Unicellular Organisms and Cytoskeleton

เซลล์และโครงสร้างเซลล์

• เซลล์เดียวมีโครงสร้างที่เรียกว่าซิตอสนเกล โดยมีส่วนประกอบเช่น โปรตีนที่ช่วยให้เซลล์เคลื่อนไหว
• อโรมิบา (Amoeba) ใช้เส้นใยขนาดเล็ก (microfilament) สำหรับการเคลื่อนไหวในลักษณะของ pseudopodia
• ยูเกลนา (Euglena) และพารามีเซีย (Paramecium) มีใช้งานของฟลาเจลลัมและซิเลีย (Cilia) ตามลำดับเพื่อการเคลื่อนที่

โครงสร้างภายในเซลล์

• โครงสร้างเซลล์ประเภทไมโครทิวบูลอ (microtubule) มีเเบบ 9+2 และเบสที่เรียกว่า basal body มีแบบ 9+0
• สัตว์บางชนิด เช่น แมงกะพรุน (jellyfish) และปลาหมึก (squid) ใช้นวัตกรรม Jet propulsion สำหรับการเคลื่อนที่

ประเภทของโครงกระดูก

• โครงกระดูกนอก (Exoskeleton) พบในหอยเชลล์ในขณะที่โครงกระดูกใน (Endoskeleton) พบภายในร่างกาย เช่น ในมือมนุษย์
• การเคลื่อนไหวของโครงกระดูกภายในจะสามารถเกิดขึ้นได้ด้วยการหดและคลายตัว (peristalsis)

องค์ประกอบของโครงกระดูก

• โครงกระดูกแกนกลาง (Axial Skeleton) เช่น กระดูกสันหลังที่มี 26 ชิ้น
• โครงกระดูกหาง (Appendicular Skeleton) ช่วยในการเคลื่อนไหว โดยมีความสัมพันธ์กับการสนับสนุนการเคลื่อนไหวของร่างกาย

ข้อต่อมรณะ

• ข้อต่อที่ไม่เคลื่อนที่ (Immovable) เรียกว่า Fibrous joint, เช่น sutures ของกระดูก
• ข้อต่อที่เคลื่อนที่น้อย (Slightly movable) เช่น Intervertebral disc ซึ่งเป็นชนิด Cartilaginous joint

กระดูกซี่โครง

• กระดูกซี่โครงรวมถึงกระดูก sternum ทำหน้าที่ในการสร้างโครงสร้างช่องอกและปกป้องอวัยวะภายใน

ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับกระดูก

• มีซี่กระดูกในร่างกายที่แบ่งออกเป็นหมวดหมู่ต่าง ๆ ฟังก์ชันและการสนับสนุนโครงสร้างของร่างกาย### ช่องทางการสืบพันธุ์
• สัตว์บางประเภทใช้การผสมพันธุ์แบบ Hermaphrodite (กะเทย) มีอวัยวะเพศทั้งชายและหญิง
• Paramecium เป็นจุลชีพที่มีวิธีการสืบพันธุ์ที่หลากหลาย รวมถึง conjugation

การตกไข่และการปฏิสนธิ

• การรวมของนิวเคลียสของอสุจิและไข่เรียกว่า fertilization
• สัตว์น้ำ เช่น ปลา ใช้กรรมวิธีการปฏิสนธิทางน้ำ

การกำหนดเพศ

• ระบบ XX-XY กำหนดเพศในมนุษย์ โดยเพศหญิงเป็น XX และเพศชายเป็น XY
• ระบบ ZW-ZZ พบในนก โดยเพศหญิงเป็น ZW และเพศชายเป็น ZZ

การสร้างสเปิร์ม (Spermatogenesis)

• เริ่มที่ testis โดยการแบ่งเซลล์ชนิด mitosis เรียกว่า spermatogonium
• หลังจากเข้าสู่ช่วงวัยแรกรุ่น (puberty) จะมีการเปลี่ยนแปลงให้เป็น primary spermatocyte

ฮอร์โมนเพศชาย

• Leydig cells ผลิตฮอร์โมน testosterone ซึ่งเป็นตัวกระตุ้นการสร้างสเปิร์ม
• Sertoli cells สนับสนุนการสร้างสเปิร์มและมีบทบาทในการพัฒนาเซลล์จาก spermatogonium ถึง spermatozoa

ขั้นตอนการสร้างสเปิร์ม

• Primary spermatocyte ผ่าน meio I เพื่อสร้าง secondary spermatocyte
• Secondary spermatocyte แบ่งออกเป็น spermatids
• Spermatids จะพัฒนาเป็น spermatozoa ผ่านกระบวนการ spermiogenesis

การตอบสนองทางเพศ

• การหลั่งสารเป็นสิ่งสำคัญก่อนการมีเพศสัมพันธ์
• การหดตัวของช่องคลอดและมดลูกเกิดขึ้นในระหว่างการถึงจุดสุดยอด (orgasm)### ผลจากโปรเจสเตอร์น
• โปรเจสเตอร์น (Progesterone) มีผลกระตุ้นการแบ่งเซลล์ในเยื่อบุโพรงมดลูก (Endometrium)
• การสร้างเยื่อบุโพรงมดลูกหนาขึ้นเพื่อรองรับการตั้งครรภ์

การแบ่งเซลล์

• Mitosis เป็นกระบวนการแบ่งเซลล์ที่ทำให้เซลล์ใหม่เกิดขึ้นจากเซลล์เดิม
• Prophase I เป็นขั้นตอนแรกในกระบวนการ meio (Meiosis) ที่เกี่ยวข้องกับการแบ่งเซลล์ในกระบวนการสืบพันธุ์

การพัฒนาเซลล์

• FSH (Follicle-stimulating hormone) มีบทบาทสำคัญในการกระตุ้นการพัฒนาเซลล์สืบพันธุ์
• ระยะเริ่มต้นของการเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์ (Puberty) ส่งผลต่อการผลิตฮอร์โมนและพัฒนาเซลล์สืบพันธุ์

ข้อมูลเพิ่มเติม

• "Primary Cyte" คือเซลล์สืบพันธุ์ในระยะเริ่มต้นซึ่งมีความสำคัญต่อการเจริญเติบโตและการผลิตไข่ในเพศหญิง
• การเปลี่ยนแปลงในระดับฮอร์โมนส่งผลต่อกระบวนการการสร้างและพัฒนาเซลล์ในรังไข่