กรอบแนวคิดสำหรับการรายงานทางการเงิน PDF
Document Details
Uploaded by FresherNephrite8960
เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทร์
Tags
Related
- Conceptual Framework and Environment of Accounting Standards PDF
- Revised Conceptual Framework for Financial Accounting PDF
- Introduction to Conceptual Framework for Financial Reporting PDF
- FAR210 Topic 2 Malaysian Conceptual Framework for Financial Reporting PDF
- Conceptual Framework for Financial Reporting II PDF
- Framework for Financial Reporting PDF
Summary
เอกสารนี้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับกรอบแนวคิดสำหรับการรายงานทางการเงิน ครอบคลุมความหมาย การพัฒนา ประโยชน์ และเนื้อหาของกรอบแนวคิดที่ใช้ในการจัดทำและนำเสนองบการเงิน โดยมีการกล่าวถึงกรอบแนวคิดในหลายประเทศ อีกทั้งยังกล่าวถึงวัตถุประสงค์ของการรายงานทางการเงินเพื่อวัตถุประสงค์ทั่วไป และลักษณะเชิงคุณภาพของข้อมูลการเงินที่มีประโยชน์
Full Transcript
กรอบแนวคิดสำหรับกำรรำยงำนทำงกำรเงิน (Conceptual Framework for Financial Reporting) 1 Conceptual Framework for Financial Reporting เป็ นกติกำรทำงบัญชีที่ทำให้งำนของทุกฝ่ ำยดำเนิ นไปด้วยควำมเข้ำใจอย่ำง ถูกต้องตรงกัน ดังนี้ 1. คณะกรรมกำรมำตรฐำนกำร...
กรอบแนวคิดสำหรับกำรรำยงำนทำงกำรเงิน (Conceptual Framework for Financial Reporting) 1 Conceptual Framework for Financial Reporting เป็ นกติกำรทำงบัญชีที่ทำให้งำนของทุกฝ่ ำยดำเนิ นไปด้วยควำมเข้ำใจอย่ำง ถูกต้องตรงกัน ดังนี้ 1. คณะกรรมกำรมำตรฐำนกำรบัญชีของประเทศต่ำง ๆ ใช้เป็ นกรอบอ้ำงอิง ในกำรแก้ไขปัญหำทำงกำรบัญชี (ไม่มีมำตรฐำนฯ กำหนด) 2. ใช้เป็ นเหตุผลสนับสนุนกำรใช้ดุลยพินิจของผูจ้ ดั ทำงบกำรเงิน 3. ส่ งเสริ มควำมเข้ำใจและควำมมัน่ ใจตต่อผูใ้ ช้งบกำรเงินวำงงบกำรเงินที่ จัดทำขึ้นตำมกรอบกติกำเดียวกันสำมำรถเปรี ยบเทียบกันได้ 2 Agenda ควำมหมำยของกรอบแนวคิดสำหรับกำรรำยงำนทำงกำรเงิน พัฒนำกำรของกรอบแนวคิดสำหรับกำรรำยงำนทำงกำรเงิน ประโยชน์ของกรอบแนวคิดสำหรับกำรรำยงำนทำงกำรเงิน เนื้ อหำของกรอบแนวคิดสำหรับกำรรำยงำนทำงกำรเงิน 3 ความหมายของกรอบแนวคิดสาหรับการรายงานทางการเงิน กรอบแนวคิดฯ ➔ เกณฑ์ที่ใช้ในกำรจัดทำและนำเสนองบกำรเงิน อีกทั้งยังสำมำรถ ใช้เป็ นกรอบอ้ำงอิงในกำรแก้ปัญหำทำงกำรบัญชีในขณะที่ยงั ไม่มีมำตรฐำนกำรบัญชี สำหรับเรื่ องนั้น ๆ กรอบแนวคิดฯ ➔ เป็ นเหตุผลสนับสนุนกำรใช้ดุลยพินิจในกำรจัดทำข้อมู ลทำงกำร บัญชี ตลอดจนเสริ มสร้ำงควำมเข้ำใจและควำมมัน่ ใจต่อผูใ้ ช้ขอ้ มูลทำงกำรบัญชีได้ จัดทำขึ้นภำยใต้กรอบเดียวกัน กรอบแนวคิดฯ ➔ เป็ นกรอบของมำตรฐำนกำรบัญชีและมำตรฐำนกำรรำยงำนทำง กำรเงิน แต่มิได้กำหนดมำตรฐำนในกำรวัดมูลค่ำหรื อเปิ ดเผยข้อมูลกำรบัญชีในเรื่ องใด เรื่ องหนึ่งโดยเฉพำะ (กรอบแนวคิดฯ ไม่สำมำรถหักล้ำงหลักกำรของมำตรฐำนกำร รำยงำนทำงกำรเงิน) 4 พัฒนาการของกรอบแนวคิดสาหรับการรายงานทางการเงิน กรอบแนวคิดฯ เริ่ มพัฒนำอย่ำงจริ งจังในช่วงทศวรรษ 1970 และ 1980 ดังนี้ ประเทศสหรัฐอเมริ กำ คณะกรรมกำรมำตรฐำนกำรบัญชีของสหรัฐอเมริ กำ (FASB: Financial Accounting Standard Board) ได้เริ่ มทำแม่บทกำรบัญชีในปี ค.ศ. 1978 แต่ หยุดชะงัก ในปี ค.ศ. 1978 ถึง 2000 ได้พฒ ั นำกรอบแนวคิดฯ ออกมำทั้งหมด 6 เล่ม (ปัจจุบนั เหลือ 5 เล่ม เพรำะยกเลิกเล่มที่ 3) อำจกล่ำวได้วำ่ กรอบแนวคิดฯ ของสหรัฐอเมริ กำเป็ นต้นแบบของกำรพัฒนำกรอบ แนวคิดฯ ของประเทศอื่น เนื้ อหำของกรอบแนวคิดฯ ประกอบด้วย วัตถุประสงค์ของรำยงำนทำงกำรเงิน (เน้นผูม้ ีส่วนได้เสี ยทำงกำรเงินเท่ำนั้น) ลักษณะเชิงคุณภำพข้อข้อมูลทำงกำรบัญชี องค์ประกอบของงบกำรเงิน เกณฑ์กำรรับรู ้และกำรวัดมูลค่ำ กำรใช้ขอ้ มูลกระแส เงินสดและมูลค่ำปั จจุบนั ในกำรวัดมูลค่ำ 5 พัฒนาการของกรอบแนวคิดสาหรับการรายงานทางการเงิน (ต่ อ) ประเทศออสเตรเลีย โครงกำรกรอบแนวคิดฯ เริ่ มในปี ค.ศ. 1972 แต่พฒั นำอย่ำงจริ งจังในปี ค.ศ. 1983 ออกมำทั้งหมด 5 เล่ม มีควำมคล้ำยคลึงกับกรอบแนวคิดฯ ของ สหรัฐอเมริ กำ แต่เนื้อหำวัตถุประสงค์ของงบกำรเงินเพื่อประโยชน์ในกำร ตัดสิ นใจและแสดงถึงควำมรับผิดชอบตำมหน้ำที่ ปั จจุบน ั ประเทศออสเตรเลียถือปฏิบตั ิตำมกรอบแนวคิดสำหรับกำรรำยงำน ทำงกำรเงินที่ออกโดยคณะกรรมกำรมำตรฐำนกำรบัญชีระหว่ำงประเทศ (International Accounting Standards Board: IASB) 6 พัฒนาการของกรอบแนวคิดสาหรับการรายงานทางการเงิน (ต่ อ) สหรำชอำณำจักร เริ่ มพัฒนำกรอบแนวคิดฯ โดยคณะกรรมกำรมำตรฐำนกำรบัญชี โดยได้ตีพิมพ์งำน ที่มีชื่อว่ำ “The Corporate Report” ในปี ค.ศ. 1976 แต่กต็ อ้ งหยุดชะงัก จนปี ค.ศ. 1989 เริ่ มมีกำรพัฒนำอีกครั้งจนล่ำสุ ด ปี ค.ศ. 1999 กรอบแนวคิดฯ ของอังกฤษได้ มีกำรประกำศใช้ในชื่อ “The Statement of Principles for Financial Reporting” ลักษณะของกรอบแนวคิดฯ เป็ นเชิงนิ รนัย (Deductive) โดยรวบรวมจำกทฤษฎีต่ำง ๆ ประกอบด้วย 8 บท เริ่ มจำกวัตถุประสงค์หลักของรำยงำนทำงกำรเงินอย่ำงกว้ำง ๆ ที่มุ่งเน้นกำรให้ขอ้ มูลต่อผูม้ ี “สิ ทธิ ” ผูม้ ีสิทธิ คือ ผูม้ ีส่วนได้เสี ย ที่ไม่ใช้ผถู ้ ือหุ น ้ เพียงกลุ่มเดียว ดังนั้น ทำให้มีกำรจัดทำ งบมูลค่ำเพิ่ม (Value Added Statement) รำยงำนเกี่ยวกับกำรจ้ำงงำน (Employee Report) ปั จจุบน ั สหรำชอำณำจักรถือปฏิบตั ิตำมกรอบแนวคิดสำหรับกำรรำยงำนทำง กำรเงิน ที่ออกโดยคณะกรรมกำรมำตรฐำนกำรบัญชีระหว่ำงประเทศ 7 พัฒนาการของกรอบแนวคิดสาหรับการรายงานทางการเงิน (ต่ อ) ประเทศแคนำดำ คณะกรรมกำรมำตรฐำนกำรบัญชีเริ่ มพัฒนำกรอบแนวคิดฯ ในปี 1980 โดย เริ่ มจำกผลงำนวิจยั เรื่ อง “Corporate Reporting: Its Future Evolution” จน กลำยมำเป็ นกรอบแนวคิดฯ (Conceptual Framework for Financial Reporting) ในปี 1987 กรอบแนวคิดฯ ของแคนำดำคล้ำยคลึงกับประเทศสหรัฐอเมริ กำ โดยให้ ควำมสำคัญกับข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับกำรตัดสิ นใจของผูล้ งทุน ปั จจุบน ั ประเทศแคนำดำ ถือปฏิบตั ิตำมกรอบแนวคิดสำหรับกำรรำยงำนทำง กำรเงิน ที่ออกโดยคณะกรรมกำรมำตรฐำนกำรบัญชีระหว่ำงประเทศ 8 พัฒนาการของกรอบแนวคิดสาหรับการรายงานทางการเงิน (ต่ อ) ระดับนำนำชำติหรื อสำกล ในปีค.ศ. 1988 คณะกรรมกำรมำตรฐำนกำรบัญชีระหว่ำงประเทศ ออก แม่บทกำรบัญชี (Accounting Framework) และเปลี่ยนชื่อเป็ นกรอบแนวคิด สำหรับกำรรำยงำนทำงกำรเงิน ในปี ค.ศ. 2007 ได้เริ่ มปรับปรุ งกรอบแนวคิดฯ ให้เหมำะสมกับรำยกำรและ เหตุกำรณ์ทำงเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในปัจจุบนั 9 พัฒนาการของกรอบแนวคิดสาหรับการรายงานทางการเงิน (ต่ อ) ประเทศไทย สภำวิชำชีพบัญชีฯ ได้นำแม่บทกำรบัญชีของ IASB มำถือปฏิบตั ิ โดยออก เผยแพร่ เมื่อ พ.ศ.2542 และมีผลบังคับเมื่อ พ.ศ.2543 ในปี 2552 ได้ประกำศให้ใช้แม่บทกำรบัญชี ฉบับปรับปรุ ง 2552 ในปี2557 คณะกรรมกำรกำหนดมำตรฐำนกำรบัญชี ได้จดั ทำกรอบแนวคิด สำหรับกำรรำยงำนทำงกำรเงิน เพื่อมำใช้ทดแทนแม่บทกำรบัญชี (ปรับปรุ ง 2552) กรอบแนวคิดฯ ของประเทศไทยในปั จจุบน ั ในใช้ฉบับปรับปรุ ง พ.ศ. 2563 10 ประโยชน์ ของกรอบแนวคิดสาหรับการรายงานทางการเงิน เป็ นแนวทำงในกำรพัฒนำมำตรฐำนกำรบัญชี เป็ นแนวทำงในกำรนำมำตรฐำนมำปฏิบตั ิ เป็ นแนวทำงในกำรแสดงควำมเห็นต่องบกำรเงิน ช่วยให้เข้ำใจควำมหมำยของข้อมูลที่แสดงในงบกำรเงิน ช่วยให้ทรำบข้อมูลเกี่ยวกับแนวทำงในกำรกำหนดมำตรฐำนกำรบัญชี 11 กรอบแนวคิดสำหรับกำรรำยงำนทำงกำรเงิน กรอบแนวคิดสำหรับกำรรำยงำนทำงกำรเงินกล่ำวถึง 8 เรื่ องดังต่อไปนี้ 1. วัตถุประสงค์ของกำรรำยงำนทำงกำรเงินเพื่อวัตถุประสงค์ทวั่ ไป 2. ลักษณะเชิงคุณภำพของข้อมูลกำรเงินที่มีประโยชน์ 3. งบกำรเงินและกิจกำรที่เสนอรำยงำน 4. องค์ประกอบของงบกำรเงิน 5. กำรรับรู ้รำยกำรและกำรเลิกรับรู ้รำยกำร 6. กำรวัดค่ำ 7. กำรแสดงรำยกำรและกำรเปิ ดเผยข้อมูล 8. แนวคิดเกี่ยวกับเงินทุนและกำรรักษำระดับเงินทุน 1. วัตถุประสงค์ของการรายงานทางการเงินเพื่อวัตถุประสงค์ท่วั ปป 1. วัตถุประสงค์ของกำรรำยงำนทำงกำรเงินเพื่อวัตถุประสงค์ทวั่ ไป รำยงำนกำรเงินเพื่อวัตถุประสงค์ทวั่ ไป คือ รำยงำนที่ให้ขอ้ มูลกำรเงินเกี่ยวกับทรัพยำกรเชิงเศรษฐกิจ ของกิจกำรที่เสนอรำยงำน สิ ทธิ เรี ยกร้องต่อกิจกำรและกำรเปลี่ยนแปลงทรัพยำกรเชิงเศรษฐกิจและ สิ ทธิ เรี ยกร้อง ซึ่ งเป็ นประโยชน์ต่อผูใ้ ช้หลักในกำรตัดสิ นใจเกี่ยวกับกำรจัดหำทรัพยำกรให้แก่กิจกำร นั้น รำยงำนกำรเงินเพื่อวัตถุประสงค์ทวั่ ไปมีวตั ถุประสงค์คือ กำรให้ขอ้ มูลกำรเงินเกี่ยวกับกิจกำรที่เสนอ รำยงำนที่มีประโยชน์ต่อนักลงทุน ผูใ้ ห้กแู้ ละเจ้ำหนี้อื่นทั้งในปั จจุบนั และที่อำจจะเป็ นในอนำคต ใน กำรตัดสิ นใจเกี่ยวกับกำรจัดหำทรัพยำกรให้แก่กิจกำรนั้น ซึ่ งกำรตัดสิ นใจเหล่ำนั้น เกี่ยวกับ 1.1กำรซื้ อ ขำย หรื อถือตรำสำรทุนและตรำสำรหนี้ 1.2 กำรให้หรื อชำระเงินกูแ้ ละสิ นเชื่อในรู ปแบบอื่น หรื อ 1.3 กำรใช้สิทธิ ออกเสี ยงหรื อมีอิทธิ พลต่อกำรดำเนิ นกำรของฝ่ ำยบริ หำรที่กระทบกำรใช้ ทรัพยำกรเชิงเศรษฐกิจของกิจกำร 1. วัตถุประสงค์ของกำรรำยงำนทำงกำรเงินเพื่อวัตถุประสงค์ทวั่ ไป ผูใ้ ช้หลักของรำยงำนกำรเงินเพื่อวัตถุประสงค์ทวั่ ไปคือ นักลงทุน ผูใ้ ห้กแู้ ละเจ้ำหนี้อื่นทั้งในปั จจุบนั และที่อำจจะเป็ นในอนำคต รำยงำนกำรเงินเพื่อวัตถุประสงค์ทวั่ ไปไม่ให้และไม่สำมำรถให้ขอ้ มูลที่ผใู ้ ช้หลักต้องกำรทั้งหมดได้ ผูใ้ ช้ตอ้ งพิจำรณำข้อมูลที่เกี่ยวข้องจำกแหล่งอื่น เช่น สภำพเศรษฐกิจและควำมคำดหวังเกี่ยวกับ เศรษฐกิจโดยทัว่ ไป เหตุกำรณ์ทำงกำรเมืองและบรรยำกำศกำรเมือง สภำพกำรณ์เกี่ยวกับ อุตสำหกรรมและบริ ษทั มำประกอบกำรตัดสิ นใจ รำยงำนกำรเงินเพื่อวัตถุประสงค์ทวั่ ไปไม่ใช่สิ่งจำเป็ นต่อกำรตัดสิ นใจของฝ่ ำยบริ หำรของกิจกำร เนื่องจำกฝ่ ำยบริ หำรสำมำรถได้รับข้อมูลกำรเงินที่ตอ้ งกำรจำกภำยในกิจกำรอยูแ่ ล้ว รำยงำนกำรเงินเพื่อวัตถุประสงค์ทวั่ ไปอำจมีประโยชน์สำหรับผูเ้ กี่ยวข้องอื่น เช่น หน่วยงำนกำกับ ดูแลและสำธำรณชนนอกจำกนักลงทุน ผูใ้ ห้กแู้ ละเจ้ำหนี้อื่น แต่รำยงำนกำรเงินเพื่อวัตถุประสงค์ ทัว่ ไปนี้ไม่ได้มีวตั ถุประสงค์หลักเพื่อประโยชน์ของผูใ้ ช้กลุ่มนี้ 1. วัตถุประสงค์ ของการรายงานทางการเงินเพื่อวัตถุประสงค์ ทวั่ ไป รำยงำนกำรเงินเพื่อวัตถุประสงค์ทวั่ ไปให้ขอ้ มูลเกี่ยวกับฐำนะกำรเงินของกิจกำรที่ เสนอรำยงำนซึ่ งเป็ นข้อมูลเกี่ยวกับทรัพยำกรเชิงเศรษฐกิจของกิจกำรและสิ ทธิเรี ยกร้อง ต่อกิจกำรที่เสนอรำยงำน รำยงำนกำรเงินยังให้ขอ้ มูลเกี่ยวกับผลกระทบของรำยกำร และเหตุกำรณ์อื่นที่เปลี่ยนแปลงทรัพยำกรเชิงเศรษฐกิจของกิจกำรที่เสนอรำยงำนและ สิ ทธิ เรี ยกร้องต่อกิจกำร ซึ่ งข้อมูลที่เป็ นประโยชน์ต่อกำรตัดสิ นใจเกี่ยวกับกำรจัดหำ ทรัพยำกรให้กิจกำรหนึ่ ง ๆ นอกจำกนี้ รำยงำนกำรเงินยังรวมเอกสำรเชิงอรรถำธิบำย เกี่ยวกับควำมคำดหวังและกลยุทธ์ของฝ่ ำยบริ หำรสำหรับกิจกำรที่เสนอรำยงำนและ ข้อมูลคำดกำรณ์อนำคตประเภทอื่นด้วย 2. ลักษณะเชิงคุณภำพของข้อมูลกำรเงินที่มีประโยชน์ 2. ลักษณะเชิงคุณภาพของข้ อมูลการเงินทีม่ ปี ระโยชน์ 2. ลักษณะเชิงคุณภำพของข้อมูลกำรเงินที่มีประโยชน์ (Qualitative Characteristics of Useful Financial Information) ลักษณะเชิงคุณภำพของข้อมูลกำรเงินที่มีประโยชน์ หมำยถึง ลักษณะที่ทำให้ขอ้ มูลมี ประโยชน์สูงสุ ดในกำรตัดสิ นใจเชิงเศรษฐกิจของผูใ้ ช้งบกำรเงิน ซึ่ งลักษณะเชิง คุณภำพของข้อมูลกำรเงินที่มีประโยชน์ต่อผูล้ งทุน ผูใ้ ห้กยู้ มื และเจ้ำหนี้อื่นในปั จจุบนั และอนำคต ประกอบด้วย 1) ลักษณะเชิงคุณภำพพื้นฐำน (Fundamental Qualitative Characteristics) 2) ลักษณะเชิงคุณภำพเสริ ม (Enhancing Qualitative Characteristics) 2. ลักษณะเชิงคุณภาพของข้ อมูลการเงินทีม่ ปี ระโยชน์ 1) ลักษณะเชิงคุณภำพพื้นฐำน (Fundamental Qualitative Characteristics) กล่ำวคือ ข้อมูลกำรเงินจะมี ประโยชน์ต่อผูใ้ ช้ ก็ต่อเมื่อข้อมูลนั้นมีควำมเกี่ยวข้องกับกำรตัดสิ นใจและควำมเป็ นตัวแทนอันเที่ยงธรรม โดยมีรำยละเอียด ดังนี้ 1.1) ควำมเกี่ยวข้องกับกำรตัดสิ นใจ (Relevance) กล่ำวคือ ข้อมูลกำรเงินที่มีควำมเกี่ยวข้องกับกำร ตัดสิ นใจสำมำรถทำให้ผใู ้ ช้ตดั สิ นใจเปลี่ยนแปลงไปเมื่อทรำบหรื อไม่ทรำบข้อมูลนั้น ทั้งนี้ ข้อมูลที่มี ควำมเกี่ยวข้องกับกำรตัดสิ นใจนั้นสำมำรถนำมำใช้ในกระบวนกำรพยำกรณ์ผลลัพธ์ในอนำคตหรื อที่ เรี ยกกันว่ำ ข้อมูลนั้นมีคุณค่ำเพื่อกำรพยำกรณ์ (Predictive Value) นอกจำกข้อมูลนั้นต้องมีคุณค่ำเพื่อ กำรพยำกรณ์แล้ว ข้อมูลนั้นต้องสำมำรถช่วยในกำรยืนยันหรื อชี้ให้เห็นถึงผลของกำรประเมินในอดีต หรื อที่เรี ยกกันว่ำ ข้อมูลนั้นมีคุณค่ำเพื่อกำรยืนยัน (Confirmatory Value) ซึ่ งโดยปกติแล้ว คุณค่ำเพื่อ กำรพยำกรณ์และคุณค่ำเพื่อกำรยืนยันของข้อมูลกำรเงินมีควำมสัมพันธ์กนั กล่ำวคือหำกข้อมูล กำรเงินมีคุณค่ำเพื่อกำรพยำกรณ์แล้วมักมีคุณค่ำเพื่อกำรยืนยันด้วย 2. ลักษณะเชิงคุณภาพของข้ อมูลการเงินทีม่ ปี ระโยชน์ นอกจำกควำมเกี่ยวข้องกับกำรตัดสิ นใจของข้อมูลขึ้นอยูก่ บั ลักษณะของข้อมูลแล้วยัง ขึ้นอยูก่ บั ความมีสาระสาคัญ (Materiality) ของข้อมูลด้วย กล่ำวคือ ข้อมูลมี สำระสำคัญก็ต่อเมื่อกำรไม่แสดงข้อมูลหรื อกำรแสดงข้อมูลที่ขดั ต่อข้อเท็จจริ ง หรื อ กำรแสดงข้อมูลไม่ชดั เจน มีอิทธิ พลต่อกำรตัดสิ นใจของผูใ้ ช้หลักของงบกำรเงินเพื่อ วัตถุประสงค์ทวั่ ไป ซึ่ งควำมมีสำระสำคัญต้องพิจำรณำจำกลักษณะหรื อขนำดของ รำยกำรหรื อทั้งลักษณะและขนำดของรำยกำร ทั้งนี้ข้ ึนอยูก่ บั บริ บทเฉพำะของรำยงำน ทำงกำรเงินของแต่ละกิจกำร โดยในบำงกรณี ลกั ษณะของรำยกำรเพียงอย่ำงเดียวก็ สำมำรถบอกได้วำ่ ข้อมูลนั้นมีควำมเกี่ยวข้องกับกำรตัดสิ นใจ เช่น ผลกำรดำเนินงำน ของส่ วนงำนดำเนิ นงำนใหม่ เนื่องจำกข้อมูลดังกล่ำวสำมำรถบ่งบอกถึงควำมสำมำรถ ในทำกำไรของกิจกำรในอนำคตได้ เป็ นต้น 2. ลักษณะเชิงคุณภาพของข้ อมูลการเงินทีม่ ปี ระโยชน์ 1.2) ควำมเป็ นตัวแทนอันเที่ยงธรรม (Faithful Representation) กล่ำวคือ ข้อมูลกำรเงิน ที่มีควำมเป็ นตัวแทนอันเที่ยงธรรมนั้นต้องแสดงเนื้อหำสำระและควำมเป็ นจริ งเชิง เศรษฐกิจแทนที่จะเป็ นรู ปแบบทำงกฎหมำยเพียงอย่ำงเดียว เนื่องจำกในบำงกรณี ข้อมูลกำรเงินที่แสดงตำมเนื้อหำสำระและควำมเป็ นจริ งเชิงเศรษฐกิจอำจแตกต่ำงไป จำกข้อมูลกำรเงินที่แสดงตำมรู ปแบบทำงกฎหมำย ทั้งนี้ ข้อมูลกำรเงินที่มีควำมเป็ น ตัวแทนอันเที่ยงธรรมต้องมีควำมครบถ้วน ควำมเป็ นกลำง และกำรปรำศจำก ข้อผิดพลำด โดยมีรำยละเอียดดังนี้ 2. ลักษณะเชิงคุณภาพของข้ อมูลการเงินทีม่ ปี ระโยชน์ 1.2.1) ควำมครบถ้วน (Completeness) กล่ำวคือ กิจกำรต้องนำเสนอและเปิ ดเผยข้อมูลกำรเงิน ตลอดจนกำรให้ควำมหมำยและคำอธิ บำยทั้งหมดที่จำเป็ นสำหรับผูใ้ ช้เพื่อเข้ำใจปรำกฏกำรณ์น้ นั เพื่อให้ผใู ้ ช้ขอ้ มูลกำรเงินไม่เข้ำใจผิดในฐำนะกำรเงินและผลกำรดำเนิ นงำนของกิจกำร 1.2.2) ควำมเป็ นกลำง (Neutrality) กล่ำวคือ กิจกำรต้องนำเสนอข้อมูลกำรเงินโดยปรำศจำกอคติ หรื อควำมเอนเอียง แม้วำ่ กำรนำเสนอข้อมูลกำรเงินนั้นอำจส่ งผลเสี ยหำยแก่กิจกำรได้ เช่น กำร เปิ ดเผยข้อมูลเกี่ยวกับคดีควำมที่กิจกำรถูกฟ้องร้องอยูใ่ นหมำยเหตุประกอบงบกำรเงิน เป็ นต้น ทั้งนี้ ควำมเป็ นกลำงจำเป็ นต้องใช้หลักควำมรอบคอบ (Prudence) ด้วย ซึ่ งหลักควำมรอบคอบเป็ น กำรใช้ดุลยพินิจภำยใต้เงื่อนไขของควำมไม่แน่นอนอย่ำงระมัดระวัง โดยที่กำรใช้หลักควำม รอบคอบ หมำยถึง กำรทำให้สินทรัพย์และรำยได้ไม่แสดงสู งเกินไป หนี้สินและค่ำใช้จ่ำยไม่แสดง ต่ำเกินไป และในขณะเดียวกันหลักควำมรอบคอบก็ไม่ได้อนุญำตให้แสดงสิ นทรัพย์และรำยได้ต่ำ เกินไป รวมถึงไม่อนุญำตให้แสดงหนี้สินและค่ำใช้จ่ำยสู งเกินไปด้วย 2. ลักษณะเชิงคุณภาพของข้ อมูลการเงินทีม่ ปี ระโยชน์ 1.2.3) กำรปรำศจำกข้อผิดพลำด (Free from Error) กล่ำวคือ กำรไม่มีขอ้ ผิดพลำดหรื อ กำรละเว้นกำรให้ขอ้ มูลกำรเงิน อย่ำงไรก็ตำม ข้อมูลกำรเงินไม่จำเป็ นต้องถูกต้อง สมบูรณ์ทุกลักษณะ เนื่องจำกในกำรจัดทำข้อมูลกำรเงินบำงรำยกำรอำจจำเป็ นต้องใช้ ดุลยพินิจและกำรประมำณกำร ตัวอย่ำงเช่น กำรคำนวณค่ำเสื่ อมรำคำ โดยอำศัยกำร ประมำณอำยุกำรใช้ประโยชน์ของรำยกำรที่ดิน อำคำรและอุปกรณ์ เป็ นต้น 2. ลักษณะเชิงคุณภาพของข้ อมูลการเงินทีม่ ปี ระโยชน์ 2) ลักษณะเชิงคุณภำพเสริ ม (Enhancing Qualitative Characteristics) นอกจำกข้อมูล กำรเงินที่มีประโยชน์ ซึ่ งมีควำมเกี่ยวข้องกับกำรตัดสิ นใจและควำมเป็ นตัวแทนอัน เที่ยงธรรมแล้ว ข้อมูลกำรเงินยังสำมำรถเพิม่ ประโยชน์ได้มำกยิง่ ขึ้นด้วยลักษณะเชิง คุณภำพเสริ ม แต่ลกั ษณะเชิงคุณภำพเสริ มไม่สำมำรถทดแทนลักษณะเชิงคุณภำพ พื้นฐำนได้ ทั้งนี้ ลักษณะเชิงคุณภำพเสริ มประกอบด้วย 4 ประกำร ได้แก่ กำร เปรี ยบเทียบกันได้ กำรพิสูจน์ยนื ยันได้ ควำมทันเวลำ และควำมเข้ำใจได้ โดยมี รำยละเอียดดังนี้ 2. ลักษณะเชิงคุณภาพของข้ อมูลการเงินทีม่ ปี ระโยชน์ 2.1) กำรเปรี ยบเทียบกันได้ (Comparability) ผูใ้ ช้สำมำรถใช้ประโยชน์จำกข้อมูลกำรเงินมำกยิง่ ขึ้น โดยกำรเปรี ยบเทียบกับข้อมูลกำรเงินที่คล้ำยกันของกิจกำรอื่นสำหรับรอบระยะเวลำรำยงำน เดียวกัน (Cross-Sectional Analysis) หรื อโดยกำรเปรี ยบเทียบกับข้อมูลกำรเงินที่คล้ำยกันของ กิจกำรเดียวกันสำหรับรอบระยะเวลำรำยงำนอื่น (Time-Series Analysis or Trend Analysis) ควำมสำมำรถเปรี ยบเทียบได้ไม่ใช่ควำมสม่ำเสมอ (Consistency) กล่ำวคือ ควำมสม่ำเสมอ หมำยถึง กำรใช้แนวปฏิบตั ิทำงกำรบัญชีเดียวกันสำหรับรำยกำรที่มีเนื้อหำทำงเศรษฐกิจเหมือนกัน ไม่วำ่ จะเป็ นต่ำงรอบระยะเวลำรำยงำนภำยในกิจกำรเดียวกัน หรื อภำยในรอบระยะเวลำรำยงำน เดียวกัน แต่ต่ำงกิจกำรกัน โดยที่ควำมสม่ำเสมอสำมำรถช่วยให้เกิดควำมสำมำรถเปรี ยบเทียบได้ ของข้อมูลกำรเงินได้ อย่ำงไรก็ตำม ในบำงกรณี ข้อมูลกำรเงินอำจสำมำรถเปรี ยบเทียบกันได้ แม้วำ่ ขำดควำมสม่ำเสมอก็ตำม เช่น ในกรณี ที่กิจกำรใช้วธิ ี กำรบัญชีที่แตกต่ำงกันสำหรับรำยกำรที่ มีเนื้อหำเชิงเศรษฐกิจเดียวกันแต่ต่ำงรอบระยะเวลำรำยงำนกัน ผูใ้ ช้ขอ้ มูลกำรเงินอำจใช้ประโยชน์ จำกกำรที่กิจกำรเปิ ดเผยข้อมูลเกี่ยวกับวิธีกำรบัญชีที่เปลี่ยนแปลงไป 2. ลักษณะเชิงคุณภาพของข้ อมูลการเงินทีม่ ปี ระโยชน์ 2.2) กำรพิสูจน์ยนื ยันได้ (Verifiability) กล่ำวคือ ผูส้ งั เกตกำรณ์ที่มีควำมรอบรู ้แตกต่ำงกันและมีควำมเป็ น อิสระจำกกันสำมำรถได้ขอ้ สรุ ปตรงกันว่ำข้อมูลนั้นเป็ นตัวแทนอันเที่ยงธรรมของปรำกฏกำรณ์เชิงเศรษฐกิจที่ นำเสนอ ทั้งนี้ กำรพิสูจน์ยนื ยันได้สำมำรถกระทำทำงตรงหรื อทำงอ้อมได้ ซึ่งกำรพิสูจน์ยนื ยันได้ทำงตรง (Direct Verification) เป็ นกำรพิสูจน์จำนวนหรื อสังเกตได้โดยตรง เช่น กำรตรวจนับเงินสดและสิ นค้ำคงเหลือ เป็ นต้น ส่ วนกำรพิสูจน์ได้ทำงอ้อม (Indirect Verification) เป็ นกำรตรวจสอบปั จจัยนำเข้ำแบบจำลอง สู ตร หรื อเทคนิคอื่น เช่น กำรคำนวณมูลค่ำตำมบัญชีของสิ นค้ำคงเหลือปลำยงวดอีกครั้งโดยใช้วธิ ีกำรตีรำคำสิ นค้ำ คงเหลือเหมือนเดิม เป็ นต้น ซึ่งกำรพิสูจน์ยนื ยันได้สำมำรถช่วยเพิ่มควำมเชื่อมัน่ ให้กบั ผูใ้ ช้งบกำรเงินว่ำข้อมูล นั้นมีควำมเป็ นตัวแทนอันเที่ยงธรรม 2.3) ควำมทันเวลำ (Timeliness) กล่ำวคือ ประโยชน์ของข้อมูลกำรเงินจะมำกขึ้น เมื่อข้อมูลนั้นรำยงำนอย่ำง ทันเวลำ เนื่องจำกกำรมีขอ้ มูลกำรเงินพร้อมให้ผตู ้ ดั สิ นใจเชิงเศรษฐกิจใช้ทนั เวลำที่ขอ้ มูลนั้นสำมำรถมีอิทธิพล ต่อกำรตัดสิ นใจ 2. ลักษณะเชิงคุณภาพของข้ อมูลการเงินทีม่ ปี ระโยชน์ 2.4) ควำมเข้ำใจได้ (Understandability) กล่ำวคือ ผูใ้ ช้ขอ้ มูลกำรเงินจะสำมำรถเข้ำใจข้อมูลกำรเงินนั้นเพื่อ ประโยชน์ในกำรตัดสิ นใจเชิงเศรษฐกิจ ก็ต่อเมื่อข้อมูลนั้นถูกจัดประเภท กำหนดลักษณะและนำเสนอ ข้อมูลอย่ำงชัดเจนและกระชับ โดยมีขอ้ กำหนดว่ำ ผูใ้ ช้ขอ้ มูลกำรเงินต้องมีควำมรู ้เกี่ยวกับกิจกรรมทำง ธุรกิจและกิจกรรมเชิงเศรษฐกิจอย่ำงสมเหตุสมผล รวมทั้งมีควำมขยันหมัน่ เพียรที่จะศึกษำข้อมูลนั้น อย่ำงไรก็ตำม ในบำงกรณี ผูใ้ ช้ขอ้ มูลกำรเงินอำจจำเป็ นต้องอำศัยควำมช่วยเหลือของที่ปรึ กษำเพื่อให้ สำมำรถเข้ำใจข้อมูลกำรเงินที่ซบั ซ้อนได้ดียงิ่ ขึ้น ทั้งนี้ แม้วำ่ ข้อมูลบำงรำยกำรมีควำมซับซ้อนก็ตำม แต่หำก ข้อมูลนั้นมีควำมเกี่ยวข้องกับกำรตัดสิ นใจเชิงเศรษฐกิจ ข้อมูลนั้นก็ควรถูกนำเสนอในรำยงำนกำรเงิน โดย กิจกำรไม่สำมำรถอ้ำงว่ำ ข้อมูลนั้นไม่ควรแสดงในรำยงำนทำงกำรเงิน เนื่องจำกข้อมูลนั้นมีควำมยำก ซับซ้อนจนเกินไปสำหรับผูใ้ ช้ขอ้ มูลกำรเงินที่จะเข้ำใจได้ อย่ำงไรก็ตำม ข้อมูลกำรเงินจะไม่มีประโยชน์กบั ผูใ้ ช้ขอ้ มูล หำกผูใ้ ช้ขอ้ มูลไม่เข้ำใจควำมหมำยของข้อมูลกำรเงินนั้น แม้วำ่ ข้อมูลนั้นเป็ นข้อมูลที่มีควำม เกี่ยวข้องกับกำรตัดสิ นใจและควำมเป็ นตัวแทนอันเที่ยงธรรมก็ตำม 2. ลักษณะเชิงคุณภาพของข้ อมูลการเงินทีม่ ปี ระโยชน์ ข้ อจากัดด้ านต้ นทุนต่ อการรายงานทางการเงินทีม่ ีประโยชน์ ในกำรนำเสนอรำยงำนทำงกำรเงินนั้น กิจกำรต้องถูกจำกัดด้วยต้นทุนในกำรจัดทำรำยงำน ทำง กำรเงินที่มีประโยชน์ ซึ่ งประกอบด้วยต้นทุนเกี่ยวกับกำรรวบรวม กำรประมวลผล ตลอดจนกำร พิสูจน์ยนื ยันและกำรเผยแพร่ ขอ้ มูลกำรเงิน นอกจำกนี้ ต้นทุนยังเกิดขึ้นกับผูใ้ ช้ขอ้ มูลกำรเงิน เช่น ต้นทุนในกำรวิเครำะห์และตีควำมข้อมูลกำรเงิน เป็ นต้น อย่ำงไรก็ตำมข้อมูลกำรเงินยังคงเป็ น ประโยชน์ต่อผูจ้ ดั ทำและผูใ้ ช้ขอ้ มูลกำรเงิน เช่น กำรเข้ำถึงแหล่งเงินทุนที่มีตน้ ทุนต่ำลง กำร จัดสรรทรัพยำกรเพื่อก่อให้เกิดผลตอบแทน เป็ นต้น ดังนั้น ผูจ้ ดั ทำและผูใ้ ช้ขอ้ มูลกำรเงิน จำเป็ นต้องใช้ดุลยพินิจในกำรพิจำรณำเปรี ยบเทียบระหว่ำงประโยชน์ที่จะได้รับกับต้นทุนที่จะ เกิดขึ้นในกำรจัดทำรำยงำนทำงกำรเงิน ตลอดจนต้นทุนในกำรวิเครำะห์และกำรตีควำมข้อมูล กำรเงิน 3. งบการเงินและกิจการที่เสนอรายงาน วัตถุประสงค์ของงบกำรเงิน (The Objective of Financial Statements) คือ กำรให้ขอ้ มูล กำรเงินเกี่ยวกับสิ นทรัพย์ หนี้สิน ส่ วนของเจ้ำของ รำยได้ และค่ำใช้จ่ำยของกิจกำรที่ เสนอรำยงำน ซึ่ งข้อมูลเหล่ำนี้มีประโยชน์ต่อผูใ้ ช้งบกำรเงินในกำรประเมินกระแสเงิน สดรับสุ ทธิ ในอนำคตของกิจกำรและกำรประเมินหน้ำที่และควำมรับผิดชอบของฝ่ ำย บริ หำรต่อทรัพยำกรเชิงเศรษฐกิจของกิจกำร ทั้งนี้ ข้อมูลเหล่ำนี้จะปรำกฏอยูใ่ นงบ 3 ประเภทต่อไปนี้ 1) งบฐำนะกำรเงิน โดยกำรรับรู ้สินทรัพย์ หนี้สิน และส่ วนของเจ้ำของ 2) งบผลกำรดำเนินงำนกำรเงิน โดยกำรรับรู ้รำยได้และค่ำใช้จ่ำย 3. งบการเงินและกิจการที่เสนอรายงาน 3) งบกำรเงินอื่นและหมำยเหตุประกอบงบกำรเงินโดยกำรนำเสนอและเปิ ดเผยข้อมูลเกี่ยวกับ 3.1) สิ นทรัพย์ หนี้ สิน ส่ วนของเจ้ำของ รำยได้และค่ำใช้จ่ำยที่รับรู ้ รวมถึงข้อมูลลักษณะและควำมเสี่ ยงที่ เกิดจำกสิ นทรัพย์และหนี้สินที่รับรู ้น้ นั 3.2) สิ นทรัพย์และหนี้ สินที่ยงั ไม่รับรู ้ รวมถึงข้อมูลลักษณะและควำมเสี่ ยงที่เกิดขึ้นจำกรำยกำรนั้น 3.3) กระแสเงินสด 3.4) เงินทุนที่ได้รับจำกผูเ้ ป็ นเจ้ำของ และกำรจัดสรรคืนให้ผถู ้ ือสิ ทธิ เรี ยกร้องส่ วนของเจ้ำของ และ 3.5) วิธี ข้อสมมติ ดุลยพินิจที่ใช้ประมำณกำรจำนวนเงินที่นำเสนอหรื อเปิ ดเผย และกำรเปลี่ยนแปลงวิธี ข้อสมมติและดุลยพินิจเหล่ำนั้น 3. งบการเงินและกิจการที่เสนอรายงาน รอบระยะเวลารายงาน (Reporting Period) งบกำรเงินให้ขอ้ มูลกำรเงินสำหรับรอบระยะเวลำที่กำหนด โดยให้ ข้อมูลเปรี ยบเทียบของงวดก่อนหน้ำงวดปั จจุบนั เป็ นอย่ำงน้อย เพื่อประโยชน์ของผูใ้ ช้งบกำรเงินในกำรประเมิน กำรเปลี่ยนแปลงหรื อแนวโน้ม ตัวอย่ำงเช่น งบฐำนะกำรเงิน แสดงสิ นทรัพย์ หนี้สิน และส่ วนของเจ้ำของ ณ วันสิ้ นรอบระยะเวลำรำยงำน ขณะที่งบกำไรขำดทุนแสดงรำยได้และค่ำใช้จ่ำยสำหรับรอบระยะเวลำรำยงำน เป็ นต้น นอกจำกนี้ งบกำรเงินยังให้ขอ้ มูลเกี่ยวกับรำยกำรหรื อเหตุกำรณ์ที่เกิดขึ้นหลังจำกสิ้ นรอบระยะเวลำ รำยงำนอีกด้วย ข้ อสมมติการดาเนินงานต่ อเนื่อง (Going Concern Assumption) ในกำรจัดทำงบกำรเงินกิจกำรที่เสนอรำยงำน ต้องมีขอ้ สมมติวำ่ กิจกำรจะดำเนินงำนอย่ำงต่อเนื่องและดำเนิ นงำนต่อไปในอนำคต หรื อกิจกำรไม่มีควำมตั้งใจ และไม่มีควำมจำเป็ นที่จะชำระบัญชีหรื อหยุดดำเนินกำร อย่ำงไรก็ตำม หำกกิจกำรมีควำมตั้งใจหรื อมีควำม จำเป็ นดังกล่ำว งบกำรเงินอำจจัดทำขึ้นโดยใช้เกณฑ์อื่น และต้องเปิ ดเผยหลักเกณฑ์ที่ใช้ในงบกำรเงินด้วย 3. งบการเงินและกิจการที่เสนอรายงาน กิจกำรที่เสนอรำยงำน (Reporting Entity) หมำยถึง กิจกำรที่ตอ้ งหรื อที่เลือกจัดทำงบ กำรเงินเพื่อวัตถุประสงค์ทวั่ ไป (General Purpose Financial Statements) โดยกิจกำรที่ เสนอรำยงำนอำจเป็ นกิจกำรเดียวหรื อเป็ นเพียงส่ วนหนึ่ งของกิจกำรหรื อประกอบด้วย กิจกำรมำกกว่ำหนึ่ งกิจกำรก็ได้ ซึ่ งกิจกำรที่เสนอรำยงำนไม่จำเป็ นต้องเป็ นนิติบุคคล ทั้งนี้ ในกำรกำหนดขอบเขตของกิจกำรที่เสนอรำยงำนขึ้นอยูก่ บั ควำมต้องกำรข้อมูล ของผูใ้ ช้งบกำรเงินเป็ นหลัก 3. งบการเงินและกิจการที่เสนอรายงาน งบกำรเงิน (Financial Statements) เป็ นรู ปแบบเฉพำะของรำยงำนกำรเงินที่ให้ขอ้ มูลเกี่ยวกับสิ นทรัพย์ หนี้สิน ส่ วนของเจ้ำของ รำยได้และค่ำใช้จ่ำยของกิจกำรที่เสนอรำยงำน โดยมีขอ้ สมมติกำรดำเนินงำน ต่อเนื่อง (Going Concern Assumption) ซึ่ งรู ปแบบของงบกำรเงินขึ้นอยูก่ บั รู ปแบบของกิจกำรที่เสนอ รำยงำน ซึ่ งมีท้ งั หมด 3 ลักษณะดังนี้ 1) งบกำรเงินรวม (Consolidated Financial Statements) เป็ นงบกำรเงินที่ให้ขอ้ มูลเกี่ยวกับสิ นทรัพย์ หนี้สิน ส่ วนของเจ้ำของ รำยได้และค่ำใช้จ่ำยทั้งบริ ษทั ใหญ่และบริ ษทั ย่อยเสมือนว่ำเป็ นกิจกำรที่ เสนอรำยงำนหนึ่งเดียว 2) งบกำรเงินเดี่ยว (Unconsolidated Financial Statements) เป็ นงบกำรเงินที่ให้ขอ้ มูลเกี่ยวกับ สิ นทรัพย์ หนี้สิน ส่ วนของเจ้ำของ รำยได้และค่ำใช้จ่ำยเฉพำะบริ ษทั ใหญ่เท่ำนั้น 3) งบกำรเงินผนวกรวม (Combined Financial Statements) เป็ นงบกำรเงินที่ให้ขอ้ มูลเกี่ยวกับ สิ นทรัพย์ หนี้สิน ส่ วนของเจ้ำของ รำยได้และค่ำใช้จ่ำยของกิจกำรสองแห่งขึ้นไปที่ไม่ได้มี ควำมสัมพันธ์กนั ในลักษณะบริ ษทั ใหญ่กบั บริ ษทั ย่อย 4. องค์ ประกอบของงบการเงิน องค์ประกอบของงบกำรเงินที่นิยำมไว้ในกรอบแนวคิดฯ มี 5 องค์ประกอบ คือ สิ นทรัพย์ หนี้สิน ส่ วนของเจ้ำของ รำยได้ และค่ำใช้จ่ำย โดยสำมำรถแยกองค์ประกอบออกเป็ น 2 กลุ่ม ดังนี้ 1) องค์ประกอบของงบกำรเงินที่เกี่ยวข้องกับฐำนะกำรเงินของกิจกำรที่เสนอรำยงำน ได้แก่ สิ นทรัพย์ หนี้สิน และส่ วนของเจ้ำของ 2) องค์ประกอบของงบกำรเงินที่เกี่ยวข้องกับผลกำรดำเนินงำนกำรเงินของกิจกำรที่เสนอรำยงำน ได้แก่ รำยได้ และค่ำใช้จ่ำย 4. องค์ ประกอบของงบการเงิน คำนิยำมขององค์ประกอบของงบกำรเงินทั้ง 5 องค์ประกอบ มีดงั ต่อไปนี้ สิ นทรัพย์ (An Asset) หมำยถึง ทรัพยำกรเชิงเศรษฐกิจในปั จจุบนั ที่อยูภ่ ำยใต้กำรควบคุม (Control) ของกิจกำร ซึ่ งเป็ นผลของเหตุกำรณ์ในอดีต โดยที่ทรัพยำกรเชิงเศรษฐกิจ (An Economic Resource) ก็คือ สิ ทธิ (Right) ที่มีศกั ยภำพในกำรสร้ำงผลประโยชน์เชิงเศรษฐกิจ ทั้งนี้ กิจกำรจะถือว่ำ กิจกำร ควบคุมทรัพยำกรเชิงเศรษฐกิจนั้นได้ ก็ต่อเมื่อกิจกำรมีควำมสำมำรถในปั จจุบนั ที่จะกำกับกำรใช้ ทรัพยำกรและเป็ นผูไ้ ด้รับประโยชน์เชิงเศรษฐกิจจำกกำรใช้ทรัพยำกรนั้น รวมถึงกิจกำรต้องมี ควำมสำมำรถในปั จจุบนั ที่จะห้ำมหรื อป้องกันไม่ให้ผอู ้ ื่นสำมำรถกำกับกำรใช้ทรัพยำกรนั้นด้วย หนี้สิน (A Liability) หมำยถึง ภำระผูกพันปัจจุบนั (A Present Obligation) ของกิจกำรในกำรโอน ทรัพยำกรเชิงเศรษฐกิจ ซึ่ งเป็ นผลของเหตุกำรณ์ในอดีต โดยที่ภำระผูกพันเป็ นหน้ำที่หรื อควำม รับผิดชอบที่กิจกำรไม่มีควำมสำมำรถในทำงปฏิบตั ิที่จะหลีกเลี่ยงได้ ซึ่ งหน้ำที่หรื อควำมรับผิดชอบ ของกิจกำรนั้นหมำยควำมรวมถึงภำระผูกพันตำมกฎหมำยและภำระผูกพันจำกกำรอนุมำนด้วย เช่น หำกยกเลิกสัญญำจะทำให้กิจกำรเสี ยค่ำปรับจำนวนมำก ซึ่ งไม่คุม้ ค่ำที่จะยกเลิกสัญญำ เป็ นต้น 4. องค์ ประกอบของงบการเงิน ส่ วนของเจ้ าของ (Equity) หมำยถึง ส่ วนได้เสี ยคงเหลือในสิ นทรัพย์ของกิจกำร หลังจำกหักหนี้สินทั้งหมดของกิจกำรแล้ว หรื อกล่ำวอีกนัยหนึ่งว่ำ ส่ วนของเจ้ำของ เป็ นสิ ทธิ เรี ยกร้องต่อกิจกำรที่ไม่เป็ นไปตำมคำนิ ยำมของหนี้สิน รายได้ (Income) หมำยถึง กำรเพิม่ ขึ้นของสิ นทรัพย์หรื อกำรลดลงของหนี้สินที่ส่งผล ให้เกิดกำรเพิ่มขึ้นของส่ วนของเจ้ำของ ทั้งนี้ ไม่รวมถึงเงินทุนที่ได้รับจำกผูถ้ ือสิ ทธิ เรี ยกร้องส่ วนของเจ้ำของ ค่ าใช้ จ่าย (Expenses) หมำยถึง กำรลดลงของสิ นทรัพย์หรื อกำรเพิ่มขึ้นของหนี้สินที่ ส่ งผลให้เกิดกำรลดลงของส่ วนของเจ้ำของ ทั้งนี้ ไม่รวมถึงกำรจัดสรรคืนให้ผถู ้ ือสิ ทธิ เรี ยกร้องส่ วนของเจ้ำของ 4. องค์ ประกอบของงบการเงิน หน่ วยบัญชี (Unit of Account) คือ สิ ทธิ หรื อกลุ่มของสิ ทธิ ภำระผูกพันหรื อกลุ่มของภำระผูกพัน หรื อ กลุ่มของสิ ทธิ และภำระผูกพันที่จะใช้เกณฑ์กำรรับรู ้รำยกำรและแนวคิดกำรวัดค่ำตำมหลักกำรของ ลักษณะเชิงคุณภำพของข้อมูลกำรเงินที่มีประโยชน์ ซึ่ งกำรเลือกหน่วยบัญชีที่เหมำะสมจะให้ขอ้ มูลที่ เกี่ยวข้องกับกำรตัดสิ นใจมำกขึ้นและเป็ นตัวแทนอันเที่ยงธรรมถึงสำระของรำยกำรในหน่วยบัญชีน้ นั นอกจำกนี้ กำรเลือกหน่วยบัญชีตอ้ งคำนึงถึงต้นทุนในกำรรับรู ้และวัดค่ำ การเลือกหน่ วยบัญชี (Selecting The Unit of Account) 1) ควำมเกี่ยวข้องกับกำรตัดสิ นใจ (Relevance) หน่วยบัญชีที่เลือกต้องให้ขอ้ มูลที่เกี่ยวข้องกับกำร ตัดสิ นใจเกี่ยวกับสิ นทรัพย์หรื อหนี้สิน และรำยได้และค่ำใช้จ่ำยที่เกี่ยวข้อง 2) ควำมเป็ นตัวแทนอันเที่ยงธรรม (Faithful Representation) หน่วยบัญชีที่เลือกต้องให้ขอ้ มูลที่เป็ น ตัวแทนอันเที่ยงธรรมถึงเนื้อหำสำระของรำยกำรหรื อเหตุกำรณ์อื่นที่ทำให้สินทรัพย์หรื อหนี้สินและ รำยได้และค่ำใช้จ่ำยที่เกี่ยวข้องเกิดขึ้น 5 การรับรู้ รายการและการเลิกรับรู้ รายการ กำรรับรู ้รำยกำร (Recognition) เป็ นกระบวนกำรของกำรนำรำยกำรที่เป็ นไปตำมคำนิยำมของ องค์ประกอบของงบกำรเงิน ได้แก่ สิ นทรัพย์ หนี้สิน ส่ วนของเจ้ำของ รำยได้ หรื อค่ำใช้จ่ำย มำรวม ไว้ในงบฐำนะกำรเงิน (Statement of Financial Position) หรื องบแสดงผลกำรดำเนินงำนกำรเงิน (Statement(s) of Financial Performance) โดยแสดงข้อมูลเกี่ยวกับรำยกำรที่อยูใ่ น งบกำรเงินด้วยข้อควำมและจำนวนเงิน และรวมยอดจำนวนเงินนั้นในยอดรวมของงบกำรเงินนั้น ๆ ซึ่ งนัน่ หมำยควำมว่ำ รำยกำรที่เป็ นไปตำมคำนิ ยำมของสิ นทรัพย์ หนี้สิน หรื อส่ วนของเจ้ำของ เท่ำนั้นที่จะสำมำรถรับรู ้ในงบฐำนะกำรเงิน ในทำนองเดียวกัน รำยกำรที่เป็ นไปตำมคำนิยำมของ รำยได้และค่ำใช้จ่ำยเท่ำนั้นที่จะสำมำรถรับรู ้ในงบแสดงผลกำรดำเนิ นงำนกำรเงิน แต่ไม่ได้ หมำยควำมว่ำทุกรำยกำรที่เป็ นไปตำมคำนิยำมขององค์ประกอบของงบกำรเงินจะสำมำรถรับรู ้ รำยกำรได้ 5 การรับรู้ รายการและการเลิกรับรู้ รายการ เกณฑ์กำรรับรู ้รำยกำร (Recognition Criteria) กิจกำรจะรับรู ้สินทรัพย์หรื อหนี้สินก็ต่อเมื่อกำรรับรู ้ สิ นทรัพย์หรื อหนี้สินนั้น และกำรรับรู ้รำยได้ ค่ำใช้จ่ำย หรื อกำรเปลี่ยนแปลงส่ วนของเจ้ำของที่เป็ น ผลตำมมำให้ขอ้ มูลที่เป็ นประโยชน์กบั ผูใ้ ช้งบกำรเงินด้วยลักษณะเชิงคุณภำพพื้นฐำนทุกข้อต่อไปนี้ 1) เป็ นข้อมูลที่มีควำมเกี่ยวข้องกับกำรตัดสิ นใจ (Relevance) เกี่ยวกับสิ นทรัพย์หรื อหนี้สินและ เกี่ยวกับรำยได้ ค่ำใช้จ่ำย หรื อกำรเปลี่ยนแปลงของส่ วนของเจ้ำของที่เป็ นผลตำมมำ อย่ำงไรก็ตำม กำรรับรู ้สินทรัพย์หรื อหนี้สินรำยกำรใดรำยกำรหนึ่ งและรำยได้ ค่ำใช้จ่ำยหรื อกำรเปลี่ยนแปลงของ ส่ วนของเจ้ำของที่เป็ นผลตำมมำอำจไม่ให้ขอ้ มูลที่เกี่ยวข้องกับกำรตัดสิ นใจเสมอไป ตัวอย่ำงเช่น เมื่อ มีควำมไม่แน่นอนว่ำสิ นทรัพย์หรื อหนี้สินมีอยูห่ รื อไม่ (Existence Uncertainty) หรื อแม้วำ่ สิ นทรัพย์ หรื อหนี้สินจะมีอยู่ แต่ควำมน่ำจะเป็ นของกระแสรับหรื อกระแสจ่ำยของผลประโยชน์เชิงเศรษฐกิจ อยูใ่ นระดับต่ำ (Low Probability of a Flow of Economic Benefits) เป็ นต้น 5 การรับรู้ รายการและการเลิกรับร้ ู รายการ 2) เป็ นข้อมูลที่มีควำมเป็ นตัวแทนอันเที่ยงธรรม (Faithful Representation) ของสิ นทรัพย์หรื อ หนี้สิน และรำยได้ ค่ำใช้จ่ำย หรื อกำรเปลี่ยนแปลงของส่ วนของเจ้ำของที่เป็ นผลตำมมำ โดยที่ กำรแสดงรำยกำรและกำรเปิ ดเผยข้อมูลก็เป็ นอีกปั จจัยหนึ่ งที่มีผลต่อควำมเป็ นตัวแทนอันเที่ยง ธรรมของข้อมูล ซึ่ งกำรรับรู ้รำยกำรจะเป็ นตัวแทนอันเที่ยงธรรม หรื อไม่อำจถูกกระทบจำก ระดับของควำมไม่แน่นอนของกำรวัดค่ำ (Measurement Uncertainty) ในกำรรับรู ้รำยกำร กิจกำรต้องคำนึงถึงข้อจำกัดทำงด้ำนต้นทุน (Cost Constraint) ด้วย กล่ำวคือ กิจกำรจะรับรู ้สินทรัพย์หรื อหนี้สินก็ต่อเมื่อประโยชน์ที่ผใู ้ ช้งบกำรเงินจะได้รับจำกข้อมูลที่เกิด จำกกำรรับรู ้รำยกำรไม่ต่ำกว่ำต้นทุนที่เกิดขึ้นกับกิจกำรในกำรจัดทำและนำเสนอข้อมูล ตลอดจนต้นทุนที่เกิดขึ้นกับผูใ้ ช้งบกำรเงินในกำรวิเครำะห์และตีควำมข้อมูลนั้น อย่ำงไรก็ตำม หำกรำยกำรนั้นไม่เข้ำเกณฑ์กำรรับรู ้รำยกำรข้ำงต้น แต่รำยกำรนั้นมีประโยชน์กบั ผูใ้ ช้งบ กำรเงิน กิจกำรอำจเปิ ดเผยข้อมูลนั้นในหมำยเหตุประกอบงบกำรเงิน 5 การรับรู้ รายการและการเลิกรับรู้ รายการ การเลิกรับรู้ รายการ (Derecognition) คือ กำรเอำสิ นทรัพย์หรื อหนี้สินส่ วนหนึ่ งหรื อทั้งหมดที่ เคยรับรู ้ออกจำกงบฐำนะกำรเงินของกิจกำร ซึ่ งโดยปกติแล้ว กำรเลิกรับรู ้รำยกำรจะเกิดขึ้นเมื่อ รำยกำรนั้นไม่เป็ นไปตำมคำนิยำมของสิ นทรัพย์หรื อหนี้สินอีกต่อไป โดยมีรำยละเอียด ดังนี้ 1) สำหรับสิ นทรัพย์ โดยปกติแล้ว กำรเลิกรับรู ้รำยกำรจะเกิดขึ้นเมื่อกิจกำรสู ญเสี ยกำร ควบคุมสิ นทรัพย์ส่วนหนึ่งหรื อทั้งหมดที่เคยรับรู ้ อย่ำงไรก็ตำม ในบำงกรณี อำจดูเหมือนว่ำ มีกำรโอนสิ นทรัพย์ออกจำกกิจกำรไปแล้ว แต่ในทำงบัญชี สิ นทรัพย์น้ นั ยังถือเป็ นของ กิจกำร โดยที่กิจกำรยังไม่สำมำรถเลิกรับรู ้รำยกำรสิ นทรัพย์น้ นั ได้ ตัวอย่ำงเช่น กำรโอน สิ นค้ำไปฝำกขำย เป็ นต้น 2) สำหรับหนี้ สิน โดยปกติแล้ว กำรเลิกรับรู ้รำยกำรจะเกิดขึ้นเมื่อกิจกำรไม่มีภำระผูกพัน ปั จจุบนั อีกต่อไปสำหรับหนี้สินส่ วนหนึ่ งหรื อทั้งหมดที่เคยรับรู ้ 6 การวัดค่ า กรอบแนวคิดฯ ได้แบ่งหลักกำรวัดค่ำ (Measurement Bases) ออกเป็ น 2 กลุ่มหลัก ดังนี้ 1) หลักกำรวัดค่ำตำมต้นทุนเดิม (Historical Cost) ต้นทุนเดิมอำศัยข้อมูลทั้งหมดหรื อบำงส่ วนที่ได้มำจำกรำคำของรำยกำรหรื อเหตุกำรณ์ อื่น (The Price of the Transaction or Other Event) ที่ทำให้เกิดรำยกำรที่ตอ้ งวัดค่ำนั้น กล่ำวคือ ต้นทุนเดิมของสิ นทรัพย์ประกอบไปด้วยสิ่ งตอบแทนที่กิจกำรได้จ่ำยไป เพื่อให้ได้มำหรื อเพื่อสร้ำงสิ นทรัพย์น้ นั ขึ้นมำบวกด้วยต้นทุนกำรทำรำยกำร ตัวอย่ำงเช่น ค่ำขนส่ งขำเข้ำ ค่ำนำยหน้ำ ในขณะที่ตน้ ทุนเดิมของหนี้สินเท่ำกับมูลค่ำ ของสิ่ งตอบแทนที่กิจกำรได้รับเมื่อหนี้สินเกิดขึ้นหรื อเมื่อกิจกำรต้องเข้ำรับภำระหัก ด้วยต้นทุนกำรทำรำยกำร ซึ่ งต้นทุนเดิมจะไม่สะท้อนกำรเปลี่ยนแปลงในมูลค่ำ ยกเว้น เมื่อมีสถำนกำรณ์เฉพำะบำงสถำนกำรณ์เกิดขึ้น โดยที่สถำนกำรณ์ที่ทำให้ตอ้ งปรับ มูลค่ำต้นทุนเดิม เช่น ต้นทุนเดิมของสิ นทรัพย์จะลดลง หำกสิ นทรัพย์น้ นั เกิดกำรด้อยค่ำ และต้นทุนเดิมของหนี้สินจะเพิม่ ขึ้น หำกหนี้สินนั้นสร้ำงภำระเพิม่ มำกขึ้น 6 การวัดค่ า 2) หลักกำรวัดค่ำตำมมูลค่ำสภำพปั จจุบนั (Current Value) มูลค่ำสภำพปั จจุบนั อำศัยข้อมูลที่เป็ นตัวเงินที่มีกำรปรับปรุ งให้เป็ นปั จจุบนั เพื่อสะท้อนสภำพ ณ วันที่วดั ค่ำ ซึ่ งมูลค่ำสภำพปั จจุบนั ของสิ นทรัพย์และหนี้สินสะท้อนกำรเปลี่ยนแปลงในประมำณกำร กระแสเงินสดและปั จจัยอื่นที่สะท้อนไว้ในมูลค่ำสภำพปั จจุบนั เหล่ำนั้นนับแต่วนั ที่วดั ค่ำครั้งก่อน ทั้งนี้ หลักกำรวัดค่ำตำมมูลค่ำสภำพปั จจุบนั ประกอบด้วย 2.1) มูลค่ำยุติธรรม (Fair Value) เป็ นรำคำที่จะได้รับจำกกำรขำยสิ นทรัพย์หรื อจะจ่ำยเพื่อโอนหนี้สิน จำกรำยกำรในสถำนกำรณ์ปกติระหว่ำงผูร้ ่ วมตลำด ณ วันที่วดั ค่ำ โดยที่มูลค่ำยุติธรรมสะท้อนควำม คำดหวังในปั จจุบนั ของผูร้ ่ วมตลำดเกี่ยวกับจำนวนเงิน จังหวะเวลำและควำมไม่แน่นอนของกระแส เงินสดอนำคต ซึ่ งมูลค่ำยุติธรรมนี้ตอ้ งไม่รวมต้นทุนกำรทำรำยกำรที่เกิดขึ้น 6 การวัดค่ า 2.2) มูลค่ำจำกกำรใช้ (สำหรับสิ นทรัพย์) (Value in Use (for Assets)) และมูลค่ำปฏิบตั ิตำมภำระ (สำหรับหนี้สิน) (Fulfilment Value (for Liabilities)) มูลค่ำจำกกำรใช้และมูลค่ำปฏิบตั ิตำมภำระ สะท้อนควำมคำดหวังในปั จจุบนั เฉพำะกิจกำร (Entity-Specific) เกี่ยวกับจำนวนเงิน จังหวะเวลำและ ควำมไม่แน่นอนของกระแสเงินสดอนำคต ซึ่ งมูลค่ำทั้งสองนี้เป็ นมูลค่ำที่วดั ในรู ปของมูลค่ำปั จจุบนั ของกระแสเงินสดอนำคต โดยที่มูลค่ำจำกกำรใช้ คือ มูลค่ำปั จจุบนั ของกระแสเงินสดหรื อ ผลประโยชน์เชิงเศรษฐกิจอื่นที่กิจกำรคำดว่ำจะได้มำจำกกำรใช้สินทรัพย์และจำกกำรจำหน่ำย สิ นทรัพย์เมื่อเลิกใช้งำนในที่สุด ส่ วนมูลค่ำปฏิบตั ิตำมภำระ คือ มูลค่ำปั จจุบนั ของเงินสดหรื อ ทรัพยำกรเชิงเศรษฐกิจอื่นที่กิจกำรคำดว่ำจะต้องโอนเพื่อปฏิบตั ิตำมภำระหนี้สิน จำนวนเงินของเงิน สดหรื อทรัพยำกรเชิงเศรษฐกิจอื่นไม่เพียงรวมจำนวนเงินที่จะโอนให้คู่สัญญำที่กิจกำรมีหนี้ สินด้วย แต่ยงั รวมถึงจำนวนเงินที่กิจกำรคำดว่ำจะต้องโอนให้ผอู ้ ื่นเพื่อให้กิจกำรสำมำรถปฏิบตั ิตำมภำระ หนี้สินนั้นด้วย 6 การวัดค่ า 2.3) ต้นทุนปัจจุบนั (Current Cost) ต้นทุนปัจจุบนั สะท้อนจำนวนเงินปัจจุบนั ซึ่ งก็คือ มูลค่ำของสิ่ งตอบแทนที่กิจกำรจะจ่ำย ณ วันที่วดั ค่ำบวกด้วยต้นทุนกำรทำรำยกำรที่จะ เกิดขึ้น ณ วันนั้น เพื่อให้ได้มำซึ่ งสิ นทรัพย์เทียบเท่ำ ส่ วนต้นทุนปั จจุบนั ของหนี้สิน คือ มูลค่ำของสิ่ งตอบแทนที่จะต้องจ่ำยสำหรับหนี้สินเทียบเท่ำ ณ วันที่วดั ค่ำหักด้วยต้นทุน กำรทำรำยกำรที่จะเกิดขึ้น ณ วันที่วดั ค่ำ 6 การวัดค่ า ข้อสังเกต 1. ในกำรวัดมูลค่ำจำกกำรใช้ของสิ นทรัพย์และมูลค่ำปฏิบตั ิตำมภำระสำหรับหนี้สิน วัดจำกข้อมูลตำมมุมมองหรื อข้อสมมติที่เป็ นเรื่ องเฉพำะกิจกำร ซึ่ งแตกต่ำงจำกกำรวัดมูลค่ำยุติธรรมที่ใช้ มุมมองหรื อข้อสมมติของผูร้ ่ วมตลำด อย่ำงไรก็ตำม มูลค่ำยุติธรรม มูลค่ำจำกกำรใช้ และมูลค่ำปฏิบตั ิตำมภำระ ถือเป็ นมูลค่ำขำออก (Exit Value) กล่ำวคือ เป็ นมูลค่ำที่กิจกำรจะได้รับเมื่อมีกำรจำหน่ำยสิ นทรัพย์หรื อต้องจ่ำย เพื่อชำระหนี้สิน ขณะที่ตน้ ทุนเดิมและต้นทุนปั จจุบนั ถือเป็ นมูลค่ำขำเข้ำ (Entry Value) ซึ่ งเป็ นมูลค่ำที่สะท้อน รำคำในตลำดที่กิจกำรต้องจ่ำย เพื่อให้ได้สินทรัพย์น้ นั มำหรื อที่จะได้รับจำกกำรก่อหนี้ สิน เพียงแต่วำ่ ต้นทุนเดิม จะสะท้อนมูลค่ำ ณ วันที่ได้สินทรัพย์มำหรื อวันที่ก่อหนี้สิน แต่ตน้ ทุนปั จจุบนั สะท้อนมูลค่ำ ณ วันที่วดั ค่ำนั้น 2. มูลค่ำจำกกำรใช้ของสิ นทรัพย์และมูลค่ำปฏิบตั ิตำมภำระสำหรับหนี้สินวัดจำกข้อมูลตำมมุมมองหรื อข้อ สมมติเฉพำะของกิจกำร ซึ่ งแตกต่ำงจำกมูลค่ำยุติธรรมที่วดั จำกมุมมองหรื อข้อสมมติของผูร้ ่ วมตลำด 6 การวัดค่ า หลักกำรวัดค่ำแต่ละจำนวนให้ประโยชน์ที่แตกต่ำงกัน ดังนี้ 1) ต้นทุนเดิม ให้ขอ้ มูลที่เกี่ยวข้องกับกำรตัดสิ นใจ โดยปกติแล้ว หำกสิ นทรัพย์ได้มำ ไม่นำนตำมเงื่อนไขตลำด มูลค่ำของสิ นทรัพย์เป็ นมูลค่ำที่กิจกำรคำดว่ำจะให้ประโยชน์เชิงเศรษฐกิจ อย่ำงน้อยเท่ำกับต้นทุนสิ นทรัพย์น้ นั หำกสิ นทรัพย์น้ นั เสื่ อมสภำพหรื อด้อยค่ำ ต้นทุนเดิม เมื่อกิจกำรรับรู ้หนี้สินตำมเงื่อนไขตลำดในวันที่เกิดรำยกำร จำนวนเงินหนี้สินก็คือมูลค่ำของภำระ ผูกพันที่กิจกำรจะโอนทรัพยำกรเชิงเศรษฐกิจออกไปเพื่อปฏิบตั ิตำมภำระหนี้สิน โดยที่ขอ้ มูลที่ได้ จำกต้นทุนเดิมอำจมีคุณค่ำเพื่อกำรพยำกรณ์โดยใช้ประเมินกระแสเงินสดรับสุ ทธิ ของกิจกำร และ อำจมีคุณค่ำเพื่อกำรยืนยันได้อีกด้วย เนื่องจำกสำมำรถให้ขอ้ มูลย้อนกลับเกี่ยวกับกำรพยำกรณ์ก่อน หน้ำของกระแสเงินสด รวมทั้งยังช่วยประเมินประสิ ทธิ ภำพและประสิ ทธิ ผลในกำรใช้ทรัพยำกรเชิง เศรษฐกิจของฝ่ ำยบริ หำร 6 การวัดค่ า 2) มูลค่ำยุติธรรม สำหรับรำยกำรสิ นทรัพย์และหนี้สิน มูลค่ำยุติธรรมให้ขอ้ มูลเพื่อกำรพยำกรณ์ เนื่องจำกมูลค่ำยุติธรรมสะท้อนควำมคำดหวังที่สะท้อนถึงควำมเสี่ ยงในปั จจุบนั ของผูร้ ่ วมตลำด เกี่ยวกับจำนวนเงิน จังหวะเวลำ และควำมไม่แน่นอนของกระแสเงินสดอนำคต นอกจำกนี้ มูลค่ำ ยุติธรรมยังให้ขอ้ มูลเพื่อกำรยืนยัน โดยกำรให้ขอ้ มูลย้อนกลับเกี่ยวกับควำมคำดหวังในอดีต ส่ วน รำยกำรรำยได้และค่ำใช้จ่ำยสะท้อนควำมคำดหวังในปั จจุบนั ของผูร้ ่ วมตลำด อำจมีคุณค่ำเพื่อกำร พยำกรณ์ดว้ ย เพรำะสำมำรถใช้เป็ นข้อมูลนำเข้ำในกำรพยำกรณ์รำยได้และค่ำใช้จ่ำยในอนำคต รวมทั้งยังช่วยประเมินควำมรับผิดชอบของฝ่ ำยบริ หำรในกำรใช้ทรัพยำกรเชิงเศรษฐกิจของกิจกำร 3) มูลค่ำจำกกำรใช้และมูลค่ำปฏิบตั ิตำมภำระ ข้อมูลจำกทั้งมูลค่ำจำกกำรใช้และมูลค่ำปฏิบตั ิตำม ภำระมีคุณค่ำเพื่อกำรพยำกรณ์ เนื่องจำกมูลค่ำทั้งสองมำจำกกระแสเงินสดสุ ทธิ ที่จะเกิดขึ้นหำกใช้ และขำยสิ นทรัพย์ในที่สุด หรื อโอนชำระหนี้สิน 4) ต้นทุนปั จจุบนั ข้อมูลเกี่ยวกับสิ นทรัพย์และหนี้สินที่วดั ด้วยมูลค่ำปั จจุบนั อำจเกี่ยวข้องกับกำร ตัดสิ นใจ เพรำะต้นทุนปั จจุบนั สะท้อนต้นทุนของกำรได้มำหรื อกำรเข้ำรับภำระหนี้สินที่เทียบเท่ำใน ปัจจุบนั 6 การวัดค่ า ปั จจัยที่ใช้พิจำรณำในกำรเลือกหลักกำรวัดค่ำ 1) ควำมเกี่ยวข้องกับกำรตัดสิ นใจ ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับกำรตัดสิ นใจจำเป็ นต้องพิจำรณำถึงลักษณะของสิ นทรัพย์ หรื อหนี้สินนั้น และรู ปแบบของกระแสเงินสดที่สินทรัพย์หรื อหนี้สินนั้นจะก่อให้เกิด กล่ำวคือ สิ นทรัพย์หรื อ หนี้สินที่มีลกั ษณะต่ำงกันควรเลือกใช้หลักกำรวัดค่ำที่ต่ำงกัน สิ นทรัพย์ที่มูลค่ำมีควำมอ่อนไหวต่อกำร เปลี่ยนแปลงของปั จจัยทำงกำรตลำดสู ง ต้นทุนเดิมอำจไม่ใช่มูลค่ำที่ให้ขอ้ มูลที่เกี่ยวข้องกับกำรตัดสิ นใจ 2) ควำมเป็ นตัวแทนอันเที่ยงธรรม ในกำรเลือกหลักกำรวัดค่ำ เพื่อให้ขอ้ มูลที่แสดงควำมเป็ นตัวแทนอันเที่ยง ธรรมต้องคำนึงถึงควำมไม่สอดคล้องของกำรวัดค่ำ (Measurement Inconsistency) กล่ำวคือ หำกงบกำรเงินไม่ จับคู่ทำงบัญชี (Accounting Mismatch) งบกำรเงินนั้นจะไม่เป็ นตัวแทนอันเที่ยงธรรม นอกจำกนี้ หลักกำรวัดค่ำ สำมำรถให้ขอ้ มูลที่แสดงควำมเป็ นตัวแทนอันเที่ยงธรรมได้หรื อไม่น้ นั อำจได้รับผลกระทบจำกควำมไม่ แน่นอนของกำรวัดค่ำ (Measurement Uncertainty) กล่ำวคือ กำรวัดค่ำสิ นทรัพย์หรื อหนี้สินที่ไม่สำมำรถสังเกต ได้โดยตรงจำกตลำดซื้อขำยคล่อง ในควำมเป็ นตัวแทนอันเที่ยงธรรม ไม่ได้หมำยควำมว่ำกำรประมำณกำรต้องมี ควำมแม่นยำอย่ำงสมบูรณ์ แต่ให้กิจกำรประมำณกำรอย่ำงดีที่สุดโดยมีคุณลักษณะของกำรพิสูจน์ยนื ยันได้ และ กิจกำรอำจเปิ ดเผยข้อมูลเพิ่มเติมถึงควำมไม่แน่นอนในกำรวัดค่ำนั้น 7. การแสดงรายการและการเปิ ดเผยข้ อมูล 7. การแสดงรายการและการเปิ ดเผยข้ อมูล แนวคิดของกำรแสดงรำยกำรและกำรเปิ ดเผยข้อมูล ตลอดจนแนวทำงของกำรรวมรำยได้และค่ำใช้จ่ำยในงบ กำไรขำดทุนและกำไรขำดทุนเบ็ดเสร็ จอื่น ซึ่ งในบทนี้ได้ให้หลักกำรว่ำ กำรแสดงรำยกำรและกำรเปิ ดเผยข้อมูลเป็ นเครื่ องมือสื่ อสำร (Communication Tools) ข้อมูลเกี่ยวกับ สิ นทรัพย์ หนี้สิน ส่ วนของเจ้ำของ รำยได้และค่ำใช้จ่ำยของกิจกำร ทั้งนี้ กำรสื่ อสำรข้อมูลในงบกำรเงินอย่ำง มีประสิ ทธิ ผลจะทำให้ขอ้ มูลมีควำมเกี่ยวข้องกับกำรตัดสิ นใจมำกขึ้น รวมทั้งยังช่วยส่ งเสริ มให้เกิดกำรเป็ น ตัวแทนอันเที่ยงธรรมของข้อมูลเกี่ยวกับสิ นทรัพย์ หนี้สิน ส่ วนของเจ้ำของ รำยได้ และค่ำใช้จ่ำยของกิจกำร นอกจำกนี้ยงั จะช่วยให้ขอ้ มูลในงบกำรเงินเป็ นข้อมูลที่เข้ำใจได้และเปรี ยบเทียบกันได้ดว้ ย ซึ่ งกำรสื่ อสำร ข้อมูลในงบกำรเงินอย่ำงมีประสิ ทธิ ผล กิจกำรต้องปฏิบตั ิตำมแนวทำงดังต่อไปนี้ 7. การแสดงรายการและการเปิ ดเผยข้ อมูล 1) กำรแสดงรำยกำรและเปิ ดเผยข้อมูลโดยคำนึงถึงวัตถุประสงค์และหลักกำรของกำรแสดงรำยกำรและ เปิ ดเผยข้อมูล (Principles) เป็ นสำคัญ โดยไม่ยดึ ติดกับกฎเกณฑ์ (Rules) มำกจนเกินไป 2) กำรจัดประเภท (Classification) ข้อมูล โดยให้จดั รำยกำรที่มีควำมคล้ำยคลึงกันไว้ในกลุ่มเดียวกัน และส่ วน รำยกำรที่ไม่คล้ำยคลึงกันให้แสดงแยกออกจำกกัน 3) ?