Q2พฤหัสบ่าย_6309684626.pdf

Online Quiz (2) TU101 ภาคปกติ 540001_พฤหัสบ่าย กระดาษคาถาม ชื่อ-นามสกุล : ณัฐนันท์ บวรทัตพิสุทธิ์ เลขทะเบียนนักศึกษา : 6309684626 เบอร์โทรศัพท์ : 0944485312 คาชี้แจง ขอให้นักศึกษาพิมพ์คาตอบลงในไฟล์นี้ โดยใช้ฟ้อนต์ TH Sarabun New/PSK...

Online Quiz (2) TU101 ภาคปกติ 540001_พฤหัสบ่าย กระดาษคาถาม ชื่อ-นามสกุล : ณัฐนันท์ บวรทัตพิสุทธิ์ เลขทะเบียนนักศึกษา : 6309684626 เบอร์โทรศัพท์ : 0944485312 คาชี้แจง ขอให้นักศึกษาพิมพ์คาตอบลงในไฟล์นี้ โดยใช้ฟ้อนต์ TH Sarabun New/PSK ขนาด 16 ระยะห่างระหว่าง บรรทัด 1.15 เท่านัน้ และสามารถใช้ตวั หนา/ขีดเส้นใต้ตามที่นักศึกษาคิ ดว่าเป็ นประเด็นสาคัญของ คาตอบตนเอง ความยาวของคาตอบทีเ่ หมาะสมควรอยู่ระหว่าง 2 – 3 หน้า (ห้ามเกิน 3 หน้า) เมื่อตอบคาถามเสร็จแล้ว ให้ทาการบันทึกไฟล์เป็ น PDF file (.PDF) โดยตัง้ ชื่อไฟล์ว่า Q2_เลขทะเบียน นักศึกษา10หลัก เช่น Q2_6303680304 (บันทึกรวมหน้ากระดาษคาถามและกระดาษคาตอบ ไม่ต้องแยก ไฟล์) นาส่งที่ Google form ทีไ่ ด้มกี ารแจ้งไว้ใน TU-moodle และ MS Teams ตามกลุ่มเรียนของตนเองเท่านัน้ ส่งไฟล์คาตอบภายในวันอาทิ ตย์ที่ 11 เม.ย. 2564 (23.59 น.) หากส่งหลังช่วงเวลาดังกล่าวจะเริม่ หักชัวโมงละ ่ 1 คะแนน นักศึกษาควรระมัดระวังปั ญหาเชิงเทคนิค เช่น สัญญาณอินเตอร์เน็ต ไฟดับ บันทึกไฟล์ไม่ได้ นักศึกษาจึงควร เตรียมความพร้อมให้เรียบร้อย และวางแผนเวลาในการส่งล่วงหน้า หมายเหตุ: ไฟล์คาตอบของนักศึกษาทุกคนจะถูกนาไปตรวจหาการคัดลอกทางวิชาการ (Academic plagiarism) ผ่าน ทางระบบ Turnitin ซึ่งหากตรวจพบว่ามีข้อความส่วนหนึ่งส่วนใดเหมือนกับนักศึกษาท่านอื่น ทัง้ ในกลุ่มเรียนเดียวกัน และข้ามกลุ่มจะถือว่าเป็ นการลอกกันในทุกกรณี รวมทัง้ หากมีการคัดลอกข้อความจากเว็บไซต์หรือหนังสือโดยทีไ่ ม่มกี าร อ้างอิงแทรกในเนื้อหาคาตอบ จะมีผลให้คะแนนเป็ น 0 หรือมีการหักคะแนนตามดุลพินิจของทีมผูส้ อน คาถาม นักการเมืองที่ดาเนินนโยบายประชานิยมมักอ้างว่า “ตนเองเท่านัน้ ทีเ่ ป็ นตัวแทนของ ประชาชนและสามารถตอบสนองความต้องการที แ่ ท้ จริ งของประชาชนได้” นักศึกษา คิดเห็นอย่างไรต่อข้อกล่าวอ้างดังกล่าว จงอธิบายพร้อมยกตัวอย่างประกอบพอสังเขป  กระดาษคาตอบ ชื่อ-นามสกุล : ณัฐนันท์ บวรทัตพิสุทธิ์ เลขทะเบียนนักศึกษา : 6309684626 เมื่อ พู ด ถึง นั ก การเมืองที่ด าเนิ น นโยบายประชานิ ย ม แน่ น อนว่ าท้ ายสุ ด ก็ ทาเพื่อ ผลประโยชน์ ทางด้านการเมืองกันทัง้ นัน้ ดังนัน้ จากคากล่าวอ้างทีว่ ่า “ตนเองเท่านัน้ ทีเ่ ป็ นตัวแทนของประชาชนและ สามารถตอบสนองความต้องการที แ่ ท้ จริ งของประชาชนได้” นัน่ ก็แสดงให้เห็นได้อย่างชัดเจนแล้วว่า คาพู ดนี้ต้องถูกสร้างขึ้นมาเพื่อโน้มน้าวให้ประชาชนมันใจ ่ และเชื่อใจว่า บ้านเมืองจะก้าวหน้าต่อไปได้ แต่ ทว่ าความเป็ น จริง มักจะตรงกัน ข้ามกันอย่างสิ้น เชิง นั ก การเมืองส่วนมากยังไม่เห็น ถึงปั ญ หาที่แ ท้จ ริง ที่ เกิดขึน้ ด้วยซ้า มักใช้วธิ กี ารแก้ปัญหาทีแ่ ก้ปัญหาได้อย่างชัวคราวในระยะเวลาสั ่ น้ ๆ ก่ อ นอื่น จะขออธิบ ายถึ ง ค าว่ า “ประชานิ ยม” โดยประชานิ ย มคื อ กิ จ กรรมทางการเมื อ ง ที่ นักการเมืองจัดทาขึน้ เพื่อสร้างคะแนนนิยมให้แก่พรรคของตน และรัฐบาลที่พรรคของตนเป็ นแกนนา ซึ่งมี มาตรการมากมายหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็ นการแจกเงินทอง หรือข้าวของแก่ประชาชน โดยมักมีเป้ าหมาย สาคัญคือผู้ที่มรี ายได้น้อย หรือผู้คนระดับรากหญ้า เพื่อให้ผู้คนเหล่านี้เห็นว่าตนสามารถช่วยเหลือประเทศ ได้ ดังนัน้ คาว่า “นโยบายประชานิ ยม” จึงหมายถึงนโยบายที่จดั ทาขึ้นเพื่อให้ประชาชนตัดสินใจเลือกตน มาเป็ นผู้นาของประเทศ โดยตัง้ นโยบายไว้หาเสียงก่อนเลือกตัง้ เมื่อได้รบั เลือกพรรคเหล่านัน้ ต้องทาตาม สัญญาที่ให้ไว้กบั ประชาชน แต่หากไม่ดาเนินการตามที่สญ ั ญาไว้ ก็จะกลายเป็ นสิง่ ทีเ่ รียกว่า ‘โปรโมชัน’่ ซึ่ง นโยบายประชานิยมนี้กเ็ ป็ นหนึ่งในหัวใจของพรรคการเมือง ซึ่งส่งผลต่อประเทศอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็ นใน ด้านเศรษฐกิจ ด้านการเมืองและด้านสังคม ภูรวิ จั น์ ปุณยวุฒปิ รีดา, 2563, มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราช วิทยาลัย วิทยาลัยสงฆ์พุทธศรีทวารวดี, (ออนไลน์), แหล่งทีม่ า : https://so02.tci-thaijo.org/index.php/jsbs/article/view/242656, 10 เมษายน 2564. ยกตัวอย่างเมื่อปี พ.ศ.2544 สมัยรัฐบาลของ “พรรคไทยรัก ไทย” ภายใต้ก ารน าของพัน ตารวจโท ดร.ทัก ษิ ณ ชิน วัตร ที่ได้ม ีก ารน าเสนอนโยบายประชานิ ยมเป็ น นโยบายหลัก ที่ใช้ในการรณรงค์หาเสียง เลือกตัง้ ซึ่งผลปรากฏว่าพรรคนี้ได้รบั คะแนนเสียงอย่างถล่มทลายจากประชาชน ซึ่งส่วนใหญ่มาจากกลุ่ม “ชนชัน้ รากหญ้า” “ชนชัน้ รากหญ้า” ซึ่งมีนโยบายทีป่ ระสบความสาเร็จอยู่มาก อาทิ นโยบาย 30 บาทรักษา ทุกโรค,นโยบายรับจานาข้าว,โครงการหนึ่งตาบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ หรือ โครงการพักชาระหนี้เกษตรกรและลด ภาษีหนี้ให้แก่เกษตรกรรายย่อย เป็ นต้น ซึ่งถือว่าเป็ นยุคเฟื่ องฟูของการใช้แนวทางประชานิยมเป็ นหลัก จน  กระดาษคาตอบ นาไปสู่สภาวะการเปลีย่ นแปลงทางสังคมทีป่ ระชาชนและเกิดการเสพติดประชานิยม ไปจนถึงการหลงใหลใน ตัวผูน้ ารัฐบาล และพรรคการเมืองทีใ่ ช้นโยบายประชานิยม ชื่อ-นามสกุล : ณัฐนันท์ บวรทัตพิสุทธิ์ เลขทะเบียนนักศึกษา : 6309684626 ภัทร หวังกิตติกุล, “ผลกระทบของนโยบายประชานิยมแบบทักษิณ ต่ อ การเมือ งในระบอบประชาธิ ป ไตยของไทย”, วิท ยานิ พ นธ์ มหาบัณฑิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2554, หน้า 10-11. อเนก เหล่าธรรมทัศน์, ทักศิณา-ประชานิยม, (กรุงเทพมหานคร: สานักพิมพ์มติชน), 2549, หน้า 23-46. แน่ นอนว่านโยบายเหล่านี้สามารถเอื้อประโยชน์ ให้แก่ประชาชนคนรากหญ้า แต่นโยบายเหล่านี้ ก็ เหมือนกับดาบสองคม คือด้านหนึ่งให้ประโยชน์แก่ประชาชนได้ แต่อีกด้านหนึ่งก็เป็ นภาระทางด้านการเงิน กับ รัฐบาล และประชาชนผู้เสียภาษีซ่งึ จะต้องแบกรับ ภาระทางด้านการเงินเพิม่ ขึ้นทุกปี จนนาไปสู่สภาวะ เศรษฐกิจทีพ่ งั ทลายอันเนื่องมาจากการทีร่ ฐั บาลใช้งบประมาณแผ่นดินมาปนเปรอประชาชน การกระทาเพื่อแก้ปัญหาเหล่านี้ของพรรคการเมืองทีใ่ ช้นโยบายประชานิยม เป็ นการแก้ปัญหาความ เดือดร้อนอันเกิดจากความยากจนด้วยการให้เงิน หรือการเข้าไปแบกรับดอกเบี้ยแทนประชาชนผู้เป็ นหนี้ ถึงแม้จะช่วยบรรเทาปั ญหานี้ได้บา้ ง แต่กเ็ ป็ นเพียงระยะเวลาสัน้ ๆ แล้วยังเป็ นการปลูกฝั งอุปนิสยั ให้คนไทย นัง่ รอเพียงเงิน ช่วยเหลือจากรัฐบาล ซึ่งจากที่ทราบกัน ดีอยู่แล้วว่าประเทศไทยไม่ได้เป็ นประเทศที่ร่ารวย สถานภาพด้านการคลังย่าแย่ ส่งผลให้ประเทศไทยเป็ น หนี้ เพิ่มขึ้น และเพิ่มขึ้น จากการจัด เก็บ รายได้ไ ม่ พอทีจ่ ะนามาบริหารประเทศ ไม่เพียงเท่านัน้ รัฐบาลไทยปั จจุบนั โดยผูน้ า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังเพิม่ หนี้สนิ ให้กบั ประเทศในการนามาปรนเปรอประชาชนอีกเช่นกัน จนปั จจุบนั ประเทศไทยมีหนี้รวมกันกว่า 7.7 ล้านบาท ดังนัน้ ก็พอจะเดาได้ว่าในอนาคตประเทศไทยก็คงจะเหมือนหลายประเทศที่เคยใช้นโยบายประชา นิยม คือล่มจมอยู่ในกองหนี้อย่างแน่นอน ในปั จจุ บ ัน จะเห็น ได้ช ัด เจนมากที่สุด นั น่ คือ “พรรคพลังประชารัฐ” ภายใต้ ก ารน าของ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่มกี ารนาเงินมาแก้ปัญหาความยากจน นัน่ คือการแจกเงินคนจน ส่งผลให้ประชาชนที่ ได้รบั เงินเหล่านัน้ เลือกที่จะรอเพียงความช่วยเหลือของรัฐบาล และไม่ประกอบอาชีพ ของตน ซึ่งจะเห็นว่า เป็ นผลของการใช้นโยบายประชานิยมจากอดีต ทีต่ ้องการผลประโยชน์ทางการเมือง ให้ประชาชนรักใคร่และ  กระดาษคาตอบ สนับสนุนรัฐบาลของตน จนเลือกตนมาเป็ นผูน้ าของประเทศ โดยประชาชนส่วนมากก็เป็ นประชาชนกลุ่มคน รากหญ้าอีกเช่นเดียวกัน สามารถ มังสัง, 2562, (ออนไลน์), แหล่งทีม่ า : สามารถ มังสัง, 2562, (ออนไลน์), แหล่งทีม่ า : https://mgronline.com/daily/detail/9620000115291, 10 เมษายน 2564. ชื่อ-นามสกุล : ณัฐนันท์ บวรทัตพิสุทธิ์ เลขทะเบียนนักศึกษา : 6309684626 จากตัวอย่างนัน้ จะแสดงให้เห็นว่านโยบายประชานิยม เป็ นวิธีการที่ผดิ ในการที่จ ะแก้ปั ญ หาด้าน ความยากจนของประชาชน ที่มาแก้ทปี่ ลายเหตุ หากจะให้ดีต้องมาแก้ทเี่ หตุ นัน่ คือการส่งเสริมให้ประชาชน ทุกคนมีงานทา มีรายได้เพียงพอต่อการดารงชีพ เมื่อประชาชนทุกคนมีรายได้เพียงพอก็จะทาให้รายได้ของ รัฐเพิม่ ขึน้ จากการเรียกเก็บภาษี เมื่อประชาชนและรัฐบาลมีรายได้ทเี่ พียงพอ รัฐบาลก็จะไม่จาเป็ นทีจ่ ะต้องกู้ งบประมาณเพื่อมาบริหารประเทศ แต่หากบางกลุ่มคนทีข่ าดปั จจัยในการประกอบอาชีพ รัฐก็ควรคัดเลือก บุคคลทีม่ คี ุณธรรมทีด่ ี มีความมุ่งมันในการประกอบอาชี ่ พจริง และเข้าไปช่วยเหลือในส่วนมีเขาขาด ดังนัน้ จากคากล่าวอ้างทีว่ ่า “ตนเองเท่านัน้ ทีเ่ ป็ นตัวแทนของประชาชนและสามารถตอบสนอง ความต้องการที แ่ ท้จริ งของประชาชนได้” ผูเ้ ขียนขอแสดงความคิดเห็นว่าคาพูดนี้เป็ นเพียงคากล่าวเพื่อ โน้มน้าวให้ประชาชนไว้ใจตนให้เข้ามาบริหารประเทศ นัน่ คือเหตุผลด้านการเมืองเพียงเท่านัน้ โดยที่ไม่ได้ เข้าใจถึงปั ญหาที่แท้จริงที่เกิดขึ้นอยู่ภายในประเทศ เลยใช้วธิ ีการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าในระยะสัน้ แต่กลับ ส่ง ผลในระยะยาว และยังไม่สามารถแก้ ปั ญ หาได้จ นถึงปั จจุ บ ัน นั น่ หมายถึงว่ าพรรคของนัก การเมืองที่ นโยบายประชานิยมเหล่านี้ ยังไม่สามารถแก้ปัญหาที่เกิดขึน้ ภายในประเทศได้อย่างถ่องแท้ แต่เป็ นเพียงแค่ วิธกี ารแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเพียงเท่านัน้ และการแก้ปัญหาเหล่านี้ ยังส่งผลเสียต่อประเทศในทุกด้าน นัน่ คือ ด้านเศรษฐกิจ ด้านการเมือง และด้านสังคม กระดาษคาตอบ