แบบจำลองเชิงสัมพันธ์
25 Questions
0 Views

แบบจำลองเชิงสัมพันธ์

Created by
@LucrativeZither1252

Questions and Answers

เงื่อนไขบังคับทั่วไปเป็นอย่างไร?

  • ข้อกำหนดทางธุรกิจ
  • เกี่ยวข้องกับความหมายของข้อมูล
  • กำหนดข้อกำหนดข้อมูลอื่นๆ
  • ทั้งหมดที่กล่าวมา (correct)
  • จับคู่การใช้งานของความสัมพันธ์ต่างๆ:

    อาจารย์ = สอน นักเรียน = ลงทะเบียน แผนก = งานของ พนักงาน = จัดการ

    เงื่อนไขบังคับคีย์ภายนอกคือ _____

    Foreign Key Constraints

    การแปลง ER Model เป็นแบบจำลองข้อมูลเชิงสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับอะไร?

    <p>การแปลงเอนทิตีให้เป็นตารางและการแปลงความสัมพันธ์ให้เป็นตาราง</p> Signup and view all the answers

    คีย์ประกอบหมายถึงอะไร?

    <p>คีย์ที่ประกอบด้วยแอทริบิวต์มากกว่า 1 แอทริบิวต์</p> Signup and view all the answers

    คีย์คู่แข่งคืออะไร?

    <p>คีย์ที่สามารถเป็นคีย์หลักของรีเลชัน</p> Signup and view all the answers

    คีย์หลักคืออะไร?

    <p>คีย์คู่แข่งที่ถูกเลือกมาเป็นคีย์หลัก</p> Signup and view all the answers

    คีย์รองหมายถึงอะไร?

    <p>คีย์คู่แข่งที่ไม่ได้ถูกเลือกให้เป็นคีย์หลัก</p> Signup and view all the answers

    Superkey คืออะไร?

    <p>เซ็ตของแอทริบิวต์ที่มีคีย์เป็นสมาชิก</p> Signup and view all the answers

    Foreign key คืออะไร?

    <p>แอทริบิวต์ในรีเลชันที่อ้างอิงมาจากคีย์หลักของรีเลชัน</p> Signup and view all the answers

    เงื่อนไขบังคับคีย์ภายนอกคืออะไร?

    <p>ข้อกำหนดของข้อมูลที่อ้างอิงกันระหว่างรีเลชัน</p> Signup and view all the answers

    Primary key สามารถประกอบได้จากหลายแอทริบิวต์ได้หรือไม่?

    <p>False</p> Signup and view all the answers

    แบบจำลองเชิงสัมพันธ์มีวิวัฒนาการอย่างไร?

    <p>จากแบบจำลองเชิงเอนทิตี</p> Signup and view all the answers

    กฎ 12 ข้อของ E.F.Codd คืออะไร?

    <p>เป็นหลักการที่กำหนดกฎเกณฑ์บังคับเพื่อให้ฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ</p> Signup and view all the answers

    เงื่อนไขบังคับบูรณภาพ (Integrity Constraints) สามารถกำหนดข้อมูลในฐานข้อมูลได้

    <p>True</p> Signup and view all the answers

    แนวคิดของแบบจำลองเชิง ___________ คือการจัดการข้อมูลเป็นตาราง

    <p>สัมพันธ์</p> Signup and view all the answers

    เงื่อนไขบังคับคีย์ (Key Constraints) คืออะไร?

    <p>การป้องกันไม่ให้มีข้อมูลซ้ำ</p> Signup and view all the answers

    หลักการของ Foreign Key Constraints คืออะไร?

    <p>การเชื่อมโยงระหว่างตารางโดยใช้คีย์ภายนอก</p> Signup and view all the answers

    การแปลงเอนทิตีให้เป็นตาราง ต้องทำตามขั้นตอนใด?

    <p>ทั้งหมดที่กล่าวมา</p> Signup and view all the answers

    วิวัฒนาการของแบบจำลองเชิงสัมพันธ์คืออะไร?

    <p>วิวัฒนาการของแบบจำลองเชิงสัมพันธ์เกิดจากการเปลี่ยนแปลงจากแบบจำลองข้อมูลเชิงลำดับชั้นและเครือข่ายมาเป็นแบบจำลองข้อมูลเชิงสัมพันธ์ที่เสนอโดย E.F.Codd ในปี 1970.</p> Signup and view all the answers

    กฎข้อที่ 0 ของ E.F.Codd กล่าวถึงอะไร?

    <p>กฎพื้นฐาน</p> Signup and view all the answers

    คีย์ (?) คือ แอทริบิวต์หรือกลุ่มของแอทริบิวต์ที่สามารถระบุทูเพิลได้อย่างเฉพาะเจาะจง.

    <p>หลัก</p> Signup and view all the answers

    เชิงสัมพันธ์หมายถึงการใช้ข้อมูลที่มีโครงสร้างเดียวกันสำหรับทุกแถวในตาราง.

    <p>True</p> Signup and view all the answers

    อะไรคือ เงื่อนไขบังคับบูรณภาพ?

    <p>เงื่อนไขบังคับบูรณภาพคือเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในฐานข้อมูลเพื่อให้ข้อมูลมีความถูกต้องตรงตามลักษณะการใช้งาน.</p> Signup and view all the answers

    จับคู่เงื่อนไขบังคับในฐานข้อมูลกับคำอธิบายที่ถูกต้อง:

    <p>Primary Key = แอทริบิวต์ที่ระบุทูเพิลเฉพาะในตาราง Foreign Key = แอทริบิวต์ที่เชื่อมโยงระหว่างรีเลชัน Integrity Constraints = กฎที่บังคับให้ข้อมูลถูกต้อง Schema = โครงสร้างของข้อมูลในรีเลชัน</p> Signup and view all the answers

    Study Notes

    วัตถุประสงค์

    • สามารถอธิบายวิวัฒนาการของแบบจำลองเชิงสัมพันธ์
    • อธิบายแนวคิดและการแทนข้อมูลในแบบจำลองเชิงสัมพันธ์ได้
    • อธิบายการกำหนดเงื่อนไขบังคับสำหรับบูรณภาพของข้อมูลได้
    • สร้างแบบจำลองเชิงสัมพันธ์ได้

    คำสำคัญ

    • กฎ 12 ข้อของ E.F. Codd
    • รีเลชัน (Relation), สคีมา (Schema), และกรณีตัวอย่าง (Instance)
    • ทูเพิล (Tuple), ฟิลด์ (Field), โดเมน (Domain), ดีกรี (Degree), คาร์ดินัลลิตี (Cardinality)
    • เงื่อนไขบังคับบูรณภาพ (Integrity Constraints)
    • คีย์หลัก (Primary Key), คีย์คู่แข่ง (Candidate Key), คีย์ประกอบ (Composite Key), คีย์ภายนอก (Foreign Key)

    แนวคิดทั่วไปเกี่ยวกับแบบจำลองเชิงสัมพันธ์

    • แบบจำลองเชิงสัมพันธ์พัฒนาขึ้นโดย E.F. Codd ในปี 1970
    • ฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ใช้งานง่าย และได้รับความนิยมมากกว่าแบบอื่น

    วิวัฒนาการของแบบจำลองเชิงสัมพันธ์

    • 1970s: IBM’s System R แรกเริ่มของการจัดการฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์
    • INGRES ระบบที่คล้ายกับ IBM’s System R พัฒนาโดยมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียที่เบิร์กลีย์
    • 1980: ระบบฐานข้อมูลเชิงพาณิชย์ เช่น Microsoft Access, Oracle, MySQL

    กฎ 12 ข้อของ E.F. Codd

    • กฎข้อที่ 0: ระบบฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ต้องจัดการข้อมูลโดยใช้หลักเชิงสัมพันธ์
    • กฎข้อที่ 1: ข้อมูลต้องปรากฏอย่างชัดแจ้งในตาราง
    • กฎข้อที่ 2: ข้อมูลทุกค่าต้องเข้าถึงได้ด้วยการระบุชื่อคีย์
    • กฎข้อที่ 3: รองรับค่าว่าง (Null value)
    • กฎข้อที่ 4: สร้างคลังข้อมูลที่เรียกดูได้
    • กฎข้อที่ 5: ต้องมีภาษาในการจัดการข้อมูลอย่างครบถ้วน
    • กฎข้อที่ 6: สามารถแก้ไขข้อมูลผ่านทางวิว
    • กฎข้อที่ 7: รองรับการเพิ่ม ลบ และแก้ไขข้อมูล
    • กฎข้อที่ 8: ความเป็นอิสระของข้อมูลระดับกายภาพ
    • กฎข้อที่ 9: ความเป็นอิสระของข้อมูลระดับตรรกะ
    • กฎข้อที่ 10: รองรับการบูรณภาพ (Integrity independence)
    • กฎข้อที่ 11: อิสระในการกระจายข้อมูล
    • กฎข้อที่ 12: ไม่อนุญาตให้เลี่ยงกฎบูรณภาพด้วยภาษาในระดับต่ำกว่า

    เงื่อนไขบังคับบูรณภาพ

    • เงื่อนไขเพื่อให้ข้อมูลมีความถูกต้องตามการใช้งาน

    คีย์ในแบบจำลองเชิงสัมพันธ์

    • คีย์หลัก (Primary Key): ระบุทูเพิลได้อย่างเฉพาะเจาะจง
    • คีย์คู่แข่ง (Candidate Key): สามารถกลายเป็นคีย์หลักได้
    • คีย์ประกอบ (Composite Key): ประกอบด้วยแอทริบิวต์มากกว่า 1 ตัว
    • คีย์ภายนอก (Foreign Key): อ้างอิงจากคีย์หลักของรีเลชันอื่น

    คำศัพท์ที่เกี่ยวข้อง

    • รีเลชัน (Relation): ตารางข้อมูลที่มีคอลัมน์และแถว
    • ทูเพิล (Tuple): แถวของข้อมูลในตาราง
    • แอทริบิวต์ (Attribute): คอลัมน์ในตาราง
    • ดีกรี (Degree): จำนวนแอทริบิวต์ในรีเลชัน
    • คาร์ดินัลลิตี (Cardinality): จำนวนแถวในรีเลชัน

    ข้อดีของฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์

    • ผลงานที่พัฒนามีประสิทธิภาพสูง
    • โครงสร้างข้อมูลเรียบง่าย
    • มีภาษาที่เหมาะสม เช่น SQL, QBE ที่ง่ายต่อการเข้าใจและใช้งาน### ข้อดีของระบบจัดการฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์
    • ระบบฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ช่วยให้การจัดการข้อมูลมีประสิทธิภาพและยืดหยุ่น
    • สามารถจัดเก็บข้อมูลในรูปแบบที่มีความสัมพันธ์กัน ทำให้ควบคุมและเรียกดูข้อมูลได้ง่าย

    คำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับแบบจำลองเชิงสัมพันธ์

    • เงื่อนไขบังคับบูรณภาพ (Integrity Constraints) คือ ข้อกำหนดที่ช่วยรักษาความถูกต้องของข้อมูล
    • เงื่อนไขบังคับคีย์ (Key Constraints) ใช้เพื่อกำหนดความเป็นเอกลักษณ์ของข้อมูลในรีเลชัน
    • เงื่อนไขบังคับคีย์ภายนอก (Foreign Key Constraints) สร้างความเชื่อมโยงระหว่างข้อมูลในรีเลชันเพื่อความสอดคล้องกัน

    เงื่อนไขบังคับคีย์ภายนอก

    • เงื่อนไขบังคับคีย์ภายนอกบังคับให้ข้อมูลที่อ้างอิงกันอยู่ในฐานข้อมูลต้องมีความสัมพันธ์กัน
    • ช่วยรักษาความถูกต้องในการอ้างอิงข้อมูล ทำให้เกิดบูรณภาพเชิงอ้างอิง (referential integrity)

    ความสำคัญของบูรณภาพเชิงอ้างอิง

    • การกำหนดเงื่อนไขบังคับคีย์ภายนอกเป็นการบังคับให้ฐานข้อมูลรักษาความถูกต้อง
    • บูรณภาพเชิงอ้างอิงช่วยป้องกันปัญหาข้อมูลที่ไม่สอดคล้องกันในฐานข้อมูล

    แนวคิดทั่วไปเกี่ยวกับแบบจำลองเชิงสัมพันธ์

    • วิวัฒนาการของแบบจำลองเชิงสัมพันธ์ส่งผลต่อการพัฒนาระบบฐานข้อมูลในปัจจุบัน
    • กฎ 12 ข้อของ E.F. Codd เป็นแนวทางสำคัญในการออกแบบฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์### ข้อดีของระบบจัดการฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์
    • รองรับการจัดการข้อมูลในรูปแบบของตาราง ช่วยให้การเข้าถึงและจัดการข้อมูลได้สะดวก
    • ทำให้สามารถสร้างความสัมพันธ์ระหว่างข้อมูลได้ง่าย และมีความสามารถในการรักษาความสมบูรณ์ของข้อมูล

    เงื่อนไขบังคับบูรณภาพ (Integrity Constraints)

    • เงื่อนไขบังคับคีย์ (Key Constraints): ป้องกันการมีข้อมูลที่ซ้ำกันในตาราง
    • เงื่อนไขบังคับคีย์ภายนอก (Foreign Key Constraints): เชื่อมโยงข้อมูลระหว่างตารางให้สัมพันธ์กัน
    • เงื่อนไขบังคับทั่วไป (General Constraints): กำหนดข้อตกลงเกี่ยวกับความหมายของข้อมูลหรือข้อกำหนดทางธุรกิจ เช่น ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีต้องมีเกรดเฉลี่ยมากกว่า 2.75

    การแปลง ER Model

    • การแปลงเอนทิตีให้เป็นตาราง: เอนทิตีจะถูกแทนด้วยตารางในแบบจำลองเชิงสัมพันธ์และแอทริบิวต์ของเอนทิตีกลายเป็นแอทริบิวต์ของรีเลชัน
    • การแปลงความสัมพันธ์ให้เป็นตารางจำแนกออกเป็นหลายประเภท เช่น ความสัมพันธ์ที่ไม่มีเงื่อนไข, ความสัมพันธ์ที่มี Key Constraints, ความสัมพันธ์ที่มี Participation Constraints

    ความสัมพันธ์: One-to-many และ Participation Constraints

    • ความสัมพันธ์ one-to-many: ตัวอย่างคือพนักงานที่จัดการหลายแผนก โดยพนักงานสามารถมีแผนกได้หลายแห่ง
    • ความสัมพันธ์ participation constraints: กำหนดการมีอยู่ของข้อมูลในความสัมพันธ์ เช่น พนักงานทุกคนต้องมีแผนกทำงาน

    ความสัมพันธ์: Weak Entity

    • Weak entity: สร้างความสัมพันธ์ที่ไม่สามารถอยู่ได้เอง ต้องพึ่งพาข้อมูลในเอนทิตีอื่น เช่น ข้อมูลผู้ติดตามในระบบประกันภัยที่ขึ้นอยู่กับนโยบาย

    ความสัมพันธ์: Class Hierarchies

    • Class hierarchies: ใช้ในการจำแนกประเภท เช่น พนักงานที่เป็นพนักงานประจำ, ชั่วโมง และสัญญาจ้างงาน กล่าวถึงการใช้งานของประเภทต่างๆ

    กรณีศึกษา

    • 7-Elephant: แสดงข้อมูลคำสั่งซื้อที่ประกอบด้วยวันที่สั่งซื้อ, หมายเลขบัตร, จำนวน และอื่นๆ
    • มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรบุรุษ: แสดงโครงสร้างความสัมพันธ์ของการสอน, หลักสูตร และนักศึกษา
    • อู่เฉิดฉาย: ใช้แสดงความสัมพันธ์ระหว่างลูกค้าและรถยนต์ โดยจะแยกข้อมูลเกี่ยวกับการซ่อมในกลุ่มช่างซ่อมรถ

    แนวคิดทั่วไปเกี่ยวกับแบบจำลองเชิงสัมพันธ์

    • วิวัฒนาการของแบบจำลองเชิงสัมพันธ์: มีการพัฒนามาตั้งแต่ปี 1970 โดย E.F. Codd ซึ่งได้กำหนดกฎ 12 ข้อสำหรับการสร้างแบบจำลองที่สมบูรณ์

    Studying That Suits You

    Use AI to generate personalized quizzes and flashcards to suit your learning preferences.

    Quiz Team

    Description

    แบบสอบถามนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจวิวัฒนาการและความสำคัญของแบบจำลองเชิงสัมพันธ์ พร้อมทั้งแนวคิดในการแทนข้อมูลและเงื่อนไขบังคับสำหรับความบูรณภาพของข้อมูล โดยอิงตามหลักการ 12 ข้อของ E.F.Codd.

    Use Quizgecko on...
    Browser
    Browser