Procurement Act 2560 PDF
Document Details
Uploaded by EnhancedSplendor
2560
Tags
Summary
This document summarizes the Thai Procurement Act of 2560, detailing its chapters, sections, and key definitions. It outlines the procedures for public procurement, including different methods and the role of government agencies and committees.
Full Transcript
สรุปสาระสาคัญ ของ พระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 1. โครงสร้าง แบ่งออกเป็น 15 หมวด จำนวน 132 มำตรำ ดังนี้ มำตรำ 1–5 บทนิยำม...
สรุปสาระสาคัญ ของ พระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 1. โครงสร้าง แบ่งออกเป็น 15 หมวด จำนวน 132 มำตรำ ดังนี้ มำตรำ 1–5 บทนิยำม มำตรำ 6–15 หมวด 1 บททั่วไป มำตรำ 16-19 หมวด 2 กำรมีส่วนร่วมของภำคประชำชนและผู้ประกอบกำรในกำรป้องกันกำรทุจริต มำตรำ 20-45 หมวด 3 คณะกรรมกำร ส่วนที่ 1 คณะกรรมกำรนโยบำยกำรจัดซื้อจัดจ้ำงและกำรบริหำรพัสดุภำครัฐ ส่วนที่ 2 คณะกรรมกำรวินิจฉัยปัญหำกำรจัดซื้อจัดจ้ำงและกำรบริหำรพัสดุภำครัฐ ส่วนที่ 3 คณะกรรมกำรรำคำกลำงและขึ้นทะเบียนผู้ประกอบกำร ส่วนที่ 4 คณะกรรมกำรควำมร่วมมือป้องกันกำรทุจริต ส่วนที่ 5 คณะกรรมกำรพิจำรณำอุทธรณ์และข้อร้องเรียน มำตรำ 46-50 หมวด 4 องค์กรสนับสนุนดูแลกำรจัดซื้อจัดจ้ำงและกำรบริหำรพัสดุภำครัฐ มำตรำ 51-53 หมวด 5 กำรขึ้นทะเบียนผู้ประกอบกำร มำตรำ 54-68 หมวด 6 วิธีกำรจัดซื้อจัดจ้ำง มำตรำ 69-78 หมวด 7 วิธีกำรจ้ำงที่ปรึกษำ มำตรำ 79-92 หมวด 8 วิธีกำรจ้ำงออกแบบและควบคุมงำน มำตรำ 93-99 หมวด 9 กำรทำสัญญำ มำตรำ 100-105 หมวด 10 กำรบริหำรสัญญำและกำรตรวจรับพัสดุ มำตรำ 106-108 หมวด 11 กำรประเมินผลกำรปฏิบัติงำนของผู้ประกอบกำร มำตรำ 109-111 หมวด 12 กำรทิ้งงำนและกำรเพิกถอนกำรเป็นผู้ทิ้งงำน มำตรำ 112-113 หมวด 13 กำรบริหำรพัสดุ มำตรำ 114-119 หมวด 14 กำรอุทธรณ์ มำตรำ 120-121 หมวด 15 บทกำหนดโทษ มำตรำ122-132 บทเฉพำะกำล 2. การบังคับใช้ (มำตรำ 3) ให้ยกเลิกบทบัญญัติเกี่ยวกับพัสดุ กำรจัดซื้อจัดจ้ำง หรือกำรบริหำรพัสดุ ในกฎหมำย ระเบียบ ข้อบังคับประกำศข้อบัญญัติ และข้อกำหนดใด ๆ ของหน่วยงำนของรัฐที่อยู่ภำยใต้บังคับแห่งพระรำชบัญญัตินี้ และให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนดหนึ่งร้อยแปดสิบวันนับแต่วันประกำศในรำชกิจจำนุเบกษำเป็นต้นไป (ประกำศ เมื่อวันที่ 24 กุมภำพันธ์ 2560) 3. นิยามศัพท์สาคัญ (มำตรำ 4) “กำรจัดซื้อจัดจ้ำง” หมำยควำมว่ำ กำรดำเนินกำรเพื่อให้ได้มำซึ่งพัสดุโดยกำรซื้อ จ้ำง เช่ำแลกเปลี่ยน หรือโดยนิติกรรมอื่นตำมที่กำหนดในกฎกระทรวง “พัสดุ” หมำยควำมว่ำ สินค้ำ งำนบริกำร งำนก่อสร้ำง งำนจ้ำงที่ปรึกษำ และงำนจ้ำงออกแบบหรือ ควบคุมงำนก่อสร้ำง รวมทั้งกำรดำเนินกำรอื่นตำมที่กำหนดในกฎกระทรวง “สินค้ำ” หมำยควำมว่ำ วัสดุ ครุภัณฑ์ ที่ดิน สิ่งปลูกสร้ำง และทรัพย์สินอื่นๆ รวมถึงงำนบริกำรที่ รวมอยู่ในสินค้ำนั้นด้วย แต่มูลค่ำของงำนบริกำรต้องไม่สูงกว่ำของมูลค่ำ”สินค้ำ”นั้น “บริกำร” หมำยควำมว่ำ งำนจ้ำงบริกำร งำนจ้ำงเหมำบริกำร งำนจ้ำงทำของและกำรรับขน “งำนก่อสร้ำง” หมำยควำมว่ำ งำนก่อสร้ำง งำนก่อสร้ำงสำธำรณูปโภค หรือสิ่งปลูกสร้ำงอื่นใด และ กำรซ่ อ มแซม ต่ อ เติ ม ปรั บ ปรุ ง รื้ อ ถอน หรื อ กำรกระท ำอื่ น ใดที่ มี ลั ก ษณะท ำนองเดี ย วกั น กั บ อำคำร สำธำรณูปโภค หรือสิ่งปลูกสร้ำงนั้น รวมถึงงำนบริกำรที่รวมอยู่ในสินค้ำนั้น แต่มูลค่ำของงำนบริกำรต้องไม่สูง กว่ำมูลค่ำ “งำนก่อสร้ำง”นั้น “อำคำร” หมำยควำมว่ำ สิ่งปลู กสร้ำงถำวรที่บุคคลเข้ำอยู่ห รือใช้ส อยได้ เช่น อำคำรที่ทำกำร โรงพยำบำล โรงเรียน สนำมกีฬำ หรือสิ่งปลูกสร้ำงอื่ นๆที่มีลักษณะเดียวกัน รวมถึงงำนอื่นๆซึ่งสร้ำงขึ้นเพื่อ ประโยชน์ใช้สอยสำหรับ“อำคำร” นั้น เช่น เสำธง รั้ว ท่อระบำยน้ำ ถังน้ำ ถนน ประปำ ไฟฟ้ำ เครื่องปรับอำกำศ ลิฟท์ หรือเครื่องตกแต่ง “สำธำรณูปโภค” หมำยควำมว่ำ งำนที่เกี่ยวกับกำรประปำ กำรไฟฟ้ำ กำรสื่อสำร กำรโทรคมนำคม กำรระบำยน้ำ กำรขนส่งทำงท่อ ทำงบก ทำงน้ำ ทำงอำกำศ ทำงรำง หรืออื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง “งำนจ้ำงที่ปรึกษำ” หมำยควำมว่ำ งำนจ้ำงจำกบุคคลธรรมดำหรือนิติบุคคล เพื่อเป็นผู้ให้คำปรึกษำ หรือแนะนำแก่หน่วยงำนของรัฐ ในด้ำนวิศวกรรม สถำปัตยกรรม ผังเมือง กฏหมำย เศรษฐศำสตร์ กำรเงิน กำรคลัง สิ่งแวดล้อม วิทยำศำสตร์ เทคโนโลยี สำธำรณสุข ศิลปวัฒนธรรม กำรศึกษำวิจัย หรือด้ำนอื่นที่อยู่ใน ภำรกิจของหน่วยงำนภำครัฐ “งำนจ้ำงออกแบบหรือควบคุมงำนก่อสร้ำง” หมำยควำมว่ำ งำนจ้ำงจำกบุ คคลธรรมดำหรือนิติบุคคล เพื่อออกแบบหรือควบคุมงำนก่อสร้ำง “กำรบริหำรพัสดุ” หมำยควำมว่ำ กำรเก็บ กำรบันทึก กำรเบิกจ่ำย กำรยืม กำรตรวจสอบ กำรบำรุง รักษำ และกำรจำหน่ำยพัสดุ “รำคำกลำง” หมำยควำมว่ำ รำคำที่ใช้เป็นฐำนสำหรับเปรียบเทียบรำคำที่ผู้ยื่นข้อเสนอได้ยื่นเสนอไว้ ซึ่งสำมำรถจัดซื้อจัดจ้ำงได้จริง มีดังนี้ 1. รำคำที่ได้จำกกำรคำนวณ ตำมหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมกำรรำคำกลำงกำหนด 2. รำคำที่ได้มำจำกฐำนข้อมูลรำคำอ้ำงอิงที่กรมบัญชีกลำงจัดทำ 3. รำคำมำตรฐำนที่สำนักงบประมำณหรือหน่วยงำนกลำงอื่นกำหนด 4. รำคำที่ได้จำกกำรสืบรำคำจำกท้องตลำด 5. รำคำที่เคยซื้อหรือจ้ำงครั้งหลังสุดภำยในระยะเวลำ 2 ปีงบประมำณ 6. รำคำอื่นตำมหลักเกณฑ์ วิธีกำร หรือแนวทำงปฏิบัติของหน่วยงำนของรัฐ กรณีที่มีรำคำตำม 1. ให้ใช้รำคำตำม 1.ก่อน ถ้ำไม่มีรำคำตำม 1. แต่มีรำคำตำม 2.หรือ 3. ให้ ใช้รำคำตำม 2.หรือ 3. ก่อน โดยจะใช้รำคำตำม 2.หรือ 3. ให้คำนึงถึงประโยชน์ของหน่วยงำนของรัฐเป็น สำคัญ กรณีที่ไม่มีรำคำตำม 1. 2. และ 3. ให้ใช้รำคำตำม 4. 5. หรือ 6. ตำมลำดับก่อน โดยจะใช้ รำคำตำม 4. 5. หรือ 6 ให้คำนึงถึงประโยชน์ของหน่วยงำนของรัฐเป็นสำคัญ “เงินงบประมำณ” หมำยควำมว่ำ - เงิ น งบประมำณตำมกฏหมำยว่ ำ ด้ ว ยงบประมำณรำยจ่ ำ ย กฏหมำยว่ ำ ด้ ว ยวิ ธี ก ำร งบประมำณ หรือกฏหมำยว่ำด้วยกำรโอนงบประมำณ - เงินซึ่งหน่วยงำนของรัฐได้รับโดยได้รับอนุญำตจำกรัฐมนตรี ให้โดยไม่ต้องนำส่งคลังตำม กฏหมำยว่ำด้วยวิธีกำรงบประมำณ หรือกฏหมำยว่ำด้วยเงินคงคลัง - เงินซึ่งหน่วยงำนของรัฐได้รับโดยไม่ต้องนำส่งคลังเป็นรำยได้ของแผ่นดินตำมกฏหมำย - เงิน ภำษีอำกร ค่ำธรรมเนียม หรือผลประโยชน์อื่นที่ตกเป็นรำยได้ของรำชกำรส่ ว น ท้องถิ่นตำมกฏหมำยหรือที่รำชกำรส่วนท้องถิ่นมีอำนำจเรียกเก็บตำมกฏหมำย - เงินกู้ เงินช่วยเหลือ และเงินอื่นตำมที่กำหนดในกฏกระทรวง “หน่วยงำนของรัฐ” หมำยควำมว่ำ รำชกำรส่วนกลำง รำชกำรส่วนภูมิภำค รำชกำรส่วนท้องถิ่น รัฐวิสำหกิจตำมกฎหมำยว่ำด้วยวิธีกำรงบประมำณ องค์กำรมหำชน องค์กรอิสระ องค์กรตำม รัฐธรรมนูญ หน่วยธุรกำรของศำล มหำวิทยำลัยในกำกับของรัฐ หน่วยงำนสังกัดรัฐสภำหรือในกำกับ ของรัฐสภำ หน่วยงำนอิสระของรัฐ และหน่วยงำนอื่นตำมที่กำหนดในกฎกระทรวง “เจ้ำหน้ำที”่ หมำยควำมว่ำ ผู้มีหน้ำที่เกี่ยวกับกำรจัดซื้อจัดจ้ำงหรือกำรบริหำรพัสดุ หรือผู้ที่ได้รับ มอบหมำยจำกผู้มีอำนำจให้ปฏิบัติหน้ำที่เกี่ยวกับกำรจัดซื้อจัดจ้ำงหรือกำรบริหำรพัสดุของหน่วยงำน ของรัฐ 4. หน่วยงานของรั ฐ สามารถขอออกกฎ ระเบียบภายใต้ พ.ร.บ.ขึ้น ใช้เ องเพื่อ ความยืด หยุ่น และ คล่องตัว (มำตรำ 6) กรณีรัฐวิสำหกิจหรือหน่วยงำนของรัฐที่ประสงค์จะจัดให้มีระเบียบ ข้อบังคับ หรือข้อบัญญัติ เกี่ยวกับกำรจัดซื้อจัดจ้ำงและกำรบริหำรพัสดุขึ้นใช้เองทั้งหมดหรือแต่บำงส่วน เพื่อเกิดควำมยืดหยุ่น และมีควำมคล่องตัว ให้กระทำได้ โดยต้องดำเนินกำรให้สอดคล้องกับหลักเกณฑ์กำรจัดซื้อจัดจ้ำงและ กำรบริหำรพัสดุตำมแนวทำงของ พ.ร.บ.นี้ ระเบียบ ข้อบังคับ หรือข้อบัญญัติดังกล่ำวต้องได้รับควำมเห็นชอบจำกคณะกรรมกำรนโยบำย และให้ประกำศในรำชกิจจำนุเบกษำ 5. หลักการการจัดซื้อจัดจ้าง (มำตรำ 8) เพื่อก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่หน่วยงำนของรัฐ และต้องสอดคล้องกับหลักกำร ดังนี้ 1. คุ้มค่ำ : ต้องมีคุณภำพ รำคำเหมำะสม และมีแผนบริหำรพัสดุที่เหมำะสมและชัดเจน 2. โปร่งใส : ต้องกระทำอย่ำงเปิดเผย แข่งขันอย่ำงเป็นธรรมและเท่ำเทียมกัน มีระยะเวลำ เหมำะสมต่อกำรยื่นข้อเสนอ มีหลักฐำนกำรดำเนินงำนชัดเจน และเปิดเผยข้อมูลจัดซื้อ จัดจ้ำงในทุกขั้นตอน 3. มีประสิทธิภำพและประสิทธิผล : ต้องมีกำรวำงแผนจัดซื้อจัดจ้ำงล่วงหน้ำ 4. ตรวจสอบได้ 6. ห้ามไม่ให้เปิดเผยข้อเสนอ (มำตรำ 10) ห้ำมไม่ให้หน่วยงำนภำครัฐเปิดเผยข้อเสนอที่เป็นสำระสำคัญ และเป็นข้อมูลทำงเทคนิคของ ของผู้ยื่นข้อเสนอ ระหว่ำงผู้ยื่นข้อเสนอด้วยกัน หรือต่อผู้ซึ่งมิได้เกี่ยวข้องกับกำรจัดซื้อจัดจ้ำงครั้งนั้น 7. แผนจัดซื้อจัดจ้างประจาปี (มำตรำ 11) ให้หน่วยงำนของรัฐ จัดทำแผนจัดซื้อจัดจ้ำงประจำปี และประกำศเผยแพร่ในระบบสำรสน เทศของกรมบั ญชีกลำงและของหน่วยงำนของรัฐ ตำมวิ ธีกำรที่กรมบัญชีกลำงกำหนด และให้ปิด ประกำศโดยเปิดเผย ณ สถำนที่ปิดประกำศของหน่วยงำนภำครัฐ 8. ผู้มีอานาจอนุมัติสั่งซื้อสั่งจ้าง กำรจัดหำพัสดุโดยวิธีใดตำมพระรำชบัญญัตินี้จะเป็นผู้ดำรงตำแหน่งใดและภำยในวงเงินเท่ำใด ให้เป็น ไปตำมระเบียบที่รัฐมนตรี (รมต.กำรคลัง) กำหนด 9. การมีส่วนร่วมของภาคประชาชนและผู้ประกอบการในการป้องกันการทุจริต (มำตรำ 16-18) กำหนดให้ภำคประชำชนเข้ำมำมีส่วนร่วมในกระบวนกำรจัดซื้อจัดจ้ำง ในลักษณะของกำรทำ ข้อตกลงคุณธรรม (Integrity Pact) ตำมโครงกำรควำมร่วมมือป้องกันกำรทุจริตในกำรจัดซื้อจัดจ้ำง ระหว่ำง หน่วยงำนของรัฐเจ้ำของโครงกำร ผู้เข้ำยื่นข้อเสนอ และผู้สังเกตกำรณ์ โดยต้องตกลงกันว่ำ จะไม่กระทำกำรทุจริตในกำรจัดซื้อจัดจ้ำง ผู้สังเกตกำรณ์ ต้องเป็นมีควำมรู้ควำมเชี่ยวชำญ และประสบกำรณ์ที่จำเป็นต่อโครงกำรจัดซื้อจัดจ้ำง นั้น ๆ เข้ำร่วมสังเกตกำรณ์ในกระบวนกำรจัดซื้อจัดจ้ำง ตั้งแต่กำรจัดทำร่ำง TOR จนถึงสิ้นสุดโครงกำร โดยผู้สังเกตกำรณ์ต้องมีควำมเป็นกลำง และไม่เป็นผู้มีส่วนได้เสียในโครงกำรจัดซื้อจัดจ้ำงนั้น 10. คณะกรรมการที่เกี่ยวข้อง (มำตรำ 20-45) กำหนดให้มีคณะกรรมกำร 5 คณะ ประกอบด้วย 1. คณะกรรมกำรนโยบำยกำรจัดซื้อจัดจ้ำงและกำรบริหำรพัสดุภำครัฐ มีหน้ำที่ กำหนดเสนอนโยบำย กฏ ระเบียบ ภำยใต้ พรบ. นี้ 2. คณะกรรมกำรวินิจฉัยปัญหำกำรจัดซื้อจัดจ้ำงและกำรบริหำรพัสดุภำครัฐ มีหน้ำที่ปรับปรุงแก้ไขปัญหำ ตีควำมและวินิจฉัยปัญหำข้อหำรือเกี่ยวกับกำรปฏิบัติตำม พรบ. 3. คณะกรรมกำรรำคำกลำงและขึ้นทะเบียนผู้ประกอบกำร มีหน้ำที่ กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีกำรกำหนดรำคำกลำง 4. คณะกรรมกำรควำมร่วมมือป้องกันกำรทุจริต มีหน้ำที่กำหนดแนวทำงและวิธีดำเนินกำรควำมร่วมมือป้องกันกำรทุจริต กำหนดแบบ ข้อตกลงคุณธรรม 5. คณะกรรมกำรพิจำรณำอุทธรณ์และร้องเรียน มีหน้ำที่พิจำรณำข้อร้องเรียนและวินิจฉัยอุทธรณ์ 11. องค์กรสนับสนุนดูแลกำรจัดซื้อจัดจ้ำงและกำรบริหำรพัสดุภำครัฐ (มำตรำ 46-50) กำหนดให้กรมบัญชีกลำงเป็นองค์กรสนับสนุนดูแลกำรจัดซื้อจัดจ้ำงและกำรบริหำรพัสดุ ภำครัฐ มีหน้ำที่ 1. ดูแลและจัดหำระบบกำรจัดซื้อจัดจ้ำงผ่ำนระบบอิเล็กทรอนิกส์ 2. จัดทำฐำนข้อมูลรำคำอ้ำงอิง 3. รวบรวมวิเครำะห์และประเมินผลกำรปฏิบัติตำม พรบ.นี้ 4. จัดหำหลักสูตรกำรฝึกอบรมเจ้ำหน้ำที่ตำมหลักวิชำชีพ 5. ปฏิบัติหน้ำที่เลขำนุกำรในคณะกรรมกำรตำม พรบ.นี้ กรณีเจ้ำหน้ำที่ซึ่งผ่ำนกำรฝึกอบรมจำกกรมบัญชีกลำงและได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งที่มี หน้ำที่เกี่ยวกับกำรจัดซื้อจัดจ้ำงหรือกำรบริหำรพัสดุมีสิทธิได้รับเงินเพิ่มหรือเงินอื่นทำนองเดียวกัน 12. การขึ้นทะเบียนผู้ประกอบการ (มำตรำ 55-53) 1. ให้คณะกรรมกำรรำคำกลำงกำหนดหลักเกณฑ์ในกำรขึ้นทะเบียนผู้ประกอบกำรก่อสร้ำง และต้องขึ้นทะเบียนผู้ประกอบกำรกับกรมบัญชีกลำง 2. ขึ้นทะเบียนผู้ประกอบกำรพัสดุอื่น ให้เป็นไปตำมที่คณะกรรมกำรรำคำกลำงเห็นสมควร 3. กรณีขึ้นทะเบียนไว้แล้ว ไม่ต้องขึ้นทะเบียนอีก 13. วิธีการจัดซื้อจัดจ้าง (มำตรำ 54-68) กำหนดให้มี 3 วิธี ดังนี้ อำจกระทำได้โดยวิธี 1) วิธีประกำศเชิญชวนทั่วไป : เชิญชวนผู้ประกอบกำรทั่วไปที่มีคุณสมบัติตรงตำมเงื่อนไขที่ กำหนดให้เข้ำยื่นข้อเสนอ 2) วิธีคัดเลือก : เชิญชวนเฉพำะผู้ประกอบกำรที่มีคุณสมบัติตรงตำมเงื่อนไขที่กำหนดซึ่งต้อง ไม่น้อยกว่ำ 3 รำยให้เข้ำยื่นข้อเสนอ เว้นแต่ในงำนนั้นมีผู้ประกอบกำรที่มีคุณสมบัติตรงตำมที่กำหนดน้อยกว่ำสำมรำย 3) วิธีเฉพำะเจำะจง : เชิญชวนผู้ประกอบกำรที่มีคุณสมบัติตรงตำมเงื่อนไขที่กำหนดรำยใด รำยหนึ่งให้เข้ำยื่นข้อเสนอหรือให้เข้ำมำเจรจำต่อรองรำคำ กำรจัดซื้อจัดจ้ำงพัสดุ ต้องให้เลือกใช้วิธีประกำศเชิญชวนทั่วไปก่อน เว้นแต่ (1) วิธีคัดเลือก ให้ใช้ในกรณีต่อไปนี้ 1. ประกำศเชิญชวนแล้ว แต่ไม่มีผู้เสนอ หรือไม่ได้รับกำรคัดเลือก 2. เป็นพัสดุที่มีคุณลักษณะพิเศษหรือซับซ้อน หรือต้องผลิต ก่อสร้ำง หรือที่มีฝีมือโดยเฉพำะ หรือมีควำมชำนำญพิเศษ หรือมีทักษะสูง และผู้ประกอบกำรมีจำนวนจำกัด 3. จำเป็น เร่งด่วน หำกใช้วิธีประกำศเชิญชวนแล้วไม่ได้ผล 4. มีข้อจำกัดที่จำเป็นต้องระบุยี่ห้อ 5. จำเป็นต้องซื้อจำกต่ำงประเทศ 6. พัสดุที่ต้องปกปิดหรือใช้ในรำชกำรลับ 7. งำนซ่อมที่จำเป็นต้องถอดตรวจ 8. กรณีอื่นตำมที่กำหนดในกฏกระทรวง (2) วิธีเฉพำะเจำะจง ให้ใช้ในกรณีต่อไปนี้ 1. ใช้ทั้งวิธีประกำศเชิญชวนและวิธีคัดเลือก หรือใช้วิธีคัดเลือกแล้ว แต่ไม่มีผู้ยื่นเสนอ หรือ ข้อเสนอไม่ได้รับกำรคัดเลือก 2. กำรจัดซื้อจัดจ้ำงในวงเงินครั้งหนึ่งไม่เกินวงเงินที่กำหนดในกฏกระทรวง 3. มีผู้ประกอบกำรที่มีคุณสมบัติโดยตรงเพียงรำยเดียว หรือเป็นตัวแทนจำหน่ำยโดยชอบด้วย กฏหมำยเพียงรำยเดียวในประเทศและไม่มีพัสดุอื่นใดที่จะใช้ทดแทนได้ 4. มีควำมจำเป็นเร่งด่วน เนื่องจำกภัยธรรมชำติ หรือเกิดโรคติดต่อร้ำยแรง และใช้วิธีประกำศ เชิญชวนหรือวิธีคัดเลือกอำจล่ำช้ำก่อให้เกิดควำมเสียหำยอย่ำงร้ำยแรง 5. เป็นพัสดุที่เกี่ยวพันกับพัสดุที่ซื้อจ้ำงไว้ก่อนแล้ว และมีควำมจำเป็นต้องเพิ่มเติม โดยมูลค่ำ พัสดุที่เพิ่มเติม ต้องไม่สูงกว่ำมูลค่ำพัสดุที่ได้ซื้อจ้ำงไว้ก่อนแล้ว 6. เป็นพัสดุที่จะขำยทอดตลำดโดยหน่วยงำนภำครัฐ 7. เป็นที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้ำงซึ่งจำเป็นต้องซื้อเฉพำะแห่ง 8. กรณีอื่นตำมที่กำหนดในกฏกระทรวง ให้หน่วยงำนของรัฐจัดทำประกำศและเอกสำรเชิญชวนให้ทรำบเป็นกำรทั่วไปในระบบของ กรมบัญชีกลำงและของหน่วยงำน ตำมวิธีที่กรมบัญชีกลำงกำหนด และให้ปิดประกำศโดย เปิดเผย ณ สถำนที่ปิดประกำศของหน่วยงำนของรัฐนั้น ว่ำจะดำเนินกำรจัดซื้อจัดจ้ำงพัสดุใด วัน เวลำ สถำนที่ยื่นข้อเสนอและเงื่อนไขอื่นๆ ให้ประกำศรำยละเอียดข้อมูลรำคำกลำงและกำรคำนวณรำคำกลำงในระบบของ กรมบัญชีกลำง ให้กำหนดคุณสมบัติของผู้ที่จะเข้ำยื่นข้อเสนอ อย่ำงน้อยต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะ ต้องห้ำม เป็นเงื่อนไขในประกำศและเอกสำรเชิญชวน ดังนี้ 1. มีควำมสำมำรถตำมกฏหมำย 2. ไม่เป็นบุคคลล้มละลำย 3. ไม่อยู่ระหว่ำงเลิกกิจกำร 4. ไม่เป็นบุคคลซึ่งอยู่ระหว่ำงถูกระงับกำรยื่นข้อเสนอหรือทำสัญญำกับรำชกำร 5. ไม่เป็นบุคคลซึ่งถูกแจ้งเวียนชื่อให้เป็นผู้ทิ้งงำนอยู่ระหว่ำงถูกระงับกำรยื่น ข้อเสนอหรือทำสัญญำกับรำชกำร หลักกำรพิจำรณำคัดเลือกข้อเสนอกำรจัดซื้อจัดจ้ำง 1. ต้นทุนตลอดกำรใช้งำน 2. มำตรฐำนของสินค้ำหรือบริกำร 3. บริกำรหลังกำรขำย 4. พัสดุที่รัฐต้องกำรส่งเสริมหรือสนับสนุนที่อนุรักษ์พลังงำนหรือสิ่งแวดล้อม 5. กำรประเมินผลกำรปฏิบัติงำนของผู้ประกอบกำร 6. ข้อเสนอด้ำนเทคนิคหรือข้อเสนออื่น 7. เกณฑ์อื่นตำมที่กำหนดในกฏกระทรวง เมื่อมีกำรยกเลิกกำรจัดซื้อจัดจ้ำง ให้หน่วยงำนของรัฐแจ้งให้ผู้ประกอบกำรซึ่งมำรับหรือซื้อ เอกสำรเชิญชวนทุกรำยทรำบถึงเหตุผลที่ต้องยกเลิกกำรจัดซื้อจัดจ้ำงครั้งนั้น 14. งานจ้างที่ปรึกษา (มำตรำ 69-78) กำหนดให้มี 3 วิธี ดังนี้ อำจกระทำได้โดยวิธี 1) วิธีประกำศเชิญชวนทั่วไป : เชิญชวนที่ปรึกษำทั่วไปที่มีคุณสมบัติตรงตำมเงื่อนไขที่ กำหนดให้เข้ำยื่นข้อเสนอ ให้ใช้กับงำนที่ไม่ซับซ้อน 2) วิธีคัดเลือก : เชิญชวนเฉพำะที่ปรึกษำที่มีคุณสมบัติตรงตำมเงื่อนไขที่กำหนดซึ่งต้องไม่น้อย กว่ำ 3 รำยให้เข้ำยื่นข้อเสนอ เว้นแต่ในงำนนั้นมีที่ปรึกษำที่มีคุณสมบัติตรงตำมที่กำหนดน้อยกว่ำ 3 รำย 3) วิธีเฉพำะเจำะจง : เชิญชวนที่ปรึกษำที่มีคุณสมบัติตรงตำมเงื่อนไขที่กำหนดรำยใดรำย หนึ่งให้เข้ำยื่นข้อเสนอหรือให้เข้ำมำเจรจำต่อรองรำคำ กำรจ้ำงที่ปรึกษำด้วยวิธีคัดเลือก ให้กระทำได้ในกรณี ต่อไปนี้ 1. ประกำศเชิญชวนแล้ว แต่ไม่มีผู้เสนอ หรือไม่ได้รับกำรคัดเลือก 2. เป็นงำนที่ซับซ้อน ซับซ้อนมำก หรือมีเทคนิคเฉพำะไม่เหมำะที่จะดำเนินกำรโดยวิธี ประกำศเชิญชวน 3. มีที่ปรึกษำในงำนที่จะจ้ำงจำนวนจำกัด 4. กรณีอื่นตำมที่กำหนดในกฏกระทรวง วิธีเฉพำะเจำะจง ให้ใช้ในกรณีต่อไปนี้ 1. ใช้ทั้งวิธีประกำศเชิญชวนและวิธีคัดเลือก หรือใช้วิธีคัดเลือกแล้ว แต่ไม่มีผู้ยื่นเสนอ หรือข้อเสนอไม่ได้รับกำรคัดเลือก 2. กำรจ้ำงในวงเงินครั้งหนึ่งไม่เกินวงเงินที่กำหนดในกฏกระทรวง 3. เป็นงำนที่จำเป็นต้องให้ที่ปรึกษำรำยเดิมทำต่อจำกงำนที่ได้ทำไว้แล้ว เนื่องจำก เหตุผลทำงเทคนิค 4. เป็นงำนจ้ำงที่มีที่ปรึกษำเพียงรำยเดียว 5. เป็นงำนที่มีควำมจำเป็นเร่งด่วนหรือที่เกี่ยวกับควำมมั่นคงของชำติ อำจล่ำช้ำ ก่อให้เกิดควำมเสียหำย 6. กรณีอื่นตำมที่กำหนดในกฏกระทรวง ให้ผู้มีอำนำจแต่งตั้งคณะกรรมกำรดำเนินกำรจ้ำงที่ปรึกษำ เพื่อรับผิดชอบในกำรดำเนิน งำนจ้ำงที่ปรึกษำ หลักเกณฑ์พิจำรณำคัดเลือกข้อเสนอกำรจ้ำงที่ปรึกษำ 1. ผลงำนและประสบกำรณ์ของที่ปรึกษำ 2. วิธีกำรบริหำรและวิธีกำรปฏิบัติงำน 3. จำนวนบุคลำกรที่ร่วมงำน 4. ประเภทของที่ปรึกษำที่รัฐส่งเสริมหรือสนับสนุน 5. ข้อเสนอทำงกำรเงิน 6. เกณฑ์อื่นตำมที่กำหนดในกฏกระทรวง กรณีงำนจ้ำงที่ปรึกษำเพื่อดำเนินงำนประจำ ให้คัดเลือกผู้ยื่นข้อเสนอที่ผ่ำนเกณฑ์ คุณภำพแล้ว และให้คัดเลือกจำกรำยที่เสนอรำคำต่ำสุด กรณีงำนจ้ำงที่ปรึกษำที่เป็นไปตำมมำตรฐำนของหน่วยงำนหรืองำนที่ซับซ้อน ให้คัดเลือกผู้ยื่นข้อเสนอที่ผ่ำนเกณฑ์ด้ำนคุณภำพแล้ว และให้คัดเลือกจำกรำยที่ได้ คะแนนด้ำนคุณภำพและด้ำนรำคำมำกที่สุด กรณีงำนจ้ำงที่ปรึกษำที่มีควำมซับซ้อนมำก ให้คัดเลือกผู้ยื่นข้อเสนอที่ผ่ำนเกณฑ์ได้ คุณภำพแล้ว และให้คัดเลือกจำกรำยที่ได้คะแนนด้ำนคุณภำพมำกที่สุด 15. งานจ้างออกแบบหรือควบคุมงานก่อสร้าง (มำตรำ 79-92) กำหนดให้มี 3 วิธี ดังนี้ อำจกระทำได้โดยวิธี 1) วิธีประกำศเชิญชวนทั่วไป : ให้ใช้กับงำนจ้ำงออกแบบหรือควบคุมงำนก่อสร้ำง ที่มี ลักษณะไม่ซับซ้อน 2) วิธีคัดเลือก : เชิญชวนผู้ให้บริกำรที่มีคุณสมบัติตรงตำมเงื่อนไขที่กำหนดซึ่งต้องไม่ น้อยกว่ำ 3 รำยให้เข้ำยื่นข้อเสนอ เว้นแต่ในงำนนั้นมีผู้ให้บริกำรที่มีคุณสมบัติตรงตำมที่กำหนดน้อยกว่ำ 3 รำย 3) วิธีเฉพำะเจำะจง :เป็นงำนที่เลือกจ้ำงผู้ให้บริกำรรำยใดรำยหนึ่งที่เคยทรำบหรือเคยเห็น ควำมสำมำรถแล้ว ตำมที่คณะกรรมกำรจัดจ้ำงโดยวิธีเฉพำะเจำะจงได้เสนอแนะ 4) วิธีประกวดแบบ : เชิญชวนผู้ให้บริกำรที่มีคุณสมบัติตรงตำมเงื่อนไขที่กำหนดให้เข้ำยื่น ข้อเสนอ เพื่อออกแบบงำนก่อสร้ำงที่มีลักษณะพิเศษ เป็นที่เชิดชูทำงศิลปกรรมหรือ สถำปัตยกรรมของชำติ หรืองำนอื่นตำมที่กำหนด กำรจ้ำงออกแบบฯ ด้วยวิธีคัดเลือก ให้กระทำได้ในกรณี ต่อไปนี้ 1. ประกำศเชิญชวนแล้ว แต่ไม่มีผู้เสนอ หรือไม่ได้รับกำรคัดเลือก 2. เป็นงำนที่ซับซ้อน ซับซ้อนมำก มีที่ปรึกษำในงำนที่จะจ้ำงจำนวนจำกัด 3. เป็นงำนเกี่ยวกับกำรออกแบบหรือใช้ควำมคิด ซึ่งหน่วยงำนไม่มีข้อมูลเพียงพอที่จะ กำหนดรำยละเอียดเบื้องต้นได้ 4. กรณีอื่นตำมที่กำหนดในกฏกระทรวง วิธีเฉพำะเจำะจง ให้ใช้ในกรณีต่อไปนี้ 1. ใช้ทั้งวิธีประกำศเชิญชวนและวิธีคัดเลือก หรือใช้วิธีคัดเลือกแล้ว แต่ไม่มีผู้ยื่นเสนอ หรือข้อเสนอไม่ได้รับกำรคัดเลือก 2. ให้ใช้กับงำนที่มีวงเงินงบประมำณค่ำก่อสร้ำงไม่เกินวงเงินที่กำหนดในกฏกระทรวง 3. เป็นงำนที่มีควำมจำเป็นเร่งด่วนหรือที่เกี่ยวกับควำมมั่นคงของชำติ อำจล่ำช้ำ ก่อให้เกิดควำมเสียหำย 4. เป็นงำนที่ต้องให้ผู้ให้บริกำรรำยเดิมทำต่อจำกงำนที่ได้ทำไว้แล้ว เนื่องจำกเหตุผล ทำงเทคนิค 5. กรณีอื่นตำมที่กำหนดในกฏกระทรวง วิธีประกวดแบบให้ผู้มีอำนำจแต่งตั้งคณะกรรมกำรดำเนินกำรจ้ำงที่ปรึกษำ เพื่อรับผิด ชอบในกำรดำเนินงำนจ้ำงที่ปรึกษำ หลักเกณฑ์พิจำรณำคัดเลือกข้อเสนอกำรจ้ำงที่ปรึกษำ 1. ผลงำนและประสบกำรณ์ของที่ปรึกษำ 2. วิธีกำรบริหำรและวิธีกำรปฏิบัติงำน 3. จำนวนบุคลำกรที่ร่วมงำน 4. ประเภทของที่ปรึกษำที่รัฐส่งเสริมหรือสนับสนุน 5. ข้อเสนอทำงกำรเงิน 6. เกณฑ์อื่นตำมที่กำหนดในกฏกระทรวง ผู้ให้บริกำรที่เป็นนิติบคคล ต้องมีใบอนุญำติประกอบวิชำชีพสถำปัตยกรรมหรือ วิศวกรรม และต้องเป็นผู้ที่ได้ขึ้นทะเบียนกับสภำวิชำชีพนั้นด้วย ผู้ให้บริกำรที่เป็นคู่สัญญำของหน่วยงำน ต้องไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับผู้ประกอบกำรงำน ก่อสร้ำงในงำนนั้น 16. การทาสัญญา (มำตรำ 93-99) กำหนดให้หน่วยงำนของรัฐต้องทำสัญญำตำมแบบที่คณะกรรมกำรนโยบำยกำหนด โดย ควำมเห็นชอบของสำนักงำนอัยกำรสูงสุด ทั้งนี้ แบบสัญญำ ให้ประกำศในรำชกิจจำนุเบกษำ ด้วย ในกรณีที่หน่วยงำนของรัฐไม่ได้ทำสัญญำตำมแบบหรือไม่อำจใช้สัญญำที่สำนักงำน อัยกำรสูงสุดให้ควำมเห็นชอบได้ หรือไม่อำจส่งให้สำนักอัยกำรสูงสุดเห็นชอบได้ทันเวลำ ให้สำมำรถส่งให้สำนักงำนอัยกำรสูงสุดเห็นชอบได้ในภำยหลังได้ สัญญำที่ทำในรำชอำณำจักรต้องมีข้อตกลงในกำรห้ำมคู่สัญญำจ้ำงช่วงให้ผู้อื่นทำอีกทอด หนึ่ ง ไม่ว่ำ ทั้งหมดหรื อบำงส่ ว น เว้นแต่ก ำรจ้ำงช่ว งแต่บำงส่ ว นที่ได้รับ อนุญำตจำก หน่วยงำนของรัฐที่เป็นคู่สัญญำแล้ว หน่ ว ยงำนอำจมี ข้ อ ตกลงเป็ น หนั ง สื อ โดยไม่ ท ำตำมแบบสั ญ ญำ เฉพำะในกรณี ดังต่อไปนี้ 1. กำรจัดซือ้ จัดจ้ำงโดยวิธีคัดเลือก หรือโดยวิธีเฉพำะเจำะจง หรือกำรจ้ำงที่ ปรึกษำโดยวิธีเฉพำะเจำะจง 2. กำรจัดซื้อจัดจ้ำงจำกหน่วยงำนภำครัฐ 3. คู่สัญญำสำมำรถส่งมอบพัสดุได้ครบถ้วน ภำยใน 5 วันทำกำร นับแต่วันถัด จำกวันทำข้อตกลง 4. กรณีอื่นตำมที่คณะกรรมกำรนโยบำยกำหนด สัญญำที่มีกำรลงนำมและแก้ไขเปลี่ยนแปลงสัญญำหรือข้อตกลง ต้องเผยแพร่ใน ระบบของกรมบัญชีกลำง และของหน่วยงำน 17. การบริหารสัญญาและการตรวจรับพัสดุ (มำตรำ 100-105) กำรบริหำรสัญญำและกำรตรวจรับพัสดุให้ผู้มีอำนำจแต่งตั้งคณะกรรมกำรตรวจรับพัสดุเพื่อ รับผิดชอบกำรบริหำรสัญญำหรือข้อตกลงและกำรตรวจรับพัสดุ โดยองค์ประกอบ องค์ประชุม และ หน้ำที่ของคณะกรรมกำรตรวจรับพัสดุให้เป็นไปตำมระเบียบที่รัฐมนตรีกำหนด 18. การประเมินผลการปฏิบัติงานของผู้ประกอบการ (มำตรำ 106-108) กำหนดให้ผลกำรประเมินเป็นส่วนหนึ่งของเกณฑ์ในกำรพิจำรณำคัดเลือกคุณสมบัติของผู้ที่ จะเข้ำยื่นข้อเสนอหรือเข้ำทำสัญญำกับหน่วยงำนของรัฐ โดยผู้ที่ไม่ผ่ำนเกณฑ์ที่กำหนดจะถูกระงับกำร ยื่นข้อเสนอหรือทำสัญญำกับหน่วยงำนของรัฐไว้ชั่วครำว จนกว่ำจะมีผลกำรปฏิบัติงำนผ่ำนเกณฑ์ที่ กำหนด 19. การทิ้งงาน (มำตรำ 109-111) ผู้ยื่นข้อเสนอหรือคู่สัญญำ ที่มีลักษณะเป็นกำรทิ้งงำน ดังนี้ 1. เป็นผู้ยื่นข้อเสนอที่ได้รับกำรคัดเลือกแล้ว ไม่ยอมไปทำสัญญำหรือข้อตกลงเป็นหนังสือ ภำยในเวลำที่กำหนด 2. คู่สัญญำ ไม่ปฏิบัติตำมสัญญำหรือข้อตกลงเป็นหนังสือ 3. ผู้ย่นื ข้อเสนอหรือคู่สัญญำ มีลักษณะเป็นกำรขัดขวำงกำรแข่งขันรำคำอย่ำงเป็นธรรม 4. เมื่อผลของกำรปฏิบัติตำมสัญญำของที่ปรึกษำหรือผู้ให้บริกำรงำนออกแบบหรืองำน ก่อสร้ำง มีข้อบกพร่อง ผิดพลำด หรือก่อให้เกิดข้อผิดพลำด 5. ผู้ให้บริกำรมีส่วนได้ส่วนเสียกับผู้ประกอบกำรงำนก่อสร้ำง 20. การบริหารพัสดุ (มำตรำ 112-113) ให้หน่วยงำนของรัฐจัดให้มีกำรควบคุมและดูแลพัสดุให้มีกำรใช้และกำรบริหำรพัสดุที่ เหมำะสม คุ้มค่ำ และเกิดประโยชน์มำกที่สุด ซึ่งรวมถึงกำรเก็บ กำรบันทึก กำรเบิกจ่ำย กำรยืม กำร ตรวจสอบ กำรบำรุงรักษำ และกำรจำหน่ำยพัสดุ 21. การอุทธรณ์ (มำตรำ 114-119) กำหนดให้ผู้ซึ่งได้ยื่นข้อเสนอจัดซื้อจัดจ้ำงพัสดุกับหน่วยงำนของรัฐไม่มีสิทธิอุทธรณ์ในเรื่องดังน 1. กำรเลือกใช้วิธีจัดซื้อจัดจ้ำงพัสดุ หรือเกณฑ์ที่ใช้ในกำรพิจำรณำผล 2. หน่วยงำนของรัฐมิได้ปฏิบัติให้เป็นไปตำมหลักเกณฑ์และวิธีกำรที่กำหนดใน พรบ.นี้ 3. กฎกระทรวง ระเบียบ หรือประกำศที่ออกตำมควำมใน พรบ.นี้ เป็นเหตุให้ตนไม่ได้รับ กำรประกำศผลเป็นผู้ชนะ หรือไม่ได้รับกำรคัดเลือกเป็นคู่สัญญำกับหน่วยงำนของรัฐ โดยต้องยื่นอุทธรณ์ต่อหน่วยงำน ภำยใน 7 วันทำกำรนับแต่วันประกำศผลกำรจัดซื้อจัด จ้ำงในระบบเครือข่ำยสำรสนเทศของกรมบัญชีกลำง และ ให้หน่วยงำนของรัฐพิจำรณำและวินิจฉัยอุทธรณ์ให้แล้วเสร็จภำยใน 7 วันทำกำรนับแต่ วันที่ได้รับอุทธรณ์ ในกรณีที่เห็นด้วยกับอุทธรณ์ก็ให้ดำเนินกำรตำมควำมเห็นนั้นภำยในกำหนดเวลำดังกล่ำว หำกไม่เห็นด้วยไม่ว่ำทั้งหมดหรือบำงส่วน ให้รำยงำนควำมเห็นพร้อมเหตุผลไปยัง คณะกรรมกำรพิจำรณำอุทธรณ์ภำยใน 3วันทำกำรนับแต่วันที่ครบกำหนดเวลำดังกล่ำว เมื่อคณะกรรมกำรพิจำรณำอุทธรณ์ได้รับรำยงำนจำกหน่วยงำนของรัฐแล้ว ให้พิจำรณำ อุทธรณ์ให้แล้วเสร็จภำยใน 30 วันนับแต่วันที่ได้รับรำยงำนดังกล่ำว หำกเรื่องใดไม่อำจพิจำรณำได้ทันในกำหนดนั้น ให้คณะกรรมกำรพิจำรณำอุทธรณ์ขยำย ระยะเวลำออกไปได้ไม่เกินสองครั้ง ครั้งละไม่เกิน 15วันนับแต่วันที่ครบกำหนดเวลำ ดังกล่ำว กรณีที่คณะกรรมกำรพิจำรณำอุทธรณ์เห็นว่ำอุทธรณ์ฟังขึ้นและมีต่อกำรจัดซื้อจัดจ้ำงมี นัยสำคัญ ให้คณะกรรมกำรพิจำรณำอุทธรณ์สั่งให้หน่วยงำนของรัฐดำเนินกำรจัดซื้อจัด จ้ ำงใหม่ หรื อเริ่ มจำกขั้น ตอนใดตำมที่ เห็ นสมควร ในกรณีที่ คณะกรรมกำรพิ จำรณำ อุทธรณ์เห็นว่ำอุทธรณ์ฟังไม่ขึ้นหรือไม่มีผลต่อกำรจัดซื้อจัดจ้ำงอย่ำงมีนัยสำคัญ ให้แจ้ง หน่วยงำนของรัฐเพื่อดำเนินกำรจัดซื้อจัดจ้ำงต่อไป ถ้ำผู้อุทธรณ์ผู้ใดไม่พอใจคำวินิจฉัยของคณะกรรมกำรพิจำรณำอุทธรณ์ และเห็นว่ำ หน่วยงำนของรัฐต้องรับผิดชดใช้ค่ำเสียหำย ผู้นั้นมีสิทธิฟ้องต่อศำลเพื่อเรียกให้หน่วยงำน ของรัฐชดใช้ค่ำเสียหำยได้ แต่กำรฟ้องคดีดังกล่ำวไม่มีผลกระทบต่อกำรจัดซื้อจัดจ้ำงที่ หน่วยงำนของรัฐได้ลงนำมในสัญญำจัดซื้อจัดจ้ำงนั้นแล้ว 22. บทกาหนดโทษ (มำตรำ 120-121) เจ้ำหน้ำที่หรือผู้มีอำนำจหน้ำที่ในกำรดำเนินกำรเกี่ยวกับกำรจัดซื้อจัดจ้ำงหรือกำรบริหำร พัสดุ ปฏิบัติหรือละเว้นกำรปฏิบัติหน้ำที่ในกำรจัดซื้อจัดจ้ำงตำม พรบ.นี้ กฎกระทรวง ระเบียบ หรือประกำศที่ออกตำมควำมใน พรบ.นี้ โดยมิชอบ โดยกำหนดให้ต้องระวำงโทษจำคุกตั้งแต่ 1 ปีถึง 10 ปี และปรับตั้งแต่สี่หมื่นบำทถึงสี่แสน บำท และผู้ใช้หรือผู้สนับสนุนในกำรกระทำควำมผิดดังกล่ำวต้องระวำงโทษตำมที่กำหนดไว้สำหรับ ควำมผิดดังกล่ำวด้วย ก ำหนดโทษส ำหรั บ ผู้ ที่ ไ ม่ ป ฏิ บั ติ ต ำมค ำสั่ ง ของคณะกรรมกำรวิ นิ จ ฉั ย หรื อ หลั กฐำน ประกอบกำรพิจำรณำอุทธรณ์ เพื่อเป็นกำรบังคับให้ผู้ที่เกี่ยวข้องให้ควำมร่วมมือในกำรส่งเอกสำรหรือ หลักฐำนประกอบ กำรพิจำรณำของคณะกรรมกำรวินิจฉัยหรือคณะกรรมกำรพิจำรณำอุทธรณ์ โดยกำหนดให้มี ควำมผิดฐำนขัดคำสั่งเจ้ำพนักงำนตำมประมวลกฎหมำยอำญำ 23. บทเฉพำะกำล ให้ระเบียบสำนักนำยกรัฐมนตรีว่ำด้วยกำรพัสดุพ.ศ.2535 และระเบียบสำนักนำยกรัฐมนตรี ว่ำด้วยกำรพัสดุด้ว ยวิธีกำรทำงอิเล็กทรอนิกส์พ.ศ.2549 และบรรดำระเบียบ ข้อบังคับ ประกำศ ข้อบัญญัติและข้อกำหนดใด ๆ เกี่ยวกับพัสดุ กำรจัดซื้อจัดจ้ำง หรือกำรบริหำรพัสดุของหน่วยงำนของ รัฐอื่น รวมทั้งมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวกับพัสดุ กำรจัดซื้อจัดจ้ำง หรือกำรบริหำรพัสดุของหน่วยงำน ของรั ฐ ยั ง คงใช้ บั ง คั บ ได้ ต่ อ ไปเท่ ำ ที่ไ ม่ ขั ด หรื อ แย้ งกั บ พระรำชบั ญญั ติ นี้ จ นกว่ ำ จะมี ก ฎกระทรวง ระเบียบ หรือประกำศ ในเรื่องนั้น ๆ ตำมพระรำชบัญญัตินี้ใช้บังคับ