Podcast
Questions and Answers
ภาษาไพทอน (Python) ถูกพัฒนาขึ้นในปีใด?
ภาษาไพทอน (Python) ถูกพัฒนาขึ้นในปีใด?
- ค.ศ. 1985
- ค.ศ. 1995
- ค.ศ. 1989 (correct)
- ค.ศ. 1991
ข้อใดคือลักษณะเด่นของภาษาไพทอน?
ข้อใดคือลักษณะเด่นของภาษาไพทอน?
- เป็นภาษาที่ใช้ยาก
- เป็นภาษาที่ต้องคอมไพล์ก่อนใช้งาน
- เป็นภาษาที่ประมวลผลทันที (process at runtime) (correct)
- เป็นภาษาที่ไม่ได้รับความนิยม
ข้อใดคือลักษณะของภาษาไพทอนที่ทำให้เหมาะกับผู้เริ่มต้นเขียนโปรแกรม?
ข้อใดคือลักษณะของภาษาไพทอนที่ทำให้เหมาะกับผู้เริ่มต้นเขียนโปรแกรม?
- ความหลากหลายของไลบรารี
- ความยากในการติดตั้ง
- ความง่ายในการเรียนรู้ (correct)
- ความซับซ้อนของไวยากรณ์
คำสั่งใดในภาษาไพทอนที่ใช้แสดงผลข้อความออกทางหน้าจอ?
คำสั่งใดในภาษาไพทอนที่ใช้แสดงผลข้อความออกทางหน้าจอ?
สัญลักษณ์ใดที่ใช้ในการเขียน comment ในภาษาไพทอน?
สัญลักษณ์ใดที่ใช้ในการเขียน comment ในภาษาไพทอน?
ข้อใดคือความหมายของการทำงานของภาษาไพทอนในโหมด Interactive?
ข้อใดคือความหมายของการทำงานของภาษาไพทอนในโหมด Interactive?
ในการเขียนโปรแกรมภาษาไพทอนแบบ Script Mode เราต้องบันทึกไฟล์ด้วยนามสกุลใด?
ในการเขียนโปรแกรมภาษาไพทอนแบบ Script Mode เราต้องบันทึกไฟล์ด้วยนามสกุลใด?
ข้อใดเป็นข้อกำหนดที่ถูกต้องสำหรับการตั้งชื่อตัวแปรในภาษาไพทอน?
ข้อใดเป็นข้อกำหนดที่ถูกต้องสำหรับการตั้งชื่อตัวแปรในภาษาไพทอน?
Reserved word ในภาษา Python มีไว้เพื่ออะไร?
Reserved word ในภาษา Python มีไว้เพื่ออะไร?
ข้อใดเป็นตัวอย่างการตั้งชื่อตัวแปรที่ไม่ถูกต้องตามหลักการตั้งชื่อตัวแปรในภาษาไพทอน?
ข้อใดเป็นตัวอย่างการตั้งชื่อตัวแปรที่ไม่ถูกต้องตามหลักการตั้งชื่อตัวแปรในภาษาไพทอน?
ในภาษาไพทอน การกำหนดค่าตัวแปรโดยไม่ต้องประกาศชนิดของตัวแปรเกิดขึ้นเมื่อใด?
ในภาษาไพทอน การกำหนดค่าตัวแปรโดยไม่ต้องประกาศชนิดของตัวแปรเกิดขึ้นเมื่อใด?
ข้อใดคือความหมายของการกำหนดค่าตัวแปรแบบ Multiple Assignment x = y = z = 0
?
ข้อใดคือความหมายของการกำหนดค่าตัวแปรแบบ Multiple Assignment x = y = z = 0
?
ชนิดข้อมูลใดในภาษาไพทอนที่ใช้เก็บค่าความจริง (True/False)?
ชนิดข้อมูลใดในภาษาไพทอนที่ใช้เก็บค่าความจริง (True/False)?
ข้อใดคือตัวอย่างของข้อมูลชนิด float
ในภาษาไพทอน?
ข้อใดคือตัวอย่างของข้อมูลชนิด float
ในภาษาไพทอน?
ถ้ากำหนด text = 'Python'
ข้อใดคือผลลัพธ์ของ text[1:4]
?
ถ้ากำหนด text = 'Python'
ข้อใดคือผลลัพธ์ของ text[1:4]
?
ถ้ากำหนด myList = [10, 20, 30, 40]
ข้อใดคือผลลัพธ์ของ myList[2]
?
ถ้ากำหนด myList = [10, 20, 30, 40]
ข้อใดคือผลลัพธ์ของ myList[2]
?
ตัวดำเนินการใดในภาษาไพทอนที่ใช้สำหรับการหารเอาเศษ (modulus)?
ตัวดำเนินการใดในภาษาไพทอนที่ใช้สำหรับการหารเอาเศษ (modulus)?
ตัวดำเนินการใดในภาษาไพทอนที่ใช้ยกกำลัง?
ตัวดำเนินการใดในภาษาไพทอนที่ใช้ยกกำลัง?
ถ้ากำหนด a = 10
และ b = 5
ผลลัพธ์ของ a > b
คืออะไร?
ถ้ากำหนด a = 10
และ b = 5
ผลลัพธ์ของ a > b
คืออะไร?
ถ้ากำหนด x = 7
แล้ว x // 3
มีค่าเท่าใด?
ถ้ากำหนด x = 7
แล้ว x // 3
มีค่าเท่าใด?
จากนิพจน์ c // d + y % x != 2*c - d
โดยที่ c = 2.5, d = 0.25, x = 16 และ y = 4 ผลลัพธ์คืออะไร?
จากนิพจน์ c // d + y % x != 2*c - d
โดยที่ c = 2.5, d = 0.25, x = 16 และ y = 4 ผลลัพธ์คืออะไร?
คำสั่งใดในภาษาไพทอนที่ใช้รับข้อมูลจากผู้ใช้?
คำสั่งใดในภาษาไพทอนที่ใช้รับข้อมูลจากผู้ใช้?
ข้อมูลที่ได้จากการใช้คำสั่ง input()
จะมีชนิดข้อมูลเป็นอะไร?
ข้อมูลที่ได้จากการใช้คำสั่ง input()
จะมีชนิดข้อมูลเป็นอะไร?
ถ้าต้องการแปลงข้อมูลที่รับจาก input()
ให้เป็นชนิดตัวเลขจำนวนเต็ม (integer) ต้องใช้คำสั่งใด?
ถ้าต้องการแปลงข้อมูลที่รับจาก input()
ให้เป็นชนิดตัวเลขจำนวนเต็ม (integer) ต้องใช้คำสั่งใด?
ทำไมต้องแปลงข้อมูลจาก string
เป็น int
หรือ float
ก่อนทำการคำนวณ?
ทำไมต้องแปลงข้อมูลจาก string
เป็น int
หรือ float
ก่อนทำการคำนวณ?
หากผู้ใช้ใส่ค่า 1.2
เข้าไปในฟังก์ชัน input()
และเราพยายามแปลงค่านี้เป็น integer โดยใช้ int(input())
จะเกิดอะไรขึ้น?
หากผู้ใช้ใส่ค่า 1.2
เข้าไปในฟังก์ชัน input()
และเราพยายามแปลงค่านี้เป็น integer โดยใช้ int(input())
จะเกิดอะไรขึ้น?
จงพิจารณาโปรแกรมต่อไปนี้ x = 5
y = "Hello"
print(x + y)
ผลลัพธ์ที่ได้คืออะไร
จงพิจารณาโปรแกรมต่อไปนี้ x = 5
y = "Hello"
print(x + y)
ผลลัพธ์ที่ได้คืออะไร
ข้อใดคือผลลัพธ์ของโปรแกรมต่อไปนี้:
print("Welcome \nto \nPython!")
ข้อใดคือผลลัพธ์ของโปรแกรมต่อไปนี้:
print("Welcome \nto \nPython!")
จากโค้ดต่อไปนี้ name = 'Suda'
ver = 3.8
print("Hello ! ", name, "Welcome to python", ver)
ผลลัพธ์ที่ได้คืออะไร?
จากโค้ดต่อไปนี้ name = 'Suda'
ver = 3.8
print("Hello ! ", name, "Welcome to python", ver)
ผลลัพธ์ที่ได้คืออะไร?
Flashcards
Interpreter คืออะไร
Interpreter คืออะไร
ภาษาที่แปลแล้วทำงานทีละคำสั่ง มีการประมวลผลทันที
Interactive mode คืออะไร
Interactive mode คืออะไร
การพิมพ์คำสั่งและทำงานในลักษณะโต้ตอบได้
Interactive Mode Programming
Interactive Mode Programming
mode ที่เราพิมพ์คำสั่ง Python จะแปลและทำงานทันที
Script Mode Programming
Script Mode Programming
Signup and view all the flashcards
ตัวแปร (Variable)
ตัวแปร (Variable)
Signup and view all the flashcards
อักษรตัวแรกของชื่อตัวแปร
อักษรตัวแรกของชื่อตัวแปร
Signup and view all the flashcards
การกำหนดค่าให้ตัวแปร
การกำหนดค่าให้ตัวแปร
Signup and view all the flashcards
ชนิดข้อมูล(Data type)
ชนิดข้อมูล(Data type)
Signup and view all the flashcards
int คืออะไร
int คืออะไร
Signup and view all the flashcards
float คืออะไร
float คืออะไร
Signup and view all the flashcards
boolean คืออะไร
boolean คืออะไร
Signup and view all the flashcards
string คืออะไร
string คืออะไร
Signup and view all the flashcards
List คืออะไร
List คืออะไร
Signup and view all the flashcards
Arithmetic operators
Arithmetic operators
Signup and view all the flashcards
Comparison operators
Comparison operators
Signup and view all the flashcards
Assignment operators
Assignment operators
Signup and view all the flashcards
Logical Operators
Logical Operators
Signup and view all the flashcards
ฟังก์ชัน คืออะไร
ฟังก์ชัน คืออะไร
Signup and view all the flashcards
print() คืออะไร
print() คืออะไร
Signup and view all the flashcards
input() คืออะไร
input() คืออะไร
Signup and view all the flashcards
Study Notes
Introduction to Python
- ภาษาไพทอนเป็นภาษาโปรแกรมระดับสูงที่ได้รับความนิยม
- หลักสูตรนี้เป็นการแนะนำภาษาไพทอนและการเขียนโปรแกรมเบื้องต้น
ประวัติความเป็นมา
- Python พัฒนาขึ้นในปี 1989 โดย Guido van Rossum ที่สถาบันวิจัยแห่งชาติ ด้านคณิตศาสตร์และวิทยาการคอมพิวเตอร์ ณ เมืองอัมสเตอร์ดัม, ประเทศเนเธอร์แลนด์
- Python นำลักษณะเด่นของภาษา ABC, Modula-3, C, C++, Algol-68, SmallTalk และ Unix shell มารวมกัน
- มีการเพิ่มคุณสมบัติที่ดี เช่น คลาส และมี interface ที่ช่วยให้เขียนโปรแกรมได้ง่ายขึ้น
คุณลักษณะของภาษา Python
- เป็นภาษาที่จัดอยู่ในกลุ่ม Interpreter ซึ่งจะแปลและทำงานทีละคำสั่งในขณะที่โปรแกรมทำงาน (process at runtime)
- มีลักษณะ interactive คือ สามารถพิมพ์คำสั่งและทำงานในลักษณะโต้ตอบได้ทันที
- เป็นภาษาที่ได้รับความนิยม ง่ายต่อการเรียนรู้ เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นเขียนโปรแกรม
โปรแกรมแรก (First program)
- สัญลักษณ์
#
ใน Python คือ comment หรือส่วนที่ไพทอนจะไม่นำไปประมวลผล - Comment สามารถเขียนได้ทีละ 1 บรรทัด โดยใช้
#
นำหน้าข้อความที่ต้องการ comment - คำสั่ง
print()
เป็นฟังก์ชันที่ใช้แสดงผลข้อความออกทางหน้าจอ โดยข้อความที่จะแสดงผลจะอยู่ในเครื่องหมายคำพูด เช่น"Welcome to Python!"
- ผลลัพธ์ที่ได้จากการรันโปรแกรมนี้คือข้อความ "Welcome to Python!" ที่ปรากฏบนจอภาพ
การทำงานของภาษา Python
- Python สามารถ execute ได้ 2 แบบ:
INTERACTIVE MODE PROGRAMMING
- เป็นการพิมพ์คำสั่งโดยตรงเพื่อให้ Python แปลและทำงานทันที
SCRIPT MODE PROGRAMMING
- เขียนคำสั่งหรือโปรแกรมใน editor (เช่น IDLE) แล้วบันทึกไฟล์เป็นนามสกุล
.py
จากนั้นจึงรันไฟล์
ตัวแปร (Variable)
- ตัวแปร (variable) คือการจองพื้นที่ในหน่วยความจำเพื่อเก็บข้อมูล โดยขนาดของพื้นที่ขึ้นอยู่กับชนิดของข้อมูล
ข้อกำหนดในการตั้งชื่อตัวแปร
- ต้องขึ้นต้นด้วยตัวอักษร (A-Z หรือ a-z) หรือเครื่องหมาย underscore (
_
) เท่านั้น - ตัวอักษรที่ตามมาสามารถเป็นตัวอักษร (A-Z หรือ a-z), ตัวเลข (0-9) หรือเครื่องหมาย underscore (
_
) - ห้ามใช้ชื่อซ้ำกับคำสงวน (Reserved Word)
- ห้ามมีช่องว่างภายในชื่อ
- ตัวอักษรพิมพ์เล็กและพิมพ์ใหญ่ถือว่าเป็นตัวแปรที่แตกต่างกัน (case-sensitive) เช่น
NUM
,Num
, และnum
คือตัวแปรคนละตัวกัน
คำสงวน (Reserved words)
- ต้องไม่ใช้คำสงวนเป็นค่าคงที่ ชื่อตัวแปร หรือ identifier อื่น ๆ ใน Python
- คำสงวนทั้งหมดประกอบด้วยตัวอักษรพิมพ์เล็กเท่านั้น
ตัวอย่างการตั้งชื่อตัวแปร
123MyID
: ผิด, ขึ้นต้นด้วยตัวเลข_ThinkBig
: ถูกต้องmylife@CMU
: ผิด, ห้ามใช้เครื่องหมาย@
Pin number
: ผิด, ห้ามเว้นวรรคDorm_number
: ถูกต้อง
การกำหนดค่าให้ตัวแปร (Assignment statement)
- ใน Python ไม่จำเป็นต้องประกาศชนิดข้อมูลของตัวแปรล่วงหน้า การประกาศจะเกิดขึ้นอัตโนมัติเมื่อกำหนดค่า
- ใช้เครื่องหมาย
=
ในการกำหนดค่าให้ตัวแปร - ตัวอย่าง:
score = 75
(ตัวแปร score เก็บจำนวนเต็ม 75)gpa = 2.85
(ตัวแปร gpa เก็บจำนวนจริง 2.85)
ตัวอย่างการกำหนดค่าหลายตัวแปรพร้อมกัน (multiple assignment)
- กำหนดค่าเดียวให้หลายตัวแปร:
a = b = c = 1
- ทุกตัวแปร (
a
,b
,c
) มีค่าเป็น 1
- ทุกตัวแปร (
- กำหนดค่าต่างกันให้หลายตัวแปร:
a, b, c = 1, 2, "john"
a
เก็บจำนวนเต็ม 1,b
เก็บจำนวนเต็ม 2, และc
เก็บข้อความ "john"
ชนิดข้อมูล (Data type)
- int: จำนวนเต็ม (integer) เช่น 2, 50, 1009
- float: จำนวนจริงหรือทศนิยม เช่น 15.20, -21.9
- boolean: ค่าความจริง (True, False) ซึ่งใช้ในการเปรียบเทียบและตรวจสอบเงื่อนไข
- การเปรียบเทียบ
4 > 1
ให้ผลลัพธ์True
- การเปรียบเทียบ
6 > 7
ให้ผลลัพธ์False
- การเปรียบเทียบ
- string: ชุดตัวอักษรที่เรียงต่อกัน
- ใช้เครื่องหมายคำพูดเดี่ยว (
'...'
), คู่ ("..."
) หรือสาม ('''...'''
หรือ"""..."""
) เพื่อกำหนด - สามารถใช้ triple quotes สำหรับข้อความที่มีหลายบรรทัด
- ดำเนินการกับสตริงโดยใช้
+
เพื่อนำสตริงมาต่อกัน และ*
เพื่อทำซ้ำ
- ใช้เครื่องหมายคำพูดเดี่ยว (
- list: ชุดข้อมูลที่เก็บรวมกัน
- สามารถมีข้อมูลหลายชนิดรวมกันได้ (compound data type)
- อยู่ในเครื่องหมาย
[]
- สมาชิกแต่ละตัวแยกจากกันด้วยเครื่องหมาย comma (
,
) - ค่าใน list สามารถเรียกใช้งานโดยใช้เครื่องหมาย
[]
หรือ[:]
- สมาชิกแต่ละตัวมี index เริ่มต้นที่ 0 ไปจนถึง end-1
- ถ้า myList = ['Hello', 'my', 'student'] จะมี 3 items index 0 คือ Hello index 1 คือ my และ index 2 คือ student
ตัวดำเนินการ (Operator)
- ตัวดำเนินการทางคณิตศาสตร์ (Arithmetic Operators): +, -, *, /, %, **, //
- ตัวดำเนินการเปรียบเทียบ (Comparison Operators): ==, !=, >, <, >=, <=
- ตัวดำเนินการกำหนดค่า (Assignment Operators): =, +=, -=, *=, /=, %=, **=, //=
- ตัวดำเนินการตรรกะ (Logical Operators): and, or, not
ตัวดำเนินการทางคณิตศาสตร์ (Arithmetic Operators)
การดำเนินการทางคณิตศาสตร์
+
: บวก (Addition); ตัวอย่าง:a + b
(ถ้า a = 10 และ b = 20, ผลลัพธ์คือ 30)-
: ลบ (Subtraction); ตัวอย่าง:a - b
(ถ้า a = 10 และ b = 20, ผลลัพธ์คือ -10)*
: คูณ (Multiplication); ตัวอย่าง:a * b
(ถ้า a = 10 และ b = 20, ผลลัพธ์คือ 200)/
: หาร (Division); ตัวอย่าง:b / a
(ถ้า a = 10 และ b = 20, ผลลัพธ์คือ 2)%
: มอดุโล (Modulus); ตัวอย่าง:b % a
(ถ้า a = 10 และ b = 20, ผลลัพธ์คือ 0)**
: ยกกำลัง (Exponent); ตัวอย่าง:2 ** 3
(ผลลัพธ์คือ 8)//
: หารปัดเศษลง (Floor Division); ตัวอย่าง:9 // 2
(ผลลัพธ์คือ 4),9.0 // 2.0
(ผลลัพธ์คือ 4.0)7 / 3
(หารปกติ คืนค่าเป็น float: 2.333...)17 // 3
(หารปัดเศษลง ทิ้งส่วนที่เป็นเศษ: 5)
ตัวดำเนินการเปรียบเทียบ (Comparison Operators)
ใช้สำหรับเปรียบเทียบค่า
==
: เท่ากัน (equal); ตัวอย่าง:a == b
(ถ้า a = 10 และ b = 20, ผลลัพธ์คือ False)!=
: ไม่เท่ากัน (not equal); ตัวอย่าง:a != b
(ถ้า a = 10 และ b = 20, ผลลัพธ์คือ True)>
: มากกว่า (greater than); ตัวอย่าง:a > b
(ถ้า a = 10 และ b = 20, ผลลัพธ์คือ False)<
: น้อยกว่า (less than); ตัวอย่าง:a < b
(ถ้า a = 10 และ b = 20, ผลลัพธ์คือ True)
ตัวดำเนินการกำหนดค่า (Assignment Operators)
ใช้สำหรับกำหนดค่าให้กับตัวแปร
=
: กำหนดค่า (assignment); ตัวอย่าง:c = a + b
+=
: บวกแล้วกำหนดค่า; ตัวอย่าง:c += a
(เหมือนกับc = c + a
)-=
: ลบแล้วกำหนดค่า; ตัวอย่าง:c -= a
(เหมือนกับc = c - a
)
ตัวดำเนินการตรรกะ (Logical Operators)
ใช้สำหรับดำเนินการทางตรรกะ
and
: และ; ตัวอย่าง:a and b
(ถ้า a และ b เป็นจริง, ผลลัพธ์คือ True)or
: หรือ; ตัวอย่าง:a or b
(ถ้า a หรือ b เป็นจริง, ผลลัพธ์คือ True)not
: นิเสธ; ตัวอย่าง:not(a and b)
(ถ้าa and b
เป็นจริง, ผลลัพธ์คือ False)
ตารางค่าความจริง (Truth Table)
แสดงผลลัพธ์ที่เป็นไปได้ทั้งหมดของตัวดำเนินการตรรกะ
P=True, Q=True
: P and Q=True, P or Q=True, not P=FalseP=True, Q=False
: P and Q=False, P or Q=True, not P=FalseP=False, Q=True
: P and Q=False, P or Q=True, not P=TrueP=False, Q=False
: P and Q=False, P or Q=False, not P=True
Operators อื่นๆ
- Bitwise Operator ตัวดำเนินการทางบิต : >>,<<,&, |
- Python Membership Operators: in, not in
- Python Identity Operators: is, is not
ลำดับความสำคัญของเครื่องหมาย (Operators Precedence)
ลำดับความสำคัญของตัวดำเนินการ
- ()
- **
- ~+-
- */%//
- +-
-
<<
- &
- ^|
- <= < > >=
- == !=
- = %= /= //= -= += *= **=
- is is not
- in not in
- not or and
นิพจน์ (expression)
- การเขียนนิพจน์ใน Python ต้องเป็นรูปแบบคำสั่งที่ภาษาเข้าใจ ตัวอย่างการแปลงจากสมการคณิตศาสตร์:
xy - 5z
→x * y - 5 * z
x² + 4y + 5
→x ** 2 + 4 * y + 5
8y² - 8z
→8 * y ** 2 - 8 * z
ตัวอย่างลำดับความสำคัญของตัวดำเนินการ
- แสดงการคำนวณนิพจน์, การแทนค่า และการหาผลลัพธ์
คำสั่งรับและแสดงผล
- ในการติดต่อกับผู้ใช้ สามารถใช้ฟังก์ชันเพื่อรับหรือแสดงผล
- ฟังก์ชันคือชุดคำสั่งที่สร้างไว้แล้ว สามารถเรียกใช้ได้ตามรูปแบบที่กำหนด
ฟังก์ชันที่ใช้ในการรับและแสดงผล
- คำสั่งแสดงผล: ใช้ฟังก์ชัน
print()
- คำสั่งรับข้อมูล: ใช้ฟังก์ชัน
input()
คำสั่งแสดงผล print()
- ใช้แสดงผลข้อมูลออกทางจอภาพ
- ในวงเล็บของ
print()
จะใส่ข้อมูลที่ต้องการแสดงผล เช่น ตัวแปร, ข้อความ โดยคั่นด้วยเครื่องหมาย,
(comma)
ตัวอย่างการใช้งาน print()
print("Welcome ")
→ แสดงผล "Welcome"print("to python")
→ แสดงผล "to python"print("Hello ! ", name, "Welcome to python", ver)
→ แสดงผลข้อความ, ค่าในตัวแปรname
และver
print("Python is very a great language,", "isn't it?")
→ แสดงผลข้อความ "Python is very a great language, isn't it?"- ใช้
\n
เพื่อขึ้นบรรทัดใหม่ในข้อความที่จะแสดงผล
คำสั่งรับข้อมูล input()
- ฟังก์ชัน
input()
จะรอรับข้อมูลจากผู้ใช้ผ่านทางคีย์บอร์ด โดยข้อมูลที่รับจะเป็น string เสมอ - ถ้าต้องการนำข้อมูลไปคำนวณ ต้องแปลง string ให้เป็นตัวเลข (int หรือ float) ก่อน
ตัวอย่าง
inp1=input("Input integer number : ")
no1=int(inp1)
- บรรทัดแรกจะแสดงข้อความ "Input integer number : ", รอให้ผู้ใช้พิมพ์ข้อมูลแล้วกด Enter
- ข้อมูลที่พิมพ์จะถูกเก็บเป็น string ในตัวแปร
inp1
- บรรทัดที่สอง จะแปลง string ใน
inp1
เป็นเลขจำนวนเต็ม แล้วเก็บในตัวแปรno1
ข้อควรระวังในการใช้ input()
- ต้องทราบชนิดข้อมูลที่โปรแกรมต้องการ เพื่อออกแบบชนิดข้อมูลและเขียนโปรแกรมให้ถูกต้อง
- หากต้องการรับตัวเลขทศนิยม แต่ใช้
int()
แปลง อาจทำให้เกิด error
การเรียนรู้การใช้โปรแกรม Python และการเขียนโปรแกรมอย่างง่าย
- ใช้คำสั่ง
print()
เพื่อแสดงผล - ใช้คำสั่ง
input()
เพื่อรับข้อมูล และแปลงข้อมูลเป็นชนิดที่ต้องการก่อนนำไปใช้
ตัวอย่างโปรแกรม
- รับตัวเลข 2 จำนวนเต็ม นำมาบวกกัน และแสดงผลลัพธ์
แบบฝึกหัด
- จงแสดงผลข้อความที่จอภาพ ตามรูปแบบที่แสดงด้านล่าง
- จงเขียนโปรแกรมรับ ชื่อ นามสกุล และอายุ แล้วแสดงผลที่จอภาพ ตามที่กำหนด โดยอายุที่รับให้บวก อีก 4 เพื่อบอกว่าจะสำเร็จการศึกษาเมื่ออายุเท่าไร
Studying That Suits You
Use AI to generate personalized quizzes and flashcards to suit your learning preferences.