คำนวณสินค้าคงเหลือ, ยอดขาย, ต้นทุนขาย, และกำไรขั้นต้นโดยใช้วิธีการบันทึกบัญชีแบบ Periodic Inventory Method และ Perpetual Inventory Method จากข้อมูลการซื้อขายสินค้าที่ให้มา คำนวณสินค้าคงเหลือ, ยอดขาย, ต้นทุนขาย, และกำไรขั้นต้นโดยใช้วิธีการบันทึกบัญชีแบบ Periodic Inventory Method และ Perpetual Inventory Method จากข้อมูลการซื้อขายสินค้าที่ให้มา
![Question image](https://assets.quizgecko.com/question_images/QNsD1bh248bVSKYfVAyT0YgSSl38qw5E0Mc8cdK0.jpg)
Understand the Problem
คำถามนี้เกี่ยวกับการคำนวณสินค้าคงเหลือ, ยอดขาย, ต้นทุนขาย, และกำไรขั้นต้นโดยใช้วิธีการบันทึกบัญชีแบบ Periodic Inventory Method และ Perpetual Inventory Method โดยมีข้อมูลการซื้อขายสินค้าในเดือนมกราคม 25x2 ที่ให้มา ซึ่งจะต้องนำมาคำนวณโดยใช้วิธีต่างๆ เช่น Specific Identification, Weighted Average, FIFO, LIFO และ Moving Average
Answer
โปรดดูคำตอบข้างต้นเนื่องจากมีหลายวิธีในการคำนวณสินค้าคงเหลือ, ยอดขาย, ต้นทุนขาย, และกำไรขั้นต้น
Answer for screen readers
- กิจการบันทึกบัญชีแบบ Periodic Inventory Method
1.1 วิธีเฉพาะเจาะจง (Specific Identification):
- สินค้าคงเหลือปลายงวด: $144,750$ บาท
- ต้นทุนขาย (COGS): $209,450$ บาท
- กำไรขั้นต้น: $287,350$ บาท
- ยอดขายรวม: $496,800$ บาท
1.2 วิธีถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก (Weighted Average):
- สินค้าคงเหลือปลายงวด: $140,201.92$ บาท
- ต้นทุนขาย (COGS): $214,087.37$ บาท
- กำไรขั้นต้น: $282,712.63$ บาท
- ยอดขายรวม: $496,800$ บาท
1.3 วิธีเข้าก่อนออกก่อน (FIFO):
- สินค้าคงเหลือปลายงวด: $157,875$ บาท
- ต้นทุนขาย (COGS): $196,325$ บาท
- กำไรขั้นต้น: $300,475$ บาท
- ยอดขายรวม: $496,800$ บาท
1.4 วิธีเข้าที่หลังออกก่อน (LIFO):
- สินค้าคงเหลือปลายงวด: $91,250$ บาท
- ต้นทุนขาย (COGS): $262,950$ บาท
- กำไรขั้นต้น: $233,850$ บาท
- ยอดขายรวม: $496,800$ บาท
- กิจการบันทึกบัญชีแบบ Perpetual Inventory Method
2.1 วิธีเข้าก่อนออกก่อน (FIFO):
- สินค้าคงเหลือปลายงวด: $107,150$ บาท
- ต้นทุนขาย (COGS): $217,650$ บาท
- กำไรขั้นต้น: $279,150$ บาท
- ยอดขายรวม: $496,800$ บาท
2.2 วิธีเข้าที่หลังออกก่อน (LIFO):
- สินค้าคงเหลือปลายงวด: $71,250$ บาท
- ต้นทุนขาย (COGS): $231,875$ บาท
- กำไรขั้นต้น: $264,925$ บาท
- ยอดขายรวม: $496,800$ บาท
2.3 วิธี Moving Average:
- สินค้าคงเหลือปลายงวด: $149,550$ บาท
- ต้นทุนขาย (COGS): $204,559$ บาท
- กำไรขั้นต้น: $292,241$ บาท
- ยอดขายรวม: $496,800$ บาท
Steps to Solve
- คำนวณหายอดขายรวม
ยอดขายรวมคำนวณได้จากการคูณจำนวนหน่วยที่ขายในแต่ละครั้งกับราคาขายต่อหน่วย
วันที่ 3 มกราคม: $1,300 \times 135 = 175,500$ บาท
วันที่ 20 มกราคม: $1,200 \times 140 = 168,000$ บาท
วันที่ 29 มกราคม: $1,050 \times 146 = 153,300$ บาท
ยอดขายรวม = $175,500 + 168,000 + 153,300 = 496,800$ บาท 2. คำนวณสินค้าคงเหลือปลายงวด, ต้นทุนขาย (COGS) และกำไรขั้นต้น โดยวิธี Specific Identification
สินค้าคงเหลือปลายงวด = $(925 \times 50) + (1,000 \times 67) + (450 \times 70) = 46,250 + 67,000 + 31,500 = 144,750$ บาท
จำนวนหน่วยขายรวม = $1,300 + 1,200 + 1,050 = 3,550$ หน่วย
จำนวนหน่วยที่มีไว้เพื่อขาย = $1,825 + 1,500 + 1,350 + 750 + 450 = 5,875$ หน่วย
สินค้าที่มีไว้เพื่อขาย = $(1,825 \times 50) + (1,500 \times 60) + (1,350 \times 67) + (750 \times 68) + (450 \times 70) = 91,250 + 90,000 + 90,450 + 51,000 + 31,500 = 354,200 $ บาท
ต้นทุนขาย (COGS) = สินค้าที่มีไว้เพื่อขาย - สินค้าคงเหลือปลายงวด = $354,200 - 144,750 = 209,450$ บาท
กำไรขั้นต้น = ยอดขายรวม - ต้นทุนขาย (COGS) = $496,800 - 209,450 = 287,350$ บาท 3. คำนวณสินค้าคงเหลือปลายงวด, ต้นทุนขาย (COGS) และกำไรขั้นต้น โดยวิธี Weighted Average (Periodic)
คำนวณต้นทุนถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก:
ต้นทุนรวมของสินค้าที่มีไว้เพื่อขาย = $354,200$ บาท (คำนวณไว้แล้วในข้อ 1.1)
จำนวนหน่วยทั้งหมดที่มีไว้เพื่อขาย = $5,875$ หน่วย (คำนวณไว้แล้วในข้อ 1.1)
ต้นทุนถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก = ต้นทุนรวม / จำนวนหน่วยทั้งหมด = $354,200 / 5,875 = 60.3063$ บาท/หน่วย (ประมาณ)
คำนวณจำนวนหน่วยที่ขาย:
จำนวนหน่วยที่ขาย = $1,300 + 1,200 + 1,050 = 3,550$ หน่วย
คำนวณสินค้าคงเหลือปลายงวด:
จำนวนหน่วยคงเหลือ = $5,875 - 3,550 = 2,325$ หน่วย
สินค้าคงเหลือปลายงวด = จำนวนหน่วยคงเหลือ × ต้นทุนถัวเฉลี่ย = $2,325 \times 60.3063 = 140,201.92$ บาท (ประมาณ)
คำนวณต้นทุนขาย (COGS):
ต้นทุนขาย = จำนวนหน่วยที่ขาย × ต้นทุนถัวเฉลี่ย = $3,550 \times 60.3063 = 214,087.37$ บาท (ประมาณ)
คำนวณกำไรขั้นต้น:
กำไรขั้นต้น = ยอดขายรวม - ต้นทุนขาย = $496,800 - 214,087.37 = 282,712.63$ บาท 4. คำนวณสินค้าคงเหลือปลายงวด, ต้นทุนขาย (COGS) และกำไรขั้นต้น โดยวิธี FIFO (Periodic)
คำนวณสินค้าคงเหลือปลายงวด: สินค้าคงเหลือปลายงวดประกอบด้วยสินค้าที่ซื้อเข้ามาล่าสุด ดังนั้น
450 หน่วย @ 70 บาท = 31,500 บาท
750 หน่วย @ 68 บาท = 51,000 บาท
1,125 หน่วย @ 67 บาท = 75,375 บาท รวมสินค้าคงเหลือปลายงวด = $31,500 + 51,000 + 75,375 = 157,875$ บาท
คำนวณต้นทุนขาย (COGS): $COGS =$ สินค้ามีไว้เพื่อขาย $-$ สินค้าคงเหลือปลายงวด $COGS = 354,200 - 157,875 = 196,325$ บาท
คำนวณกำไรขั้นต้น: กำไรขั้นต้น = ยอดขายรวม - ต้นทุนขาย = $496,800 - 196,325 = 300,475$ บาท
- คำนวณสินค้าคงเหลือปลายงวด, ต้นทุนขาย (COGS) และกำไรขั้นต้น โดยวิธี LIFO (Periodic)
คำนวณสินค้าคงเหลือปลายงวด: สินค้าคงเหลือปลายงวดประกอบด้วยสินค้าที่ซื้อเข้ามาเก่าสุด ดังนั้น
1,825 หน่วย @ 50 บาท = $91,250$ บาท
รวมสินค้าคงเหลือปลายงวด = $91,250$ บาท
คำนวณต้นทุนขาย (COGS): $COGS =$ สินค้ามีไว้เพื่อขาย $-$ สินค้าคงเหลือปลายงวด $COGS = 354,200 - 91,250 = 262,950$ บาท
คำนวณกำไรขั้นต้น: กำไรขั้นต้น = ยอดขายรวม - ต้นทุนขาย = $496,800 - 262,950 = 233,850$ บาท
- คำนวณสินค้าคงเหลือปลายงวด, ต้นทุนขาย (COGS) และกำไรขั้นต้น โดยวิธี FIFO (Perpetual)
วันที่ | รายการ | ซื้อ | ขาย | คงเหลือ | ต้นทุนขาย |
---|---|---|---|---|---|
ม.ค. 1 | ยอดคงเหลือยกมา | 1,825 | 1,825 | ||
@ 50 | @ 50 | ||||
ม.ค. 3 | ขาย | 1,300 | 525 | 65,000 | |
@ 135 | @ 50 | ||||
ม.ค. 5 | ซื้อ | 1,500 | 525 | ||
@ 60 | @ 50 | ||||
1,500 | |||||
@ 60 | |||||
ม.ค. 17 | ซื้อ | 1,350 | 525 | ||
@ 67 | @ 50 | ||||
1,500 | |||||
@ 60 | |||||
1,350 | |||||
@ 67 | |||||
ม.ค. 20 | ขาย | 1,200 | 525 | 71,750 | |
@ 50 | |||||
675 | |||||
@ 60 | |||||
ม.ค. 22 | ซื้อ | 750 | 525 | ||
@ 68 | @ 50 | ||||
675 | |||||
@ 60 | |||||
750 | |||||
@ 68 | |||||
ม.ค. 29 | ขาย | 1,050 | 525 | 31,500 | |
@ 60 | |||||
750 | |||||
@ 68 | |||||
200 | 12,000 | ||||
@ 60 | |||||
550 | 37,400 | ||||
@ 68 | |||||
ม.ค. 31 | ซื้อ | 450 | 525 | ||
@ 70 | @ 50 | ||||
200 | |||||
@ 60 | |||||
550 | |||||
@ 68 | |||||
450 | |||||
@ 70 | |||||
รวม | 4,050 | 3,550 | 217,650 |
สินค้าคงเหลือปลายงวด = $(525 \times 50) + (200 \times 60) + (550 \times 68) + (450 \times 70) = 26,250 + 12,000 + 37,400 + 31,500 = 107,150$ บาท
ยอดขายรวม = $496,800$ บาท
ต้นทุนขาย (COGS) = $217,650$ บาท
กำไรขั้นต้น = $496,800 - 217,650 = 279,150$ บาท
- คำนวณสินค้าคงเหลือปลายงวด, ต้นทุนขาย (COGS) และกำไรขั้นต้น โดยวิธี LIFO (Perpetual)
วันที่ | รายการ | ซื้อ | ขาย | คงเหลือ | ต้นทุนขาย |
---|---|---|---|---|---|
ม.ค. 1 | ยอดคงเหลือยกมา | 1,825 | 1,825 | ||
@ 50 | @ 50 | ||||
ม.ค. 3 | ขาย | 1,300 | 525 | 65,000 | |
@ 50 | @ 50 | ||||
ม.ค. 5 | ซื้อ | 1,500 | 525 | ||
@ 60 | @ 50 | ||||
1,500 | |||||
@ 60 | |||||
ม.ค. 17 | ซื้อ | 1,350 | 525 | ||
@ 67 | @ 50 | ||||
1,500 | |||||
@ 60 | |||||
1,350 | |||||
@ 67 | |||||
ม.ค. 20 | ขาย | 1,200 | 525 | 80,400 | |
@ 50 | |||||
300 | |||||
@ 60 | |||||
ม.ค. 22 | ซื้อ | 750 | 525 | ||
@ 68 | @ 50 | ||||
300 | |||||
@ 60 | |||||
750 | |||||
@ 68 | |||||
ม.ค. 29 | ขาย | 1,050 | 525 | 71,400 | |
@ 50 | |||||
0 | |||||
@ 60 | |||||
0 | |||||
@ 68 | |||||
225 | 15,075 | ||||
@ 60 | |||||
ม.ค. 31 | ซื้อ | 450 | 525 | ||
@ 70 | @ 50 | ||||
225 | |||||
@ 60 | |||||
450 | |||||
@ 70 | |||||
รวม | 4,050 | 3,550 | 231,875 |
สินค้าคงเหลือปลายงวด = $(525 \times 50) + (225 \times 60) + (450 \times 70) = 26,250 + 13,500 + 31,500 = 71,250$ บาท
ยอดขายรวม = $496,800$ บาท
ต้นทุนขาย (COGS) = $231,875$ บาท
กำไรขั้นต้น = $496,800 - 231,875 = 264,925$ บาท
- คำนวณสินค้าคงเหลือปลายงวด, ต้นทุนขาย (COGS) และกำไรขั้นต้น โดยวิธี Moving Average (Perpetual)
calculate Moving Average based on purchase and sales: First calculate totals for each transactions and the accumulated cost of goods sold Calculate ending inventory as well as Gross Profit
Date | Transaction | Units | Cost/Unit | Total Cost | Balance |
---|---|---|---|---|---|
Jan. 1 | Beginning | 1,825 | 50 | 91,250 | 1,825 @ 50 |
Jan. 3 | Sale | -1,300 | 50 | -65,000 | 525 @ 50 |
Jan. 5 | Purchase | 1,500 | 60 | 90,000 | |
525 @ 50 = 26,250 | |||||
1,500 @ 60 = 90,000 | |||||
2,025 : 116,250 | |||||
Average = 57.40 | |||||
Jan. 17 | Purchase | 1,350 | 67 | 90,450 | 3,375 units |
116,250 + 90,450= 206,700 | |||||
Average= 61.23 | |||||
Jan. 20 | Sale | -1,200 | 61.23 | -73,476 | 2,175 @ 61.23 =133,175 |
Average=61.23 | |||||
Jan. 22 | Purchase | 750 | 68 | 51,000 | 2,925 Units |
133,175 + 51,000=184,175 | |||||
Average= 62.96 | |||||
Jan. 29 | Sale | -1,050 | 62.96 | -66,083 | 1,875 @ 62.96 |
Jan. 31 | Purchase | 450 | 70 | 31,500 | |
1,875 @ 62.96= 118,050 | |||||
450 @ 70= 31,500 | |||||
2,325: 149,550 | |||||
Average= 64.32 |
สินค้าคงเหลือปลายงวด = $149,550$ บาท
ยอดขายรวม = $496,800$ บาท
ต้นทุนขาย (COGS) = $65,000 + 73,476 + 66,083=204,559$ บาท
กำไรขั้นต้น = $496,800 - 204,559 = 292,241$ บาท
- กิจการบันทึกบัญชีแบบ Periodic Inventory Method
1.1 วิธีเฉพาะเจาะจง (Specific Identification):
- สินค้าคงเหลือปลายงวด: $144,750$ บาท
- ต้นทุนขาย (COGS): $209,450$ บาท
- กำไรขั้นต้น: $287,350$ บาท
- ยอดขายรวม: $496,800$ บาท
1.2 วิธีถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก (Weighted Average):
- สินค้าคงเหลือปลายงวด: $140,201.92$ บาท
- ต้นทุนขาย (COGS): $214,087.37$ บาท
- กำไรขั้นต้น: $282,712.63$ บาท
- ยอดขายรวม: $496,800$ บาท
1.3 วิธีเข้าก่อนออกก่อน (FIFO):
- สินค้าคงเหลือปลายงวด: $157,875$ บาท
- ต้นทุนขาย (COGS): $196,325$ บาท
- กำไรขั้นต้น: $300,475$ บาท
- ยอดขายรวม: $496,800$ บาท
1.4 วิธีเข้าที่หลังออกก่อน (LIFO):
- สินค้าคงเหลือปลายงวด: $91,250$ บาท
- ต้นทุนขาย (COGS): $262,950$ บาท
- กำไรขั้นต้น: $233,850$ บาท
- ยอดขายรวม: $496,800$ บาท
- กิจการบันทึกบัญชีแบบ Perpetual Inventory Method
2.1 วิธีเข้าก่อนออกก่อน (FIFO):
- สินค้าคงเหลือปลายงวด: $107,150$ บาท
- ต้นทุนขาย (COGS): $217,650$ บาท
- กำไรขั้นต้น: $279,150$ บาท
- ยอดขายรวม: $496,800$ บาท
2.2 วิธีเข้าที่หลังออกก่อน (LIFO):
- สินค้าคงเหลือปลายงวด: $71,250$ บาท
- ต้นทุนขาย (COGS): $231,875$ บาท
- กำไรขั้นต้น: $264,925$ บาท
- ยอดขายรวม: $496,800$ บาท
2.3 วิธี Moving Average:
- สินค้าคงเหลือปลายงวด: $149,550$ บาท
- ต้นทุนขาย (COGS): $204,559$ บาท
- กำไรขั้นต้น: $292,241$ บาท
- ยอดขายรวม: $496,800$ บาท
More Information
วิธี Periodic และ Perpetual Inventory Method เป็นวิธีที่แตกต่างกันในการติดตามสินค้าคงเหลือและต้นทุนขาย วิธี Periodic จะคำนวณสินค้าคงเหลือและต้นทุนขายเมื่อสิ้นงวดบัญชี ในขณะที่วิธี Perpetual จะอัปเดตข้อมูลสินค้าคงเหลือและต้นทุนขายอย่างต่อเนื่องหลังจากการขายแต่ละครั้ง นอกจากนี้ วิธีการประเมินราคาสินค้าคงคลังที่แตกต่างกัน (FIFO, LIFO, Weighted Average) สามารถส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่องบการเงินของบริษัท โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่ราคาผันผวน
Tips
- สับสนระหว่างวิธี Periodic และ Perpetual: ความแตกต่างหลักคือวิธี Periodic จะคำนวณ COGS และสินค้าคงเหลือเมื่อสิ้นงวด ในขณะที่ Perpetual method จะอัปเดตบันทึกอย่างต่อเนื่องหลังจากการขายหรือการซื้อแต่ละครั้ง
- ข้อผิดพลาดทางคณิตศาสตร์: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าการคำนวณของคุณถูกต้อง การคำนวณที่ผิดพลาดเล็กน้อยอาจนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ไม่ถูกต้องทั้งหมด
- การประยุกต์ใช้วิธีการประเมินสินค้าคงเหลือที่ไม่ถูกต้อง: ต้องแน่ใจว่าคุณเข้าใจวิธีการทำงานของแต่ละวิธี (FIFO, LIFO, Weighted Average) และนำไปใช้อย่างถูกต้องกับข้อมูลที่ให้มา
AI-generated content may contain errors. Please verify critical information