บทที่ 5 Ideate PDF
Document Details
Uploaded by WarmheartedCombinatorics9134
Mahasarakham University
Tags
Summary
This document discusses the Ideate stage of design thinking. It highlights the importance of brainstorming and generating diverse ideas to address design problems. It also explores different methods for idea generation, such as journey maps, value proposition canvases, and questioning techniques.
Full Transcript
บทที่ 5 ขั้นตอนการคิดเชิงออกแบบขั้นตอนที่ 3 การสร้างความคิด (Ideate) วัตถุประสงค์เชิงพฤติกรรม 1. สามารถเข้าใจและอธิบายกระบวนการการคิดเชิงออกแบบได้ 2. ประยุกต์ใช้การคิดเชิงออกแบบในการแก้ปัญหาได้อย่างเหมาะสมและเป็นระบบ วิธีการสอน/กิจกรรมการเรียนการสอน 1. การสอนแบบบรรยาย 2. การสอนแบบยกต...
บทที่ 5 ขั้นตอนการคิดเชิงออกแบบขั้นตอนที่ 3 การสร้างความคิด (Ideate) วัตถุประสงค์เชิงพฤติกรรม 1. สามารถเข้าใจและอธิบายกระบวนการการคิดเชิงออกแบบได้ 2. ประยุกต์ใช้การคิดเชิงออกแบบในการแก้ปัญหาได้อย่างเหมาะสมและเป็นระบบ วิธีการสอน/กิจกรรมการเรียนการสอน 1. การสอนแบบบรรยาย 2. การสอนแบบยกตัวอย่าง สาธิต การถาม-ตอบ (Active Lecture) การประเมินผลลัพธ์การเรียนรู้ 1. การประเมินผลลัพธ์การเรียนรู้โดยการสังเกตการมีส่วนร่วม 2. การประเมินผลลัพธ์การเรียนรู้โดยการใช้คาถาม 3. การประเมินผลลัพธ์การเรียนรู้โดยการสอบข้อเขียนกลางภาค บทนา ขั้นตอนการคิดเชิงออกแบบขั้นตอนที่ 3 การสร้างความคิด (Ideate) เป็นการระดมความคิดใหม่ๆ อย่างไม่มี ขีดจากัด หรือการสร้างความคิดต่างๆ ให้เกิดขึ้น โดยเน้นการหาแนวคิดและแนวทางในการแก้ไขปัญหาให้มากที่สุด หลากหลายที่สุด โดยความคิดและแนวทางต่างๆ ที่คิดขึ้นมานั้นก็เพื่อตอบโจทย์ปัญหาที่เกิดขึ้นในขั้น Define เนื้อหา 1. ความหมายของการสร้างความคิด (Ideate) 2. วิธีการสร้างความคิด (Ideate) 1. ความหมายของการสร้างความคิด (Ideate) การสร้างความคิด (Ideate) คือการสังเคราะห์คาตอบหรือทางเลือกใหม่ๆ อันหลากหลาย ประกอบไปด้วย การคิดสร้างสรรค์แบบอเนกนัยซึ่งมุ่งเน้นการสร้างความคิดอันแตกต่างหลายหลายให้ได้เป็น จานวนมาก และการคิด สร้างสรรค์แบบเอกนัยซึ่งมุ่งเน้นการคิดรวบผสานความคิดที่ดีเข้าด้วยกันทาให้ได้คาตอบหรือทางเลือกใหม่ที่มีคุณภาพ และสมบูรณ์ขึ้น พร้อมสาหรับการคัดกรองหรือคัดสรร เพื่อ นาไปขึ้นต้นแบบเพื่อทดสอบและพัฒนาในขั้ นตอนถัดไป ของกระบวนการคิดเชิงออกแบบ ทีมสามารถสร้างความคิดใหม่ได้โดยการระดมสมอง ร่ วมกับการใช้เครื่องมื อและกรอบแนวคิดแบบต่างๆ มากมาย ที่ ช่วยกระตุ้นให้ทีมสามารถหาคาตอบในมุมที่แตกต่าง เช่น การถามว่า ทาไมและอย่างไรใช้การวิเคราะห์ คุณค่ากระตุ้นความคิด หรือ การใช้เส้นเวลา และการแบ่งขั้นตอนกระตุ้นการคิดแก้ปัญหาในแต่ละช่วงกิจกรรม ไป จนถึงการเล่าเรื่องเพื่อให้ทีมเห็นภาพรวมของความคิดและบริบทใหม่กระตุ้นให้เกิดความคิดต่อยอด เป็นต้น ชุดเครื่อง มือช่วยคิดเหล่านี้ควรใช้ร่วมกับชุดทักษะและชุดทัศนะการคิดเชิงออกแบบเพื่อให้สามารถทางานอย่างมีคุณภาพ ที่ สาคัญทีมควรใช้ประโยชน์จากความหลากหลายของสมาชิกในทีมในการสร้างทางเลือกจากมุมมองที่แตกต่างกัน เราจะเห็นได้ว่าผลลัพธ์ที่ได้จากการระดมสมองโดยใช้เครื่องมือแต่ละชนิดเป็นกรอบแนวในคิดมีความแตกต่าง กันมาก การระดมสมองร่วมกับการวิเคราะห์คุณค่า หรือการถามว่า ทาไม และอย่างไร (Why and How) นั้น เอื้อให้ ทีมมองเห็นภาพรวมของปัญหาความต้องการใช้งานทั้งโครงการและคุณค่าที่อยู่เบื้องหลัง ทาให้สามารถคิดผลลัพธ์หรือ แนวคิดคู่ขนานในจุดที่ยังขาดตอบความต้องการใหม่ๆ ที่ยังไม่ได้รับการตอบสนอง รวมทั้งเลือกใช้เวลาคิดในจุดที่ ต้องการเน้นให้เป็นจุดเด่นหรือจุดขายหลักของโครงการได้อย่างมีประสิทธิภาพ การระดมสมองโดยใช้ Journey Map มีเส้นเวลาแสดงปัญหาและความต้องการในทุกขั้นตอนการใช้งาน ตั้งแต่ต้นจนจบ ช่วยให้ทีมมองเห็นกระบวนการโดยรวม ไม่ลืมหรือละเลยปัญหา ความต้องการในช่วงก่อนและหลังการ ใช้งาน นอกจากนี้ Journey Map ยังช่วยในการสร้างแนวคิดเชิงประสบการณ์ที่ต่อเนื่องส่งทอดกันตั้งแต่ต้นจนจบและ อาจสามารถกระตุ้นให้ผู้ใช้บอกต่อหรือวนกลับมาเริ่มใช้ใหม่อีกครั้ง ทีมควรตัดสินใจเลือกใช้เครื่องมือหรือกรอบแนวคิดในการระดมสมองที่เหมาะสมกับเป้าหมายและธรรมชาติ ของโครงการ เพื่อใช้เวลาสร้างความคิดใหม่ให้ตรงเป้าอย่างมีประสิทธิภาพ 2. วิธีการสร้างความคิด (Ideate) การระดมสมองจากคาถาม เราจะ…ได้อย่างไร? (BRAINSTORM: HOW MIGHT WE….?) หลายคนอาจมองว่าการระดมสมองเป็นวิธีการคิดที่เปิดกว้างอย่างไม่เป็นระบบ แต่การระดมสมองอย่างมี ประสิทธิภาพต้องอาศัยการเตรียมการและการวางแผนที่ดี 1. เริ่มต้นที่ประเด็นปัญหาที่ผ่านการวิเคราะห์มาแล้วเป็นอย่างดีทีมควรเลือกหัวเรื่องที่ สาคัญที่สุด 2-3 หัวข้อจาก คาถาม “ How might we…?” ที่ได้จากการทางานช่วง Empathy และ Define 2. จัดเตรียมสถานที่และอุปกรณ์ที่เหมาะสม คานึงถึงพื้นที่โต๊ะ พื้นที่ผนัง และพื้นที่ทางานที่เอื้อให้ทุกคนลุกนั่งเดินไป รอบๆ เพื่อทางานร่วมกันได้อย่างสะดวก เตรียมอุปกรณ์เครื่ องเขียนสาหรับบันทึกและถ่ายทอดสิ่งที่ทุกคนคิด เช่น post-it note ปากกาหัวใหญ่ กระดาษ ภาพที่ได้จากการเก็บข้อมูล และขนมขบเคี้ยว ขณะทางาน 3. เลือกเชิญคนที่มีมุมมองที่แตกต่าง มีความรู้พื้นฐานหลากหลาย 6-8 คนมาร่วมระดมสมองสาหรับโครงการที่ต้อง การคิดสร้างสรรค์ร่วม (Co-creation) อาจเชิญตัวแทนกลุ่มเป้าหมาย และผู้ที่เกี่ยวข้อง มาร่วมระดมสมองด้วย 4. วางแผนการระดมสมองในแต่ละช่วงโดยใช้เวลาไม่เกิน 60 นาที เพื่อให้ผู้ที่มาร่วมระดมสมองมีสมาธิและใช้ความคิด ได้เต็มที่ 5. ก่อนการร่วมระดมสมอง ผู้ชว่ ย ดาเนินการ (Facilitator) ควรแจ้งกฎ การระดมสมองให้ทุกคนทราบคือ ไม่ตัดสินหรือตาหนิความคิดคนอื่น ขอให้พยายามเสนอความคิดที่แปลกใหม่ไม่วา่ จะอยู่บนพื้นฐานความจริงมากน้อยเพียงใด ให้พยายามต่อยอดความคิดของผู้อื่น พยายามใช้คาว่า “และ” (And) มากกว่าคาว่า “แต่” (But) มุ่งคิดทีละประเด็นที่ตงั้ เป้าให้คิด พยายามตัง้ ใจฟังสิ่งที่ผู้อื่นเล่า หารือและคิดต่อยอด ทีละเรื่อง พยายามทาให้เห็นภาพโดยอาศัยการวาดรูปอย่างง่ายๆ พยายามคิดให้ได้คาตอบทีห่ ลากหลายเป็นจานวนมากในเวลาอันสั้น 6. เพื่อให้ทุกคนได้ออกความคิดเห็นและต่อยอดความคิดของผู้อื่น อาจแบ่งกิจกรรมการระดมสมองออกเป็นช่วงย่อยๆ เช่น 5 นาทีแรกให้ทุกคนเขียนความคิดของตนเองลงบน post-it note ให้ได้มากที่สุด อีก 3 นาทีต่อมาขอให้ต่อยอด ความคิดของผู้ที่อยู่ทางขวามือ แล้วจึงเล่าให้ทุกคนฟังขณะที่ทุกคนต้องพยายาม คิดต่อยอดแนวคิดที่คนอื่นเล่าให้ฟัง เป็นต้น 7. เมื่อระดมสมองจนได้แนวคิดจานวนมากขณะที่ทุกคนอธิบายความคิดของตน หรือภายหลังการอธิบาย ให้ทีม ร่วมกันจัดกลุ่มแนวคิดที่คล้ายคลึงเข้าด้วยกันเป็นหมวดๆ เพื่อให้ง่ายต่อการผนวก รวบ และคัดกรองหรือคัดสรรแนวคิดที่ น่าสนใจนาไปพัฒนาต่อในการทางานขั้นตอนถัดไป 8. รวบผนวกแนวคิดเข้าด้วยกันโดยนาข้อดีของแนวคิดที่หลากหลายมาใช้ส่งเสริมกันให้เกิดแนวคิดที่สมบูรณ์และ พร้อมสาหรับการคัดกรองและคัดสรรแนวคิด ทาได้หลายวิธีตั้งแต่การลงคะแนนเสียงเลือกแนวคิดที่ชอบโดยไม่ กาหนด เกณฑ์ละเอียดชัดเจน ไปจนถึงการสร้างตารางระบุนาหนั ้ กของเกณฑ์การคัดกรองแนวคิดด้านต่างๆ อย่างเป็นระบบ ทีม สามารถเลือกใช้วิธีเลือกสรรแนวคิดอย่างง่ายหรือซับซ้อนตามความเหมาะสมกับธรรมชาติและระยะเวลาการดาเนิน โครงการ ภาพที่ 1 ตัวอย่างการคิดเราจะ…ได้อย่างไร? (BRAINSTORM: HOW MIGHT WE….?) (ที่มา : คู่มือการคิดเชิงออกแบบเรียนรู้ด้วยการลงมือทา) ระดมสมองโดยใช้แผนผังประสบการณ์ และการเล่าเรื่อง (JOURNEY MAP + SCENARIO & STORY TELLING) Journey Map เป็นเครื่องมือที่สามารถใช้ช่วยคิดเชิงออกแบบได้ทั้งในขั้นตอนการวิเคราะห์เพื่อสร้างโจทย์ (Define) และขั้นตอนการสังเคราะห์แนวคิดใหม่ (Ideate) Journey Map มีเส้นเวลาที่กระตุ้นให้ทีมเรียบเรียงข้อมูล และคิดหาวิธีแก้ปัญหาความต้องการของกลุ่มเป้าหมายเรียงตามลาดับขั้นตอนการใช้งาน และมีระดับอารมณ์ความรู้สึก ความพึงพอใจของกลุ่มเป้าหมายในแต่ละช่วงซึ่งเป็นผลมาจากจุดสัมผัส (Touchpoint) ในระบบเดิมที่เป็นอยู่อย่าง ละเอียด การใช้ Journey Map ในการคิดสร้างทางแก้ปัญหาใหม่ๆ ทาได้โดย 1. พิจารณาจุดที่กลุ่มเป้าหมายมีอารมณ์เป็นบวกมาก (Delight Point) และเป็นลบมาก (Pain Point) โดยเฉพาะจุดที่ ทาให้กลุ่มเป้าหมายล้มเลิกความตั้งใจที่จะทาตามเป้าหมายหรือเลิกการใช้งาน (Bail Point) 2. ระบุโอกาสและคิดหาวิธีขยายหรือ ทาให้จุดที่ทาให้กลุ่มเป้าหมายมีความสุขชัดเจนขึ้น เช่น Starbucks พบว่ากลิ่น กาแฟ ทาให้กลุ่มเป้าหมายมีความสุขและถูกดึงดูดเข้ามาในร้าน จึงใช้นาหอมกลิ้ ่นกาแฟพ่นด้านนอกร้าน 3. ระบุโอกาสและคิดหาวิธีเปลี่ยนจุดที่ ทาให้กลุ่มเป้าหมายไม่พอใจหรือล้มเลิกความตั้งใจให้มีความรู้สึกเป็นบวก เช่น Starbucks พบว่ากลุ่มเป้าหมายส่วนใหญ่เปลี่ยนใจไม่เข้ามาซื้อกาแฟเมื่อ เห็นว่าร้านไม่มีที่นั่ง ในจานวนนั้นมีกลุ่มที่ ต้องการที่นั่งริมกระจก เพียงเพื่อให้คนรู้จักมองเข้ามาเห็นว่าตนเป็นลูกค้าของ Starbucks สาหรับผู้ใช้กลุ่มนี้การ เปลี่ยนไปใช้ถ้วย Starbucks ที่มี Logo ชัดเจน สามารถนาออกจากร้านไปใช้ทุกที่ในชีวิตประจาวัน เอื้อให้มีผู้พบเห็น ว่าเขาเป็นลูกค้า Starbucks ได้มากกว่าการนั่งรอให้มีคนรู้จักเดินผ่านมาจึงนับเป็นวิธีแก้ปัญหาเปลี่ยนจุดลบ (Pain Point) จุดล้มเลิก (Bail Point) เป็นจุดบวก (Belight point) ซึง่ ทั้งมีคุณค่าต่อลูกค้าและช่วยส่งเสริมแบรนด์อีกด้วย การระดมสมองโดยใช้แม่แบบเสนอคุณค่า (VALUE PROPOSITION CANVAS) การใช้ Value Proposition Canvas ในการคิดสร้างสรรค์ทางแก้ปัญหาใหม่ๆ ช่วยให้ทีมระดมความคิด แก้ปัญหาในจุดที่ กลุ่มเป้าหมายไม่ พึงพอใจหรือมีความรู้สึกเป็นลบ (Pain) และคิดวิธีส่งเสริมคุณค่าที่ ทาให้ กลุ่มเป้าหมายมีความรู้สึกเป็นบวก (Gain) ทาได้โดย 1. พิจารณาเรียงลาดับความสาคัญของสิง่ ทีก่ ลุ่มเป้าหมายต้องการทา (Customer Jobs) คุณค่าที่ทาให้กลุม่ เป้าหมายมี ความสุข (Gains) และเป็นทุกข์หรือไม่พึงพอใจ (Pain) 2. จากนั้นคิดผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ (Products & Services) ที่มีคุณค่าต่อกลุ่มเป้าหมายคือสามารถสร้างความสุข ความพึงพอใจ (Gain Creators) และสามารถแก้ปัญหาที่ทาให้เป็นทุกข์ หรือไม่พึงพอใจ (Pain Relievers) 3. ทีมอาจโยงเส้นความสัมพันธ์ระหว่างผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ กับการสร้างความสุขหรือแก้ปัญหาความไม่พึงพอใจ เพื่อให้สามารถมองเห็นได้ชัดเจนว่าทีมได้คิดทางออกเพื่อสร้างคุณค่าในจุดที่สาคัญได้ครบถ้วนแล้วหรือไม่ และสามารถ เปรียบเทียบแนวคิดต่างๆ จากคุณค่าที่ผลิตภัณฑ์และบริการใหม่นั้นๆ สร้างขึ้น จะเห็นว่าวิธีการคิดโดยใช้ Value Proposition Canvas มีขั้นตอนและวิธีการคิดคล้ายคลึงกับการใช้ Journey Map มาก ทีม สามารถนาข้อมูลจาก Journey Map มาจัดลง Value Proposition Canvas ได้ โดยอาจแบ่งข้อมูลเป็น ช่วงๆ ทาให้เกิด Value Proposition Canvas หลายๆ แผ่น แต่ละแผ่นสาหรับแต่ละขั้นตอน เช่น การรับรู้ การหาข้อมูล การชาระเงิน เป็นต้น ซึ่งแต่ละช่วงจะมุ่งเน้นการตอบสนองสิ่งที่กลุ่มเป้าหมายต้องการทา (Customer Jobs) ต่างกัน ในขั้นตอน Ideate นี้ทีมอาจเลือกใช้วิธีคิดอื่นๆ อีกมากทั้งการคิดแบบอเนกนัย (Divergent Thinking) เพื่อให้ ได้แนวคิด หลากหลายจานวนมาก และแบบเอกนัย (Convergent thinking) เพื่อรวบผสานข้อดีจากความคิดย่อยๆ หลายอย่างเป็นทางออกที่สมบรูณ์ โดยอาจทาร่วมกับการร่วมคิดร่วมสร้าง (Co-Creation) กับกลุ่มเป้าหมาย ผู้เชี่ยวชาญ คู่ค้า และผู้ที่เกี่ยวข้องกับโครงการ สาหรับโครงการที่มีจานวนแนวคิดทางเลือกมากและต้องการลดจานวนทางเลือกอย่าง เป็นระบบ ทีมสามารถใช้การคัดกรองแนวคิด (Idea Screening) อย่างเป็นระบบเพื่อให้สามารถนาแนวคิดที่มีอยู่กลับมา ประเมินและรวบผสานใหม่ในอนาคต เอกสารอ้างอิง โครงการการพัฒนาแนวทางการจัดการเรียนการสอนและกิจกรรมเสริมหลักสูตรด้านความเป็น ผู้ประกอบการ. (2560). การคิดเชิงออกแบบ Design Thinking. มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุร.ี กรุงเทพฯ ไปรมา อิศรเสนา ณ อยุธยา. ชูจิต ตรีรัตนพันธ์. (2560). การคิดเชิงออกแบบ : เรียนรู้ด้วยการลงมือทา. Design Thinking Learning by Doing. ศูนย์สร้างสรรค์การออกแบบ TCDC. กรุงเทพฯ. ใบงาน/ใบกิจกรรม/แบบทดสอบท้ายบท ชื่อ-นามสกุล..................................................... รหัสประจาตัวนิสิต...................................คณะ...................................... รหัสวิชา...........................................................รายวิชา................................................ กลุ่ มที่เรียน................................. ใบงานที่.................................... วันที่................................... อาจารย์ผู้สอน..................................................................... 1) ให้ นิ สิ ต ฝึ ก การสร้ า งความคิ ด (Ideate) ด้ ว ยการระดมสมองจากค าถาม เราจะ…ได้ อ ย่ า งไร? (BRAINSTORM: HOW MIGHT WE….?) เพื่อหาคาตอบในการแก้ปัญหา 2) ให้นิสิตฝึกการสร้างความคิด (Ideate) ด้วยการระดมสมองโดยใช้แผนผังประสบการณ์ และการเล่าเรื่อง (JOURNEY MAP + SCENARIO & STORY TELLING) เพื่อหาคาตอบในการแก้ปัญหา 3) ให้ นิ สิ ต ฝึ ก การสร้ า งความคิ ด (Ideate) ด้ ว ยการระดมสมองโดยใช้ แ ม่ แ บบเสนอคุ ณ ค่ า (VALUE PROPOSITION CANVAS) เพื่อหาคาตอบในการแก้ปัญหา