขึ้น) ▪ หรือ ลด Backwash Flowrate และใช้อากาศช่วยเป่า กวนในขณะที่ Backwash 1-2 นาที 60 ปัญหาในการกรอง 6. การสูญเสียสารตัวกรอง Video Link 61 Rapid sand filtration and its backwashing process 62 Content ▪ การกรอง (Filtration) ▪ กลไกของการกรอง ▪ สารกรอง (Filter Media) ▪ รูปแบบของระบบการกรอง ▪ ชนิดของเครื่องกรอง ▪ ประสิทธิภาพในการกรอง ▪ ปัญหาในการกรอง ▪ ค่าการออกแบบ ▪ การทาความสะอาดชัน ้ กรองหรือการล้างย้อน 63 ค่าการออกแบบ 1. เกณฑ์แนะนาในการออกแบบถังทรายกรองช้า 2. ข้อดีขอ ้ เสียของถังทรายกรองช้า 3. ข้อเปรียบเทียบลักษณะทัว่ ไประหว่างถังทรายกรองเร็วและถังทรายกรองช้า 64 ค่าการออกแบบ 1. เกณฑ์แนะนาในการออกแบบถังทรายกรองช้า 65 ค่าการออกแบบ 1. เกณฑ์แนะนาในการออกแบบถังทรายกรองช้า 66 ค่าการออกแบบ 2. ข้อเปรียบเทียบระหว่างถังทรายกรองเร็วและถังทรายกรองช้า 67 ค่าการออกแบบ 2. ข้อเปรียบเทียบระหว่างถังทรายกรองเร็วและถังทรายกรองช้า 68 ค่าการออกแบบ 3. ข้อดีและข้อเสียของถัง ทรายกรองช้า 69 Content ▪ การกรอง (Filtration) ▪ กลไกของการกรอง ▪ สารกรอง (Filter Media) ▪ รูปแบบของระบบการกรอง ▪ ชนิดของเครื่องกรอง ▪ ประสิทธิภาพในการกรอง ▪ ปัญหาในการกรอง ▪ ค่าการออกแบบ ▪ การทาความสะอาดชัน ้ กรองหรือการล้างย้อน 70 การทาความสะอาดชัน ้ กรองหรือการล้างย้อน ▪ Backwashing เพื่อทาความสะอาดถังกรองเมื่อเกิด การอุ ดตัน หรือลดการสะสมของเชื้อโรคในถังกรอง โดยทัว่ ไปจะทาความสะอาดเมื่อ Head loss ในถังกรองสูงกว่าค่าพิกัด Head ที่ออกแบบไว้ ค่าความขุน ่ ในน้ าที่ผ่านการกรองสูงกว่าเกณฑ์ที่ยอมรับได้ เมื่อเดินระบบถึงระยะเวลาสูงสุดที่ต้องทาความสะอาด 71 การทาความสะอาดชัน ้ กรองหรือการล้างย้อน ▪ Backwashing Flowrate จุดประสงค์เพื่อกาจัดฝุ่นและตะกอนที่สะสมในชัน ้ กรอง Flowrate ต้องเพียงพอในการยกชัน ้ ของสารกรองขึ้น Flowrate ต้องไม่มากเกินที่จะทาให้สารกรองหลุดออกไปจากระบบ Backwash Flowrate ขึ้นกับ ขนาดของสารตัวกรอง ชนิดของสารตัวกรองหรือความถ่วงจาเพาะของสารกรองนัน ้ ๆ 72 การทาความสะอาดชัน ้ กรองหรือการล้างย้อน ▪ Backwashing Flowrate คานวณได้ดังนี้ 1/3 UbT = Ub20 ∙ μT สาหรับทรายคัดขนาด โดยที่ Ub20 = Backwash rate at 20C, m/min Ub20 = 10d60 UbT = Backwash rate at temperature, m/min μT = Absolute viscosity at temperature, Ns/m2 สาหรับถ่านแอนทราไซต์ Ub20 = 4.7d60 73 การทาความสะอาดชัน ้ กรองหรือการล้างย้อน ▪ Backwashing Flowrate กรณีที่ถังกรองมีขนาดค่อนข้างใหญ่ สามารถใช้อากาศช่วยยกชัน ้ สารกรองในการ Backwash เพื่อประหยัดน้าและลดปริมาณน้าเสียที่จะเกิดขึ้น 74 การทาความสะอาดชัน ้ กรองหรือการล้างย้อน ▪ Backwashing vs Media ในระบบที่มสี ารตัวกรอง 2 ชนิดขึ้นไป การล้างย้อนโดยไม่ให้สารตัวกรองหลุดออกจากระบบ ควร เลือกให้ Settling velocity ของสารตัวกรองไม่แตกต่างกันมาก การคานวณขนาดของสารตัวกรอง โดยใช้สมการของ Newton หรือ Stoke ที่กาหนดให้มี Settling Velocity เท่ากัน สามารถคานวณได้ดังนี้ 𝟐/𝟑 𝐬𝐠𝟏 − 𝟏 𝐝𝟐 = 𝐝𝟏 𝐬𝐠𝟐 − 𝟏 โดยที่ d2 คือ Effective Size ของตัวกรองที่มี specific gravity = Sg2, mm d1 คือ Effective Size ของตัวกรองที่มี specific gravity = Sg1, mm 75 HOMEWORK #1 งานเดี่ยว ส่งใน E-LEARNING เป็น PDF FILE สามารถเขียน หรือพิมพ์ก็ได้ 76 HomeWork : Filtration #1 จากคุณสมบัติทรายกรองชนิดหนึ่ง Sieve Size (mm) Percent Passing 0.30 2 0.42 10 0.60 36 0.84 60 1.00 80 1. ให้คานวณ Backwashing Rate เมื่ออุ ณหภูมน ิ ้าเท่ากับ 30C โดยที่ Absolute Viscosity ของ น้าที่ 30C = 0.798 x 10-3 Ns/m2 (หรือ kgm/s) 77 HomeWork : Filtration #1 2. ต้องการใช้ Dual Media Filtration โดยสารตัวกรองแรกคือทรายกรอง มีคณ ุ สมบัติดังนี้ ▪ Effective Size 0.42 mm ▪ Specific Gravity 2.65 เลือกใช้ Anthracite ไว้ชน ั้ บน ซึ่งมี Specific Gravity 1.55 ถามว่าควรใช้ Anthracite ที่มี Effective Size ขนาดเท่าไหร่ ด้วยหลักการให้มี Settling Velocity เท่า ๆ กัน เพื่อป้องกันไม่ให้สารตัวกรองหลุดออกจากระบบในขัน้ ตอน Backwashing 78 TO BE CONTINUED 79

Use Quizgecko on...
Browser
Browser