Podcast
Questions and Answers
สิ่งมีชีวิตทุกชนิดประกอบด้วยหน่วยย่อยที่เรียกว่า 'โมเลกุล'
สิ่งมีชีวิตทุกชนิดประกอบด้วยหน่วยย่อยที่เรียกว่า 'โมเลกุล'
False (B)
อะมีบาเป็นสิ่งมีชีวิตหลายเซลล์
อะมีบาเป็นสิ่งมีชีวิตหลายเซลล์
False (B)
เนื้อเยื่อ (tissues) คือกลุ่มของเซลล์ที่มีรูปร่างและหน้าที่แตกต่างกัน
เนื้อเยื่อ (tissues) คือกลุ่มของเซลล์ที่มีรูปร่างและหน้าที่แตกต่างกัน
False (B)
ผนังเซลล์พบได้ในเซลล์สัตว์
ผนังเซลล์พบได้ในเซลล์สัตว์
เยื่อหุ้มเซลล์มีสมบัติเป็นเยื่อเลือกผ่าน
เยื่อหุ้มเซลล์มีสมบัติเป็นเยื่อเลือกผ่าน
ไซโทพลาซึมพบได้ภายนอกเซลล์
ไซโทพลาซึมพบได้ภายนอกเซลล์
ไมโทคอนเดรียทำหน้าที่สังเคราะห์โปรตีน
ไมโทคอนเดรียทำหน้าที่สังเคราะห์โปรตีน
คลอโรพลาสต์พบได้ในเซลล์สัตว์
คลอโรพลาสต์พบได้ในเซลล์สัตว์
แวคิวโอมีขนาดเล็กในเซลล์พืช
แวคิวโอมีขนาดเล็กในเซลล์พืช
ไรโบโซมเป็นแหล่งสังเคราะห์คาร์โบไฮเดรต
ไรโบโซมเป็นแหล่งสังเคราะห์คาร์โบไฮเดรต
นิวเคลียสมีลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยม
นิวเคลียสมีลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยม
เซลล์โพรคาริโอตมีเยื่อหุ้มนิวเคลียส
เซลล์โพรคาริโอตมีเยื่อหุ้มนิวเคลียส
การแพร่เกิดขึ้นได้เฉพาะในของเหลว
การแพร่เกิดขึ้นได้เฉพาะในของเหลว
แก๊สออกซิเจนในดินแพร่ออกจากเซลล์ขนราก
แก๊สออกซิเจนในดินแพร่ออกจากเซลล์ขนราก
ออสโมซิส คือการแพร่ของสารใดๆ จากบริเวณที่มีความเข้มข้นของสารมากไปน้อย
ออสโมซิส คือการแพร่ของสารใดๆ จากบริเวณที่มีความเข้มข้นของสารมากไปน้อย
สารละลายไฮเปอร์โทนิก มีความเข้มข้นของสารละลายน้อยกว่าเซลล์
สารละลายไฮเปอร์โทนิก มีความเข้มข้นของสารละลายน้อยกว่าเซลล์
กระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสงเกิดขึ้นในเซลล์พืชที่มีชีวิตเท่านั้น
กระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสงเกิดขึ้นในเซลล์พืชที่มีชีวิตเท่านั้น
พืชใช้แก๊สออกซิเจนในการสังเคราะห์ด้วยแสง
พืชใช้แก๊สออกซิเจนในการสังเคราะห์ด้วยแสง
ท่อไซเล็มลำเลียงอาหารในพืช
ท่อไซเล็มลำเลียงอาหารในพืช
การลำเลียงน้ำในพืชเกิดได้ดีในเวลากลางคืน
การลำเลียงน้ำในพืชเกิดได้ดีในเวลากลางคืน
ขนรากมีหน้าที่สังเคราะห์แสง
ขนรากมีหน้าที่สังเคราะห์แสง
ดอกเป็นอวัยวะสืบพันธุ์ของพืช
ดอกเป็นอวัยวะสืบพันธุ์ของพืช
กลีบเลี้ยง (sepal) ส่วนใหญ่มักมีสีสันสวยงาม
กลีบเลี้ยง (sepal) ส่วนใหญ่มักมีสีสันสวยงาม
เกสรตัวผู้ทำหน้าที่สร้างเซลล์สืบพันธุ์เพศเมีย
เกสรตัวผู้ทำหน้าที่สร้างเซลล์สืบพันธุ์เพศเมีย
ออวุลเจริญไปเป็นผล
ออวุลเจริญไปเป็นผล
ดอกครบส่วน (Complete flower) คือ ดอกไม้ที่มีส่วนประกอบไม่ครบทั้ง 4 ส่วน
ดอกครบส่วน (Complete flower) คือ ดอกไม้ที่มีส่วนประกอบไม่ครบทั้ง 4 ส่วน
การถ่ายละอองเรณู (Pollination) คือ อับเรณู (Ather) แตกออก ทำให้ละอองเรณูปลิวไปตกบนยอดเกสรตัวเมีย
การถ่ายละอองเรณู (Pollination) คือ อับเรณู (Ather) แตกออก ทำให้ละอองเรณูปลิวไปตกบนยอดเกสรตัวเมีย
การปฏิสนธิซ้อนพบได้เฉพาะในพืชดอกเท่านั้น
การปฏิสนธิซ้อนพบได้เฉพาะในพืชดอกเท่านั้น
การตอนกิ่งเป็นการสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศ
การตอนกิ่งเป็นการสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศ
แก๊สเป็นสิ่งเร้าภายนอกที่ทำให้พืชตอบสนองได้
แก๊สเป็นสิ่งเร้าภายนอกที่ทำให้พืชตอบสนองได้
การหุบของใบไมยราบเป็นการตอบสนองต่อแรงโน้มถ่วง
การหุบของใบไมยราบเป็นการตอบสนองต่อแรงโน้มถ่วง
เทคโนโลยีชีวภาพเกี่ยวข้องกับการตัดแต่งสารพันธุกรรม
เทคโนโลยีชีวภาพเกี่ยวข้องกับการตัดแต่งสารพันธุกรรม
การเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อเป็นการขยายพันธุ์โดยใช้พืชทั้งต้น
การเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อเป็นการขยายพันธุ์โดยใช้พืชทั้งต้น
GMOS คือการตัดต่อจีน (Gene)
GMOS คือการตัดต่อจีน (Gene)
สสารมีสถานะเดียวคือของแข็ง
สสารมีสถานะเดียวคือของแข็ง
สมบัติทางเคมีคือสมบัติที่สามารถสังเกตได้จากลักษณะภายนอก
สมบัติทางเคมีคือสมบัติที่สามารถสังเกตได้จากลักษณะภายนอก
การเปลี่ยนแปลงทางกายภาพทำให้เกิดสารใหม่
การเปลี่ยนแปลงทางกายภาพทำให้เกิดสารใหม่
สารเนื้อเดียวประกอบด้วยสารเพียงชนิดเดียวเท่านั้น
สารเนื้อเดียวประกอบด้วยสารเพียงชนิดเดียวเท่านั้น
สารละลายคือสารเนื้อเดียว
สารละลายคือสารเนื้อเดียว
ในสารละลาย ตัวทำละลายมีปริมาณน้อยกว่าตัวละลาย
ในสารละลาย ตัวทำละลายมีปริมาณน้อยกว่าตัวละลาย
ค่า pH ของกรดมีค่ามากกว่า 7
ค่า pH ของกรดมีค่ามากกว่า 7
สารละลายเบสมีรสเปรี้ยว
สารละลายเบสมีรสเปรี้ยว
Flashcards
เซลล์ (Cell) คืออะไร
เซลล์ (Cell) คืออะไร
หน่วยย่อยที่สุดของสิ่งมีชีวิต
สิ่งมีชีวิตเซลล์เดียวคืออะไร
สิ่งมีชีวิตเซลล์เดียวคืออะไร
สิ่งมีชีวิตที่ประกอบด้วยเซลล์เพียงเซลล์เดียว
สิ่งมีชีวิตหลายเซลล์คืออะไร
สิ่งมีชีวิตหลายเซลล์คืออะไร
สิ่งมีชีวิตที่ประกอบด้วยเซลล์จำนวนมาก
เนื้อเยื่อ (tissues) คืออะไร
เนื้อเยื่อ (tissues) คืออะไร
Signup and view all the flashcards
ส่วนประกอบสำคัญของเซลล์
ส่วนประกอบสำคัญของเซลล์
Signup and view all the flashcards
ผนังเซลล์ (Cell Wall) คือ
ผนังเซลล์ (Cell Wall) คือ
Signup and view all the flashcards
เยื่อหุ้มเซลล์ (Cell Membrane) คือ
เยื่อหุ้มเซลล์ (Cell Membrane) คือ
Signup and view all the flashcards
ไซโทพลาซึม (Cytoplasm) คือ
ไซโทพลาซึม (Cytoplasm) คือ
Signup and view all the flashcards
ออร์แกเนลล์ (Organelle) คือ
ออร์แกเนลล์ (Organelle) คือ
Signup and view all the flashcards
ไมโทคอนเดรีย หน้าที่
ไมโทคอนเดรีย หน้าที่
Signup and view all the flashcards
คลอโรพลาสต์ หน้าที่
คลอโรพลาสต์ หน้าที่
Signup and view all the flashcards
นิวเคลียส (Nucleus) คือ
นิวเคลียส (Nucleus) คือ
Signup and view all the flashcards
การแพร่ (Diffusion) คือ
การแพร่ (Diffusion) คือ
Signup and view all the flashcards
ออสโมซิส (Osmosis) คือ
ออสโมซิส (Osmosis) คือ
Signup and view all the flashcards
สารละลายไฮโปโทนิก (Hypotonic solution) คือ
สารละลายไฮโปโทนิก (Hypotonic solution) คือ
Signup and view all the flashcards
การสังเคราะห์ด้วยแสง (Photosynthesis) คือ
การสังเคราะห์ด้วยแสง (Photosynthesis) คือ
Signup and view all the flashcards
แสงแดด
แสงแดด
Signup and view all the flashcards
ไซเล็ม (Xylem) หน้าที่
ไซเล็ม (Xylem) หน้าที่
Signup and view all the flashcards
โฟลเอ็ม (Phloem) หน้าที่
โฟลเอ็ม (Phloem) หน้าที่
Signup and view all the flashcards
กลุ่มเนื้อเยื่อลำเลียง
กลุ่มเนื้อเยื่อลำเลียง
Signup and view all the flashcards
ดอก
ดอก
Signup and view all the flashcards
กลีบเลี้ยง (sepal) คือ
กลีบเลี้ยง (sepal) คือ
Signup and view all the flashcards
กลีบดอก (petal) คือ
กลีบดอก (petal) คือ
Signup and view all the flashcards
เกสรตัวผู้ (stamen) คือ
เกสรตัวผู้ (stamen) คือ
Signup and view all the flashcards
เกสรตัวเมีย (pistil) คือ
เกสรตัวเมีย (pistil) คือ
Signup and view all the flashcards
ดอกครบส่วนคือ
ดอกครบส่วนคือ
Signup and view all the flashcards
ดอกสมบูรณ์เพศคือ
ดอกสมบูรณ์เพศคือ
Signup and view all the flashcards
การถ่ายละอองเรณู (Pollination) คือ
การถ่ายละอองเรณู (Pollination) คือ
Signup and view all the flashcards
การปฏิสนธิ (Fertilization) คือ
การปฏิสนธิ (Fertilization) คือ
Signup and view all the flashcards
รังไข่ (ovary) เจริญเป็น
รังไข่ (ovary) เจริญเป็น
Signup and view all the flashcards
การสืบพันธุ์แบบไม่อาศัยเพศ (Asexual reproduction) คือ
การสืบพันธุ์แบบไม่อาศัยเพศ (Asexual reproduction) คือ
Signup and view all the flashcards
การตอบสนอง (responsiveness)
การตอบสนอง (responsiveness)
Signup and view all the flashcards
Tropism คือ
Tropism คือ
Signup and view all the flashcards
Nastic movement คือ
Nastic movement คือ
Signup and view all the flashcards
Autonomic movement คือ
Autonomic movement คือ
Signup and view all the flashcards
เทคโนโลยีชีวภาพ (biotechnology) คือ
เทคโนโลยีชีวภาพ (biotechnology) คือ
Signup and view all the flashcards
การเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ คือ
การเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ คือ
Signup and view all the flashcards
GMOs คือ
GMOs คือ
Signup and view all the flashcards
สารละลาย (Solution) คือ
สารละลาย (Solution) คือ
Signup and view all the flashcards
ถ้าตัวละลายและตัวทำละลายมีสภานะต่างกัน อะไรจะเป็นตวละลาย?
ถ้าตัวละลายและตัวทำละลายมีสภานะต่างกัน อะไรจะเป็นตวละลาย?
Signup and view all the flashcards
Study Notes
หน่วยที่ 1: หน่วยของสิ่งมีชีวิต
- สิ่งมีชีวิตทุกชนิดประกอบด้วยเซลล์ ซึ่งเป็นหน่วยย่อยที่สุด
- เซลล์มีรูปร่างหลายแบบและจำนวนที่ไม่เท่ากันในสิ่งมีชีวิตแต่ละชนิด
- สิ่งมีชีวิตสามารถแบ่งได้เป็น 2 ประเภทหลัก: สิ่งมีชีวิตเซลล์เดียว และสิ่งมีชีวิตหลายเซลล์
สิ่งมีชีวิตเซลล์เดียว (Unicellular Organisms)
- ร่างกายประกอบด้วยเซลล์เพียงเซลล์เดียวที่มีโครงสร้างไม่ซับซ้อน
- เซลล์เดียวมีโครงสร้างและหน้าที่ครบถ้วน เช่น การย่อยอาหาร การขับถ่าย การสืบพันธุ์ และการหายใจ
- ตัวอย่าง: อะมีบา พารามีเซียม ยูกลีนา ยีสต์ และแบคทีเรีย
สิ่งมีชีวิตหลายเซลล์ (Multicellular Organisms)
- ประกอบด้วยเซลล์จำนวนมาก
- เซลล์ที่ทำหน้าที่อย่างเดียวกันจะรวมตัวกันเป็นเนื้อเยื่อ (tissues)
- เซลล์แต่ละชนิดมีรูปร่างและหน้าที่แตกต่างกัน แต่ทำงานประสานกัน
- กระบวนการแบ่งเซลล์มีการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรมจากเซลล์เดิม
- ตัวอย่าง: สาหร่าย ไฮดรา แมงกะพรุน แมลง รา พืช สัตว์ และมนุษย์
- โครงสร้างมีความซับซ้อนและจัดระบบของเซลล์ โดยเริ่มต้นจากเซลล์ไปรวมกันเป็นร่างกาย
โครงสร้างพื้นฐานของเซลล์พืชและเซลล์สัตว์
- ส่วนที่ห่อหุ้มเซลล์
- ไซโทพลาซึม
- นิวเคลียส
ส่วนที่ห่อหุ้มเซลล์
- ผนังเซลล์ (Cell Wall): พบในแบคทีเรีย สาหร่ายสีเขียวแกมน้ำเงิน เห็ด รา ยีสต์ สาหร่าย และพืช
- เยื่อหุ้มเซลล์ (Cell Membrane): พบในสิ่งมีชีวิตทุกชนิดยกเว้นไวรัส
ไซโทพลาซึม (Cytoplasm)
- เป็นศูนย์กลางการทำงานของเซลล์ ประกอบด้วยสารละลายน้ำและหน่วยเล็ก ๆ ที่เรียกว่าออร์แกเนลล์ (Organelle) หลายชนิด
- ร่างแหเอนโดพลาซึมหรือเอนโดพลาสมิกเรติคูลัม (endoplasmic reticulum) ทำหน้าที่ขนส่งสารภายในเซลล์
- กอลจิคอมเพลกซ์ (Golgi complex) ทำหน้าที่สร้างสารคาร์โบไฮเดรตที่และโปรตีนส่งออกไปใช้ภายในเซลล์
- ไมโทคอนเดรีย (Mitochondria) ทำหน้าที่เผาผลาญอาหารเพื่อสร้างพลังงานให้แก่เซลล์
- คลอโรพลาสต์ (Chloroplast) พบเฉพาะในเซลล์พืช มีคลอโรฟิลล์ ใช้ในกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง (Photosynthesis)
- แวคิวโอ (Vacuole) มีขนาดใหญ่มากในเซลล์พืช ทำหน้าที่สะสมสารต่าง ๆ มีน้ำเป็นส่วนใหญ่เรียกว่า เซลล์แซพ (cell sap)
- ไรโบโซม (Ribosome) เป็นแหล่งสังเคราะห์โปรตีนเพื่อส่งออกไปใช้นอกเซลล์
- เซนทริโอล (Centriole) พบเฉพาะในเซลล์สัตว์และโพรติสต์บางชนิด มีหน้าที่เกี่ยวกับการแบ่งเซลล์
นิวเคลียส (Nucleus)
- ทำหน้าที่เป็นศูนย์ควบคุมกิจกรรมต่าง ๆ ภายในเซลล์
- ช่วยถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรมและควบคุมการสังเคราะห์สารประกอบของเซลล์
- เซลล์ที่มีเยื่อหุ้มนิวเคลียส เรียกว่า เซลล์ยูคาริโอต (eukaryotic cell): เซลล์พืช เซลล์สัตว์ โพรทิสต์
- เซลล์ที่ไม่มีเยื่อหุ้มนิวเคลียส เรียกว่า เซลล์โพรคาริโอต (prokaryotic cell): แบคทีเรีย สาหร่ายสีเขียวแกมน้ำเงิน
หน่วยที่ 2: การดำรงชีวิตของพืช
การแพร่ (Diffusion)
- การเคลื่อนที่ของอนุภาคจากบริเวณที่มีความเข้มข้นมากไปยังบริเวณที่มีความเข้มข้นน้อยจนกว่าจะเท่ากัน
- การแพร่เกิดขึ้นกับสารทุกสถานะ (ของแข็ง ของเหลว และแก๊ส) และเกิดได้ทุกทิศทาง
- การแพร่ที่พบในชีวิตประจำวัน: การแพร่ของกลิ่น การฉีดพ่นยากันยุง การแช่อิ่มผลไม้ การจุดธูปบูชาพระ และการแพร่แก๊สออกซิเจนเข้าสู่หลอดเลือด
- แก๊สออกซิเจนในดินแพร่เข้าสู่เซลล์ขนรากและใช้ในกระบวนการหายใจของพืช
- แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์แพร่เข้าสู่เซลล์เพื่อใช้ในกระบวนการสังเคราะห์แสง
- ธาตุอาหารในดินแพร่เข้าสู่เซลล์ขนราก
ออสโมซิส (Osmosis)
- การแพร่ของน้ำจากบริเวณที่มีอนุภาคของน้ำมากไปน้อย โดยผ่านเยื่อเลือกผ่าน
- ตัวอย่าง: การแช่ผักในน้ำ การปักดอกไม้ในแจกัน การดูดน้ำเข้าสู่รากพืช
- พืชดูดน้ำเข้าสู่เซลล์ขนรากด้วยกระบวนการออสโมซิส โดยน้ำจะออสโมซิสไปยังเซลล์ข้างเคียงต่อๆ ไปจนถึงเนื้อเยื่อลำเลียงน้ำ
- สารละลายที่เกี่ยวข้องกับออสโมซิส:
- สารละลายไฮเปอร์โทนิก (Hypertonic solution)
- สารละลายไฮโปโทนิก (Hypotonic solution)
- สารละลายไอโซโทนิก (Isotonic solution)
การสร้างอาหารของพืช (Photosynthesis)
- กระบวนการสร้างอาหารของพืชสีเขียวในเซลล์พืชที่มีชีวิต
- ใช้แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) และน้ำ (H2O) เป็นวัตถุดิบ
- มีแสงและคลอโรฟิลล์ช่วยให้เกิดปฏิกิริยาเคมี
- ผลที่ได้: น้ำตาลกลูโคส (C6H12O6), น้ำ (H2O) และแก๊สออกซิเจน (O2)
- ปัจจัยที่จำเป็น:
- คาร์บอนไดออกไซด์: มาจากการหายใจของคน สัตว์ พืช หรือการเผาไหม้
- แสง: แหล่งพลังงานช่วยให้เกิดปฏิกิริยา
- คลอโรฟิลล์: สารสีเขียว ทำหน้าที่ดูดพลังงานแสง
- น้ำ: ดูดขึ้นมาจากดินโดยกระบวนการออสโมซิส
- ผลที่ได้:
- น้ำตาลกลูโคส: ใช้เป็นพลังงานหรือเปลี่ยนเป็นแป้งสะสมในพืช
- แก๊สออกซิเจน: ใช้ในการหายใจ
ระบบลำเลียงในพืช
- พืชดูดน้ำและแร่ธาตุเข้าสู่เซลล์โดยผ่านทางราก (root) ที่มีขนราก (root hair) ทำหน้าที่ดูดน้ำผ่านกระบวนการออสโมซิส
- เนื้อเยื่อลำเลียงมี 2 กลุ่ม:
- ไซเล็ม (Xylem): ลำเลียงน้ำและแร่ธาตุจากรากไปยังส่วนต่างๆ ของพืช
- โฟลเอ็ม (Phloem): ลำเลียงอาหารที่สร้างจากกระบวนการสังเคราะห์แสงไปยังส่วนต่างๆ ที่ต้องการ
- การลำเลียงน้ำและแร่ธาตุ: พืชดูดน้ำและแร่ธาตุทางขนรากด้วยการออสโมซิสและการแพร่ และจะถูกส่งผ่านไปยังท่อลำเลียงน้ำที่เรียกว่า ไซเล็ม (Xylem)
- การลำเลียงอาหารของพืช: อาหารที่พืชสร้างขึ้นจากกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสงจะถูกลำเลียงไปโดยกลุ่มเซลล์ที่ทำหน้าที่ลำเลียงอาหารที่เรียกว่า โฟลเอ็ม (Phloem) จากใบไปยังส่วนต่าง ๆ
การสืบพันธุ์ของพืช
- การสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศ (sexual reproduction)
- โครงสร้างของดอก: ดอกเป็นอวัยวะสืบพันธุ์ของพืช ประกอบด้วย:
- กลีบเลี้ยง (sepal): ชั้นนอกสุด สีเขียว ทำหน้าที่ห่อหุ้มและป้องกันอันตรายให้แก่ส่วนของดอกที่อยู่ภายใน วงของกลีบเลี้ยงเรียกว่า calyx
- กลีบดอก (petal): ถัดจากกลีบเลี้ยงเข้ามา มีสีสันสวยงาม เพื่อล่อแมลง วงกลีบดอกเรียกว่า corolla
- เกสรตัวผู้ (stamen): ทำหน้าที่สร้างเซลล์สืบพันธุ์เพศผู้ เรียกว่า androecium ประกอบด้วย ก้านชูเกสรตัวผู้ (filament) และอับเกสรตัวผู้ (anther)
- เกสรตัวเมีย (pistil): ทำหน้าที่สร้างเซลล์สืบพันธุ์เพศเมีย เรียกว่า gynaecium ประกอบด้วย ยอดเกสรตัวเมีย (stigma) ก้านชูเกสรตัวเมีย (style) และรังไข่ (ovary)
- ประเภทของดอกไม้
- ใช้จำนวนดอกบนก้านชูดอกเป็นเกณฑ์: ดอกเดี่ยว และดอกช่อ
- ใช้ส่วนประกอบของดอกเป็นเกณฑ์: ดอกครบส่วน และดอกไม่ครบส่วน
- ใช้เกสรตัวผู้และเกสรตัวเมียเป็นเกณฑ์: ดอกสมบูรณ์เพศ และดอกไม่สมบูรณ์เพศ
- การผสมพันธุ์มี 2 ขั้นตอน:
- การถ่ายละอองเรณู (Pollination): อับเรณู (Ather) แตกออก ทำให้ละอองเรณูปลิวไปตกบนยอดเกสรตัวเมีย (Stigma)
- การปฏิสนธิ (Fertilization): ละอองเรณู ตกลงสู่ยอดเกสรตัวเมีย ละอองเรณูจะงอกท่อยาว เรียกว่า พอลเลนทิวบ์ (Pollen tube) ลงสู่ก้านเกสรตัวเมีย
การเปลี่ยนแปลงหลังการปฏิสนธิของพืชดอก
- รังไข่ (ovary) จะเจริญเป็นผล (fruit)
- ผนังรังไข่ (ovary wall) จะเจริญเป็นเปลือกและเนื้อของผล
- ออวุล (ovule) จะเจริญเป็นเมล็ด (seed)
- ไข่ (egg) จะเจริญเป็นต้นอ่อน (embryo)
- โพลาร์นิวเคลียส (polar nucleus) จะเจริญเป็นเอนโดสเปิร์ม (endosperm) ซึ่งเป็นอาหารสำหรับเลี้ยงต้นอ่อน
การสืบพันธุ์แบบไม่อาศัยเพศ (Asexual reproduction)
- การแตกหน่อ (budding)
- การสร้างสปอร์ (spore formation)
- การตอนกิ่ง (marcotting)
- การติดตา (budding)
- การทาบกิ่ง (grafting)
- การปักชำ (cutting)
- การแตกต้นใหม่จากส่วนต่างๆ ของพืช
การตอบสนองต่อสิ่งเร้าของพืช
- การตอบสนองต่อสิ่งเร้าภายนอก (stimulus movement):
- แบบที่มีความสัมพันธ์กับทิศทางของสิ่งเร้า (tropism หรือ tropic movement): การเคลื่อนไหวส่วนประกอบของพืชตามทิศทางของสิ่งเร้า (positive tropism) หรือในทิศตรงข้าม (negative tropism)
- แสง: ปลายยอดพืช (ลำต้น) เจริญเติบโตตามทิศทางของแสง (positive phototropism) และส่วนปลายรากเจริญเติบโตในทิศตรงข้ามกับทิศทางของแสง (negative phototropism)
- น้ำ: ส่วนของปลายรากมีทิศทางการเจริญเติบโตตามทิศทางของน้ำ (positive hydrotropism) และส่วนปลายยอดพืช(ลำต้น) มีทิศทางการเจริญเติบโตในทิศตรงข้ามกับทิศทางของน้ำ (negative hydrotropism)
- การสัมผัส: การเจริญเติบโตของมือเกาะ (tendril) ซึ่งยื่นออกไปพันหลัก
- แรงโน้มถ่วง: รากเจริญเข้าหาแรงโน้มถ่วง และยอดหนีแรงโน้มถ่วง
- แบบที่ไม่มีความสัมพันธ์กับทิศทางของสิ่งเร้า (nasty หรือ nastic movement): การเคลื่อนไหวส่วนประกอบของพืชขึ้นหรือลงเท่านั้น ไม่ขึ้นกับทิศทางของสิ่งเร้า
- แสง (Photonasty): การบานและหุบของดอกไม้
- น้ำ (Hydrotropism): การอ่อนตัวของเปลือกหุ้มเมล็ดเมื่อได้รับความชื้น
- แบบที่มีความสัมพันธ์กับทิศทางของสิ่งเร้า (tropism หรือ tropic movement): การเคลื่อนไหวส่วนประกอบของพืชตามทิศทางของสิ่งเร้า (positive tropism) หรือในทิศตรงข้าม (negative tropism)
- การตอบสนองต่อสิ่งเร้าภายใน (autonomic movement): การเคลื่อนไหวโดยอัตโนมัติ เช่น
- การเอนหรือโยกไปมาของปลายยอดพืชตระกูลถั่ว
- การหุบของใบไมยราบเนื่องจากกลุ่มเซลล์บริเวณโคนใบมีความไวสูงต่อการสัมผัส
- ใบของต้นก้ามปูที่หุบในเวลากลางคืนและบานในเวลากลางวันเนื่องจากความเข้มของแสงสว่าง
- การปิด-เปิดของปากใบเนื่องจากปริมาณน้ำ
Studying That Suits You
Use AI to generate personalized quizzes and flashcards to suit your learning preferences.