ปัจจัยที่ส่งผลต่อสุขภาพจิตของบุคคล PDF

Document Details

ProlificAgate6604

Uploaded by ProlificAgate6604

Tags

mental health factors psychological human behaviour

Summary

เอกสารนี้กล่าวถึงปัจจัยที่ส่งผลต่อสุขภาพจิตของบุคคล โดยแบ่งปัจจัยออกเป็นหลายประเภท เช่น ปัจจัยทางชีวภาพ ปัจจัยทางจิตใจ ปัจจัยทางสังคมและวัฒนธรรม และปัจจัยทางจิตวิญญาณ เอกสารได้อธิบายถึงความสำคัญของแต่ละปัจจัยต่อสุขภาพจิตของบุคคล

Full Transcript

ปัจจัยที่ส่งผลต่อสุขภาพจิตของบุคคล (Factors influencing a person's mental health) ปั2จจัปัยจทีจั่สย่งทีผลต่ อสุขอภาพจิ ่สง่ ผลต่ สุขภาพจิ ตของบุ คคลคคล ตของบุ (Factors influencing...

ปัจจัยที่ส่งผลต่อสุขภาพจิตของบุคคล (Factors influencing a person's mental health) ปั2จจัปัยจทีจั่สย่งทีผลต่ อสุขอภาพจิ ่สง่ ผลต่ สุขภาพจิ ตของบุ คคลคคล ตของบุ (Factors influencing influencing (Factors a person'samentalpersonshealth) 2มีปปััจจจัจัยยมากมายที ที่สง่ ผลต่อ่มสุีผขลต่ภาพจิ อสุขตภาพจิ ของบุตคและการเจ็ influencing บป่วยทางจิ คล (Factors a งpersons ต ปัจจัยเหล่านี้จะส่ ผลให้ บุคคลที่ไม่ได้ป่วยทาง จิตมีสุขภาพจิตดีเพียงใด และผู้ที่มีการเจ็บป่วยทางจิตจะมีความรุนแรง มีการดาเนินโรคและการฟื้นตัวเป็นไป อย่างไร ก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยเหล่านี้ ไวเบค (Videbeck, 2006) ระบุว่าปัจจัยที่ส่งผลต่อสุขภาพจิตของบุคคล ประกอบด้วย ปัจจัยด้านบุคคล (Individual factors) ปัจจัยด้านความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล () factors) และปัจจัยด้านสังคมวัฒนธรรม (triculture factors) ซึ่งปัจจัยด้านบุคคล (Invictat.or.Pesonal Fictors) ได้แก่ อุปนิสัย รูปร่างหน้าตา ความ ภูมิใจในตนเอง ความพร้อมที่จะเจริญพัฒนา ความมีชีวิตชีวา ความสามารถในการค้นหาความหมายในชีวิต ความเป็นตัวของตัวเองและการพึ่งพา ความอดทนอดกลั้นหรือปรับอารมณ์ได้ง่าย ความรู้สึกว่ามีคนยอมรับมี กลุ่มเพื่อน อยู่กับความจริง และการปรับตัวหรือความสามารถจัดการกับความเครียด ส่วนปัจจัยด้าน ความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล (Interpersonal or Relationship factor) ซึ่งรวมถึงการสื่อสารที่มี ประสิทธิผล ความสามารถในการ ช่วยเหลือผู้อื่น ความใกล้ชิดสนิทสนม ความเหมาะสมสมดุล ระหว่างการเกี่ยวข้องติดต่อกับการแยกห่าง จากกัน และปัจจัยด้านสังคมวัฒนธรรม (Social cultural or Environmental factors) ได้แก่ ความรู้สึกมีส่วนร่วมในสังคม การใช้แหล่ง ทรัพยากรอย่างเหมาะสม การช่วยเหลือซึ่งกันและกัน การ เอาชนะสิ่งแวดล้อม ฮอลเทอร์ (Halter)(Varcarolis and Halter, 2010) จาแนกปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อสุขภาพของบุคคล ดังนี้ 1. ปัจจัยทางศาสนาและจิตวิญญาณ 2. ปัจจัยทางครอบครัว 3. พัฒนาการที่ดาเนินมาในชีวิต 4. ลักษณะและแนวโน้มของบุคลิกภาพ 5. สถานที่อยู่ทั้งในด้านภูมิศาสตร์ และประชากร 6. ปัจจัยด้านลบ เช่น ความเครียดทาง การเลี้ยงดูของพ่อแม่ที่ไม่เหมาะสม จิตสังคม ความยากจน และ ความสัมพันธ์ 7. ค่านิยมและความเชื่อทางวัฒนธรรมประเพณี 8. ความเชื่อและการปฏิบัติตนทางด้านสุขภาพ 9. ปัจจัยทางฮอร์โมน 10. ปัจจัยทางชีวภาพ 11. ปัจจัยการถ่ายทอดทางพันธุกรรม 12.ประสบการณ์ทางสังคม 13. มีระบบสนับสนุนทางสังคมเพียงพอ เช่น เรียน ครอบครัว และชุมชน เมื่อพิจารณาจากแนวคิดต่างๆ จะเห็นได้ว่าปัจจัยที่ส่งผลต่อสุขภาพจิตรกรบุคคลจะครอบคลุมตัวบุคคลทั้งหมดและสังคมแวดล้อม ดังนั้นโดยกสรุปปัจจัยหลักที่สาคัญเพื่อให้ง่ายแก่ความเข้าใจแล้ว ปัจจัยที่ส่งผลต่อสุขภาพจิตของ บุคคล (Factors influencing a person’s mental health) จะได้แก่ ปัจจัยทางด้านกาย จิต สังคม และจิตวิญญาณ (Bio-Psycho-Social-spiritual factors) ซึ่งสามารถอธิบายขยายความได้ ดังนี้ 1. ปัจจัยทางด้านร่างกายหรือด้านชีวภาพ (Biological factors) 1.1 พันธุกรรม (Genetic factors) เป็นการถ่ายทอดลักษณะบุคลิกภาพจากพ่อแม่สู่ลูกหลาน เริ่มจากพัฒนาการ ของระบบประสาทตั้งแต่ยังเป็นตัวอ่อนในครรภ์มารดา ซึ่งจะพบว่า ถ้าพ่อแม่มีลักษณะนิสัยเช่นใด ลูกๆจะมีลักษณะ นิสัยเช่นนั้นด้วย เช่นบางคนใจเย็น อารมณ์เบิกบาน ช่างพูด แต่บางคนเจ้าอารมณ์หงุดหงิดง่าย ไม่สนใจใคร เป็นต้น 1.2 ภายวิภาคและสรีรวิทยาของระบบประสาท (Neuroanatomic and Neurophysiological factor) จาก การศึกษาค้นคว้าทางห้องปฏิบัติการด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์สมัยใหม่ เช่น การศึกษาด้วย MRI, CT Scan, PET Scan, EEG เป็นต้น ทาให้สามารถพิสูจน์และเกิดความเข้าใจ ในการทาหน้าที่ของสมองตามปกติและผิดปกติ เช่น จากการศึกษาโดยใช้ CT scan แสดงถึงความผิดปกติของโครงสร้างของสมอง ในบุคคลที่ป่วยเป็นโรคจิตเภท เป็นจานวน 20%-50% โดยพบว่าขนาดของcerebral ventricle ใหญ่กว่าและ cortical และ cerebella tissue ลีบเล็กลงกว่ากลุ่มที่มีสุขภาพจิตดี (Taylor, 1994) 1.3 ชีวเคมี (Biochemistry foctors) การศึกษาวิจัยเกี่ยวกับสมองในปัจจุบันจะให้ความ สนใจเป็นอย่าง มากต่ออิทธิพลของสารเคมีในสมองที่ร่างกายผลิตขึ้นมา การวิจัยเกี่ยวกับการ ปฏิบัติการของสารสื่อประสาท (Nacrotransmitter) พบว่ามีอิทธิพลเหนือพฤติกรรมหลายอย่าง ซึ่งเกี่ยวข้องกับ การเรียนรู้ ความจา อารมณ์ เป็นต้น เช่น Acetylcholine มีความสาคัญต่อ ประสิทธิภาพการเรียนรู้ที่ต้องอาศัยความจา Serotonin ควบคุมการนอนหลับ ถ้าขาดจะทาให้เกิด ภาวะนอนหลับยาก Endophins ทาให้รู้สึกสบาย สด ชื่น อารมณ์เป็นสุข และถ้าขาดสาร Norepinephrin จะนาไปสู่ภาวะซึมเศร้า เป็นต้น (ลิขิต กาญจนาภรณ์, 2547) 1.4 ฮอร์โมน (Hormonal influences) ฮอร์โมนมีความสาคัญต่อร่างกายและจิตใจของมนุ ส่งผลต่อพฤติกรรมการ แสดงออก และการเกิดอารมณ์ของบุคคล เช่น Estrogen, Progesterone และ Androgen ทาให้เกิดพฤติกรรมการ แสดงออกของเพศหญิงเพศชาย การเกิดความรู้สึกทาง เพศ Adrenaline ทาให้เกิดการตื่นเต้น Thyroxin ถ้ามีมากจะทา ให้ร่างกายตื่นตัว ไม่อยู่นิ่ง นอนไม่หลับ แต่ถ้ามีน้อยจะเชื่องช้า เซื่องซึม เป็นต้น 1.5 สภาพร่างกาย ได้แก่ รูปร่างหน้าตา เพศ วัย ความแข็งแรง การเจ็บป่วย ความบกพร่อง หรือพิการ เป็นต้น สิ่ง เหล่านี้มีผลต่อสุขภาพจิต ถ้าสภาพร่างกายเป็นไปในด้านบวก เช่น รูปร่าง หน้าตาดี ร่างกายแข็งแรง ย่อมมีส่วนส่งเสริม สุขภาพจิต แต่ในทางตรงกันข้าม ถ้าเป็นคนขี้โรค ขี้เหร่ พิการ ย่อมปรับตัวยากและสุขภาพจิตเสียได้ง่าย 2. ปัจจัยทางด้านจิตใจ (Psychological factors) เป็นเรื่องของบุคลิกภาพที่อธิบายตามแนวคิดทางด้านจิตวิทยา โดยการศึกษา ความสัมพันธ์ระหว่างสุขภาพจิต กับบุคลิกภาพหรือความสามารถในการปรับตัว แสดงได้ เห็นว่าบุคลิกภาพหรือความสามารถในการปรับตัวของ แต่ละบุคคลแตกต่างกันออกไป ซึ่ง จะส่งผล หรือมีอิทธิพลต่อสุขภาพจิตของบุคคลนั้นๆ มีแนวคิดและทฤษฎีทางจิตวิทยา ที่เสนอให้เห็นถึงความสัมพันธ์ของบุคลิกภาพ และสุขภาพจิตมากมาย เช่น ทฤษฎีจิตวิเคราะห์ ทฤษฎีสัมพันธภาพระหว่างบุคคล ทฤษฎีพฤติกรรมนิยม ทฤษฎีมนุษยนิยม เป็นต้น ซึ่งนักศึกษาจะ ได้ศึกษาอย่างละเอียดใน หัวข้อต่อไป อย่างไรก็ตามในที่นี้จะสรุปและยกตัวอย่างบางแนวคิดและทฤษฎีที่แสดงให้ เห็น ว่าปัจจัยทางด้านจิตใจหรือบุคลิกภาพของบุคคลมีผลต่อสุขภาพจิต และการปรับตัว ดังนี้ 2.1 ตามทฤษฎีจิตวิเคราะห์ถ้าพัฒนาการในแต่ละขั้นตอนเกิดปมปัญหา จะส่งผลต่อบุคลิกภาพของเขา และเมื่อเขา ต้องเผชิญกับเหตุการณ์ในชีวิต เขาก็จะปรับตัวไม่เหมาะสม เกิดปัญหาสุขภาพจิตได้ เช่น ถ้ามีปมปัญหาเกี่ยวกับทวาร (Anal complex) ในระยะทวาร (Anal Stage) เมื่อเขาต้องเผชิญกับเหตุการณ์ในชีวิตก็จะยึดกฎเกณฑ์ ไม่ยืดหยุ่น เกิดความเครียดได้ง่าย 2.2 ทฤษฎีสัมพันธภาพระหว่างบุคคล ซัลลิแวน (Sullivan, 1953 อ้างใน มรรยาท รุจิวิทย์, 2548) มีความเห็นว่า มนุษย์จาเป็นต้องมีสัมพันธภาพกับบุคคลอื่นๆ และ สิ่งแวดล้อม ถ้าเด็กหรือบุคคลได้รับการยอมรับ เห็นด้วยหรือสนับสนุนจากพ่อแม่หรือคนรอบข้าง ก็จะเรียนรู้ว่าคนดีหรือ “ฉันดี” ทาให้มีสุขภาพจิตดี ปรับตัวได้ดี แต่ ถ้า ไม่ได้รับการยอมรับจะก่อให้เกิดความวิตกกังวล คิดว่า คนไม่ดี หรือ “ฉันไม่ดี มี ปัญหาสุขภาพจิต 2.3 ทฤษฎีพฤติกรรมนิยม เชื่อว่าพฤติกรรมมนุษย์เกิดขึ้นจากการเรียนรู้ ดังนั้น ถ้าบุคคล ได้รับการเรียนรู้หรือการ เสริมแรงมาอย่างไม่ถูกต้องเหมาะสม ก็จะส่งผลต่อ สุขภาพจิตได้ เช่น เด็กที่ถูกตาหนิหรือลงโทษ เมื่อเขาแสดงความ คิดเห็นแสดง ความรู้สึกให้ผู้ใหญ่ก็จะเป็นคนขาดความเชื่อมั่น และไม่กล้าแสดงออก 2.4 ตามแนวคิดทฤษฎีมนุษยนิยม เชื่อว่า มนุษย์มีศักยภาพในตัวเอง และถ้ารู้สึกว่าตนมี ความสามารถที่จะใช้ ความสามารถตามศักยภาพของตนให้เต็มที่ เกิดความ ภาคภูมิใจในตนเอง มีสุขภาพจิตดี แต่ตรงกันข้าม ถ้า ประสบการณ์ในวัยเด็กของเขา มีแต่ล้มเหลว ไม่ได้รับการยอมรับในความสามารถที่มี ก็จะรู้สึกว่าตนไม่มีคุณค่า และ มี สุขภาพจิตและการปรับตัวไม่ดี 3. ปัจจัยทางด้านสังคมวัฒนธรรม หรือสิ่งแวดล้อม (Social cultural or Environmental factors) 3.1 ลักษณะสิ่งแวดล้อมทางกายภาพ ได้แก่ ที่อยู่อาศัย บริเวณที่ตั้ง ลักษณะของชุมชน ความหนาแน่น ความ สะดวกในการติดต่อและคมนาคม เป็นต้น สิ่งแวดล้อมทางกายภาพที่สะอาด สะดวก ปลอดภัย ย่อมมีผลดีต่อสุขภาพ ทั้งกายและจิตของผู้อยู่อาศัย 3.2 ปัจจัยทางครอบครัว จาแนกเป็น 3.2.1 การอบรมเลี้ยงดู การที่เด็กหรือบุคคลในครอบครัวจะมีพฤติกรรมอย่างไร จะมี สุขภาพจิตหรือการ ปรับตัวได้ดีหรือไม่ มากน้อยเพียงใด ขึ้นอยู่กับการอบรมเลี้ยงดู ซึ่งการอบรม เลี้ยงดูที่พบได้บ่อย มี 4 ประเภท ได้แก่ (1) การอบรมเลี้ยงดูแบบเผด็จการ (Authoritarian) โดยพ่อแม่จะเป็นผู้ออกคาสั่งให้ลูกทาตาม เมื่อลูกทา ผิดในสายตาของพ่อแม่แล้ว ก็จะถูกลงโทษทันที การตัดสินว่าลูกทาถูกหรือผิดเป็น ความคิดเห็นของพ่อแม่ แต่เพียง ฝ่ายเดียว ข้อดีของการอบรมเลี้ยงดูแบบนี้ คือเด็กจะมีความอ่อนน้อม มี วินัย เคารพเชื่อฟัง แอเสีย คือ เด็กจะขาดความใกล้ชิด กับผู้ใหญ่ ไม่กล้าได้แย้งขาดความคิด ริเริ่มสร้างสรรค์ ความเชื่อมั่นในตัวเอง เดื้อเงียบ หรืออาจก้าวร้าว เผด็จการ (2) การอบรมเลี้ยงดูแบบปล่อยปละละเลยหรือทอดทิ้ง (Rejection) เป็นการที่พ่อแม่ไม่สนใจ สั่งสอน อบรม ไม่ให้คาแนะนา ปล่อยให้ทาตามอาเภอใจ ส่งผลให้เด็กรู้สึกขาดความรักความอบอุ่น อาจมีพฤติกรรมเรียกร้องความสนใจ เอาแต่ใจตนเอง ขาดระเบียบวินัย ไม่เชื่อฟังผู้ใหญ่ คบเพื่อน ไม่ดี ใบตัวสม อบายมุข หรือยาเสพติดได้ (3) การอบรมเลี้ยงดูแบบถนุถนอมมากเกินไป (Overprotection) พ่อแม่จะดูแลเอาใจใส่ ประคับประคอง ลูกไม่ยอมให้ลูกพบกับความยากลาบาก ที่เรียกกันว่า “ราวไข่ในหิน” หรือ “ลิ้นไม่ให้ไต่ ไรไม่ให้ ตอม” จนเด็กไม่มีโอกาสทาสิ่งใดด้วยตนเอง ซึ่งจะทาให้เด็กมีลักษณะเอาแต่ใจตนเอง ไม่อดทนต่อความยากลาบาก ไม่ต่อสู้ชีวิต ขาดความมั่นใจ ไม่กล้าตัดสินใจ ต้องคอยพึ่งผู้อื่น ปรับตัวลาบาก (4) การอบรมเลี้ยงดูแบบประชาธิปไตย (Democracy) เป็นการอบรมโดยใช้เหตุใช้ผลให้ โอกาสลูกที่ จะได้แสดงความคิดเห็นชี้แจงเหตุผล ให้มีส่วนร่วมในกิจกรรมของครอบครัว และอบรม ให้รู้จักหน้าที่และบทบาท ของตน ทาให้เด็กมีการปรับตัวได้ดี มีความเชื่อมั่นในตัวเอง รู้สึกว่าตนมี คุณค่า กล้าคิดและตัดสินใจ รับฟังเหตุผล ของผู้อื่นและรู้บทบาทหน้าที่ความรับผิดชอบที่จะต้องทา ตามระเบียบของสังคม 3.2.2 ความสัมพันธ์ในครอบครัว มีผลต่อสุขภาพจิตของสมาชิกในครอบครัว ครอบครัว อบอุ่น มีความ รักใคร่ปรองดอง ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน สมาชิกในครอบครัวก็จะมีความรู้สึกที่ มั่นคง และเมื่อประสบปัญหาก็จะ เชื่อมั่นได้ว่ามีแหล่งที่จะช่วยเหลือ สนับสนุน ไม่ถูกทอดทิ้ง แต่ ตรงกันข้าม ถ้าครอบครัวแตกแยก หรือต่างคนต่าง อยู่ สมาชิกในครอบครัวไม่รักใคร่ผูกพันกัน ต่าง เอาเปรียบ หรือเห็นแก่ตัวแล้ว สมาชิกแต่ละคนย่อมต้องต่อสู้ชีวิต อย่างโดดเดี่ยว และว้าเหว โดยเฉพาะเมื่อประสบปัญหาก็ไม่รู้ว่าจะหันหน้าไปพึ่งใคร ย่อมกระทบต่อสุขภาพจิต และการ ปรับตัว 3.3 ปัจจัยทางเศรษฐกิจ ปัญหาทางด้านการเงินหรือความยากจน สร้างความทุกข์ให้แก่ บุคคล จะเห็นได้ว่าพิษ ทางเศรษฐกิจทาให้บางคนถึงกับต้องฆ่าตัวตาย บางคนยอมทางานหนัก ด้วยความยากลาบาก ก็เพื่อฐานะทาง การเงิน คนที่มีฐานะทางเศรษฐกิจจึงมักมีความตึงเครียด ต้องปรับตัวมาก แต่คนที่มีฐานะดีก็ไม่ใช่ว่าจะต้องมี สุขภาพจิตดีเสมอไป ความวิตกกังวลห่วง ทรัพย์สินหรือการที่ได้มาไม่รู้จักพอ ทาให้ต้องต่อสู้ดิ้นรน อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะมีฐานะเศรษฐกิจ อย่างไร ถ้าบุคคลยอมรับได้ในเรื่องของเศรษฐกิจพอเพียง ความเครียดที่ถูกกดดันนั้นไม่ รุนแรงมาก นักและนามาใช้ให้เป็นประโยชน์ จะทาให้บุคคลพัฒนาตนเอง ไม่ปล่อยตัวตามสบาย สร้าง ประโยชน์ ให้แก่ตนเองและสักคนได้ 3.4 ปัจจัยทางด้านการเมือง นับตั้งแต่มีการเปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบบสมบูรณาญาสิทธิราช มาเป็น ระบอบประชาธิปไตย เมื่อ พ.ศ. 2475 เป็นต้นมา การเมืองของไทยมีลักษณะไม่แน่นอน มีการเปลี่ยนรัฐบาล บ่อยๆ มีการปฏิวัติรัฐประหาร สลับกับการใช้รัฐธรรมนูญหลายครั้ง แม้ในปัจจุบันก็ยังมีความต้องการที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญ ความขัดแย้งทางการเมืองมีสูง ไม่ใช่แต่ นักการเมืองที่มี ความคิดเห็นแตกต่าง ประชาชนก็เกิดความแตกแยกทางความคิด เกิดการประท้วง การใช้ความรุนแรง ส่งผลต่อ สภาพจิตใจของประชาชน ขาดความมั่นคงและความมั่นใจในการ ดาเนินชีวิต แต่ถ้าความคิดเห็นทางการเมือง ได้รับการยอมรับ แตกต่างทางความคิดแต่ไม่แตกแยก ประชาชนปรองดองกัน รัฐบาลมีเสถียรภาพและเข้มแข็ง สุขภาพจิตของคนในชาติก็จะดีขึ้น 3.5 ปัจจัยทางวัฒนธรรมและเชื้อชาติ วัฒนธรรมเป็นการถ่ายทอดจากคนรุ่นก่อนมาสู่คนรุ่น หลัง เป็นวิถีชีวิตใน สังคมมนุษย์ นับตั้งแต่ การกิน การนอน การสร้างครอบครัว การเกิด การตาย การปฏิบัติต่อกันของเครือญาติ เพื่อนและคนทั่วไป วัฒนธรรมของแต่ละเชื้อชาติก็จะแตกต่าง ออกไป ซึ่งทุกวัฒนธรรมของแต่ละเชื้อชาติมุ่งให้ชน ในชาติของตนมีความปกติสุข แต่บาง วัฒนธรรมบางประเพณีที่สร้างความตึงเครียด ความขัดแย้งให้เกิดขึ้นกับคน บางหมู่บางพวก เช่น การไม่เท่าเทียมกันทางเพศ การทาบุญหรือทาตามประเพณีเพื่อรักษาหน้า เป็นต้น นอกจากนี้ ปัจจุบันสังคมและสิ่งแวดล้อมเปลี่ยนไปวัฒนธรรมประเพณีและการดาเนินชีวิตแบบเดิมๆ บางอย่าง ตลอดจนการเปลี่ยนถ่ายวัฒนธรรมระหว่างโลกตะวันตกกับโลกตะวันออก การรับเขา วัฒนธรรมใหม่ต่างไปจากบรรพ บุรุษบางอย่าง สร้างมลภาวะก่อให้เกิดโรคร้อน สร้างปัญหาใน การดาเนินชีวิตและปรับตัว ฉะนั้นถ้ารู้จักที่จะเลือก อนุรักษ์วัฒนธรรมที่ดีงาม และเปลี่ยนแปลงหรือ รับเอาวัฒนธรรมที่เหมาะสมกับโลกปัจจุบัน ก็จะเป็นผลดีต่อการ ดาเนินชีวิต ต่อสุขภาพจิตและ การปรับตัว แต่ถ้ายึดถือวัฒนธรรมประเพณีแบบทาตามกันมาเรื่อยๆ โดยไม่คานึงถึง ผลกระทบ ทางด้านจิตใจก็จะส่งผลต่อภาวะสุขภาพจิต ดังเช่นจากการศึกษาผู้ที่มีความผิดปกติทางจิตกว่า 100 คน พบว่า อาการและสาเหตุของความผิดปกตินั้น เป็นผลมาจากอิทธิพลของวัฒนธรรมและเชื้อชาติ(Varcarolis and Halter, 2010) 4. ปัจจัยทางจิตวิญญาณ (Spiritual factors) จิตวิญญาณ เป็นสิ่งที่ซึมแทรกอยู่ในวิถีการดารงชีวิต และรวมเข้าเป็น คนคนนั้นทั้งหมด ซึ่งมีผลต่อความคิดความรู้สึกของบุคคล เกี่ยวกับคุณค่าและชีวิตของเขา ประกอบด้วย 4.1 สิ่งที่นับถือหรือที่พึ่งทางใจ (Concept of Deity) ได้แก่ ศาสนา สิ่งที่เลื่อมใส ศรัทธา เป็นต้น ถ้าที่พึ่งทางใจ และการปฏิบัติตามคาสอนในศาสนาหรือทาตามสิ่งที่ผู้ป่วยนับ ถือ แล้วช่วยให้เกิดสงบสุข ทาแล้วสบายใจ จะเป็นผลดี ต่อสุขภาพจิต แต่ถ้าสิ่งเหล่านั้นบีบคั้น ต้นก่อให้เกิดความเครียด ย่อมมีผลเสียต่อสุขภาพจิต 4.2 ปรัชญาชีวิต (Philosophy of Life) เป็นแนวคิดเกี่ยวกับชีวิต เป็นการกาหนด หรือให้ความหมายแก่สิ่งที่มี ความสาคัญในชีวิต เช่น การมีเป้าหมายในชีวิต มีครอบครัวเป็น หลัก ถ้าบุคคลมีเป้าหมายในชีวิตที่ชัดเจน เป็นไปได้ เหมาะสมกับตนเอง สิ่งที่เขาให้ ความสาคัญนั้นมีคุณค่าจริง เป็นที่ยอมรับในสังคม เขาย่อมมีการปรับตัวที่ดี อยู่กับ ความเป็นจริง แต่ถ้าบุคคลาดเป้าหมายในชีวิต หรือให้คุณค่ากับสิ่งที่ไม่เหมาะสม สังคมไม่ยอมรับ เป็น อบายมุข เช่น ให้ความสาคัญกับเงินตรามากกว่าความซื่อสัตย์ยุติธรรม ใช้ชีวิตที่ สามะเลเทเมา ไม่นึกถึงอนาคต เป็นต้น ก็จะยากลาบากในการปรับตัวและมีปัญหาสุขภาพจิตได้ 4.3 ลางสังหรณ์ (Sense of Transcendence) เป็นความรู้สึกพิเศษเหนือธรรมชาติ ซึ่งบางคนอาจจะรู้สึก ว่าตนมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์หรือเทวดาคุ้มครองปกป้องช่วยเกื้อหนุน ทาให้มี ความหวัง มีความสุข ความมั่นใจในชีวิต แต่บาง คนรู้สึกว่าตนมีแต่เคราะห์กรรม ชีวิตสิ้นหวัง มีแต่ลางสังหรณ์ว่าจะล้มเหลว ทาให้ชีวิตไม่มีความสุข จนบางรายถึงขั้น ฆ่าตัวตายไป สรุป สุขภาพจิตและความผิดปกติทางจิต จึงไม่ได้แยกออกจากกันโดยเด็ดขาด การ พิจารณาเรื่องสุขภาพจิต จึง ต้องพิจารณาการปรับตัวของบุคคลในลักษณะต่อเนื่อง จากภาวะปกติ จนกระทั่งถึงการเจ็บป่วยทางจิต และ เนื่องจากองค์ประกอบของคนเป็นการผสมผสานกันของ 5 มิติของคนซึ่งในการดารงชีวิตหรือการดาเนิน ชีวิตประจาวัน ในแต่ละมิติของบุคคลจะต้อง พยายามให้อยู่ในภาวะสมดุลเสมอ คนเราจึงจะปกติสุข ดังนั้นองค์ประกอบของผู้มีสุขภาพจิตดี และผู้มีความผิดปกติทางจิต จึงต้องพิจารณาภาวะสมดุลของ 5 มิติ นี้ ถ้าองค์ประกอบทั้ง 5 ของ บุคคลใดดาเนินไปในภาวะสมดุล บุคคลผู้นั้นจะมีสุขภาพจิตดี แต่ถ้าดาเนินไป อย่างไม่สมดุล บุคคลผู้นั้นจะมีความผิดปกติทางจิต นอกจากนี้มีปัจจัยมากมายที่มีผลต่อสุขภาพจิต และการ เจ็บป่วยทางจิต ซึ่งโดยสรุปแล้วปัจจัยหลักที่สาคัญได้แก่ ปัจจัยทางด้านชีวภาพ ด้านจิตใจ ด้าน สังคม และ ด้านจิตวิญญาณ

Use Quizgecko on...
Browser
Browser