ชุดที่ 1 รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาไทย (แก้ไข 2564).PDF
Document Details
Uploaded by SharperFife201
Chonradsadornumrung School
2021
Tags
Full Transcript
หนา้ ๑ เลม่ ๑๓๘ ตอนที่ ๗๖ ก ราชกิจจานุเบกษา ๒๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๔ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ๑)...
หนา้ ๑ เลม่ ๑๓๘ ตอนที่ ๗๖ ก ราชกิจจานุเบกษา ๒๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๔ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ๑) พุทธศักราช ๒๕๖๔ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ให้ไว้ ณ วันที่ ๗ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๖๔ เป็นปีที่ ๖ ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตรารัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติมขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้ มาตรา ๑ รั ฐ ธรรมนู ญนี้ เ รีย กว่า “รั ฐ ธรรมนูญ แห่ง ราชอาณาจัก รไทย แก้ ไ ขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ๑) พุทธศักราช ๒๕๖๔” มาตรา ๒ รั ฐ ธรรมนู ญ นี้ ใ ห้ ใ ช้ บั ง คั บ ตั้ ง แต่ วั น ถั ด จากวั น ประกาศในราชกิ จ จานุ เ บกษา เป็นต้นไป มาตรา ๓ ให้ ย กเลิ ก ความในมาตรา ๘๓ ของรั ฐ ธรรมนู ญ แห่ ง ราชอาณาจั ก รไทย และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน หนา้ ๒ เลม่ ๑๓๘ ตอนที่ ๗๖ ก ราชกิจจานุเบกษา ๒๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๔ “มาตรา ๘๓ สภาผู้ แ ทนราษฎรประกอบด้ ว ยสมาชิ ก จ านวนห้ า ร้ อ ยคน โดยเป็ น สมาชิ ก ซึ่งมาจากการเลือกตั้งแบบแบ่งเขตเลือกตัง้ จานวนสี่ร้อยคน และสมาชิกซึ่งมาจากการเลือกตั้งแบบบัญชีรายชือ่ จานวนหนึ่งร้อยคน การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรให้ใช้วิธีออกเสียงลงคะแนนโดยตรงและลับ โดยให้ใช้ บัตรเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบละหนึ่งใบ ในกรณีที่ตาแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรว่างลงไม่ว่าด้วยเหตุใด และยั งไม่มีการเลือกตั้งหรือ ประกาศชื่ อ สมาชิ ก สภาผู้ แ ทนราษฎรขึ้ น แทนต าแหน่ ง ที่ ว่ า ง ให้ ส ภาผู้ แ ทนราษฎรประกอบด้ ว ย สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเท่าที่มีอยู่ ในกรณีมีเหตุใด ๆ ที่ทาให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อมีจานวนไม่ถึงหนึ่งร้อยคน ให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อประกอบด้วยสมาชิกเท่าที่มีอยู่” มาตรา ๔ ให้ ย กเลิ ก ความในมาตรา ๘๖ ของรั ฐ ธรรมนู ญ แห่ ง ราชอาณาจั ก รไทย และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน “มาตรา ๘๖ การก าหนดจ านวนสมาชิ ก สภาผู้ แ ทนราษฎรที่ แ ต่ ล ะจั ง หวั ด จะพึ ง มี แ ละ การแบ่งเขตเลือกตั้ง ให้ดาเนินการตามวิธีการ ดังต่อไปนี้ (๑) ให้ใช้จานวนราษฎรทั้งประเทศตามหลักฐานการทะเบียนราษฎรที่ประกาศในปีสุด ท้าย ก่อนปีที่มีการเลือกตั้ง เฉลี่ยด้วยจานวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสี่ร้อยคน จานวนที่ได้รับให้ถือว่า เป็นจานวนราษฎรต่อสมาชิกหนึ่งคน (๒) จั ง หวั ด ใดมี ร าษฎรไม่ ถึ ง เกณฑ์ จ านวนราษฎรต่ อ สมาชิ ก หนึ่ ง คนตาม (๑) ให้ มี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในจังหวัดนั้นได้หนึ่งคน โดยให้ถือเขตจังหวัดเป็นเขตเลือกตั้ง (๓) จังหวัดใดมีราษฎรเกินจานวนราษฎรต่อสมาชิกหนึ่งคน ให้มีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ในจังหวัดนั้นเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งคนทุกจานวนราษฎรที่ถึงเกณฑ์จานวนราษฎรต่อสมาชิกหนึ่งคน (๔) เมื่อได้จานวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของแต่ละจังหวัด ตาม (๒) และ (๓) แล้ว ถ้าจานวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรยังไม่ครบสี่ร้อยคน จังหวัดใดมีเศษที่เหลือจากการคานวณตาม (๓) มากที่สุด ให้จังหวัดนั้นมีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งคน และให้เพิ่มสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ตามวิธีการดังกล่าวแก่จังหวัดที่มีเศษที่เหลือจากการคานวณนั้นในลาดับรองลงมาตามลาดับจนครบ จานวนสี่ร้อยคน หนา้ ๓ เลม่ ๑๓๘ ตอนที่ ๗๖ ก ราชกิจจานุเบกษา ๒๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๔ (๕) จั ง หวั ด ใดมีก ารเลื อ กตั้ง สมาชิก สภาผู้ แทนราษฎรได้ เกิ นหนึ่ งคน ให้ แ บ่ ง เขตจังหวัด ออกเป็ น เขตเลือกตั้งเท่าจานวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่พึงมี โดยต้องแบ่งพื้นที่ของเขตเลือกตั้ง แต่ละเขตให้ติดต่อกันและต้องจัดให้มีจานวนราษฎรในแต่ละเขตใกล้เคียงกัน” มาตรา ๕ ให้ ย กเลิ ก ความในมาตรา ๙๑ ของรั ฐ ธรรมนู ญ แห่ ง ราชอาณาจั ก รไทย และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน “มาตรา ๙๑ การคานวณสัดส่วนผู้สมัครรับเลือกตั้งตามบัญชีรายชื่อของแต่ละพรรคการเมือง ที่ จ ะได้ รั บ เลื อ กตั้ ง ให้ น าคะแนนที่ แ ต่ ล ะพรรคการเมื อ งได้ รั บ การเลื อ กตั้ ง มารวมกั น ทั้ ง ประเทศ แล้วคานวณเพื่อแบ่งจานวนผู้ที่จะได้รับเลือกของแต่ละพรรคการเมือง เป็นสัดส่วนที่สัมพันธ์กันโดยตรง กับจานวนคะแนนรวมข้างต้น โดยให้ผู้สมัครรับเลือกตั้งซึ่งมีรายชื่อในบัญชีรายชื่อของแต่ละพรรคการเมือง ได้รับเลือกตามเกณฑ์คะแนนที่คานวณได้เรียงตามลาดับหมายเลขในบัญชีรายชื่อของพรรคการเมืองนั้น หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ การออกเสียงลงคะแนน การนับคะแนน การรวมคะแนน การประกาศผลการเลือกตั้ง และการอื่น ที่ เ กี่ ย วข้ อ ง ให้ เ ป็ น ไปตามพระราชบั ญ ญั ติ ป ระกอบรั ฐ ธรรมนู ญ ว่ า ด้ ว ยการเลื อ กตั้ ง สมาชิ ก สภาผู้แทนราษฎร” มาตรา ๖ ในวาระเริ่มแรก มิให้นาบทบัญญัติมาตรา ๘๓ มาตรา ๘๖ และมาตรา ๙๑ ของรั ฐ ธรรมนู ญ แห่ ง ราชอาณาจั ก รไทย ซึ่ ง แก้ ไ ขเพิ่ ม เติ ม โดยรั ฐ ธรรมนู ญ นี้ มาใช้ บั ง คั บ จนกว่ า จะมีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการทั่วไปครั้งแรกภายหลังประกาศใช้รัฐธรรมนูญนี้ ในระหว่างที่ ยังมิให้น าบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติม โดยรัฐธรรมนูญนี้มาใช้บังคับตามวรรคหนึ่ง ให้บทบัญญัติของมาตราดังกล่าวก่อนการแก้ไขเพิ่มเติม โดยรัฐธรรมนูญนี้และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ที่ตราขึ้นเพื่อให้เป็นไปตามบทบัญญัตินั้นยังคงนามาใช้บังคับต่อไป ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หนา้ ๔ เลม่ ๑๓๘ ตอนที่ ๗๖ ก ราชกิจจานุเบกษา ๒๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๔ หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติมฉบับนี้ คือ โดยที่มาตรา ๘๓ และมาตรา ๙๑ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ได้กาหนดสภาผู้แทนราษฎร ประกอบด้วยสมาชิกจานวนห้าร้อยคน มีสมาชิกซึ่งมาจากการเลือกตั้งแบบแบ่งเขตเลือกตั้งจานวน สามร้อยห้าสิบคน สมาชิกซึ่งมาจากบัญชีรายชื่อของพรรคการเมืองจานวนหนึ่งร้อยห้าสิบคนเป็นจานวน ที่ไม่สอดคล้องต่อจานวนประชากรในแต่ละเขตเลือกตั้ง หากมีการกาหนดให้มีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร มีจานวนสี่ร้อยคนก็จะทาให้การดูแลปัญหาของประชาชนมีความใกล้ชิดและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น จะเป็นประโยชน์ต่อประชาชน และการคานวณคะแนนสมาชิกสภาผู้แทนแบบบัญชีรายชื่อก็มีความจาเป็น ที่ จ ะต้ อ งมี ห ลั ก เกณฑ์ ที่ ชั ด เจนและเป็ น ธรรมต่ อ พรรคการเมื อ งและต้ อ งเคารพหนึ่ ง สิ ท ธิ ห นึ่ ง เสี ย ง ของประชาชน การให้มีบัตรเลือกตั้งสองใบเพื่อให้ประชาชนมีสิทธิในการเลือกพรรคการเมืองและผู้สมัคร รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขต ย่อมทาให้ประชาชนได้ใช้เจตจานงในการเลือกตั้ง ที่สอดคล้องกับความเป็นจริงมากยิ่งขึ้น จึงจาเป็นต้องตรารัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ๑) พุทธศักราช ๒๕๖๔