พระราชบัญญัติการขุดดินและถมดิน พ.ศ. 2543 PDF
Document Details
Uploaded by QuickerStatueOfLiberty
2543
Tags
Summary
This document is a Thai legal document regarding the excavation and landfilling of land. The document details the regulations and procedures for these practises. It aims to prevent damage to property and ensure public safety.
Full Transcript
พระราชบัญญัติ การขุดดินและถมดิน พ.ศ. 2543 --------------------------- ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร....
พระราชบัญญัติ การขุดดินและถมดิน พ.ศ. 2543 --------------------------- ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ใหไว ณ วันที่ 25 กุมภาพันธ พ.ศ. 2543 เปนปที่ 55 ในรัชกาลปจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกลาฯ ใหประกาศวา โดยที่เปนการสมควรใหมีกฎหมายวาดวยการขุดดินและถมดิน พระราชบัญญัตินี้มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจํากัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา 29 ประกอบกับมาตรา 35 มาตรา 48 และมาตรา 50 ของรัฐธรรมนูญแหงราชอาณาจักรไทย บัญญัติให กระทําได โดยอาศัยอํานาจตามบทบัญญัติแหงกฎหมาย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกลาฯ ใหตราพระราชบัญญัตินี้ขึ้นไวโดยคําแนะนําและยินยอมของรัฐสภา ดังตอไปนี้ มาตรา 1 พระราชบัญญัตินี้เรียกวา “พระราชบัญญัติการขุดดินและถมดิน พ.ศ. 2543” มาตรา 2 พระราชบัญญัตินี้ใหใชบังคับเมื่อพนกําหนดสามสิบวันนับแตวันประกาศในราชกิจจา นุ เบกษา เปนตนไป* (***ประกาศใน ราชกิจจานุเบกษา 117 ก ตอนที่ 16 ก วันลง ราชกิจจานุเบกษา 7 มีนาคม 2543) มาตรา 3 พระราชบัญญัตินี้ใหใชบังคับในทองที่ดังตอไปนี้ (1) เทศบาล 2 (2) กรุงเทพมหานคร (3) เมืองพัทยา (4) องคกรปกครองสวนทองถิ่นอื่นตามที่มีกฎหมายโดยเฉพาะจัดตั้งขึ้น ซึ่งรัฐมนตรีประกาศ กําหนดในราชกิจจานุเบกษา (5) บริเวณที่มีพระราชกฤษฎีกาใหใชบังคับกฎหมายวาดวยการควบคุมอาคาร (6) เขตผังเมืองรวมตามกฎหมายวาดวยการผังเมือง เพื่อประโยชนในการปองกันอันตรายที่จะเกิดจากการขุดดินหรือถมดิน ถาการขุดดินหรือถมดินอาจ กอใหเกิดความเสียหายตอทรัพยสินของบุคคล หรืออาจกอใหเกิดอันตรายตอประชาชน รัฐมนตรี จะประกาศกําหนดใหใชบังคับพระราชบัญญัตินี้ในทองที่อื่นนอกจากทองที่ตามวรรคหนึ่งตามที่เห็นวา จําเปนก็ได ประกาศตามวรรคสอง ใหเจาพนักงานทองถิ่นประกาศไวโดยเปดเผยกอนวันใชบังคับไมนอยกวา เจ็ดวัน ประกาศดังกลาวใหปดไว ณ ศาลากลางจังหวัด ที่วาการอําเภอหรือกิ่งอําเภอ ที่ทําการองคการบริหาร สวนตําบล ที่ทําการกํานัน และที่ทําการผูใหญบาน แหงทองที่ที่กําหนดไวในประกาศ มาตรา 4 ในพระราชบัญญัตินี้ “ดิน” หมายความรวมถึง หิน กรวด หรือทราย และอินทรียวัตถุตาง ๆ ที่เจือปนกับดิน “พื้นดิน” หมายความวา พื้นผิวของที่ดินที่เปนอยูตามสภาพธรรมชาติ “ขุดดิน” หมายความวา กระทําแกพื้นดินเพื่อนําดินขึ้นจากพื้นดิน หรือทําใหพื้นดินเปนบอดิน “บอดิน” หมายความวา แอง บอ สระ หรือชองวางใตพื้นดิน ที่เกิดจากการขุดดิน “ถมดิน” หมายความวา การกระทําใด ๆ ตอดินหรือพื้นดินเพื่อใหระดับดินสูงขึ้นกวาเดิม “เนินดิน” หมายความวา ดินที่สูงขึ้นกวาระดับพื้นดินโดยการถมดิน “แผนผังบริเวณ” หมายความวา แผนที่แสดงสภาพของที่ดิน ที่ตั้ง และขอบเขตของที่ดินที่จะขุดดิน หรือถมดิน รวมทั้งที่ดินและสิ่งปลูกสรางที่อยูขางเคียง “รายการ” หมายความวา ขอความชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับชนิดของดิน ความลึกของบอดินที่จะขุด ดิน หรือความสูงของเนินดินที่จะถมดิน ความลาดเอียงของบอดินหรือเนินดิน ระยะหางจากขอบบอดินหรือ เนินดินถึงที่ดินหรือสิ่งปลูกสรางของบุคคลอื่น วิธีการปองกันการพังทลายของดินหรือสิ่งปลูกสราง และวิธี การในการขุดดินหรือถมดิน “เจาพนักงานทองถิ่น” หมายความวา (1) นายกเทศมนตรี สําหรับในเขตเทศบาล 3 (2) ผูวาราชการกรุงเทพมหานคร สําหรับในเขตกรุงเทพมหานคร (3) นายกเมืองพัทยา สําหรับในเขตเมืองพัทยา (4) ประธานกรรมการบริหารองคการบริหารสวนตําบล สําหรับในเขตองคการบริหารสวนตําบล (5) หัวหนาผูบริหารทองถิ่นขององคกรปกครองสวนทองถิ่นอื่นที่มีกฎหมายโดยเฉพาะจัดตั้งขึ้น กําหนดใหเปนราชการสวนทองถิ่น สําหรับในเขตองคกรปกครองสวนทองถิ่นนั้น (6) นายกองคการบริหารสวนจังหวัด สําหรับในเขตทองที่อื่น นอกจาก (1) ถึง (5) “คณะกรรมการ” หมายความวา คณะกรรมการการขุดดินและถมดิน “พนักงานเจาหนาที่” หมายความวา ผูซึ่งเจาพนักงานทองถิ่นแตงตั้งใหปฏิบัติการตามพระราช บัญญัตินี้ “รัฐมนตรี” หมายความวา รัฐมนตรีผูรักษาการตามพระราชบัญญัตินี้ มาตรา 5 พระราชบัญญัตินี้มิใหใชบังคับแกการขุดดินและถมดินซึ่งกระทําไดโดยอาศัยอํานาจตาม กฎหมายอื่นที่ไดกําหนดมาตรการในการปองกันอันตรายไวตามกฎหมายนั้นแลว มาตรา 6 เพื่อประโยชนในการปองกันการพังทลายของดินหรือสิ่งปลูกสราง ตลอดจนการอื่นที่ จําเปนเพื่อปฏิบัติตามพระราชบัญญัตินี้ ใหรัฐมนตรีโดยคําแนะนําของคณะกรรมการมีอํานาจออก กฎกระทรวงกําหนด (1) บริเวณหามขุดดินหรือถมดิน (2) ความสัมพันธของความลาดเอียงของบอดินหรือเนินดินตามชนิดของดิน ความลึกและขนาดของ บอดินที่จะขุดดิน ความสูงและพื้นที่ของเนินดินที่จะถมดิน และระยะหางจากขอบบอดินหรือเนินดินถึงเขต ที่ดินหรือสิ่งปลูกสรางของบุคคลอื่น (3) วิธีการปองกันการพังทลายของดินหรือสิ่งปลูกสราง (4) วิธีการใหความคุมครองและความปลอดภัยแกคนงานและบุคคลภายนอก (5) หลักเกณฑ วิธีการ และเงื่อนไขอื่นในการขุดดินหรือถมดิน มาตรา 7 ในกรณีที่ไดมีการออกกฎกระทรวงกําหนดเรื่องใดตามมาตรา 6 แลวใหองคกรปกครอง สวนทองถิ่นถือปฏิบัติตามกฎกระทรวงนั้น เวนแตเปนกรณีตามมาตรา 8 ในกรณีที่ยังมิไดมีการออกกฎกระทรวงกําหนดเรื่องใดตามมาตรา 6 ใหองคกรปกครองสวนทองถิ่น มีอํานาจออกขอบัญญัติทองถิ่นกําหนดเรื่องนั้นได 4 ในกรณีที่ไดมีการออกขอบัญญัติทองถิ่นกําหนดเรื่องใดตามวรรคสองแลว ถาตอมามีการออกกฎ กระทรวงกําหนดเรื่องนั้น ใหขอกําหนดของขอบัญญัติทองถิ่นในสวนที่ขัดหรือแยงกับกฎกระทรวงเปนอัน ยกเลิก และใหขอกําหนดของขอบัญญัติทองถิ่นในสวนที่ไมขัดหรือแยงกับกฎกระทรวงยังคงใชบังคับตอไป ไดจนกวาจะมีการออกขอบัญญัติทองถิ่นใหมตามมาตรา 8 แตตองไมเกินหนึ่งปนับแตวันที่กฎกระทรวงนี้ ใชบังคับ การยกเลิกขอบัญญัติทองถิ่นตามวรรคสาม ยอมไมกระทบกระเทือนตอการดําเนินการที่ไดกระทํา ไปแลวโดยถูกตองตามขอบัญญัติทองถิ่นนั้น มาตรา 8 ในกรณีที่ไดมีการออกกฎกระทรวงกําหนดเรื่องใดตามมาตรา 6 แลวใหองคกรปกครอง สวนทองถิ่นมีอํานาจออกขอบัญญัติทองถิ่นในเรื่องนั้นได ในกรณีดังตอไปนี้ (1) เปนการออกขอบัญญัติทองถิ่นกําหนดรายละเอียดในเรื่องนั้นเพิ่มเติมจากที่กําหนดไวใน กฎกระทรวง โดยไมขัดหรือแยงกับกฎกระทรวงดังกลาว (2) เปนการออกขอบัญญัติทองถิ่นกําหนดเรื่องนั้นขัดหรือแยงกับกฎกระทรวงดังกลาว เนื่องจากมี ความจําเปนหรือมีเหตุผลพิเศษเฉพาะทองถิ่น การออกขอบัญญัติทองถิ่นตาม (2) ใหมีผลใชบังคับไดเมื่อไดรับความเห็นชอบจากคณะกรรมการ และไดรับอนุมัติจากรัฐมนตรี คณะกรรมการจะตองพิจารณาใหความเห็นชอบหรือไมใหความเห็นชอบในขอบัญญัติทองถิ่นตาม (2) ใหเสร็จภายในหกสิบวันนับแตวันที่ไดรับขอบัญญัติทองถิ่นนั้น ถาไมใหความเห็นชอบใหแจงเหตุผลให องคกรปกครองสวนทองถิ่นนั้นทราบดวย ถาคณะกรรมการพิจารณาขอบัญญัติทองถิ่นนั้นไมเสร็จภายในกําหนดเวลาตามวรรคสาม ใหถือวา คณะกรรมการไดใหความเห็นชอบในขอบัญญัติทองถิ่นนั้นแลว และใหองคกรปกครองสวนทองถิ่นเสนอ รัฐมนตรีเพื่อสั่งการตอไป ถารัฐมนตรีไมสั่งการภายในสามสิบวัน นับแตวันที่ไดรับขอบัญญัติทองถิ่นนั้น ใหถือวารัฐมนตรีไดอนุมัติตามวรรคสอง มาตรา 9 การแจงหรือการสงคําสั่งของเจาพนักงานทองถิ่นตามพระราชบัญญัตินี้ ใหทําเปน หนังสือสงทางไปรษณียลงทะเบียนตอบรับใหผูแจง ผูขุดดิน ผูถมดิน เจาของที่ดิน หรือตัวแทน แลวแตกรณี ณ ภูมิลําเนาของผูนั้น หรือจะทําเปนหนังสือและใหบุคคลดังกลาวลงลายมือชื่อรับแทนการสงทางไปรษณีย ก็ได ในกรณีที่ไมอาจดําเนินการตามวรรคหนึ่งได ใหปดประกาศสําเนาหนังสือแจงหรือคําสั่ง แลวแต กรณี ไวในที่เปดเผยและเห็นไดงาย ณ บริเวณที่มีการขุดดินหรือถมดิน และใหถือวาผูแจง ผูขุดดิน ผูถมดิน 5 เจาของที่ดิน หรือตัวแทน ไดทราบคําสั่งนั้น เมื่อพนกําหนดเจ็ดวันนับแตวันที่ไดมีการปดประกาศดังกลาว มาตรา 10 ใหรัฐมนตรีวาการกระทรวงมหาดไทยรักษาการตามพระราชบัญญัตินี้และมีอํานาจออก กฎกระทรวงกําหนดคาธรรมเนียมและคาใชจายไมเกินอัตราทายพระราชบัญญัตินี้ และกําหนดกิจการอื่น เพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้ กฎกระทรวงนั้น เมื่อไดประกาศในราชกิจจานุเบกษาแลวใหใชบังคับได หมวด 1 คณะกรรมการการขุดดินและถมดิน ------------------------ มาตรา 11 ใหมีคณะกรรมการคณะหนึ่ง เรียกวา “คณะกรรมการขุดดินและถมดิน” ประกอบดวย อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมืองเปนประธานกรรมการ ผูแทนกรมทรัพยากรธรณี ผูแทนกรมที่ดิน ผูแทน กรมพัฒนาที่ดิน ผูแทนกรมโรงงานอุตสาหกรรม ผูแทนกรมศิลปากร ผูแทนกรมศิลปากร ผูแทนสํานัก นโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอม ผูแทนกรมการผังเมือง ผูแทนสภาวิศวกร และผูแทน สถาปนิกแหงละหนึ่งคนและผูทรงคุณวุฒิอีกไมเกินสี่คนซึ่งรัฐมนตรีแตงตั้ง เปนกรรมการ และใหหัวหนา สํานักงานคณะกรรมการควบคุมอาคาร กรมโยธาธิการและผังเมือง เปนกรรมการ และเลขานุการ (สวนคําบางคํา (ตัวหนา / เอียง) ไดแกใหเปนปจจุบันแลว ตาม พระราชกฤษฎีกาพระราชกฤษฎีกาแกไขบท บัญญัติใหสอดคลองกับการโอนอํานาจหนาที่ของสวนราชการใหเปนไปตามพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม พ.ศ. 2545 มาตรา 9) มาตรา 12 ใหคณะกรรมการมีอํานาจหนาที่ดังตอไปนี้ (1) ใหคําแนะนําในการออกกฎกระทรวงตามมาตรา 6 (2) ใหคําแนะนําแกเจาพนักงานทองถิ่นในการปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้ (3) พิจารณาอุทธรณคําสั่งของเจาพนักงานทองถิ่นตามมาตรา 34 วรรคสอง (4) ปฏิบัติหนาที่อื่นตามที่รัฐมนตรีมอบหมาย มาตรา 13 กรรมการซึ่งรัฐมนตรีแตงตั้งมีวาระอยูในตําแหนงคราวละสามป 6 ในกรณีมีการแตงตั้งกรรมการในระหวางที่กรรมการซึ่งแตงตั้งไวแลวยังมีวาระอยูในตําแหนงไมวา จะเปนการแตงตั้งเพิ่มขึ้นหรือแตงตั้งแทนตําแหนงที่วาง ใหผูไดรับการแตงตั้งนั้นอยูในตําแหนงเทากับวาระ ที่เหลืออยูของกรรมการซึ่งไดแตงตั้งไวแลวนั้น กรรมการซึ่งพนจากตําแหนงอาจไดรับแตงตั้งอีกได แตตองไมเกินสองคราวติดตอกัน มาตรา 14 นอกจากการพนจากตําแหนงตามวาระตามมาตรา 13 กรรมการซึ่งรัฐมนตรีแตงตั้ง พนจากตําแหนง เมื่อ (1) ตาย (2) ลาออก (3) เปนบุคคลลมละลาย (4) เปนคนไรความสามารถหรือเสมือนไรความสามารถ (5) ไดรับโทษจําคุกโดยคําพิพากษาถึงที่สุดใหจําคุก เวนแตเปนโทษสําหรับความผิดที่กระทําโดย ประมาทหรือความผิดลหุโทษ มาตรา 15 การประชุมของคณะกรรมการตองมีกรรมการมาประชุมไมนอยกวากึ่งหนึ่งของจํานวน กรรมการทั้งหมดจึงจะเปนองคประชุม ถาประธานกรรมการไมอยูในที่ประชุมหรือไมอาจปฏิบัติหนาที่ได ใหกรรมการซึ่งมาประชุมเลือกกรรมการคนหนึ่งเปนประธานในที่ประชุม การวินิจฉัยชี้ขาดของที่ประชุมใหถือเสียงขางมาก กรรมการคนหนึ่งใหมีเสียงหนึ่งในการลงคะแนน ถาคะแนนเสียงเทากัน ใหประธานในที่ประชุมออกเสียงเพิ่มขึ้นอีกเสียงหนึ่งเปนเสียงชี้ขาด มาตรา 16 คณะกรรมการมีอํานาจแตงตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อพิจารณา หรือปฏิบัติการตามที่คณะ กรรมการมอบหมาย ตลอดจนเชิญบุคคลใด ๆ มาใหขอเท็จจริง คําอธิบาย คําแนะนําหรือความเห็นได ใหนํามาตรา 15 มาใชบังคับแกการประชุมของคณะอนุกรรมการโดยอนุโลม หมวด 2 การขุดดิน 7 ------------- มาตรา 17 ผูใดประสงคจะทําการขุดดินโดยมีความลึกจากระดับพื้นดินเกินสามเมตรหรือมีพื้นที่ ปากบอดินเกินหนึ่งหมื่นตารางเมตร หรือมีความลึกหรือพื้นที่ตามที่เจาพนักงานทองถิ่นประกาศกําหนด ใหแจงตอเจาพนักงานทองถิ่นตามแบบที่เจาพนักงานทองถิ่นกําหนดโดยยื่นเอกสารแจงขอมูลดังตอไปนี้ (1) แผนผังบริเวณที่ประสงคจะทําการขุดดิน (2) แผนผังแสดงเขตที่ดินและที่ดินบริเวณขางเคียง (3) รายการที่กําหนดไวในกฎกระทรวงที่ออกตามมาตรา 6 (4) วิธีการขุดดิน และการขนดิน (5) ระยะเวลาทําการขุดดิน (6) ชื่อผูควบคุมงานซึ่งจะตองเปนผูมีคุณสมบัติตามที่กําหนดในกฎกระทรวง (7) ที่ตั้งสํานักงานของผูแจง (8) ภาระผูกพันตาง ๆ ที่บุคคลอื่นมีสวนไดเสียเกี่ยวกับที่ดินที่จะทําการขุดดิน (9) เอกสารและรายละเอียดอื่น ๆ ที่คณะกรรมการกําหนดโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา ถาผูแจงไดดําเนินการตามที่ระบุไวในวรรคหนึ่งโดยถูกตองแลว ใหเจาพนักงานทองถิ่นออกใบรับ แจงตามแบบที่เจาพนักงานทองถิ่นกําหนดเพื่อเปนหลักฐานการแจงใหแกผูนั้นภายในเจ็ดวันนับแตวันที่ได รับแจง และใหผูแจงเริ่มตนทําการขุดดินตามที่ไดแจงไวไดตั้งแตวันที่ไดรับใบรับแจง ถาการแจงเปนไปโดยไมถูกตอง ใหเจาพนักงานทองถิ่นแจงใหแกไขใหถูกตองภายในเจ็ดวันนับแต วันที่มีการแจงตามวรรคหนึ่ง ถาผูแจงไมแกไขใหถูกตองภายในเจ็ดวันนับแตวันที่ผูแจงไดรับแจงใหแกไข จากเจาพนักงานทองถิ่น ใหเจาพนักงานทองถิ่นมีอํานาจออกคําสั่งใหการแจงตามวรรคหนึ่งเปนอันสิ้นผล ถาผูแจงไดแกไขใหถูกตองภายในเวลาที่กําหนดตามวรรคสาม ใหเจาพนักงานทองถิ่นออกใบรับ แจงใหแกผูแจงภายในสามวันนับแตวันที่ไดรับแจงที่ถูกตอง ผูไดรับใบรับแจงตองเสียคาธรรมเนียมและคาใชจายตามที่กําหนดในกฎกระทรวง มาตรา 18 คาธรรมเนียมและคาใชจายที่เก็บไดตามมาตรา 17 วรรคหา ใหเปนรายไดขององคกร ปกครองสวนทองถิ่นแหงทองที่ที่มีการขุดดินนั้น มาตรา 19 ในระหวางการขุดดิน ผูขุดดินตามมาตรา 17 ตองเก็บใบรับแจง แผนผัง บริเวณ และ รายการไวที่สถานที่ขุดดินหนึ่งชุด และพรอมที่จะใหพนักงานเจาหนาที่ตรวจดูได 8 ถาใบรับแจงชํารุด สูญหาย หรือถูกทําลายในสาระสําคัญ ใหผูขุดดินตามมาตรา 17 ขอรับใบแทน ใบรับแจงตอเจาพนักงานทองถิ่นภายในสามสิบวันนับแตวันที่ทราบถึงการชํารุดสูญหายหรือถูกทําลาย ดังกลาว มาตรา 20 ผูขุดดินตามมาตรา 17 ตองทําการขุดดินใหถูกตองตามกฎกระทรวงที่ออกตามมาตรา 6 มาตรา 21 ผูขุดดินตามมาตรา 17 ตองควบคุมลูกจางหรือตัวแทนใหปฏิบัติตามมาตรา 20 และตอง รับผิดในการกระทําของลูกจางหรือตัวแทนซึ่งไดกระทําในทางการที่จางหรือตามที่ไดรับมอบหมาย มาตรา 22 การไดรับใบแจงจากเจาพนักงานทองถิ่นตามมาตรา 17 ไมเปนเหตุคุมครองการขุดดินที่ ไดกอใหเกิดความเสียหายตอทรัพยสินของบุคคลหรือตอสภาพแวดลอม ผูขุดดินไมวาจะเปนเจาของที่ดิน ผู ครอบครองที่ดิน ลูกจางหรือตัวแทน ตองรับผิดชดใชคาสินไหมทดแทนเพื่อการนั้น เวนแตจะมีเหตุที่ไม ตองรับผิดตามกฎหมาย มาตรา 23 การขุดบอน้ําใชที่มีพื้นที่ปากบอไมเกินสี่ตารางเมตร ผูขุดดินไมตองแจงตอเจาพนักงาน ทองถิ่น มาตรา 24 การขุดดินโดยมีความลึกจากระดับพื้นดินไมเกินสามเมตร เมื่อจะขุดดินใกลแนวเขต ที่ดินของผูอื่นในระยะนอยกวาสองเทาของความลึกของบอดินที่จะขุดดิน ตองจัดการปองกันการพังทลาย ของดิน ตามวิสัยที่ควรกระทํา มาตรา 25 ในการขุดดิน ถาพบโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ ซากดึกดําบรรพ หรือแรที่มีคุณคาทาง เศรษฐกิจหรือทางการศึกษาในดานธรณีวิทยา ใหผูขุดดินตามมาตรา 17 มาตรา 23 หรือมาตรา 24 หยุดการ ขุดดินในบริเวณนั้นไวกอนแลวรายงานใหเจาพนักงานทองถิ่นทราบภายในเจ็ดวันนับแตวันที่พบ และให เจาพนักงานทองถิ่นแจงใหกรมศิลปากรหรือกรมทรัพยากรธรณี แลวแตกรณี ทราบโดยดวนในกรณีเชนนี้ ใหผูขุดดินปฏิบัติการใหเปนไปตามกฎหมายวาดวยการนั้น หมวด 3 การถมดิน 9 ----------- มาตรา 26 ผูใดประสงคจะทําการถมดินโดยมีความสูงของเนินดินเกินกวาระดับที่ดินตางเจาของ ที่อยูขางเคียง และมีพื้นที่ของเนินดินไมเกินสองพันตารางเมตร หรือมีพื้นที่ตามที่เจาพนักงานทองถิ่น ประกาศกําหนด ตองจัดใหมีการระบายน้ําเพียงพอที่จะไมกอใหเกิดความเดือดรอนแกเจาของที่ดินที่อยูขาง เคียงหรือบุคคลอื่น พื้นที่ที่เจาพนักงานทองถิ่นประกาศกําหนดตามวรรคหนึ่ง ตองไมเกินสองพันตารางเมตร การถมดินที่มีพื้นที่เกินสองพันตารางเมตร หรือมีพื้นที่เกินกวาที่เจาพนักงานทองถิ่นประกาศ กําหนดตามวรรคหนึ่ง นอกจากจะตองจัดใหมีการระบายน้ําตามวรรคหนึ่ง ตองแจงการถมดินนั้นตอ เจาพนักงานทองถิ่นตามแบบที่เจาพนักงานทองถิ่นกําหนด ถาผูแจงไดดําเนินการตามที่ระบุไวในวรรคสามโดยถูกตองแลว ใหเจาพนักงานทองถิ่นออกใบรับ แจงตามแบบที่เจาพนักงานทองถิ่นกําหนด เพื่อเปนหลักฐานการแจงใหแกผูนั้นภายในเจ็ดวันนับแตวันที่ได รับแจง และใหผูแจงเริ่มตนทําการถมดินตามที่ไดแจงไวไดตั้งแตวันที่รับใบรับแจง ใหนําบทบัญญัติมาตรา 17 วรรคสาม วรรคสี่และวรรคหา มาตรา 18 มาตรา 19 และมาตรา 22 มาใชบังคับโดยอนุโลม มาตรา 27 ผูถมดินตามมาตรา 26 ตองทําการถมดินใหถูกตองตามกฎกระทรวงที่ออกตาม มาตรา 6 มาตรา 28 ผูถมดินตามมาตรา 26 ตองควบคุมลูกจางหรือตัวแทนใหปฏิบัติตามมาตรา 27 และตอง รับผิดในการกระทําของลูกจางหรือตัวแทนซึ่งไดกระทําในทางการที่จางหรือตามที่ไดรับมอบหมาย หมวด 4 พนักงานเจาหนาที่ -------------------- มาตรา 29 ผูใดไดรับความเสียหายหรือมีเหตุอันควรเชื่อไดวาอาจไดรับความเสียหายจาก การขุดดินหรือถมดินอันไมปฏิบัติตามมาตรา 20 มาตรา 24 หรือมาตรา 27 มีสิทธิรองขอใหเจาพนักงาน ทองถิ่นสั่งใหหยุดการขุดดินหรือถมดินนั้นได เมื่อไดรับคํารองขอตามวรรคหนึ่ง ใหเจาพนักงานทองถิ่นสั่งใหพนักงานเจาหนาที่เขาไปตรวจสอบ สถานที่ขุดดินหรือถมดินและรายงานตอเจาพนักงานทองถิ่น ถาเจาพนักงานทองถิ่นเห็นวาความเสียหายได 10 เกิดขึ้นหรืออาจเกิดขึ้นจากการขุดดินหรือถมดินนั้น ใหมีอํานาจออกคําสั่งเปนหนังสือสั่งใหผูขุดดิน ผูถมดิน หรือเจาของที่ดินหยุดการขุดดินหรือการถมดิน หรือจัดการปองกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นหรือจัดการ แกไขการขุดดินหรือถมดินนั้นไดตามที่เห็นสมควร เจาพนักงานทองถิ่นตามมาตรานี้ ใหหมายความรวมถึงผูซึ่งเจาพนักงานทองถิ่นมอบหมายดวย มาตรา 30 พนักงานเจาหนาที่มีอํานาจเขาไปตรวจสอบสถานที่ที่มีการขุดดินตามมาตรา 17 หรือ การถมดินตามมาตรา 26 วาไดปฏิบัติตามพระราชบัญญัตินี้หรือกฎกระทรวงหรือขอบัญญัติทองถิ่นหรือ ประกาศที่ออกตามพระราชบัญญัตินี้หรือไม ทั้งนี้ ในระหวางเวลาพระอาทิตยขึ้นถึงพระอาทิตยตก หรือใน ระหวางเวลาทําการ และใหผูขุดดิน ผูถมดิน หรือตัวแทน หรือเจาของที่ดินอํานวยความสะดวกตามสมควร มาตรา 31 ในกรณีที่พนักงานเจาหนาที่เห็นวาการขุดดินหรือการถมดินไดกอหรืออาจกอใหเกิด ความเสียหายตอทรัพยสินของบุคคลอื่น ใหพนักงานเจาหนาที่ รายงานตอเจาพนักงานทองถิ่นใหมีคําสั่งให ผูขุดดิน ผูถมดิน หรือเจาของที่ดินหยุดการขุดดินหรือการถมดิน หรือจัดการปองกันความเสียหายที่อาจเกิด ขึ้น หรือจัดการแกไขการขุดดินหรือการถมดินนั้น แลวแตกรณี และใหเจาพนักงานทองถิ่นมีอํานาจออก คําสั่งเปนหนังสือตามที่เห็นวาจําเปนเพื่อปองกันหรือระงับความเสียหายนั้นได ในกรณีมีเหตุฉุกเฉิน ใหพนักงานเจาหนาที่มีคําสั่งเปนหนังสือใหผูขุดดิน ผูถมดินหรือเจาของที่ดิน หยุดการขุดดินหรือการถมดิน หรือจัดการปองกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นหรือจัดการแกไขการขุดดินหรือ ถมดินนั้นตามที่เห็นวาจําเปนได แลวรายงานใหเจาพนักงานทองถิ่นทราบทันที ถาเจาพนักงานทองถิ่นเห็น ชอบดวยกับคําสั่งของพนักงานเจาหนาที่ ใหเจาพนักงานทองถิ่นมีหนังสือภายในเจ็ดวัดนับแตวันที่พนักงาน เจาหนาที่ไดมีคําสั่งใหบุคคลดังกลาวปฏิบัติตามคําสั่งของพนักงานเจาหนาที่ และใหถือวาคําสั่งของ พนักงานเจาหนาที่เปนคําสั่งของเจาพนักงานทองถิ่นมาตั้งแตตน ถาเจาพนักงานทองถิ่นไมมีหนังสือสั่งภายในกําหนดเวลาตามวรรคสอง ใหคําสั่งของพนักงาน เจาหนาที่เปนอันสิ้นผล มาตรา 32 ในการปฏิบัติหนาที่ตามพระราชบัญญัตินี้ พนักงานเจาหนาที่ตองแสดงบัตรประจําตัว พนักงานเจาหนาที่ตอบุคคลที่เกี่ยวของ บัตรประจําตัวพนักงานเจาหนาที่ ใหเปนไปตามแบบที่กําหนดในกฎกระทรวง มาตรา 33 ในการปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้ ใหเจาพนักงานทองถิ่นและพนักงานเจาหนาที่ 11 เปนเจาพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา หมวด 5 การอุทธรณ ----------- มาตรา 34 ผูขุดดิน ผูถมดิน หรือเจาของที่ดินผูใดไมพอใจคําสั่งของเจาพนักงานทองถิ่นตามมาตรา 29 วรรคสอง หรือมาตรา 31 วรรคหนึ่งหรือวรรคสอง ใหมีสิทธิอุทธรณคําสั่งดังกลาวตอผูวาราชการ จังหวัดภายในสามสิบวันนับแตวันที่ทราบคําสั่ง ในกรณีที่ผูวาราชการกรุงเทพมหานครเปนผูออกคําสั่งตามวรรคหนึ่งในฐานะเจาพนักงานทองถิ่น ใหอุทธรณคําสั่งดังกลาวตอคณะกรรมการ การอุทธรณตามวรรคหนึ่งและวรรคสอง ไมเปนการทุเลาการบังคับตามคําสั่งของเจาพนักงานทอง ถิ่น ถาผูอุทธรณประสงคจะขอทุเลาการบังคับตามคําสั่งของเจาพนักงานทองถิ่น ใหยื่นคําขอทุเลาพรอม อุทธรณ ในกรณีเชนนี้ ผูวาราชการจังหวัดหรือคณะกรรมการจะอนุญาตใหทุเลาโดยมีเงื่อนไขหรือไมก็ได หรือจะสั่งใหวางเงินหรือหลักทรัพยประกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นก็ได ใหผูวาราชการจังหวัดหรือคณะกรรมการ แลวแตกรณี พิจารณาคําวินิจฉัยอุทธรณใหแลวเสร็จ ภายในสามสิบวันนับแตวันที่ไดรับอุทธรณ คําวินิจฉัยของผูวาราชการจังหวัดหรือคณะกรรมการใหเปนที่สุด หมวด 6 บทกําหนดโทษ -------------- มาตรา 35 ผูใดทําการขุดดินตามมาตรา 17 หรือทําการถมดินตามมาตรา 26 วรรคสามโดยไมได รับใบรับแจงจากเจาพนักงานทองถิ่นตามมาตรา 17 วรรคสอง หรือมาตรา 26 วรรคสี่ แลวแตกรณี ตอง ระวางโทษจําคุกไมเกินหนึ่งป หรือปรับไมเกินหาหมื่นบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ หากการกระทําตามวรรคหนึ่งเกิดขึ้นในบริเวณหามขุดดินหรือถมดินตามมาตรา 6 (1) ผูนั้นตอง ระหวางโทษจําคุกไมเกินสองป หรือปรับไมเกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ มาตรา 36 ผูใดไมปฏิบัติตามมาตรา 20 หรือมาตรา 27 ตองระวางโทษปรับไมเกินสามหมื่นบาท 12 และปรับเปนรายวันอีกวันละไมเกินหนึ่งพันบาท ตลอดเวลาที่ยังไมปฏิบัติตาม มาตรา 37 ผูใดไมปฏิบัติตามมาตรา 24 และมาตรา 26 วรรคหนึ่ง ตองระวางโทษปรับไมเกิน หนึ่งหมื่นบาท มาตรา 38 ผูใดขัดขวางหรือไมอํานวยความสะดวกตามสมควรแกพนักงานเจาหนาที่ในการปฏิบัติ การ ตามมาตรา 30 ตองระวางโทษปรับไมเกินสองพันบาท มาตรา 39 ผูขุดดินใดไมปฏิบัติตามมาตรา 25 ตองระวางโทษปรับจําคุกไมเกินหนึ่งเดือนและหรือ ปรับไมเกินหาพันบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ มาตรา 40 ผูใดไดรับคําสั่งของเจาพนักงานทองถิ่นใหหยุดการขุดดินหรือการถมดิน ตามมาตรา 29 วรรคสอง หรือมาตรา 31 วรรคหนึ่งหรือวรรคสองไมปฏิบัติตามคําสั่งนั้น ตองระวางโทษจําคุกไมเกินหนึ่งป หรือปรับไมเกินหาพันหมื่นบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ มาตรา 41 ผูใดไดรับคําสั่งของเจาพนักงานทองถิ่นใหจัดการปองกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นหรือ จัดการแกไขการขุดดินหรือถมดิน ตามมาตรา 29 วรรคสอง หรือมาตรา 31 วรรคหนึ่งหรือวรรคสอง ไมปฏิบัติตามคําสั่งนั้น ตองระวางโทษปรับไมเกินสองพันสามหมื่นบาท และปรับเปนรายวันอีกวันละไม เกินหารอยบาท ตลอดเวลาที่ไมปฏิบัติตาม มาตรา 42 บรรดาความผิดตามพระราชบัญญัตินี้นอกจากมาตรา 35 วรรคสองใหเจาพนักงาน ทองถิ่นหรือผูซึ่งเจาพนักงานทองถิ่นมอบหมายมีอํานาจเปรียบเทียบปรับผูตองหาได เมื่อผูตองหาไดชําระ คาปรับตามจํานวนที่เปรียบเทียบภายในสามสิบวันแลวใหถือวาคดีเลิกกันตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา ความอาญา มาตรา 43 ในกรณีที่หางหุนสวน บริษัทหรือนิติบุคคลอื่นกระทําความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ กรรมการ ผูจัดการหรือบุคคลใดซึ่งรับผิดชอบในการกระทําอันเปนความผิดนั้นตองระวางโทษตามที่บัญญัติ ไวสําหรับความผิดนั้น ๆ ดวย เวนแตจะพิสูจนไดวาการกระทํานั้นไดกระทําโดยตนมิไดรูเห็นหรือยินยอม ดวย 13 มาตรา 44 ในกรณีที่มีการกระทําความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ ใหถือวาเจาของอสังหาริมทรัพยที่ อยูใกลชิดหรือติดตอกับที่ดินที่มีการกระทําความผิดเกิดขึ้นและไดรับความเสียหาย เนื่องจากการกระทํา ความผิดนั้น เปนผูเสียหายตามกฎหมายวาดวยวิธีพิจารณาความอาญา บทเฉพาะกาล ---------------- มาตรา 45 ผูใดขุดดินหรือถมดินอันมีลักษณะที่ตองแจงตอเจาพนักงานทองถิ่นตามพระราชบัญญัติ นี้อยูกอนวันที่พระราชบัญญัตินี้มีผลใชบังคับในทองที่ใด ใหปฏิบัติตามมาตรา 17 หรือมาตรา 26 แลวแต กรณี ภายในสิบหาวันนับแตวันที่พระราชบัญญัตินี้มีผลใชบังคับในทองที่นั้น และเมื่อไดดําเนินการแลวให ถือวาผูนั้นไดรับแจงตามพระราชบัญญัตินี้ 14 อัตราคาธรรมเนียมและคาใชจาย ----------------- คาธรรมเนียม (1) คาธรรมเนียมใบรับแจงการขุดดินหรือถมดิน ครั้งฉบับละ 2,000 บาท (2) คาคัดสําเนาหรือถายเอกสาร หนาละ 5 บาท คาใชจาย (1) คาพาหนะเดินทางไปตรวจสอบสถานที่ ใหจายเทาที่จําเปนและใชจายไปจริง ขุดดินหรือถมดิน (2) คาเบี้ยเลี้ยงในการเดินทางไปตรวจสอบ ใหจายเทาที่จําเปนตามระเบียบของ สถานที่ขุดดินหรือถมดิน ทางราชการแกผูไปทํางานเทาอัตรา ของทางราชการ ------------------------------------------------------------------- หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใชพระราชบัญญัตินี้ คือ โดยที่ปจจุบันมีการขุดดินเพื่อนําดิน ไปถมพื้นที่ที่ทําการกอสรางที่อยูอาศัยหรือเพื่อกิจการอื่นอยางกวางขวาง แตการขุดดินหรือถมดินดังกลาว ยังไมเปนไปโดยถูกตองตามหลักวิชาการจึงอาจกอใหเกิดอันตรายแกทรัพยสินและความปลอดภัยของ ประชาชนได สมควรใหมีกฎหมายวาดวยการขุดดินและถมดินเพื่อใหการขุดดินหรือถมดินในเขตเทศบาล กรุงเทพมหานคร เมืองพัทยา องคกรปกครองสวนทองถิ่นอื่นตามที่กฎหมายโดยเฉพาะจัดตั้งขึ้น ซึ่ง รัฐมนตรีวาการกระทรวงมหาดไทยประกาศกําหนดในราชกิจจานุเบกษา และบริเวณที่มีพระราชกฤษฎีกา ใหใชบังคับกฎหมายวาดวยการควบคุมอาคาร เขตผังเมืองรวมตามกฎหมายวาดวยการผังเมืองและในทองที่ อื่นที่รัฐมนตรีวาการกระทรวงมหาดไทยประกาศกําหนด เปนไปโดยถูกตองตามหลักวิชาการ จึงจําเปน ตองตราพระราชบัญญัตินี้ 15